เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ – ตอนที่ 1209 อย่ามัวแต่คิดเพ้อเจ้อ

บทที่ 1209 อย่ามัวแต่คิดเพ้อเจ้อ

เรื่องนี้ทำให้เสี่ยวเหยียนรู้สึกกลุ้มใจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นเธอจึงไม่ได้ส่งข้อความไปหาหานชิง บอกเขาว่าเธอตื่นนอนแล้ว แต่ได้เข้าไปในห้องน้ำล้างหน้าแปรงฟัง ด้วยอารมณ์ตกต่ำ

หลังจากแปรงฟันเสร็จแล้ว เสี่ยวเหยียนเกาผมของตัวเอง มองตัวเองในกระจกอย่างหงุดหงิด ท้องก็ได้ส่งเสียงร้องในเวลานี้

เมื่อวานไม่ได้ทานอาหารเย็น ในตอนนี้ท้องก็อดไม่ไหวที่จะประท้วงแล้ว

“หิวจัง……” เสี่ยวเหยียนลูบท้องของตัวเอง

อยากกินอาหารจริงๆ แต่ในห้องพักของโรงแรม ไม่มีของอะไรเลย หรือไม่ก็……เธอลงไปกินอะไรก่อนแล้วกัน? แต่ว่าถ้าไม่เรียกหานชิง จะดูเหมือนไม่ค่อยมีมารยาทหรือเปล่า แต่เพราะพฤติกรรมของเขา หัวใจของเธอกลัดกลุ้มยิ่งนัก ดังนั้นจึงรู้สึกโกรธจนไม่อยากคุยกับเขาเลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะไปหาเขาเลย

เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ เสี่ยวเหยียนก็ถอนหายใจอย่างช้าๆ แม้แต่เสื้อผ้าก็ไม่ได้เปลี่ยน ก็นอนกลับไปบนเตียงโดยตรง จ้องมองบนเพดานแล้วทนหิวต่อไป

นอนไปเรื่อยๆ โทรศัพท์ก็สั่นกะทันหัน คือหานชิงได้ส่งข้อความวีแชทถึงเธอ ถามว่าเธอตื่นนอนหรือยัง

เมื่อเห็นข้อความวีแชทนี้ ความโกรธของเสี่ยวเหยียน ก็ยิ่งแย่ลงไปอีก ถ้าอยากจะรู้ ทำไมไม่มาดูด้วยตัวเองดันจะต้องส่งวีแชท ไม่ตอบกลับ!

เสี่ยวเหยียนโยนโทรศัพท์กลับไปที่เตียงด้วยความโกรธ

เธอไม่สนใจเขาหรอก

แต่ทันทีที่โยนโทรศัพท์ออกไป เสี่ยวเหยียนก็เริ่มใจเสาะแล้ว คนเขาก็ดูเหมือนว่าไม่ได้ทำอะไรเลย เธอเคืองใจแบบนี้ ดัดจริตเกินไปหรือเปล่า?

หลังจากที่คิดทบทวนไปมา เสี่ยวเหยียนจึงต้องเอาโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วตอบกลับวีแชท

แต่ทันทีที่ตอบกลับข้อความ ก็มีเสียงเคาะประตูดังมาจากข้างนอก

เสี่ยวเหยียนลุกจากเตียงทันที วิ่งไปข้างประตูเปิดประตู แล้วก็เห็นหานชิงถือถุงไว้ ยืนอยู่ข้างนอกจริงๆ เมื่อเห็นเธอเท้าเปล่า สายตาชะงักเล็กน้อยจากนั้นก็เดินเข้าไปในห้อง

“เมื่อคืนเข้าเย็นยังไม่ได้กินก็เข้านอนแล้ว ตอนนี้คงหิวแล้วใช่ไหม? เอาอาหารเช้ามาให้คุณ”

เสี่ยวเหยียนมองดูถุงที่เขาถืออยู่ในมือ เขาลงไปซื้ออาหารเช้าหรือ? เดิมทียังคิดว่า จะได้ออกไปทานอาหารเช้าด้วยกันเสียอีก

ทริปฮันนีมูนนี้ ได้มีอาหารเช้าให้ด้วย แต่เวลาเช้าไปหน่อย บวกกับสถานการณ์พิเศษของเสี่ยวเหยียนในเมื่อคืน หานชิงคิดว่า ตอนที่เธอตื่นมา คงจะหิวน่าดูเลย จึงนำอาหารเช้ามาให้เธอด้วยตัวเอง

ตอนที่ทานอาหารเช้า เสี่ยวเหยียนยังคงคิดถึงเรื่องห้องพักของทั้งสอง แต่ก็แค่จำไว้ในใจเท่านั้น ไม่ได้แสดงออกมา

เมื่อถึงเวลา เจ้าหน้าที่ก็ได้ปรากฏตัวขึ้นมา

โปรแกรมในวันแรก คือเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยว แม้ว่าจะเป็นต่างประเทศ คนในแหล่งท่องเที่ยวก็มีจำนวนมาก แต่ยังดีที่พนักงานได้เปิดช่องทางเดินพิเศษให้ ดังนั้นกิจกรรมจำนวนมาก ก็สามารถเข้าร่วมได้ แต่ความแข็งแรงทางร่างกายของเสี่ยวเหยียนธรรมดา ไม่นานก็เหนื่อยแล้ว แต่เธอไม่กล้าพูด กลับเป็นหานชิงที่ละเอียดรอบคอบสังเกตเห็น ทันใดนั้นก็พูดว่า “พักกันสักพักเถอะ”

พนักงานรู้ตัวแล้วว่า ตัวเองเดินเร็วเกินไปแล้ว มองดูเหงื่อที่ออกบนหน้าผากของเสี่ยวเหยียน เขายิ้มอย่างเก้อเขิน “อากาศร้อนนิดหน่อยเนอะ ข้างหน้ามีบาร์สไตล์พิเศษร้านหนึ่ง อยู่ในโปรแกรมที่เราจะเตรียมไว้ หรือไม่คุณนายหานอดทนอีกไม่กี่นาทีไหม?”

ไม่กี่นาที? ถ้าไม่ใช่ว่าหานชิงบอกว่าจะหยุดพัก เสี่ยวเหยียนคิดว่าตัวเองอดทนอีกชั่วโมงถึงสองชั่วโมง ก็ไม่มีปัญหา แค่ไม่กี่นาทียิ่งไม่ต้องพูดถึง

ดังนั้นเธอจึงพยักหน้า “ได้”

หลังจากนั้นพนักงานก็พาทั้งสองคนเดินไปทางบาร์หานชิงโอบเธอไว้ในอก “ฉันแบกคุณ?”

เสี่ยวเหยียน “……ไม่ต้อง ฉันยังเดินได้”

ริมฝีปากของหานชิง มีรอยยิ้มจางๆ พูดเตือนเธอว่า “ไม่ต้องรู้สึกอาย ตอนนี้ในสายตาของพนักงาน เราเป็นคู่สามีภรรยากัน ทำเรื่องอะไรก็เป็นเรื่องปกติ”

“……” เขาจงใจลดเสียงต่ำลง โน้มตัวพูดใกล้หูเธอ ความร้อนพ่นออกใส่ติ่งหูเธอ รู้สึกระคายเล็กน้อย และเย้าแหย่อย่างมาก

แต่ความหมายของประโยคนี้ ทำให้เสี่ยวเหยียนยิ่งกลุ้มใจมากขึ้น

เพราะในสายตาของพนักงานคือสามีภรรยากัน ดังนั้นทำเรื่องอะไรก็เป็นเรื่องปกติหมด เขาจึงอยากจะทำแบบนี้หรือ? แล้วถ้าพนักงานรู้ว่าพวกเขาไม่ใช่คู่สามีภรรยา เขาก็คงจะ……

โอ้ยๆๆ

เธอกำลังคิดเพ้อเจ้ออะไรอยู่กันแน่? ออกมาท่องเที่ยวก็ต้องดีใจสนุกสนาน หานชิงถือว่าดีกับตัวเองมากๆแล้ว เธอกำลังคิดเพ้อเจ้ออะไรอยู่กันแน่?

ทั้งสองได้เข้าไปในบาร์สไตล์คู่รัก ข้างในมีคนจำนวนมากต่างเป็นคู่รักกัน เป็นคู่กันทั้งนั้น หลังจากที่เข้าไปในบาร์ไม่นาน พนักงานก็หายตัวไปแล้ว เหลือเวลาให้กับทั้งคู่

เดิมทีเสี่ยวเหยียนอยากจะเอาเหล้า แต่สุดท้ายหานชิง ได้เปลี่ยนน้ำผลไม้ให้เธอ

เมื่อเห็นเหล้าสุดที่รักของเธอ ถูกแทนที่ด้วยน้ำผลไม้ เสี่ยวเหยียนจ้องมองหานชิงด้วยความโกรธและรู้สึกไม่เป็นธรรม

จากนั้น หานชิงก็ยื่นมือไปเคาะที่หน้าผากของเธอจ้องมองเธอด้วยรอยยิ้ม

“ได้แล้ว อย่ามองฉันด้วยสายตาแบบนั้น คุณมาที่นี่เพื่อดื่มเหล้า หรือดับกระหาย?”

เสี่ยวเหยียนทำแก้มป่อง “ดื่มเหล้าก็ช่วยดับกระหายได้นะ”

“ไม่ได้ ถ้าดื่มเมาแล้วจะทำยังไง? วันนี้ไม่อยากเล่นแล้วเหรอ?”

เขาเคยเห็นสภาพตอนเมาของเสี่ยวเหยียนแล้ว พฤติกรรมเมามายเป็นบ้าสารพัด

ยังจำครั้งแรกที่เธอเมาเหล้าได้ บ้าอยู่ตรงนั้น จะขอจูบเขา บางทีหลังจากที่สร่างเมา เธออาจจะไม่รู้เลยว่า ตัวเองได้ทำอะไรไปบ้าง

ถ้าหากเป็นไปได้ ตอนนี้หานชิงก็ไม่รังเกียจ ที่แฟนสาวของตัวเองจะเมาเป็นบ้าใส่เขา

แค่ว่านี่คือข้างนอก มีคนเยอะเกินไป

สุดท้ายเสี่ยวเหยียนส่งเสียงเยาะเบาๆ ถือน้ำผลไม้ขึ้นมาดื่ม

แล้วเธอก็เห็นว่ามีคู่รักจำนวนมาก กำลังถือโทรศัพท์ถ่ายรูปกัน ดังนั้นเสี่ยวเหยียนก็หวั่นไหวตาม เธอคบกับหานชิงมานานขนาดนี้แล้ว ดูเหมือนว่าทั้งสองคน ยังไม่ได้ถ่ายรูปด้วยกันเลย……

หรือว่า……เธอก็ไปถ่ายรูปคู่เหมือนกับคนอื่น

แต่ว่า ……

เสี่ยวเหยียนมองไปที่ใบหน้าที่เย็นชาของหานชิง ทำได้เพียงระงับความคิดนี้ไว้เท่านั้น

น่าแปลกนัก หานชิงดีกับเธอมาก แต่อยู่ต่อหน้าเขา เธอก็ยังไม่มีความมั่นใจ หลายๆเรื่องก็ยังไม่กล้าไปทำ กลัวว่าทำแล้วจะทำให้เขารังเกียจ

ในเวลานี้ มีเสียงกรีดร้องดังจากบาร์

เสี่ยวเหยียนตกใจสะดุ้งกับเสียงที่ดังขึ้นอย่างกะทันหัน มองตามไปที่แหล่งกำเนิดเสียง

“ไปให้พ้นเลย กูพามึงมาฮันนีมูน คือใช้เงินของกู มึงมีสิทธิ์อะไรมาก้าวก่ายเรื่องของกู? อยากโดนตี?”

คือผู้ชายคนหนึ่งกำลังเตะต่อยผู้หญิงคนหนึ่ง

ผู้หญิงถูกต่อยจนล้มลงกับพื้น ยังไงก็ไม่สามารถลุกขึ้นได้ สองมือปกป้องหน้าตัวเองไว้ ร้องไห้ขณะกรีดร้อง

“ที่รักอย่าต่อยเลย……ได้โปรดอย่าต่อยเลย……ฮืมๆ ฉันผิดแล้ว……”

เสี่ยวเหยียนซึ่งไม่เคยเห็นฉากแบบนี้มาก่อน ตกตะลึงแล้ว นั่งอยู่กับที่อย่างแข็งทื่อมองดูฉากนี้ หัวใจก็เต้นระรัวในทันที

นี่ นี่มันเกิดอะไรขึ้น?

สองคนนั้น คือสามีภรรยากันไม่ใช่หรือ? แต่ว่า…… ทำไมลงไม้ลงมือหนักแบบนี้ล่ะ? ?

เสี่ยวเหยียนขมวดคิ้วแน่น ฉากตรงหน้านี้ ส่งผลกระทบที่แย่มาก ต่อการมองเห็นของเธอ เธอมองไปทางหานชิง ทันทีที่สายตาของทั้งสองประสานกันกลางอากาศ และวินาทีต่อมาทั้งคู่ก็ลุกขึ้นพร้อมกัน

“หยุดนะ!”

เสี่ยวเหยียนตะโกนห้ามเสียงดัง ร่างสูงของหานชิง ก็คว้าคอเสื้อของชายคนนั้นไว้ มือเดียวก็ยกเขาขึ้นมาอย่างง่ายดาย เสี่ยวเหยียนถึงได้วิ่งเข้าไปช่วยพยุงตัวผู้หญิงที่ถูกทุบตีจนบาดเจ็บทั่วร่างกาย

“คุณเป็นยังไงบ้าง? ไม่เป็นไรใช่ไหม?”

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ ถูกบังคับเป็นตัวแทนของงานแต่งงานนี้ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่พิการแต่กลับมีอำนาจใหญ่ “ฉันเย่โม่เซินไม่เอาผู้หญิงที่ท้องและไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใครเด็ดขาด”เดิมทีคิดว่างานแต่งงานนี้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอกลับเผลอใจ ไปไปมามา สุดท้ายเธอก็จากไปด้วยความเสียใจผ่านไปหลายปี ลูกชายที่หน้าตาคล้ายกับเขามากตบหัวของเย่โม่เซินด้วยฝ่ามือเล็กๆ“พ่อคนร้าย นายว่าใครเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเป็นใคร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset