เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ – ตอนที่ 1269 แกล้งฉันเหรอ?

บทที่ 1269 แกล้งฉันเหรอ?

ฟางถังถังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จากนั้นจึงพยายามเค้นถามหล่อน

ทั้งสองเป็นเพื่อนซี้ที่คุยกันทุกเรื่อง เจียงเสี่ยวไป๋ห้ามให้หล่อนถามไม้ได้ จึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้หล่อนฟัง

หลังจากได้ฟังเรื่องทั้งหมด ฟางถังถังหัวเราะอย่างไม่ไว้หน้าหล่อนขึ้นมาทันที: “ฮ่าๆๆ เจียงเสี่ยวไป๋ ทำไมจู่ๆฉันถึงรู้สึกอะไรบางอย่าง…ชีวิตของเธอช่างเหมือนแม่บ้านคนหนึ่ง”

มือที่กำมือถืออยู่สั่นขึ้นมาทันที หัวเราะอย่างมีเลศนัย: “ให้โอกาสเธอพูดใหม่อีกหนึ่งครั้ง”

“ก็มันจริงนี่นา เธอดูข้อเสนอที่ตัวเองเสนอเข้าไปสิ จะไปทำอาหารให้เขาถึงที่บ้าน สมัยนี้ยังมีผู้หญิงที่ทำอาหารเป็นและอยากทำให้อาหารอีกเหรอ? ตอนนี้ผู้ชายทำอาหารกำลังเป็นที่นิยมไม่ใช่หรือไง?”

เจียงเสี่ยวไป๋เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง: “งั้นเหรอ? ฉันเรียนหนังสือมาน้อย เธออย่าโกหกฉันล่ะ”

“จริงสิ เธอเป็นนักท่องโลกอินเตอร์เน็ต แต่กลับไม่รู้เรื่องนี้เลยหรือไง?”

เจียงเสี่ยวไป๋เม้มริมฝีปาก: “นี่มันไม่เหมือนกัน ฉันกับเขามีความสัมพันธ์กันทางสัญญา เขาปลอมเป็นแฟนฉัน ช่วยฉันผ่านด่านแม่มาได้ ฉันดูแลปากท้องของเขา นี่ถือเป็นการแลกเปลี่ยนอย่างเป็นธรรม ไม่เหมือนแม่บ้านอะไรนั่นที่เธอว่าสักหน่อย”

ฟางถังถังทอดถอนใจ: “ช่างพยายามจริงๆ แต่การค้าขายก็ต้องแลกเปลี่ยนกันแบบนี้ เธอบอกว่าแค่ดูแลปากท้องเขา เขาเป็นคนไม่เรื่องมาก งั้นเธอก็ทำอะไรตามใจตัวเองให้เขากินก็พอแล้วล่ะสิ”

“ไม่ได้! ในชีวิตของเจียงเสี่ยวไป๋อย่างฉัน ไม่มีคำว่าอะไรก็ได้ โดยเฉพาะเรื่องกิน! อาหารนั้นศักดิ์สิทธิ์ขนาดไหน เธอกลับบอกให้ฉันทำอะไรก็ได้ตามใจ? ฉันเป็นคนแบบนั้นเหรอ?”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฟางถังถังเบ้ปากขึ้นมาทันที “มันก็ใช่ ใครจะไปคิดว่าสาวติดบ้านอย่างเธอจะชอบทำอาหาร และไม่มีใครอีกแล้วล่ะ แต่สิ่งที่ฉันเกลียดที่สุดคือ เธอกลับไม่อ้วน”

เพียงแค่นี้ก็ทำให้เจียงเสี่ยวไป๋รู้สึกพอใจ หล่อนฉีกยิ้ม: “นั่นสิ ฉันกินอะไรก็ไม่อ้วน ถ้าเธอไม่สบายใจก็มาตีฉันสิ”

ในฐานะที่เป็นคนชอบกินเหมือนกัน แต่ฟางถังถังกลับเป็นคนอ้วนง่าย แค่กินเยอะหน่อย น้ำหนักก็ขึ้นตามทุกวินาที ดังนั้นหล่อนจึงต้องพยายามควบคุมตัวเอง

ฟางถังถังโกรธจนกัดฟันแน่น แต่ก็ทำอะไรไม่ได้

หล่อนคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มขึ้นมาทันที จากนั้นพูดเสนอขึ้น: “เสี่ยวไป๋~~อันที่จริงฉันรู้สึกว่า เธอไม่ต้องเสียเงินซื้อของเยอะขนาดนั้นก็ได้ ฉันรู้ว่าเธอชอบกินเป็นชีวิตจิตใจ แต่…เธอลองคิดดูสิ ต่อไปในอนาคตถ้าเธอยังต้องไปทำอาหารให้เขาที่บ้านทุกวัน ลองคิดอีกมุมดูนะ ให้เขาไปกินข้าวที่บ้านเธอก็สิ้นเรื่องไม่ใช่เหรอ?”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจียงเสี่ยวไป๋ตกตะลึงไปทันที จากนั้นก็ตั้งสติขึ้นมา

จริงสิ ทำไมตัวเองถึงสมองตันคิดอะไรแบบนี้ไม่ได้ล่ะ ทำอาหารไม่ได้จำกัดสถานที่สักหน่อย กินข้าวก็เช่นกัน….

ถ้าหล่อนสามารถทำอาหารที่บ้านตัวเองได้ ก็แค่เรียกให้เขามากินก็จบแล้วไม่ใช่เหรอ? ไม่ต้องให้หล่อนไปๆมาๆด้วย เจียงเสี่ยวไป๋ก็รู้สึกว่าข้อเสนอนี้ฟังดูไม่เลวเลย จากนั้นจึงกระแอมและถามกลับ: “แต่ สมมติว่า…เขาไม่ยอมล่ะ? ถ้าฉันทำให้เขาไม่พอใจขึ้นมา เขาก็จะไม่ช่วยฉันปลอมเป็นแฟนแล้วจะทำยังไงล่ะ?”

“จะไปมีเรื่องอะไร? ครั้งที่แล้วเขาบอกเองว่าจะไม่มีครั้งต่อไปอีกแล้วใช่ไหม? ทำไมครั้งนี้ยังตอบตกลงเธอล่ะ? เธอใช้วิธีอะไรทำให้เขาตกลงได้ ก็ทำตามวิธีเดิมสิ ฉันว่าผู้ชายคนนี้ใจอ่อนง่าย เธอลองดูนะ”

ทำตามวิธีเดิม?

เจียงเสี่ยวไป๋กัดริมฝีปากตัวเอง รู้สึกว่าถ้ายังมีครั้งตัวไป เซียวซู่คงพูดออกมาอย่างไม่ลังเลว่า ออกไปซะ…

เมื่อคิดเช่นนั้นแล้ว เจียงเสี่ยวไป๋จึงตั้งสติขึ้นมา รีบพูดขึ้น: “อันที่จริง ฉันพอจะถามได้ แต่เขาอาจจะไม่เห็นด้วย อีกอย่าง สถานที่ทำงานของเขาดูเหมือนจะไกลจากบ้านฉันมาก”

“แบบนี้…งั้นเธอก็ไม่ต้องซื้อแล้ว เอาของไปคืนแล้วไปช็อปปิ้งกับฉัน”

“เธอพูดเล่นอะไรกัน?”

“ฉันจริงจังอยู่ เธอไม่ต้องซื้อแล้ว เอาของที่บ้านเธอย้ายไปก็สิ้นเรื่อง ยังไงถ้าเธอต้องไปทำอาหารให้เขา เธอไม่ต้องทำอาหารให้ตัวเองด้วยเหรอ? ไม่เช่นนั้นเธอก็กินพร้อมเขาเลย ค่อยกลับมาตอนกลางคืนก็ได้ไม่ใช่เหรอ?”

เจียงเสี่ยวไป๋: “…”

โอเค ทำไมฟางถังถังถึงมีความคิดอันชาญฉลาดแบบนี้ขึ้นมาได้? จู่ๆก็เสนอความคิดแบบนี้ให้หล่อนได้ด้วย? แม้ว่าหล่อนจะรู้สึกว่าไร้สาระ แต่ถ้าเป็นแบบนี้…ดูเหมือนจะสามารถประหยัดเงินได้เยอะทีเดียว

หลังจากวางสายไป เจียงเสี่ยวไป๋จึงรีบวิ่งไปหยุดอยู่หน้าพนักงานที่กำลังบรรจุของใส่กล่องให้ ใบหน้ายิ้มแย้มด้วยความเกรงใจ: “เอ่อคือ…ของพวกนี้ฉันไม่ต้องการแล้ว ขอคืนเงินได้ไหมคะ???”

พนักงาน: “…”

ให้ตายเถอะ? เอาเงินมาโปรยเล่นเหรอ? ตอนมาบอกจะเอาอันนี้ อันนั้นก็จะเอา หมดนี่ใส่กล่องให้ด้วย รูดบัตร

รูดบัตรเสร็จบอกว่าไม่เอาแล้ว?

เจียงเสี่ยวไป๋เห็นสีหน้าพนักงานไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่ หล่อนจึงยิ้มเจื่อน: “เอ่อคือ ช่วยคืนให้หน่อยได้ไหม? ฉันให้ค่าชดเชยหนึ่งร้อยหยวน??”

พนักงาน: “…”

สุดท้าย พนักงานก็ยอมคืนสินค้าให้หล่อน

เพราะตัวหล่อนเองยังอยู่ที่หน้าร้าน ของยังไม่ได้ใส่เข้าไปในกล่อง ถ้าหล่อนไม่ต้องการจริงๆร้านก็ไม่มีทางเลือก แต่พนักงานก็ไม่ได้เก็บเงินของเจียงเสี่ยวไป๋ เพียงแค่เตือนให้หล่อนคิดให้ดีก่อนที่จะซื้อครั้งต่อไป ด้วยสีหน้าขุ่นเคืองมาก

เมื่อเจียงเสี่ยวไป๋เห็นสีหน้าของหล่อน อดไม่ได้ที่จะขอวีแชทจากหล่อน จากนั้นพูดขึ้น: “เธออย่าหมดกำลังใจไปเลยนะ ฉันเพิ่มเพื่อนเธอในวีแชท ต่อไปถ้าเธอไปทำงานที่ไหน ฉันก็จะไปหาเธอ ถึงเวลาที่เธอแต่งงาน ย้ายบ้าน รวมถึงถ้าญาติของฉันจะซื้อของอะไร ฉันจะมาเธอนะ โอเคไหม?”

“แค่นี้ก็โอเคแล้ว ห้ามผิดสัญญานะ”

“อื้มๆ ฉันพูดอะไรเชื่อใจได้เสมอ เธอสบายใจได้!”

จากนั้นเจียงเสี่ยวไป๋ก็กลับไปและโทรหาเซียวซู่ก่อน อยากถามว่าเขาจะยอมไปกินข้าวที่บ้านตัวเองหรือไม่ แต่เซียวซู่กลับไม่ยอมรับสาย

เจียงเสี่ยวไป๋มองดูเวลาที่ค่อยๆผ่านไปแต่ละนาที รู้สึกว่าไม่ถามเขาแล้วดีกว่า ย้ายของไปที่บ้านเขาก่อนแล้วค่อยว่ากัน

เพราะยังไงถึงตอนนั้น ถ้าเขาไม่ยอม หล่อนย้ายกลับมาก็จบแล้ว

เซียวซู่เพิ่งจะเริ่มประชุมทางวิดีโอ ช่วงนี้งานเยอะมากจริงๆ คุณชายเย่ทิ้งงานให้เขาทั้งหมด และยังเลื่อนตำแหน่งให้เขาอีกด้วย แม่ว่าตอนนี้เซียวซู่จะมีอำนาจสั่งการในบริษัทแล้ว

แต่สำหรับตัวเขาเอง เขายอมเป็นผู้ช่วยธรรมดาๆดีกว่า

ไม่สิ เป็นผู้ช่วยของคุณชายเย่นั้นเลวร้ายมาก ดูเหมือนว่า ไม่ว่าจะอยู่ตำแหน่งไหน ถ้าเกี่ยวข้องกับคุณชายเย่ ก็จะเผชิญแต่ความกดดันอย่างไม่จบไม่สิ้น

เฮ้อ เซียวซู่ถอนหายใจยาวๆ ตอนที่กำลังเตรียมจะไปชงกาแฟมาทำให้ตื่นตัว กลับสังเกตเห็นว่ามีสายไม่ได้รับหลายสาย และยังมีข้อความในวีแชทที่ยังไม่เปิดอ่านอีกมากมาย

เจียงเสี่ยวไป๋? หล่อนมีธุระอะไรกับตัวเอง?

‘คุณเลิกงานเมื่อไหร่เหรอ? ถ้าตอนนี้ฉันเตรียมจะไปทำอาหารให้คุณจะเร็วเกินไปไหม?’

‘อืม ยังไม่ตอบอีก หรือว่ากำลังยุ่งอยู่? งั้นถ้าคุณว่างแล้วช่วยตอบกลับด้วยนะ’

‘นานขนาดนี้แล้วยังไม่ตอบอีก งั้นฉันทำอาหารก่อนนะ คุณรีบกลับมากินล่ะ!’

ตอนที่พิมพ์ข้อความเหล่านี้ ด้านหลังจะตามด้วยสติ๊กเกอร์น่ารักมากมาย เป็นเจ้าตัวอ้วนกลมสีขาว มีชีวิตชีวาน่ารัก เหมือนเจียงเสี่ยวไป๋มาก

และในขณะเดียวกัน เซียวซู่ก็พบว่ารูปโปรไฟล์ของเจียงเสี่ยวไป๋เหมือนเจ้าอ้วนกลมสีขาวมาก

บนหัวของเจ้าตัวอ้วนกลมสีขาวยังมีที่คาดหัวอีกด้วย บนนั้นมีตัวอักษรเขียนว่า

“ขยันและสู้ต่อไป!”

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ ถูกบังคับเป็นตัวแทนของงานแต่งงานนี้ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่พิการแต่กลับมีอำนาจใหญ่ “ฉันเย่โม่เซินไม่เอาผู้หญิงที่ท้องและไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใครเด็ดขาด”เดิมทีคิดว่างานแต่งงานนี้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอกลับเผลอใจ ไปไปมามา สุดท้ายเธอก็จากไปด้วยความเสียใจผ่านไปหลายปี ลูกชายที่หน้าตาคล้ายกับเขามากตบหัวของเย่โม่เซินด้วยฝ่ามือเล็กๆ“พ่อคนร้าย นายว่าใครเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเป็นใคร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset