เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ – ตอนที่ 1139 นิ่งอยู่ได้หรือเปล่า

บทที่1139 นิ่งอยู่ได้หรือเปล่า

เพิ่งจะเก็บโทรศัพท์กลับไป เสี่ยวหมี่โต้วก็เห็นคู่นัดบอดของน้าเสี่ยวเหยียนเดินเข้ามา เสี่ยวหมี่โต้วทำตัวให้กะปรี้กะเปร่าขึ้นมาทันที แล้วยังหาที่นั่งให้กับตัวเอง

“เฮ้ เด็กน้อย” หลี่ซือห้านนั่งลงตรงหน้าเสี่ยวหมี่โต้ว ทักทายเขาไปด้วยความกระอักกระอ่วนใจเล็กน้อย “สำหรับเรื่องเมื่อกี้นี้ ลุงต้องขอโทษด้วยนะ”

ได้ยินอย่างนั้นแล้ว ดวงตาของเสี่ยวหมี่โต้วกลอกไปมา “เป็นเพราะคุณลุงไม่ได้เลี้ยงข้าวผมก็เลยขอโทษ หรือว่าเป็นเพราะพูดผิดก็เลยขอโทษกันฮะ?”

คำพูดย้อนถามนี้เองหลี่ซือห้านจึงรู้สึกอับอายอย่างมาก เดิมทีคิดว่าเด็กคนเดียวจะจัดการได้ง่ายๆเสียอีก นึกไม่ถึงว่าเด็กคนตรงหน้าจะฉลาดซุกซนคนนึงเลย

แต่เด็กยังไงก็เด็ก เพียงแค่หลอกสักนิด กล่อมสักหน่อย ก็ได้แล้ว

คิดถึงตรงนี้แล้ว หลี่ซือห้านก็เอ่ยออกมา “ความจริงแล้วคำพูดของคุณลุงก็ไม่ได้พูดผิดเลย เพียงแต่มันอยู่ที่ว่าจะช้าหรือเร็วเท่านั้น อีกอย่างลุงก็บอกแล้วว่าจะเลี้ยงหนู นั่นก็คือจะต้องเลี้ยงอยู่แล้ว

“แต่ผมไม่อยากกินราเม็ง~” เสี่ยวหมี่โต้วกะพริบตาปริบ ใบหน้าดูน่าสงสารออกมา

“แล้วหนูอยากกินอะไร?”

เขามองออกว่าความสัมพันธ์ของคู่เดทของเขากับเด็กคนนี้สนิทสนมกันมาก เด็กน้อยพูดซี้ซั้วต่อหน้าเธอ เขาคงต้องคิดหาวิธีปิดปากเขาเอาไว้ดีกว่า

“ผมอยากกินอะไร คุณลุงเลี้ยงผมได้ทุกอย่างเลยหรอฮะ?” ในดวงตาของเสี่ยวหมี่โต้วมีประกายของความเจ้าเล่ห์ออกมา

“แน่นอนอยู่แล้ว”

หลี่ซือห้านไม่ได้คิดไกลขนาดนี้ เขาคิดว่าเด็กน้อยคนนึงอยากกินอะไร เขาก็เลี้ยงไหว อย่างมากก็คงจ่ายไม่กี่ร้อยหยวน

“คุณลุงพูดเองนะ คุณลุงมีรถมั้ยฮะ?”

“มีสิ”

“ขอบคุณฮะคุณลุง งั้นผมไปบอกน้าเสี่ยวเหยียนหน่อยแล้วกันว่าจะเลี้ยงผมออกไปกินข้าว พวกเราก็ออกเดินทางกันเลยใช่มั้ย?”

“ได้เลย” หลี่ซือห้านยิ้มออกมาด้วยใบหน้าไร้ความอันตราย ไม่รู้ว่าตัวเองต้องเผชิญหน้ากับอะไร

ในตอนที่เสี่ยวหมี่โต้ววิ่งไปบอกเรื่องนี้กับเสี่ยวเหยียน เสี่ยวเหยียนขมวดคิ้วออกมาเล็กน้อย “เขาอยากชวนหนูออกไปกิน? นี่มันไม่ค่อยดีหรอกมั้ง? น้ากับเขาก็ไม่ได้สนิทกัน จะให้คนอื่นเขามาเปลืองเงินได้ยังไงกัน?”

“แต่คุณลุงเขาคิดจะใช้ประโยชน์จากผมเพื่อเอาใจน้านะฮะน้าเสี่ยวเหยียน น้าก็ให้เขาเลี้ยงผมไปเถอะนะ” เสี่ยวหมี่โต้วกะพริบตาปริบๆต่อหน้าเสี่ยวเหยียน มองดูแล้วดูมีจิตใจดีไร้รังสีของความอันตราย

แต่ยิ่งเขาเป็นแบบนี้ เสี่ยวเหยียนก็ยิ่งรู้สึกว่าอันตราย ถึงยังไงเสี่ยวหมี่โต้วก็ไม่เหมือนกับเด็กธรรมดาๆ ถ้าเกิดเขาพาออกไป ไม่อยู่ในขอบเขตของการควบคุมของเธอแล้วไปหลอกคนอื่นเข้าจะทำยังไง?

คิดถึงตรงนี้แล้ว เสี่ยวเหยียนก็ย่อตัวนั่งลงหยิกแก้มเสี่ยวหมี่โต้วเบาๆ

“อยากไปก็ได้ ของที่หนูอยากกินก็ต้องจ่ายเอง หรือไม่ก็กลับมาแล้วน้าเสี่ยวเหยียนจะไปหาลุงคนนั้นแล้วช่วยหนูจ่ายไปก่อนเอง”

เสี่ยวหมี่โต้วพอได้ยินอย่างนั้นก็แล้วรู้สึกไม่สบอารมณ์ขึ้นมา ลุงคนนั้นแสร้งทำเป็นใจกว้าง ก็ให้เขาแสดงไปสิ ทำไมต้องช่วยเขาออกไปก่อน และอีกอย่างก็อย่ามาโทษที่เสี่ยวหมี่โต้วที่ไม่ชอบเขา แท้จริงแล้วในตอนที่ผู้ชายคนนั้นยอมรับออกมาว่าเป็นร้านของเขาเองมันน่าเกลียดจริงๆ!

“รู้แล้วน่าน้าเสี่ยวเหยียน ไม่ใช่เรื่องใหญ่เลยเสี่ยวหมี่โต้วออกเงินเองก็ได้แล้วใช่มั้ยฮะ”

เฮอะ! เขาไม่มีทางทำอย่างนั้นอยู่แล้ว

“งั้นก็ดี ไปเถอะ”

“ขอบคุณฮะน้าเสี่ยวเหยียน ผมจะถือโอกาสนี้ช่วยน้าดูด้วยว่าอีกฝ่ายเป็นยังไง”

“…”

เจ้าเด็กเวรนี่…

หลี่ซือห้านพาเสี่ยวหมี่โต้วออกไป

หลัวหุ้ยเหม่ยกังวลขึ้นมา

“ถึงยังไงก็เพิ่งจะรู้จักกันได้ไม่นาน ก็ให้เขาพาเด็กออกไปอย่างนี้ จะดีจริงๆหรอ?”

เสี่ยวเหยียนได้ยินอย่างนั้นแล้ว ก็ขมวดคิ้วออกมา “พอแม่พูดอย่างนี้แล้ว หนูก็คิดขึ้นมาได้เลยว่าเหมือนกับว่ามันไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก หรือว่าหนูไปด้วยดีกว่า”

พูดจบ เสี่ยวเหยียนก็รีบหยุดงานในมือลงทันที แล้ววิ่งออกไป

แต่หลี่ซือห้านกับเสี่ยวหมี่โต้วก็ได้ไปหายไม่เห็นเงาเสียแล้ว

“แกโทรหาเขา ถามที่อยู่ แล้วไปเถอะ ที่ร้านฉันดูให้เอง”

“ได้ งั้นรบกวนแม่แล้ว หนูรอพวกเขากินกันเสร็จแล้วกลับมานะคะ”

“อืม ถึงยังไงก็ลูกของคนอื่นเขา ต้องเอาใจใส่สักหน่อย”

หลังจากที่หลี่ซือห้านพาเสี่ยวหมี่โต้วออกไปแล้ว เสี่ยวหมี่โต้วก็บอกที่ที่หนึ่งให้กับเขา บอกว่าอยากไปกินของอร่อยที่นี่ หลี่ซือห้านเหลือบมองที่อยู่นั้นเล็กน้อย เขาไม่รู้จักเลย ก็คงเป็นที่ที่ไม่เคยไปมาก่อน

แต่เขาก็ไม่ได้คิดมาก เปิดโทรศัพท์ขึ้นมานำทางไปยังที่หมาย

มือถือของเสี่ยวหมี่โต้วจู่ๆก็ดังขึ้นมา เสี่ยวหมี่โต้วเหลือบมองดูเล็กน้อย นึกไม่ถึงว่าจะเป็นเสี่ยวเหยียนที่เป็นคนโทรเข้ามา เขากะพริบตาแล้วกดรับสาย

“น้าเสี่ยวเหยียน~”

“เสี่ยวหมี่โต้ว เมื่อกี้นี้เป็นเพราะการละเลยไปของน้าเสี่ยวเหยียน น้าควรจะไปกับหนูด้วย พวกเธอตอนนี้ไปถึงไหนแล้ว? จะไปไหนกัน? ส่งที่อยู่มาให้น้า น้าเสี่ยวเหยียนเรียกรถตามไปเอง”

เสี่ยวหมี่โต้วไม่มีทางให้เธอมาก่อกวนได้หรอก แต่ก็ยังพยักหน้าตอบรับไปอย่างว่าง่าย “น้าเสี่ยวเหยียน พวกเรายังไม่ถึงกันเลย รอให้พวกเราถึงก่อนแล้วค่อยส่งที่อยู่ให้น้าเสี่ยวเหยียนนะฮะ”

“ไม่ได้ หนูส่งที่อยู่มาให้น้าตอนนี้เลย น้าจะรีบไปเลย”

“งั้นก็เอาเถอะ ผมส่งที่อยู่ไปในวีแชทน้าเสี่ยวเหยียนแล้วกันนะฮะ”

“อืมๆ”

หลังจากที่วางสาย หลี่ซือห้านมองไปทางเสี่ยวหมี่โต้ว

“น้าเสี่ยวเหยียนของหนูโทรมางั้นหรอ?”

คำว่าน้าเสี่ยวเหยียนของหนูทำเอาเสี่ยวหมี่โต้วได้ยินแล้วสะใจไม่น้อย

“ใช่แล้ว น้าเสี่ยวเหยียนค่อนข้างที่จะเป็นห่วงผมนิดหน่อยน่ะฮะ”

ได้ยินอย่างนั้นแล้ว หลี่ซือห้านก็ลูบจมูกเบาๆ “ความจริงเรื่องนี้ลุงทำไม่ค่อยถูก ถึงยังไงลุงก็เป็นแค่คู่นัดบอดของเธอ แต่กลับพาเด็กคนนึงของเธอออกมา แล้วหนูส่งที่อยู่ให้เธอแล้วหรือยัง? เธอจะมา?”

“คุณลุง หลังจากที่น้าเสี่ยวเหยียนมา คุณลุงจะไม่เลี้ยงข้าวผมแล้วหรอฮะ? ไม่อย่างนั้นแล้ว…”

“วางใจเถอะ คุณลุงบอกว่าจะเลี้ยงก็ต้องเลี้ยงอยู่แล้ว”

“งั้นถ้าผมสั่งแพงไปล่ะฮะ?” เสี่ยวหมี่โต้วถามออกมาอีกครั้ง

เด็กคนนึงจะแพงได้เท่าไหร่เชียว? หลี่ซือห้านเอ่ยพูดอย่างใจกว้าง “วางใจเถอะ หนูสั่งได้ตามสบาย ลุงจ่ายไหว”

“อ้อ งั้นก็ขอบคุณคุณลุงด้วยนะฮะ ร้านของเสี่ยวเหยียนยุ่งมาก อย่าให้เธอมาเลยดีกว่า~”

“อืม ก็ได้”

รอให้กำราบเด็กน้อยได้แล้ว หลังจากที่กลับไปแล้วก็เอ่ยชมตนให้มากๆ เขาก็จะมีโอกาสมากขึ้น หลี่ซือห้านคิดในใจ

หลังจากที่เสี่ยวเหยียนวางสายไปแล้ว ก็เอาแต่รอเสี่ยวหมี่โต้วส่งที่อยู่มาให้ ผลก็คือรอมาห้านาทีแล้วที่อยู่ของเจ้าเด็กนั่นก็ยังไม่ส่งมาสักที เธอกังวลเล็กน้อย แต่ทำได้เพียงส่งข้อความไปหาเสี่ยวหมี่โต้ว ถามเขาว่าทำไมยังไม่ส่งที่อยู่มาให้เธออีก

{เสี่ยวหมี่โต้ว ที่อยู่ล่ะ? ตอนนี้พวกเธออยู่ไหนกัน? ไม่งั้นแล้วหนูก็ส่งโลเคชั่นมาให้น้าเสี่ยวเหยียนเถอะ}

ความจริงแล้วเสี่ยวหมี่โต้วกำลังจงใจถ่วงเวลาอยู่ เพราะว่าเขาได้ส่งที่อยู่ไปให้คุณลุงแล้ว แล้วยังบอกอีกไปว่า เขาจะไปกินข้าวกับคู่นัดบอดของน้าเสี่ยวเหยียน ดูสิว่าเขาจะยังนิ่งอยู่ได้อีกมั้ย

ดังนั้นแล้วในตอนที่น้าเสี่ยวเหยียนส่งข้อความมาหาเขา เสี่ยวหมี่โต้วก็ได้ส่งสติกเกอร์ที่ดูน่ารักแอ๊บแบ๊วอันนึงกลับไป จากนั้นก็บอกไปว่า {น้าเสี่ยวเหยียน ผมว่าพวกเราใกล้ถึงที่หมายแล้วฮะ น้ารอเสี่ยวหมี่โต้วแป๊บนึงนะฮะ}

เสี่ยวเหยียนที่ได้รับข้อความแล้ว “…”

ลางสังหรณ์ยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ก่อนหน้านี้หลัวหุ้ยเหม่ยบอกว่าเป็นห่วงเสี่ยวหมี่โต้ว แต่เสี่ยวเหยียนก็รู้อยู่ว่า มีแต่เสี่ยวหมี่โต้วต่างหากที่จะไปหลอกคนอื่นเขา จะหลอกเขาได้ที่ไหนกัน?

ตอนนี้เสี่ยวหมี่โต้วก็ถ่วงเวลาแล้วถ่วงเวลาอีกอยู่แบบนี้ นั่นก็แสดงให้เห็นแล้วว่าไม่อยากบอกเธอว่าพวกเขาไปที่ไหนกัน

ทำไมไม่อยากบอกเธอ? ก็แค่ที่ที่เลือกไปคงจะเป็นที่ที่เสี่ยวเหยียนไม่ให้ไปเป็นแน่!

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ ถูกบังคับเป็นตัวแทนของงานแต่งงานนี้ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่พิการแต่กลับมีอำนาจใหญ่ “ฉันเย่โม่เซินไม่เอาผู้หญิงที่ท้องและไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใครเด็ดขาด”เดิมทีคิดว่างานแต่งงานนี้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอกลับเผลอใจ ไปไปมามา สุดท้ายเธอก็จากไปด้วยความเสียใจผ่านไปหลายปี ลูกชายที่หน้าตาคล้ายกับเขามากตบหัวของเย่โม่เซินด้วยฝ่ามือเล็กๆ“พ่อคนร้าย นายว่าใครเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเป็นใคร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset