เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ – ตอนที่ 1138 น้าเสี่ยวเหยียนจะแต่งงานแล้ว

บทที่1138 น้าเสี่ยวเหยียนจะแต่งงานแล้ว

แต่คุณน้าไม่ได้เรื่องไร้เดียงสาในเรื่องความรักคนนั้น ยังทำให้น้าเสี่ยวเหยียนต้องเสียใจอีก ลุงเซียวก็ต้องช่วยแด๊ดดี้ไปช่วยงานของบริษัท ต่อจากนั้นก็ยังต้องถูกส่งไปทำงานที่ต่างประเทศอีก

ดังนั้นแล้วในช่วงนี้น้าเสี่ยวเหยียนก็ตัวคนเดียว แบบนี้จะถูกคนอื่นถือโอกาสนี้เข้ามาได้ง่าย!

ส่วนเขาเสี่ยวหมี่โต้ว ก็ต้องแบกรับความรับผิดชอบในช่วงนี้ไป ไม่อาจให้น้าเสี่ยวเหยียนถูกคนไม่ดีฉวยโอกาสเอาได้

ไม่รอให้เสี่ยวหมี่โต้วพูดออกมา เสี่ยวเหยียนก็ได้เห็นเขาแล้ว จากนั้นก็เดินเข้ามา

ตอนแรกเธอเห็นหลี่ซือห้านอยู่ตรงนี้ ก็เลยไม่อยากเข้ามา ถึงแม้ว่าช่วงสองวันนี้จะพอนับว่าเข้ากับเขาอยู่ได้บ้าง แต่…เธอก็ไม่ได้ใจสั่นกับเขาเลยสักนิด

ดังนั้นแล้วหลังจากที่เธอเสิร์ฟอาหารเสร็จก็เลยเตรียมที่จะเดินตรงเข้าห้องครัวไป แต่ใครจะรู้ว่าพอเหลือบมองไปก็เห็นเข้ากับร่างเล็กๆที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าหลี่ซือห้าน

นั่นไม่ใช่เสี่ยวหมี่โต้วหรือไง?

เห็นเสี่ยวหมี่โต้วยืนอยู่กับคู่นัดบอดของตัวเองแล้ว จางเสี่ยวเหยียน ร้อนตัวอย่างน่าประหลาดขึ้นมา แล้วเดินเข้าไป

“เสี่ยวหมี่โต้ว หนูกำลังทำอะไรอยู่?”

ตัวยังไม่เดินเข้าไปใกล้ เสี่ยวเหยียนก็ตะโกนเรียกชื่อเขาออกมาแล้ว จากนั้นก็โบกไม้โบกมือให้กับเขา

ในแววตาของเสี่ยวหมี่โต้วมีประกายของความไม่พอใจออกมา ทำไมน้าเสี่ยวเหยียนถึงมาตอนนี้? ถ้ามาช้าอีกสักหน่อยก็ดี

แล้วยังไม่สามารถร้องเรียกแม่ต่อหน้าเขาได้อีก นี่มันจะทำให้น้าเสี่ยวเหยียนกระอักกระอ่วนใจทำตัวไม่ถูกได้ เสี่ยวหมี่โต้วก็เลยเดินเข้าไปแล้วเรียกน้าเสี่ยวเหยียนอย่างไม่ยินยอมนัก

หลี่ซือห้านได้ยินมันอย่างชัดเจน แล้วลอบมองพวกเขาทั้งสองคนยืนอยู่ด้วยกันอีกที ไม่มีความรู้สึกของความเป็นแม่ลูกเลยแม้แต่น้อย เขาก็เลยผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอกออกมา

เด็กน้อยซนเสียจริง นึกไม่ถึงว่าพูดคำนั้นมาหลอกเขาได้ โชคดีที่เขารู้ทัน

“เด็กดี ทำไมวันนี้ถึงว่างมาได้? ช่วงนี้หม่ามี๊ของหนูเป็นยังไงบ้าง? เธอใกล้คลอดแล้วใช่มั้ย?”

เสี่ยวหมี่โต้วพยักหน้า “อืม เพราะว่าหม่ามี๊ใกล้คลอดแล้ว แด๊ดดี้ก็เลยไม่มีเวลามาสนใจผม ผมก็เลยมาหาน้าเสี่ยวเหยียนเอง”

พูดจบ เสี่ยวหมี่โต้วก็นึกอะไรขึ้นมาได้ มองไปทางหลี่ซือห้าน “น้าเสี่ยวเหยียน คุณลุงคนนี้เป็นใครหรอฮะ? เมื่อกี้นี้เขาคิดว่าผมเป็นลูกค้า บอกว่าจะเลี้ยงราเม็งผม แล้วยังบอกว่าร้านราเม็งเป็นร้านของเขาอีกนะฮะ”

หลี่ซือห้านได้ยินอย่างนั้น รอยยิ้มบนใบหน้าก็แข็งค้างขึ้นมา นึกไม่ถึงว่าเด็กคนนี้จะพูดจาเหลวไหลออกมา ถึงแม้ว่าเสี่ยวเหยียนจะนิ่งค้างไปชั่วขณะ และก็ไม่รู้เหมือนกันว่านิ่งไปเพราะคำพูดของเสี่ยวหมี่โต้วหรือว่าเพราะคำพูดนั้นของหลี่ซือห้าน

ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน หลี่ซือห้านทำได้เพียงพูดแก้ต่างให้กับตัวเองออกไป

“ไม่ใช่อย่างที่คุณคิดนะครับ ผมเห็นเขาอยู่คนเดียวก็เลยชวนเขากินราเม็ง แต่ผลก็คือเด็กน้อยคงกังวลว่าผมไม่ได้อยากชวนเขากินจริงๆ ก็เลยถามว่าร้านนี้ใช่ร้านของผมหรือเปล่า ในความจนใจนั้นเอง ผมก็เลยต้องปิดบังเด็กน้อยออกไปก่อน การที่ให้เขามีความสุขนั้นสำคัญที่สุด”

เสี่ยวหมี่โต้วที่อยู่ข้างๆกะพริบตาปริบๆออกมา ชิ นึกไม่ถึงว่าผู้ชายคนนี้จะไหวพริบดีใช้ได้ เพียงไม่นานก็คิดวิธีการพูดออกมาได้แล้ว เสี่ยวเหยียนก็รู้แจ้งขึ้นมาทันที

“ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้ ทำให้คุณตลกแล้ว เสี่ยวหมี่โต้วเป็นลูกชายของเพื่อนสนิทฉันเองค่ะ เพราะว่าเพื่อนของฉันกำลังท้องลูกคนที่สองอยู่ บางทีเจ้าเด็กคนนี้ก็เบื่อแล้วมาหาฉัน เขาไม่ได้พูดไร้สาระอะไรออกมาใช่มั้ยคะ?”

เสี่ยวหมี่โต้วกะพริบตา “น้าเสี่ยวเหยียน เปล่านะฮะ ผมไม่ได้พูดเรื่องน้าเสี่ยวเหยียนกับคุณน้าให้กับคุณลุงคนนี้ฟังนะฮะ ผม…อุบ” คำพูดตรงท่อนหลังเสี่ยวหมี่โต้วยังไม่ทันได้พูดออกไป ก็ถูกเสี่ยวเหยียนปิดปากเอาไว้ เธอยิ้มเก้อๆให้กับหลี่ซือห้านออกไป “ฉันพาเขาเข้าไปก่อนนะคะ คุณตามสบายเลยนะคะ”

จากนั้นก็พาเสี่ยวหมี่โต้วกึ่งลากกึ่งอุ้มเข้าห้องครัวไป

“ห้ามพูดไร้สาระ!” หลังจากที่เข้าไปแล้ว เสี่ยวเหยียนก็เริ่มสั่งสอนเสี่ยวหมี่โต้วออกมาทันที

เสี่ยวหมี่โต้วโกรธจนยกมือขึ้นกอดอก เอ่ยพูดออกมาด้วยความโกรธ “น้าเสี่ยวเหยียนชอบเขาหรือเปล่า? น้าจะยอมรับเขาหรอ? ทำไมถึงไม่ให้ผมพูดเรื่องน้าเสี่ยวเหยียนกับคุณน้าล่ะฮะ?”

“…ไม่ได้ชอบอยู่แล้ว” เสี่ยวเหยียนนิ่งตะลึงไปสักพักกว่าจะตอบคำถามของเสี่ยวหมี่โต้ว “แต่ตอนนี้เขาเป็นคู่นัดบอดของน้า หนูพูดอย่างนี้กับเขา จะทำให้เขาทำตัวลำบาก อีกอย่าง เรื่องของน้ากับคุณน้าของหนูชั่วชีวิตนี้คงเป็นไปไม่ได้หรอก น้าคงเป็นป้าสะใภ้ของหนูไม่ได้ ต่อไปหนู…อย่าพูดถึงคุณน้าของหนูต่อหน้าน้าอีกนะ”

ชั่วชีวิตนี้เป็นไปไม่ได้แล้ว?

“ทำไมล่ะฮะน้าเสี่ยวเหยียน”

“ไม่มีทำไม เป็นเด็กเป็นเล็กไม่ต้องถามเยอะหรอกนะว่าทำไม สรุปแล้วก็คือต่อจากนี้หนูอย่าได้พูดถึงอีก และก็ห้ามพูดถึงเรื่องของน้าต่อหน้าคุณน้าหนูด้วยเหมือนกัน ถ้า…ถ้าหนูพูดถึงออกมาอีก ต่อไปน้าเสี่ยวเหยียนก็จะไม่สนใจหนูอีกแล้ว”

เสี่ยวหมี่โต้วแบนปากออกมา “เฮอะ”

“ได้ยินแล้วยัง?”

“…”

“หืม? รีบตอบน้าเสี่ยวเหยียนเร็ว ถ้าหนูไม่ตกลง น้าจะโทรหาหม่ามี๊ของหนูตอนนี้ ให้เธอส่งคนขับรถมารับหนูกลับบ้าน”

เสี่ยวหมี่โต้วพยักหน้าตีหน้าเศร้าออกมา

“ทราบแล้วฮะน้าเสี่ยวเหยียน เสี่ยวหมี่โต้วไม่พูดแล้วก็ได้”

แต่พอลับหลังเธอไป เสี่ยวหมี่โต้วก็ได้ส่งข้อความทางวีแชทไปหาหานชิง

ในตอนที่หานชิงกำลังทำงานอยู่นั้นเองจู่ๆก็รู้สึกได้ว่าโทรศัพท์สั่นขึ้นมา หยิบออกมาดู เป็นข้อความที่เสี่ยวหมี่โต้วส่งมาให้เขา จึงกดเข้าไป

หลังจากที่เห็นเนื้อหาแล้ว คิ้วของหานชิงก็ขมวดขึ้นมาเล็กน้อย

{ไอ้คุณน้าไม่ได้เรื่อง ต่อไปผมจะไม่สนใจคุณน้าแล้ว คุณน้ามันห่วยแตกสิ้นดี คนนิสัยไม่ดี! นิสัยไม่ดียิ่งกว่าแด๊ดดี้เสียอีก! }

หานชิงกุมโทรศัพท์อย่างไม่เข้าใจ เขาทำอะไร นึกไม่ถึงว่าเสี่ยวหมี่โต้วจะคิดว่าเขานิสัยไม่ดีกว่าเย่โม่เซินเสียอีก? ยังเป็นกากเดนสังคมได้อีก? ทั้งๆที่คนที่เป็นกากเดนสังคมที่สุดก็น่าจะเป็นเย่โม่เซินคนนั้นสิถึงจะถูก

ดังนั้นแล้วเขาก็เลยส่งเครื่องหมายคำถามกลับไปเอื่อยๆ

เสี่ยวหมี่โต้วรออยู่นานกว่าจะได้รับการตอบกลับจากหานชิง ภายในใจด่าเขาไปหลายร้อยประโยค แล้วเห็นเขาตอบเครื่องหมายคำถามอันเดียวกลับมา ก็ยิ่งโกรธมากขึ้นกว่าเดิม

ส่วนทางหานชิงกลับรู้ชัดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

เสี่ยวหมี่โต้วคงไม่โกรธหรือเกลียดเขาอย่างไร้เหตุผลขึ้นมาหรอกนะ ถ้ามีเรื่องจำพวกนี้เกิดขึ้นมา นั่นก็คงเกี่ยวกับผู้หญิงบางคน

ตอนนี้…

หานชิงปวดหัวขึ้นมา ริมฝีปากขบเม้มเข้าหากันเล็กน้อย ถือโทรศัพท์คิดอยากจะพิมพ์ลงไป แต่ก็ไม่รู้ว่าจะถามอะไร

ช่วงนี้เธอไม่มาเลย ตั้งแต่วันนั้นหลังจากที่เขาไปหาเธอแล้ว ท่าทีของเธอที่แสดงออกมาว่าไม่อยากติดต่อกับเขาอีกอย่างชัดเจน

แต่เขาก็ดันไม่ใช่คนที่ชอบฝืนอะไรจำพวกนั้นอีกด้วย

ถ้าหญิงสาวคิดอย่างนั้น ก็ทำตามที่เธอต้องการไป

ทำให้ตัวเองต้องลำบากใจ ก็ไม่ใช่เรื่องยาก

{คุณน้า ตกลงคุณน้าชอบหรือว่าไม่ชอบน้าเสี่ยวเหยียนกันแน่? }

ในตอนที่กำลังคิดอยู่นั้นเอง เสี่ยวหมี่โต้วก็ได้ส่งมาอีกข้อความนึง

คำถามนี้ได้ทำเอาหานชิงไปไม่เป็นเลยทันที เขาไม่ได้ตอบเสี่ยวหมี่โต้วกลับไป ปลายนิ้วค่อยๆพิมพ์ไปว่า

{เกิดเรื่องอะไรขึ้น?}

{คุณน้าตอบคำถามของเสี่ยวหมี่โต้วมาก่อน ไม่อย่างนั้น ผมก็จะไม่บอกคุณน้า}

{…}

{คุณน้าขยะ ถ้าคุณน้าไม่ตอบผมอีกล่ะก็ น้าเสี่ยวเหยียนหนีไปกับคนอื่นแล้วนะ!}

หนีไปกับคนอื่น? แววตาหานชิงสั่นไหวออกมาเล็กน้อย จากที่เขารู้มา คนที่อยู่ใกล้ตัวเสี่ยวเหยียนมีแค่เซียวซู่เท่านั้น

จะใช่เซียวซู่หรือเปล่า?

{คุณน้า???}

หานชิงเห็นสองคำนี้แล้ว ไม่รู้ว่าจะต้องตอบอะไรออกไปจริงๆ

ช่วงก่อนหน้านี้ความสัมพันธ์ก็พัฒนาไปได้ด้วยดีแท้ๆ ผิดที่เขาทำให้ผิดใจกันใช่มั้ย?

{อ้อ! เจ้าคุณน้าขยะ น้าเสี่ยวเหยียนไปนัดบอดมาแล้ว เธอก็คงใกล้จะแต่งงานแล้วล่ะ!}

แต่งงาน??

เห็นคำนี้แล้ว หานชิงก็หรี่ตาออกมาในที่สุด ปากกาในมือก็จับเอาไว้ไม่อยู่

หลังจากที่เสี่ยวหมี่โต้วได้ส่งข้อความพวกนี้ออกไปแล้ว ก็เก็บโทรศัพท์ ส่งเสียงฮึดฮัดอยู่ในใจ

ถึงแม้ว่าเขาจะทำเรื่องที่รับปากน้าเสี่ยวเหยียนเอาไว้ไม่ได้ แต่ก็เกิดจากการคิดพิจารณาในกรณีพิเศษนี่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ ถูกบังคับเป็นตัวแทนของงานแต่งงานนี้ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่พิการแต่กลับมีอำนาจใหญ่ “ฉันเย่โม่เซินไม่เอาผู้หญิงที่ท้องและไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใครเด็ดขาด”เดิมทีคิดว่างานแต่งงานนี้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอกลับเผลอใจ ไปไปมามา สุดท้ายเธอก็จากไปด้วยความเสียใจผ่านไปหลายปี ลูกชายที่หน้าตาคล้ายกับเขามากตบหัวของเย่โม่เซินด้วยฝ่ามือเล็กๆ“พ่อคนร้าย นายว่าใครเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเป็นใคร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset