เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ – ตอนที่ 1296 แค่ล้อเล่น ต้องขนาดนั้นเลยหรือ

บทที่1296 แค่ล้อเล่น ต้องขนาดนั้นเลยหรือ

เจียงเสี่ยวไป๋วิ่งหนีไปพร้อมกับใบหน้าแดงระเรื่อ

เซียวซู่ยืนอยู่กับที่ แล้วลูบแก้มตัวเองด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก

ทั้งๆที่ตอนเธอฉวยโอกาสเขานั้นทำเหมือนมันเป็นเรื่องที่สมเหตุสมควร แต่พอเธอจะฉวยกลับบ้าง ทำไมพอเขาเริ่มขยับ เธอกลับกลัวเสียอย่างนั้น

ดูท่าว่า ก็คงจะเป็นคนที่กล้าคิดไม่กล้าทำ แล้วยังแสร้งทำเป็นเก่งกล้าต่อหน้าเขาอีก

ใครจะไปรู้ว่าเขาแค่เข้าไปใกล้เพียงนิดเดียว ก็ทำเอาเธอตกใจจนวิ่งหนีไปแล้ว

หลังจากเจียงเสี่ยวไป๋วิ่งหนีไปแล้ว ตัวของเซียวซู่เองก็ไม่ได้รู้ตัวเลยว่า ริมฝีปากของเขานั้นมีรอยยิ้มบางอยู่ตลอดเวลา

ส่วนประธานจ้าวเองก็ไม่รู้ว่าโผล่มาจากไหน เดินมาอยู่ด้านหลังของเซียวซู่ แล้วเปิดปากอย่างมีเลศนัยว่า “คนหนุ่มสาวนี่ดีจังเลยนะ พละกำลังเยอะดี ผู้ช่วยเซียว สายตาไม่เลวเลยนะ เด็กสาวคนนั้นสวยจริงๆ”

ประธานจ้าวกำลังชมเจียงเสี่ยวไป๋อยู่ บนใบหน้ามีรอยยิ้มบางๆ

เซียวซู่กวาดสายตาไปมองเขา แล้วตอบรับด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ขอบคุณครับ”

ประธานจ้าวเลิกคิ้ว “นี่ผู้ช่วยเซียวยอมรับแล้วหรือ ว่าเด็กคนนั้นเป็นแฟนคุณจริงๆ”

“ครับ” เซียวซู่พยักหน้ารับ

ถึงแม้เขาจะรู้ว่าเป็นแค่เรื่องโกหก แต่ในเมื่อประธานจ้าวคนนี้ใกล้ชิดกับตระกูลเจียงแล้ว คำตอบของทางเขาเองก็สำคัญเช่นกัน เพื่อไม่ให้ชายชราจ้าวคนนี้ไปพูดจาไร้สาระต่อหน้าคนในตระกูลเจียง ถึงตอนนั้นเดี๋ยวยัยเจียงเสี่ยวไป๋จะมาหาเรื่องกับตัวเองอีก

“ไม่เลวไม่เลว ยินดีด้วยนะ ดูแล้วความสัมพันธ์ของทั้งสองท่านคงไม่เลวเลย เป็นเพราะจะมีข่าวดีเร็วๆนี้หรือเปล่า”

เซียวซู่ยิ้มแต่ไม่ตอบ และประธานจ้าวเองก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ

หลังจากจบงานเลี้ยงวันเกิดครั้งนี้แล้ว ก็ไม่รู้ว่าประธานจ้าวไปพูดอะไรกับลูกคนโตตระกูลเจียง หลังจากที่ประธานจ้าวกับเซียวซู่กลับไปแล้ว ลูกคนโตตระกูลเจียงก็เรียกตัวชายสามของตระกูลเจียงมาพบตัวเองทันที

“ชายสาม เสี่ยวไป๋มีแฟนที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้ ทำไมนายถึงเก็บไว้ไม่ยอมบอกพวกเราล่ะ”

เจียงเหย็นเคอทำสีหน้ามึนงง “พี่ใหญ่ พี่กำลังพูดเรื่องอะไรกัน”

“ชายสาม อย่าแกล้งทำเป็นรู้อีกเลย นายต้องการปิดบังอำนาจชื่อเสียงต่อไปจริงๆเหรอ คุณเซียวคนนั้นที่มาในวันนี้ถึงแม้จะปกปิดฐานะของตัวเอง แต่ฉันรู้ดีว่าบริษัทตระกูลจ้าวอยากจะร่วมงานกับบริษัทตระกูลเย่ขนาดไหน ดูจากท่าทางของประธานจ้าวในวันนี้แล้ว ท่าทางที่เขามีต่อคุณเซียวคนนั้น เห็นได้ชัดเลยว่าคุณเซียวคนนั้นคงมีฐานะที่ไม่ธรรมดาแน่”

เจียงเหย็นเคอ “แต่ว่า แล้วเรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับเสี่ยวไป๋ด้วยล่ะ อ๋อ ที่บอกว่าเสี่ยวไป๋รู้จักเขาด้วยใช่ไหม คุณเซียวคนนั้นก็บอกแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าเขากับเสี่ยวไป๋เป็นแค่เพื่อนกัน”

“พูดไปแบบนั้น นายก็เชื่อด้วยเหรอ คิดถึงท่าทางของเขาก่อนจะพูดคำนั้นออกมาสิ ฉันเห็นเขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งด้วย ลังเลอยู่ครู่ใหญ่ก่อนจะพูดออกมา อีกอย่างเมื่อกี้ฉันได้ยินจากประธานจ้าวว่า เขาสนใจในตัวเสี่ยวไป๋มาก”

“อืม ?” เจียงเหย็นเคอรู้สึกสับสนมาก “ในเมื่อเป็นแบบนั้น แล้วทำไมเขาถึง……”

“ต้องเป็นเพราะเสี่ยวไป๋ไม่ได้แนะนำตัวแน่ ดังนั้นเขาเลยไม่กล้าพูดไปเรื่อย นี่แสดงให้เห็นว่าคุณเซียวนั้นเป็นคนที่ใส่ใจความรู้สึกของเสี่ยวไป๋”

เจียงเหย็นเคอถูกเจียงเหย็นหมิงพูดใส่จนสับสนไปหมด ไม่เข้าใจจริงๆว่ามันเรื่องอะไรกันแน่

แต่เจียงเหย็นหมิงกลับตบบ่าเขา แล้วพูดด้วยสีหน้าชื่นชมว่า “ไม่เลวจริงๆเลยนะชายสาม เลี้ยงลูกสาวได้ดีจริงๆ นายกลับไปช่วยพี่ชายสืบหน่อย ว่าคุณเซียงช่วงนี้มีเวลาว่างไหม เดี๋ยวตระกูลเจียงของพวกเราจะเลี้ยงข้าวเขาสักมื้อ”

เจียงเหย็นเคอ “……”

จนถึงตอนที่งานเลี้ยงสิ้นสุดแล้ว ทุกคนต่างก็กลับบ้านหมดแล้ว เจียงเหย็นเคอก็ยังสับสนอยู่ ลูกสาวของเขากับเซียวซู่คนนั้นเป็นแฟนกันอย่างนั้นหรือ

ดังนั้นตอนที่เจียงเหย็นเคอกำลังเตรียมจะไปหาลูกสาวเพื่อจะถามให้แน่ชัดนั้น ก็ได้รับข้อความว่าเจียงเสี่ยวไป๋กลับไปก่อนตั้งนานแล้ว

เดิมทีเจียงเสี่ยวไป๋นั้นเตรียมจะนั่งแท็กซี่กลับด้วยตัวเอง เพราะเธอรู้ว่าหากจบงานเลี้ยงนี้แล้ว จะต้องมีคนมากมายมารุมถามคำถามเธอแน่ ดังนั้นเธอเลยรีบปลีกตัวกลับมาก่อน

แต่พอเธอเดินมาถึงริมถนน รถคันหนึ่งก็จอดลงตรงหน้าเธอ จากนั้นกระจกรถก็เลื่อนลง ใบหน้าของเซียวซู่ปรากฏอยู่ตรงหน้า

“ขึ้นรถสิ”

“เซียวซู่ ?” เจียงเสี่ยวไป๋เบิกตาโต “คุณกลับไปแล้วไม่ใช่เหรอ”

เซียวซู่เม้มริมฝีปากบาง ไม่ได้ตอบคำถามนี้ของเธอ เพียงแค่พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “รีบขึ้นรถ ที่นี่จอดรถไม่ได้”

“……”

หมดคำพูด เจียงเสี่ยวไป๋มองไปรอบๆทีหนึ่ง และทำได้แค่รีบก้าวขึ้นรถไปนั่งตรงที่นั่งข้างคนขับ จากนั้นเธอก็คาดเข็มขัดนิรภัยให้ตัวเอง แล้วถามไปด้วยว่า “ทำไมคุณถึงมาอยู่ตรงนี้ จากที่ฉันรู้มา คุณกลับไปก่อนพร้อมกับประธานจ้าวแล้วไม่ใช่เหรอ”

เซียวซู่เหลือบมองเธอทีหนึ่ง “เธอรู้ความเคลื่อนไหวของฉันดีจริงๆเลยนะ สนใจฉันขนาดนั้นเลยเหรอ”

เจียงเสี่ยวไป๋ “……”

เธอมองเซียวซู่เงียบๆอย่างหมดคำพูด อาจเป็นเพราะคิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดคำพูดพวกนี้ออกมา เลยทำให้อึ้งไปชั่วขณะ ก่อนจะได้สติกลับมา แล้วเริ่มพูดอย่างเชื่องช้าว่า “ใครใช้ให้คุณเป็นแขกพิเศษในวันนี้ล่ะ ดึงดูดสายตาของคนทั้งหมด ถึงแม้ฉันจะไม่อยากสนใจ ก็ต้องถูกบังคับให้ไปสนใจอยู่แล้วสิ”

“งั้นเหรอ ?”

เซียวซู่เห็นว่าเธอคาดเข็มขัดนิรภัยเรียบร้อยแล้ว เลยไม่ได้พูดอะไรอีก มองตรงไปด้านหน้าแล้วตั้งใจขับรถไป

ที่จริงเขากลับไปก่อนแล้วจริงๆ แต่พอคิดดูอีกทีแล้ว ยังไงก็วนกลับมาดูอีกรอบดีกว่า เพราะว่าเจียงเหมยคนนั้นดูท่าทางหาเรื่องเก่งมาก ดังนั้นเขาเลยกลับมาดู แล้วก็เจอกับเจียงเสี่ยวไป๋ที่ออกมาพอดี

แน่นอน ว่าเรื่องพวกนี้เซียวซู่ไม่มีทางบอกเจียงเสี่ยวไป๋แน่

แต่ก็เห็นได้ชัด ว่าเจียงเสี่ยวไป๋ไม่คิดจะปล่อยให้คำถามนี้ผ่านไปง่ายๆ เห็นเขาไม่ยอมตอบ ก็ถามต่ออีกว่า “คุณยังไม่ได้บอกฉัน ว่าคุณกลับมาอีกทำไม”

“ลืมของบางอย่าง เลยกลับมาเอา” เซียวซู่ตอบกลับเสียงเรียบ

“ลืมของ ? ของอะไรเหรอ”

เจียงเสี่ยวไป๋กะพริบตาปริบๆ แล้วมองท่าทางของเขา แล้วจู่ๆก็หรี่ตาแล้วมองเขา “คงไม่ใช่ว่าคุณตั้งใจกลับมารับฉันหรอกนะ”

ถ้าไม่อย่างนั้นจะไปบังเอิญขนาดนี้ได้อย่างไร เธอเพิ่งจะเดินออกมาครู่เดียว รถของเขาก็จอดอยู่ตรงหน้าเธอพอดี

พอได้ยินแบบนั้น เซียวซู่ก็หันไปมองเธอทีหนึ่ง แววตานั้นคือรู้สึกหมดคำจะบรรยายแล้วจริงๆ

“โลกสวยเกินไปแล้ว”

“คำนี้อีกแล้ว คุณไม่เต็มใจยอมรับก็ช่างเถอะ ยังไงแค่ฉันเข้าใจก็พอแล้ว ว่าคุณตั้งใจขับรถกลับมารับฉัน”

เซียวซู่เองก็ไม่ได้คิดที่จะโต้เถียงอะไร เพราะว่าเขาก็ตั้งใจกลับมาหาเธอจริงๆ

“นี่ ฉันว่านะเซียวซู่ คงไม่ใช่ว่าคุณคิดจะจริงจังกับฉันหรอกใช่ไหม”

เอี๊ยด——

จู่ๆรถยนต์ก็ส่งเสียงดังแสบแก้วหูออกมา รถของเซียวซู่จอดอยู่ริมข้างทาง “เมื่อกี้เธอว่าอะไรนะ”

เจียงเสี่ยวไป๋ถูกเสียงแหลมบาดแก้วหูนั้นทำเอาสะดุ้งเอาใจ ตอนที่รถจอดลงก็ยังรู้สึกว่ายังไม่ค่อยได้สติเท่าไหร่

“ทำบ้าอะไรของคุณเนี่ย ถึงจะตกใจยังไงก็ไม่ต้องทำขนาดนี้ก็ได้”

เซียวซู่ขมวดคิ้ว “ต่อไปอย่าล้อเล่นแบบนี้อีก”

คิ้วงามของเจียงเสี่ยวไป๋ขมวดกันแน่นทันที “ก็แค่ล้อเล่น คุณต้องเป็นถึงขนาดนั้นเลยเหรอ”

เซียวซู่ไม่พูดจา

เห็นท่าทางของเขาแล้ว เจียงเสี่ยวไป๋ก็ไม่รู้ว่าทำไม ถึงได้รู้สึกโมโหขึ้นมา เธอหัวเราะเสียงเย็นสองที จากนั้นก็พูดว่า “แน่นอนว่าฉันรู้อยู่แล้วว่าความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับคุณเป็นแค่การแสร้งทำ ดังนั้นฉันก็แค่ล้อเล่นเท่านั้นเอง ถ้าคุณรู้สึกว่าฉันพูดไม่ถูก งั้นคุณก็บอกให้ฉันหุบปากก็พอแล้วนี่ ไม่เห็นจำเป็นต้องทำถึงขนาดนี้เลยนี่นา”

“อย่าพูดเลยว่าดิฉันเจียงเสี่ยวไป๋ไม่ได้ชอบคุณ ถึงแม้ว่าวันไหนดิฉันเจียงเสี่ยวไป๋ชอบคุณขึ้นมา แค่ในใจคุณไม่มีฉัน ฉันก็ไม่ใช่คนที่ชอบตามตื๊อไม่ยอมปล่อยอยู่แล้ว แค่แสดงก็แค่แสดงสิ ชีวิตจริงก็คือชีวิตจริง การแสดงกับชีวิตจริงฉันแบ่งได้ชัดเจนอยู่แล้ว ดังนั้นคุณเซียวไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องนี้หรอกค่ะ”

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ ถูกบังคับเป็นตัวแทนของงานแต่งงานนี้ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่พิการแต่กลับมีอำนาจใหญ่ “ฉันเย่โม่เซินไม่เอาผู้หญิงที่ท้องและไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใครเด็ดขาด”เดิมทีคิดว่างานแต่งงานนี้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอกลับเผลอใจ ไปไปมามา สุดท้ายเธอก็จากไปด้วยความเสียใจผ่านไปหลายปี ลูกชายที่หน้าตาคล้ายกับเขามากตบหัวของเย่โม่เซินด้วยฝ่ามือเล็กๆ“พ่อคนร้าย นายว่าใครเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเป็นใคร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset