เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ – ตอนที่ 1415 ฉันถามเธอว่าเธอล่ะ

บทที่1415 ฉันถามเธอว่าเธอล่ะ

สวี่เย็นหวั่นนั่งนิ่งอึ้งอยู่ตรงนั้น ในหัวก็ปรากฏภาพที่พนักงานสาดกาแฟลงไปบนร่างของเสี่ยวเหยียนเมื่อกี้นี้ขึ้นมา แล้วก็เป็นภาพที่ได้พาเธอออกไปอีก จากนั้นมือของเธอก็เริ่มสั่นขึ้นมาอย่างควบคุมไม่อยู่

หลังจากที่ผ่านไปได้สักพัก สวี่เย็นหวั่นก็ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว นึกอยากจะเดินไปทางห้องน้ำ

ในตอนที่ผ่านร่างของเห้อเหลียนจิ่ง กลับถูกมือข้างหนึ่งของเขาขวางทางเอาไว้

“คิดจะทำอะไร?”

สวี่เย็นหวั่นไม่รู้ว่าตัวเองคิดจะทำอะไร รู้เพียงแค่มือเท้าของเธอมันไม่ฟังคำสั่งของเธอ เธอไม่อาจนั่งอยู่ตรงนี้ได้

“คิดให้ดี นั่นเป็นศัตรูหัวใจของคุณนะ ความสุขของพวกเขาคุณจะเจ็บปวดกับมันนะ ผู้ชายคนนั้นให้คุณรักเขาอยู่ฝ่ายเดียวมาหลายปี แต่งงานก็เรื่องนึงแล้ว แต่มามองผู้หญิงที่สู้คุณไม่ได้อย่างนี้ คุณยอมได้หรอ?”

สวี่เย็นหวั่นกัดริมฝีปากมองไปยังเขา

เห้อเหลียนจิ่งยกยิ้มออกมา ยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ “สวี่เย็นหวั่น นี่เป็นโอกาสที่ไม่ใช่ว่าจะหาได้ง่ายๆเลยนะ ถ้าครั้งนี้ล้มเหลว ครั้งหน้าคุณจะนัดเธอออกมาอีกก็ยากแล้วล่ะ คุณต้องคิดให้ดีๆ”

จากนั้น เห้อเหลียนจิ่งก็เล่าแผนการทั้งหมดของเขาให้กับสวี่เย็นหวั่น ถึงขนาดที่ยังอธิบายกระบวนการทั้งหมดออกมา ฟังมาถึงขั้นที่ถึงกับนองเลือดนั้นแล้ว หัวของสวี่เย็นหวั่นก็เกิดเสียงอื้อขึ้นมา ไม่สนอะไรอีกต่อไป สะบัดมือของเห้อเหลียนจิ่งออกไปอย่างแรงแล้วรีบวิ่งไปทางห้องน้ำทันที

เธอวิ่งไปอย่างล้มลุกคลุกคลาน ก้าวออกไปอย่างรีบร้อน อยากจะไปช่วยคนด้วยใจจริง

เห้อเหลียนจิ่งมองเงาร่างเบื้องหลังของเธออยู่นาน จวบจนเงาร่างเธอหายไปจากระยะสายตา เขาถึงจะถอนสายตากลับมา จากนั้นก็เดินอ้อมโต๊ะไปนั่งตรงที่นั่งที่สวี่เย็นหวั่นนั่งเมื่อกี้นี้ ยกกาแฟของเธอขึ้นมาดื่มคำนึง จ่อเข้ามาที่ริมฝีปากชิมเข้าไปหลายคำ รอยยิ้มตรงมุมปากและในดวงตาต่างก็ดูอ่านยากออกมา

ภายในห้องน้ำ

หลังจากที่เสี่ยวเหยียนทำความสะอาดเสื้อผ้าเสร็จ ถอดเสื้อคลุมออกให้พนักงานสาวเอาไปเป่าลมให้แห้ง จากนั้นก็เธอเข้าห้องน้ำไปทำธุระส่วนตัว แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากที่ทำธุระเสร็จประตูจะเปิดไม่ออกเสียแล้ว

ตอนแรกเสี่ยวเหยียนก็นึกว่าประตูเสีย ก็เลยลองอยู่หลายครั้ง แต่ประตูก็ยังไม่มีปฏิกิริยาใดๆออกมา เหมือนกับว่าถูกคนล็อกจากข้างนอกไม่มีผิด

พอความคิดนี้แวบเข้ามาในหัว เสี่ยวเหยียนก็ตื่นกลัวอยู่กับที่

ภายในใจของเธอเกิดสังหรณ์ใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

หรือว่าจะมีคนคิดอยากจะทำร้ายเธอ? แต่ขังเธอเอาไว้ในห้องน้ำ นี่คิดจะทำอะไรกัน?

คิดมาถึงตรงนี้แล้ว ภายในใจของเสี่ยวเหยียนก็ตื่นตระหนกขึ้นมาเล็กน้อย เธอรีบคลำหาโทรศัพท์ของตัวเอง แต่ก็โชคไม่ดีที่ได้พบว่าตอนที่เข้าห้องน้ำมานั้นเธอได้วางโทรศัพท์เอาไว้บนอ่างล้างหน้า เธอนึกว่าไม่นานเธอก็ออกไปแล้ว แต่นึกไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องทำนองนี้ขึ้นมาได้

ทำไงดี? เสี่ยวเหยียนกระวนกระวายใจ ทำได้เพียงลองตะโกนร้องขอความช่วยเหลือออกไปดู

“มีใครอยู่ด้านนอกหรือเปล่า? ตรงนี้ต้องการความช่วยเหลือ ช่วยด้วย”

เธอตะโกนเสียงดังอยู่หลายคำ ภายในห้องน้ำนั้นว่างเปล่าไร้ผู้คน ถึงขนาดที่ยังมีเสียงก้องกลับมาอยู่นิดหน่อย แต่นอกจากนี้แล้วก็ไม่ได้ยินเสียงอื่นอีกเลย ในใจของเสี่ยวเหยียนก็รู้สึกกลัวขึ้นมา ถอยกลับไปยืนพิงอยู่ในมุม

จากนั้นเธอก็เงยหน้าขึ้นสำรวจรอบๆ

ข้างบนนั้นว่างเปล่า ถ้าออกไปไม่ได้จริงๆล่ะก็ เธอสามารถลองคิดที่จะออกไปจากทางด้านบนแทน

แต่ผนังลื่นทั้งนั้นเลย ไม่มีสิ่งไหนที่สามารถช่วยได้เลย และถึงแม้ว่าจะขึ้นไปแล้ว แล้วเธอจะลงมายังไงอีก? ถ้าเป็นเมื่อก่อน จะล้มก็ให้มันล้มไป เบาสุดก็แค่เจ็บตัวนิดๆหน่อยๆ หนักสุดก็แข้งขาหักล่ะมั้ง ขอเพียงแค่สามารถออกไปได้จะล้มลงไปก็ช่าง

แต่ตอนนี้เธอท้องอยู่ ถ้าตกลงไปแล้วเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นมาล่ะ?

ไม่ได้ เสี่ยวเหยียนไม่กล้าลองวิธีนี้ไปง่ายๆเด็ดขาด

แค่นอกจากนี้แล้ว เธอเหมือนจะไม่มีวิธีอื่นเลยจริงๆ เสี่ยวเหยียนก็เลยทำได้เพียงลองตะโกนร้องขอความช่วยเหลือออกไปไม่หยุด

หลังจากที่สวี่เย็นหวั่นมาถึงห้องน้ำ ก็ชนเข้ากับพนักงานคนที่ถือเสื้อคลุมของเสี่ยวเหยียนพอดี เธอรั้งหล่อนเอาไว้ด้วยความดุดัน “เธอล่ะ?”

พนักงานถูกท่าทางนั้นของเธอทำเอากลัวขึ้นมา ผ่านไปนานก็ไม่อาจเรียกสติกลับคืนมาได้ สวี่เย็นหวั่นก็ได้ถามออกไปอย่างดุดันอีกครั้ง “ฉันถามเธอว่าเธอล่ะ?”

พนักงานกลัวจนหัวหด “อยู่ อยู่ในห้องน้ำ”

“เธอทำอะไรเธอ?” สวี่เย็นหวั่นพอนึกถึงวิธีที่นองเลือดน่ากลัวนั้นที่เห้อเหลียนจิ่งพูดกับเธอเมื่อกี้นี้ ตอนนี้เธอจึงรู้สึกอยากอ้วกออกมา ไม่กล้าจะจินตนาการเลยจริงๆ

“ฉัน ฉัน…”

พนักงานอ้ำๆอึ้งๆจนแทบจะพูดไม่ออก สวี่เย็นหวั่นขี้เกียจจะไปสนใจเธออีก เดินตรงเข้าไปยังห้องน้ำ

พอเดินเข้ามาใกล้ สวี่เย็นหวั่นก็ได้ยินเสียงของเสี่ยวเหยียน

“มีใครอยู่ด้านนอกมั้ย? ประตูฉันเหมือนจะถูกล็อกเอาไว้ ช่วยฉันหน่อย”

สวี่เย็นหวั่นชะงักฝีเท้าไปเล็กน้อย ฟังจากเสียงนี้เหมือนจะยังดีๆอยู่ งั้นเรื่องพวกนั้นที่เห้อเหลียนจิ่งพูดออกมาล่ะ?

ไม่ทันได้คิดอะไรมากมาย สวี่เย็นหวั่นรีบเดินเข้าไปช่วยเธอเปิดประตู ด้านนอกเปิดประตูอันที่จริงแล้วมันง่ายมาก แต่ถ้าเป็นด้านในก็ทำอะไรไม่ได้หรอก ถ้าไม่มีคนจากด้านนอกช่วย ก็ทำได้เพียงแค่ติดอยู่ด้านในไปตลอด

ปัง!

หลังจากที่ประตูเปิดออก เสี่ยวเหยียนก็เจอเข้ากับใบหน้าร้อนใจของสวี่เย็นหวั่นก่อนเป็นอันดับแรก

“เธอไม่เป็นไรใช่มั้ย?”

สวี่เย็นหวั่นหายใจแรงขึ้นมาเล็กน้อย อีกทั้งหลังจากที่ถามเสร็จสายตาก็มองสำรวจไปบนร่างและบนหน้าของเสี่ยวเหยียน เหมือนกับกลัวว่าเธอจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นก็ไม่ปาน

“ฉันไม่เป็นไร” เสี่ยวเหยียนกลับมายืนให้ดีๆอีกครั้ง มองเธอไปด้วยความสงสัย “ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้?”

พอถูกถามมาอย่างนั้น สวี่เย็นหวั่นก็รู้ตัวว่าเธอรีบมาไปหน่อย เหมือนจะเปิดโปงตัวเองเข้าแล้ว เธอเขวไปเล็กน้อยกว่าจะเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้มว่า “ฉันเห็นเธอมาห้องน้ำนานแล้วไม่กลับไปสักที นึกว่าเธอจะโกรธก็เลยอยากจะเดินมาดูสักหน่อย นึกไม่ถึงว่าพอมาถึงแล้วจะได้ยินเธอตะโกนร้องขอความช่วยเหลือเข้า หลังจากนั้นฉันถึงได้พบว่าประตูถูกล็อกเอาไว้”

สำหรับคำอธิบายนี้ของเธอ เสี่ยวเหยียนไม่ได้พูดอะไรออกมา เพียงแค่เดินออกไปด้านนอก จากนั้นก็มองสำรวจประตูบานนั้น “ก็ดีๆอยู่นี่ ทำไมถึงได้ล็อกกันล่ะ?”

สวี่เย็นหวั่นสูดหายใจเข้าลึกๆ เอ่ยพูดอธิบายออกไปอย่างอิดออด “ก็คงเป็นเพราะพนักงานไม่ระวังล่ะมั้ง”

ภายในห้องน้ำแห่งนี้ก็ตกอยู่ในความเงียบอยู่สักพัก เสี่ยวเหยียนก็หยิบเอากระเป๋าของตัวเองขึ้นมา แล้วมองมาทางสวี่เย็นหวั่น

“ขอบคุณนะ ถ้าไม่เพราะเธอไม่สบายใจจนวิ่งมาดูฉัน ฉันไม่รู้จะต้องถูกขังอยู่ที่นี่นานแค่ไหน”

“คงไม่หรอก ตอนฉันมาก็เจอกับพนักงาน ในมือเธอก็ถือเสื้อคลุมเธออยู่ รอให้เธอเป่าลมให้แห้งแล้วกลับมาถ้าพบว่าเธอถูกขังเอาไว้ จะต้องช่วยเธอแน่”

“ไม่ว่าจะพูดยังไง ก็ขอบคุณนะ ตอนนี้ก็สายมากแล้ว ฉันต้องกลับแล้วจริงๆ ที่ร้านก็คงยังมีงานต้องทำ ถ้าเธอว่างเมื่อไหร่ ก็มากินสักมื้อเถอะ ฉันเลี้ยงเธอเอง”

สวี่เย็นหวั่นไม่เจอกับการเชิญชวนอะไรทำนองนี้มานานแล้ว มองเสี่ยวเหยียนไปอย่างเลื่อนลอยอยู่สักพัก กว่าจะเผยรอยยิ้มออกมาอีกครั้ง “ได้เลย คำไหนคำนั้น”

“อืม”

เสี่ยวเหยียนออกจากห้องน้ำ ไม่ได้ไปหาพนักงานเพื่อเอาเสื้อคลุมกลับ แต่ได้เดินไปทางประตูใหญ่ จนกระทั่งยืนอยู่ใต้แสงแดด เธอถึงรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นขึ้นมาได้ในที่สุด

ขากำลังสั่น เสี่ยวเหยียนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเตรียมที่จะโทรออกไป แต่นิ้วมือกดปลดล็อกไม่ได้สักที ถึงขนาดที่แม้แต่โทรศัพท์เองก็ยังถือเอาไว้ไม่มั่นคงเลย

ก่อนหน้านี้อยู่ในห้องน้ำ เธอแสร้งทำเป็นพูดกับสวี่เย็นหวั่นไปอย่างสงบนิ่ง แต่ความจริงแล้วเธอได้เอาเรื่องที่เกิดขึ้นมาคิดให้ชัดเจนแล้ว

ประตูห้องน้ำ ล็อกง่ายขนาดนั้นที่ไหนกัน? พนักงานจะไม่ระวังได้ยังไงกัน? ความเป็นไปได้เดียวนั่นก็คือมีคนต้องการปองร้ายเธอ ส่วนคนที่ปองร้ายเธอนั้น

เสี่ยวเหยียนหลับตาลง ไม่ใช่ว่าเธอจะปรักปรำใคร เพียงแต่นอกจากสวี่เย็นหวั่นแล้ว ตอนนี้เธอก็นึกถึงใครไม่ออกเลย

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ ถูกบังคับเป็นตัวแทนของงานแต่งงานนี้ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่พิการแต่กลับมีอำนาจใหญ่ “ฉันเย่โม่เซินไม่เอาผู้หญิงที่ท้องและไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใครเด็ดขาด”เดิมทีคิดว่างานแต่งงานนี้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอกลับเผลอใจ ไปไปมามา สุดท้ายเธอก็จากไปด้วยความเสียใจผ่านไปหลายปี ลูกชายที่หน้าตาคล้ายกับเขามากตบหัวของเย่โม่เซินด้วยฝ่ามือเล็กๆ“พ่อคนร้าย นายว่าใครเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเป็นใคร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset