เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ – ตอนที่ 1414 แสดงได้ไม่เลว

บทที่1414 แสดงได้ไม่เลว

กับสวี่เย็นหวั่นนั้น อันที่จริงเสี่ยวเหยียนก็ไม่ถึงกับเกลียดอะไรหรอก

แต่แท้จริงแล้วเธอนั้นอยากได้ผู้ชายของตนอยู่ เพียงแค่ว่ากันตามเรื่องนี้แล้ว เสี่ยวเหยียนก็ไม่ถึงกับชอบเธอหรอก อีกทั้งคำพูดที่เธอพูดกับตนเมื่อก่อนเหล่านั้นก็ยังมีนัยที่บ่งบอกถึงความต้องการลึกๆของเธอออกมาอีก ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ชัดเจนนัก แต่หลังจากที่เสี่ยวเหยียนรู้สถานะของเธอแล้วก็รู้ว่าเธอนั้นหมายความว่าอะไร

ส่วนเธอในตอนนั้นก็เชื่อเสียสนิท

แต่เสี่ยวเหยียนคนนี้แบ่งแยกระหว่างความรักและความเกลียดเอาไว้ชัดเจน สวี่เย็นหวั่นไม่ได้คิดทำร้ายอะไรเธอ ช่วงนี้เองก็อยู่เงียบไม่ได้แผลงฤทธิ์อะไร เธอก็เลยไม่ได้เกลียดอะไรสวี่เย็นหวั่นนัก

ตอนนี้เห็นเธอส่งข้อความมาหาตน เสี่ยวเหยียนคิดแล้วคิดอีกแต่ก็ได้ตอบกลับเธอไปประโยคนึง

{มีธุระอะไรหรือเปล่า? }

สวี่เย็นหวั่นยังนึกว่าเธอจะไม่สนใจตนแล้วเสียอีก เห็นเธอตอบกลับมา ความรู้สึกในใจก็เริ่มสับสนขึ้นมาเล็กน้อย

{ฉันอยากหาโอกาสเจอกับเธอสักหน่อย พวกเรามาคุยกันสักหน่อย ได้หรือเปล่า?}

เจอกัน?

ตอนที่เสี่ยวเหยียนเห็นข้อความนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะหรี่ตาออกมา อยู่ดีๆเธอมานัดเธอไปทำไมกัน?

{เธอคิดจะทำอะไร? }

{พวกเธอใกล้แต่งงานกันแล้ว เธอว่าฉันจะทำอะไรได้? ฉันก็แค่อยากเปิดใจคุยเรื่องในใจกับเธอเท่านั้นเอง ขึ้นอยู่ที่ว่าเธอจะอยากฟังหรือเปล่า}

{เรื่องในใจ? ถ้าสิ่งที่เธออยากจะพูดมันเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับหานชิง เกรงว่าฉันคงไม่ค่อยสนใจอะไรนักหรอกนะ}

เสี่ยวเหยียนปฏิเสธออกไปตรงๆ สวี่เย็นหวั่นเองก็คาดเอาไว้แล้วว่าเธอจะปฏิเสธตน ทำได้เพียงฝืนยิ้มตอบกลับไปต่อ

{ฉันรู้ว่าเธอจะต้องปฏิเสธฉัน แต่ฉันก็ยังอยากคุยกับเธอสักหน่อย ให้ฉันได้ตัดใจเถอะ โอเคมั้ย?}

เสี่ยวเหยียนไปทำงานอย่างรีบเร่งอยู่สักพัก กลับมาเห็นข้อความนี้จากสวี่เย็นหวั่น ก็แทบจะสามารถมองเห็นสีหน้าอารมณ์ความรู้สึกและความเจ็บปวดที่อยู่ภายในใจนั้นมีมากมายแค่ไหนของสวี่เย็นหวั่นทะลุผ่านหน้าจอโทรศัพท์ออกมา เธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตนเป็นอะไรไป คาดว่าคงเป็นเพราะเมื่อก่อนตอนที่เธอชอบหานชิงแล้วไม่ได้รับการตอบกลับมา มาวันนี้พอเห็นท่าทางอย่างนี้ของสวี่เย็นหวั่นก็เลยเกิดความรู้สึกที่เข้าใจความรู้สึกดีเสียเหมือนกับว่ามันได้เกิดขึ้นกับตัวเอง

คิดๆไปแล้ว เสี่ยวเหยียนก็เลยต้องตอบกลับเธอไป

{ว่ามา เจอกันที่ไหน?}

สุดท้ายสวี่เย็นหวั่นกับจางเสี่ยวเหยียนทั้งสองคนได้นัดกันไปที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง

เสี่ยวเหยียนนั้นเนื่องจากว่าท้องอยู่นั้น ก็เลยไม่แตะกาแฟไปสักพัก จึงสั่งน้ำผลไม้มาแก้วนึง สวี่เย็นหวั่นมองน้ำผลไม้แก้วนั้นอยู่นาน สายตามีแววตาของการดูถูกตัวเองออกมา

เธอก้มหน้าลง ทอดถอนหายใจเอ่ยออกมา “อิจฉาเธอจริงๆ”

การกระทำในมือของเสี่ยวเหยียนชะงักไปเล็กน้อย หลังจากที่ผ่านไปสักพักก็เอามือมาวางลงไปบนขา สบตาเข้ากับสายตาที่ไม่มีเจตนาร้ายใดๆเลยแม้แต่น้อยของอีกฝ่าย เอ่ยปากพูดออกมา “อิจฉาอะไรฉัน? อิจฉาที่ฉันคบกับหานชิง?”

สวี่เย็นหวั่นไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่เม้มริมฝีปากของตัวเอง แววตาหม่นลงกว่าเดิม

“อันที่จริงเธอไม่จำเป็นต้องอิจฉา กลับกันฉันน่าจะเป็นฝ่ายอิจฉาเธอมากกว่านะ”

ได้ยินอย่างนั้นแล้ว สวี่เย็นหวั่นเงยหน้ามองไปทางเสี่ยวแหยียนด้วยความรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย “เธอว่าอะไร? เธอ อิจฉาฉัน?”

“ใช่” เสี่ยวเหยียนแสยะริมฝีปากออกมา ใบหน้าที่มองสวี่เย็นหวั่นเต็มไปด้วยความรู้สึกชื่นชม “ตอนที่ฉันเพิ่งจะรู้จักเธอยังไม่รู้ถึงความรู้สึกที่เธอมีต่อหานชิง แต่เท่าที่รู้จากปากคนอื่นมา ก็คือเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมาก เธอทำอะไรๆได้ทุกอย่าง สิ่งที่ได้รับมาตั้งแต่เด็กเองก็เป็นการศึกษาระดับสูง แล้วยังรู้จักบริหารบริษัท รูปลักษณ์ก็ยังดูเลอค่าอีก ฉันก็เลยอิจฉาเธอไม่ใช่เรื่องปกติหรือไง?”

สวี่เย็นหวั่นแต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่เคยคิดมาก่อน นึกไม่ถึงว่าจะมีวันที่ตัวเองถูกเสี่ยวเหยียนอิจฉาเข้า

เธอยังคิดเลยว่าหลังจากที่เสี่ยวเหยียนคบกับหานชิงแล้ว ก็ควรจะได้ใจแล้วดูถูกคนอื่น แต่นึกไม่ถึงว่าเธอจะยังอิจฉาตน แล้วยังพูดเยินยอเธอออกมาอีกด้วย

ยากที่จะคาดเดาได้ สวี่เย็นหวั่นมองเสี่ยวเหยียนที่อยู่ตรงหน้าเธอนิ่ง เหมือนกับไม่แน่ใจอยู่ไม่มีผิด “เธอ เธออิจฉาฉันจริงๆ?”

“แปลกมากหรอ? เธอสุดยอดมาก คนอื่นอิจฉาก็เป็นเรื่องปกตินี่”

เห็นสวี่เย็นหวั่นมีสีหน้าตะลึงออกมา ทันใดนั้นเสี่ยวเหยียนก็รู้สึกว่าแท้จริงแล้วเธอก็ไม่ใช่คนไม่ดี เธอชอบหานชิงเสียขนาดนั้น แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เคยลงมือทำร้ายอะไรเธอเลย คำพูดที่มีนัยแอบแฝงพวกนั้น ก็คงเป็นคำพูดที่เธอควบคุมตัวเองไม่อยู่ถึงได้หลุดพูดมันออกมาล่ะมั้ง?

คิดมาจนถึงตรงนี้แล้ว เสี่ยวเหยียนก็ถอนหายใจออกมาอีกครั้ง “คำพูดพวกนั้นที่เธอพูดกับฉันเมื่อก่อน ฉันเข้าใจได้ว่าเป็นเพราะรักที่ไม่อาจครอบครองได้จึงไม่อาจคิดปล่อยวางได้ก็เลยได้พูดอย่างนั้นออกมา แต่…พวกเราจะแต่งงานกันแล้ว หวังว่าหลังจากนี้เธอจะเปิดใจสักหน่อยนะ”

เงียบอยู่นาน ทันใดนั้นเองสวี่เย็นหวั่นก็ฝืนยิ้มขมขื่นพร้อมเอ่ยออกมา “นึกไม่ถึงว่าเธอจะยังมาปลอบใจฉันอีก ฉันยังนึกว่าเธอควรจะเกลียดฉันเอามากๆเสียอีก”

“ไม่มีอะไรให้น่าเกลียดนี่ ชอบคนคนนึงไม่ใช่เรื่องที่ตัวเองสามารถควบคุมมันได้ ฉันเข้าใจเธอดี แต่ฉันก็ไม่รู้ว่าควรจะแนะนำเธอยังไง วันนี้พูดกันแค่นี้เถอะ ระหว่างพวกเราไม่มีอะไรให้คุยกันแล้ว แต่ฉันได้ข่าวมาว่าบริษัทของเธอทำได้ไม่เลวเลย ยินดีด้วยนะ”

เสี่ยวเหยียนจะแต่งงานแล้ว ตอนนี้ก็เลยไม่อยากไปต่อล้อต่อเถียงอะไรกับอีกฝ่ายนัก เดิมทีก็เป็นคนน่าสงสารที่ไม่สมหวังอยู่แล้ว พูดจบ เธอก็เตรียมจะลุกขึ้น แต่กลับชนเข้ากับพนักงานที่เข้ามาเสิร์ฟกาแฟพอดี

กาแฟสาดรดลงบนร่างของเธอ สีหน้าพนักงานตกใจจนหน้าซีดออกมา “ขอโทษค่ะๆ ฉันไม่ได้ตั้งใจนะคะ คุณผู้หญิงท่านนี้ไม่เป็นไรใช่มั้ยคะ?”

เสี่ยวเหยียนเห็นเธอหน้าซีด เบ้าตาแดงก่ำออกมา ทั้งยังไม่กล้าระเบิดอารมณ์ใส่เธอไปเหมือนกัน ทำได้เพียงข่มความไม่พอใจเอาไว้ในใจ “ไม่เป็นไร”

สวี่เย็นหวั่นเองก็ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องไม่คาดคิดอย่างนี้ขึ้น จึงลุกขึ้นหยิบกระดาษเช็ดหน้าจากในกระเป๋าตัวเองออกมาเพื่อที่จะเช็ดให้กับเสี่ยวเหยียน พลางเอ่ยออกไป “เสื้อผ้ากลายเป็นอย่างนี้ไปแล้ว ไม่งั้นก็ให้ฉันไปช่วยทำความสะอาดในห้องน้ำเป็นเพื่อนสักหน่อยมั้ย?”

“ขอบคุณ แต่ฉันไปเองดีกว่า”

เสี่ยวเหยียนหยิบกระเป๋าขึ้นมา เดินไปตามทางที่พนักงานบอก สวี่เย็นหวั่นนั่งลงไปอีกครั้ง ก้มลงมองปลายเท้าตัวเอง

เมื่อก่อนเธอรู้สึกอิจฉาริษยาเกลียดต่อเสี่ยวเหยียน ความหยิ่งทะนงที่ฝังลึกอยู่ในใจไม่ยอมให้เธอไปทำเรื่องที่เกินไป แต่วันนี้จากที่ได้พูดคุยกันแล้ว ใจของสวี่เย็นหวั่นกลับสับสนไปหมด

นึกไม่ถึงว่าเธอจะไม่ดูถูกตน แต่ยังจะอิจฉาเธออีก และยังคิดว่าเธอสุดยอดอีก

ความจริงการยืนยันให้แน่ใจของผู้หญิงต่อผู้หญิง มันสำคัญยิ่งกว่า

อีกอย่างผู้หญิงคนนี้ก็ยังไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดาอีก เป็นศัตรูหัวใจ

ความรู้สึกในใจของสวี่เย็นหวั่นนั้นก็เลยละเอียดอ่อนมากจริงๆ

ในขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น ทันใดนั้นเองข้างๆก็มีคนเดินใกล้เข้ามา สวี่เย็นหวั่นเงยหน้าขึ้นมองด้วยความแปลกใจเล็กน้อย “ไม่ใช่ว่าเธอไปทำความสะอาดหรือไง? ทำไมแป๊บเดียวก็…”

คำพูดพูดออกมาเพียงครึ่ง จู่ๆสวี่เย็นหวั่นก็หยุดชะงักไป เพราะว่าคนที่ปรากฏขึ้นมาตรงหน้าเธอนั้นไม่ใช่เสี่ยวเหยียน แต่เป็นเห้อเหลียนจิ่งที่บอกว่าจะช่วยเธอเมื่อคืนวันนั้น

วันนี้เขาเปลี่ยนมาใส่เสื้อสูทสีแดง นั่งลงตรงข้างเธอด้วยหน้าตาเจ้าเล่ห์ มุมปากแสยะออกมา มองดูอารมณ์ดีมาก

สวี่เย็นหวั่นหรี่ตาลงด้วยความสงสัยเล็กน้อย “ทำไมคุณถึงอยู่ที่นี่?”

ได้ยินอย่างนั้น เห้อเหลียนจิ่งยิ้มอย่างมีเลศนัย พร้อมเลิกคิ้วออกมา “คุณว่าไงล่ะ?”

ในดวงตาของเขามีแววตาร้ายกาจแวบผ่านออกมา สวี่เย็นหวั่นหลังจากที่มองชัดเจนแล้ว ภายในใจก็เกิดสังหรณ์ใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

“สายตาแบบนี้ของคุณมันหมายความว่าอะไร?”

แต่ทว่าจู่ๆเห้อเหลียนจิ่งกลับคว้ามือเธอไว้ เอ่ยเสียงทุ้มต่ำออกมา “เย็นหวั่น ก่อนหน้านี้ผมก็บอกแล้วนี่ ว่าผมจะช่วยคุณ”

การคาดเดาภายในใจในที่สุดก็ได้รับการยืนยันแล้ว สวี่เย็นหวั่นเบิกตากว้างอย่างไม่อยากจะยอมรับ “เมื่อกี้นี้พนักงานคนนั้นหรือว่าจะเป็นแผนของคุณ?”

“อืม แสดงได้ไม่เลว อีกหน่อยก็จะให้โบนัสเธอเพิ่มอีกหน่อย”

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ ถูกบังคับเป็นตัวแทนของงานแต่งงานนี้ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่พิการแต่กลับมีอำนาจใหญ่ “ฉันเย่โม่เซินไม่เอาผู้หญิงที่ท้องและไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใครเด็ดขาด”เดิมทีคิดว่างานแต่งงานนี้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอกลับเผลอใจ ไปไปมามา สุดท้ายเธอก็จากไปด้วยความเสียใจผ่านไปหลายปี ลูกชายที่หน้าตาคล้ายกับเขามากตบหัวของเย่โม่เซินด้วยฝ่ามือเล็กๆ“พ่อคนร้าย นายว่าใครเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเป็นใคร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset