เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ – ตอนที่ 1157 ใส่ร้ายผู้บริสุทธิ์​

บทที่1157 ใส่ร้ายผู้บริสุทธิ์

“ถ้าไม่ได้เห็นกับตา งั้นป้าจางมีสิทธิ์อะไรมากล่าวหาว่าแฟนฉันเป็นคนทำร้ายเขา?”ในตอนที่พูดคำว่าแฟน เสี่ยวเหยียนก็หันไปมองหานชิงด้วยความลังเล

แม้ว่าเมื่อคืนจะจูบกันแล้ว ทว่าทั้งคู่นั้นยังไม่ได้เป็นแฟนกัน ทำให้มันกระจ่างดีกว่า

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เสี่ยวเหยียนก็พูดเสริมขึ้นว่า

“อีกอย่างนะคะ ก่อนหน้านี้ที่ฉันบอกว่ายังไม่มีแฟน ก็คือไม่มีแฟนจริงๆ ฉันไม่มีวันไปนัดเจอกับคนอื่นทั้งๆที่มีแฟนแล้วหรอกค่ะ สิ่งที่ป้าจางพูดมาทั้งหมดนั้น เป็นการใส่ร้ายฉันและทำลายชื่อเสียงของฉัน”

คิดไม่ถึงว่ายัยเด็กเสี่ยวเหยียนถึงมีไหวพริบและช่างพูดแบบนี้ ป้าจางอึ้งไปสักครู่ จากนั้นก็พูดขึ้นอย่างได้ใจว่า “เธออย่ามาปฏิเสธเลย เสี่ยวหลี่บอกฉันหมดแล้ว แฟนเธอเป็นคนทำร้ายเขาจนต้องเข้าโรงพยาบาล มันเป็นความผิดของเธอ ตัวเองมีแฟนแล้วแท้ๆยังไปหาคู่อีก ยัยเด็กบ้านจาง ทุกคนที่อยู่ตรงนี้ ก็เห็นเธอตั้งแต่เล็กจนโต ไม่ต่างอะไรจากพ่อแม่แท้ๆของเธอ เธอไม่ควรหลอกลวงทุกคนแบบนี้นะ”

ที่จริงแล้วที่ป้าจางยังยืนยันคำเดิมเรื่องเสี่ยวเหยียนแบบนี้ก็เพื่อรักษาชื่อเสียงของตัวเอง เธอจะไม่พูดเรื่องเมื่อคืนออกมาเด็ดขาด และข่าวสารที่เธอได้รับคือ หลี่ซือห้านอยากจูบเสี่ยวเหยียน แต่เสี่ยวเหยียนไม่ยอมและตบเขาไปทีหนึ่ง

ป้าจางคิดตามเหตุผลว่า ระหว่างตบหนึ่งทีกับทำร้ายจนเข้าโรงพยาบาล แน่นอนว่าอย่างหลังนั้นหนักกว่า

เหมือนกับพ่อแม่แท้ๆ?

เมื่อเสี่ยวเหยียนได้ยินคำนี้ก็หัวเราะเยาะในใจ คนพวกนี้ให้ข้าวเธอกินหรือว่าให้เงินกับเธอเหรอ? เหมือนกับพ่อแม่แท้ๆ คำพูดแบบนี้ยังมีหน้ากล้าพูดออกมาได้?

ในตอนที่กำลังคิด หานชิงที่อยู่ข้างๆก็ขยับตัว ทำท่าเหมือนจะออกหน้าแทนเธอ เสี่ยวเหยียนยื่นมือออกไปดึงชายเสื้อของเขาไว้ คนข้างๆจึงหันหน้ามามองเธอ

เสี่ยวเหยียนส่งสายตาให้เขาว่าอย่าออกไป เรื่องเล็กแบบนี้เธอจัดการเองได้ เมื่อคืนเขาออกหน้าแทนเธอแล้ว วันนี้เธอไม่ควรพึ่งเขาอีก

หานชิงเม้มปากเล็กน้อย มองดูท่าทีของสาวน้อยที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ ดูท่าแล้วเธอมั่นใจที่จะจัดการเรื่องนี้อย่างสบายๆ

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ หานชิงจึงถอยออกมา เขาตัดสินใจที่จะยืนอยู่ตรงนี้เพื่อดูชัยชนะของสาวน้อย

“โอ้โห ดูสายตาที่ส่งกันไปมาสิ ยังบอกว่าไม่ใช่แฟนของเธอเหรอ?”ป้าจางเริ่มเดือดขึ้นมา แล้วพูดเยาะเย้ยเสี่ยวเหยียนว่า “ฉันว่านะยัยเด็กบ้านจาง เธอยอมรับเถอะ เขาเป็นคนทำร้ายเสี่ยวหลี่จนต้องเข้าโรงพยาบาลใช่ไหม? ดูท่าแล้วคงใช่สินะ พวกเธอรังแกคนอื่นแบบนี้ได้ยังไง?”

“ป้าจางคะ”เสี่ยวเหยียนเดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ไปยืนอยู่ตรงหน้าเธอแล้วเรียกชื่อเธอขึ้นมา

ทันใดนั้นป้าก็มีลางสังหรณ์ที่ไม่ค่อยดี เธอหรี่ตาลง “จะทำอะไร?”

“ป้ารู้หรือเปล่าคะว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น? คนที่ป้าแนะนำให้ฉัน พูดจาไม่สุภาพ แถมยังลงไม้ลง และคิดจะข่มขืนฉันด้วย?”

เมื่อพูดถึงตรงนี้………ผู้คนรอบๆก็สูดหายใจเข้าลึกๆ และมองไปยังเธอด้วยสายตาที่ยากที่จะเชื่อในสิ่งที่เธอพูดออกมา

แม้แต่ป้าจางก็ยังเบิกตากว้าง แววตาของป้าจางดูประหลาดใจมาก คิดไม่ถึงว่าเธอจะพูดเรื่องเช่นนี้ออกมาตรงๆแบบนี้!

เธอคิดว่า เสี่ยวเหยียนจะอดกลั้นอดทน จากนั้นก็จะถูกตัวเองต่อว่าจนจนมุม ไม่สามารถหาเหตุผลมาค้านหรือหักล้างตัวเองได้!

ความเป็นจริงแล้ว แม้แต่หานชิงที่อยู่ข้างๆก็นึกไม่ถึงว่าเธอจะใจกล้าแบบนี้ เขามองไปยังเสี่ยวเหยียน แววตาหมองลงครู่หนึ่ง

บางที เธออาจจะกล้าหาญมากกว่าที่เขาคิด

แต่ก็จริง เพราะเธอเป็นผู้หญิงที่ไล่ตามหลังเขาโดยไม่คำนึงถึงอะไรเลย ความกล้าหาญแบบนี้เธอจะไม่มีได้อย่างไร?

“เธอ……..เธออย่ามาพูดจามั่วซั่วแบบนี้นะ? เสี่ยวหลี่เป็นคนมีคุณธรรม เขาจะทำเรื่องแบบนั้นได้อย่างไร? ยัยเด็กบ้านจาง เสี่ยวเหยียน……….เธอไม่ควรพูดจาใส่ร้ายผู้บริสุทธิ์แบบนี้นะ?”

“พูดมั่วซั่ว?”เสี่ยวเหยียนยิ้มเล็กน้อย “ป้าจางคะ สิ่งที่ฉันพูดป้าก็ไม่เชื่อ แล้วทำไมสิ่งที่เขาพูดป้าถึงเชื่อล่ะคะ? เขาทำเรื่องแบบนี้ไม่เป็น แล้วเพื่อนของฉันทำเรื่องแบบนี้เป็นเหรอคะ? ในสายตาฉัน เพื่อนของฉันก็เป็นคนมีคุณธรรมเหมือนกัน เขาไม่มีทางทำเรื่องแบบนี้เหมือนกันค่ะ”

ในเมื่อฝ่ายตรงข้ามไม่ยอมรับความจริง งั้นพวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องแบกรับข้อกล่าวหาว่าเป็นผู้ทำร้ายร่างกายแล้ว เพราะไม่ว่าอย่างไรฝ่ายตรงข้ามก็ไม่สามารถหาหลักฐานมาได้

“นอกจากนี้นะคะป้าจาง ป้าคิดว่าสิ่งที่ฉันกำลังพูดนั้นเป็นการใส่ร้ายเขาเหรอคะ? เราต่างก็เป็นผู้หญิงเหมือนกัน ป้าคิดว่าคำพูดของฉันนั้นกำลังใส่ร้ายให้ความบริสุทธิ์ของเขาหรือความบริสุทธิ์ของฉันคะ?”

คำพูดอันหลังนี้ทำให้เพื่อนบ้านต่างก็พยักหน้าเพราะเห็นด้วย

“ใช่ๆ ถ้าป้ายังยืนยันว่าเสี่ยวหลี่ไม่ได้ทำเรื่องแบบนี้ แล้วยัยเด็กนี่จะพูดแบบนี้ออกมาได้ยังไง?”

“นั่นน่ะสิ ไม่จำเป็นพูดเรื่องแบบนี้ออกมาเพื่อทำลายชื่อเสียงตัวเอง มันไม่จำเป็นเลย ฉันว่านะป้าจาง คนที่ป้าแนะนำไม่น่าเชื่อถือหรือเปล่า? ถ้าตามที่เสี่ยวเหยียนพูด คนๆนั้นไม่ใช่คนดีอะไรนะ”

“ในเมื่อเป็นคนไม่ดี ถูกทำร้ายร่างกายจนเข้าโรงพยาบาล ก็ไม่น่าเป็นอะไรหรอกมั้ง?”

“ใช่ๆ……..ถ้าเป็นฉันนะ มีคนมาทำอะไรแบบนี้กับลูกสาวของฉัน ฉันไม่กระทืบให้ตายก็ถือว่าเป็นบุญแล้ว”

ทิศทางของลมเปลี่ยนแล้ว

ป้าจางคิดไม่ถึงว่าเสี่ยวเหยียนจะโหดร้ายขนาดนี้ เธอโกรธมากจนเกือบหงายหลังล้มลงไป ผู้คนรอบๆจึงช่วยพยุงตัวเธอไว้

หลังจากที่เธอถูกผู้คนพยุงไว้ ทันใดนั้นเธอก็ร้องไห้แล้วตะโกนออกมา

“ให้ตายเถอะ ทำไมพวกเธอถึงใส่ร้ายฉันแบบนี้ ฉันอุตส่าห์แนะนำคู่เดทให้ เธอไม่พอใจก็ช่างสิ ทำไมต้องใส่ร้ายฝ่ายตรงข้ามด้วย เธอทำแบบนี้ได้ยังไง? ไม่มีหลักฐานอะไรเลยด้วยซ้ำ!”

ฝ่ายตรงข้ามแกล้งทำเป็นป่วย เสี่ยวเหยียนไม่มีปฏิกิริยาใดๆทั้งสิ้น เพราะเธอเห็นดวงตาของป้าจางยังคงแพรวพราว และน้ำเสียงก็เต็มไปด้วยความหนักแน่น ดูก็รู้ว่าแกล้งทำ

เธอยิ้มอย่างเยือกเย็น แล้วพูดออกไปตรงๆ “ป้าก็ไม่มีหลักฐานเหมือนกัน แล้วทำไมถึงมากล่าวหาว่าเพื่อนของฉันเป็นคนทำร้ายล่ะคะ? ป้าจางคะ การกระทำของป้าแบบนี้ก็เหมือนกับว่า คนมีอำนาจสามารถทำผิดได้ แต่คนธรรมดาถูกจำกัดแม้กระทั่งในกิจกรรมที่ถูกต้องตามกฎหมาย พูดง่ายๆก็คือชอบเอาตัวเองเป็นหลักและเอาเปรียบคนอื่นค่ะ”

ป้าจางคิดไม่ถึงว่า ทั้งๆที่ตัวเองแกล้งป่วย แต่สาวน้อยก็ยังไม่ปล่อยเธอไป เธอจึงอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ร้องไห้โวยวายต่อ

และในเวลานั้นเอง พ่อแม่ของเสี่ยวเหยียน สองสามีภรรยาบ้านจางก็ลงมาแล้ว

ตอนแรกพวกเขาสองคนยังรอเสี่ยวเหยียนอยู่ที่บ้าน ทว่ารอแล้วรอเล่าก็ยังไม่กลับมา จากนั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงคนทะเลาะกันดังมาจากข้างหลัง ทั้งคู่จึงออกไปดู คิดไม่ถึงว่าจะได้ยินคำพูดอันหลัง

เมื่อได้ยินเสี่ยวเหยียนพูดว่าหลี่ซือห้านลงไม้ลงมือกับเธอ พ่อจางก็แทบพุ่งออกมาแล้ว แต่ถูกหลัวหุ้ยเหม่ยรั้งไว้ แล้วเธอก็พูดขึ้นว่า “คุณดูสิ ลูกสาวของเราโตแล้วใช่ไหม? เผชิญหน้ากับคนมากมายตามลำพัง แถมยังใจเย็นและพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น”

เมื่อเธอพูดแบบนี้ออกมา ทันใดนั้นพ่อจางก็รู้สึกว่า มันก็จริงอย่างที่เธอพูด?

ลูกสาวเผชิญหน้ากับคนมากมาย แถมยังไม่ตื่นตระหนกหรือลนลาน? มันเป็นเรื่องที่ดี ทั้งสองคนจึงตัดสินใจดูสถานการณ์ต่อไป รอจนป้าจางตะโกนร้องไห้โวยวาย ทั้งสองคนถึงตัดสินใจปรากฏตัว

ทันทีที่ปรากฏตัว พ่อจางก็พับแขนเสื้อของตัวเองขึ้น

“ใครกล้ารังแกลูกสาวของฉัน อย่าว่าแต่โรงพยาบาล ฉันจะกระทืบมันให้ตาย แล้วส่งขึ้นเมรุเลย! อยากจะเข้าโรงพยาบาลงั้นเหรอ? ไม่มีทาง!”

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ ถูกบังคับเป็นตัวแทนของงานแต่งงานนี้ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่พิการแต่กลับมีอำนาจใหญ่ “ฉันเย่โม่เซินไม่เอาผู้หญิงที่ท้องและไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใครเด็ดขาด”เดิมทีคิดว่างานแต่งงานนี้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอกลับเผลอใจ ไปไปมามา สุดท้ายเธอก็จากไปด้วยความเสียใจผ่านไปหลายปี ลูกชายที่หน้าตาคล้ายกับเขามากตบหัวของเย่โม่เซินด้วยฝ่ามือเล็กๆ“พ่อคนร้าย นายว่าใครเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเป็นใคร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset