เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ – ตอนที่ 1452 ลูกก็ต้องการเธอ

บทที่1452 ลูกก็ต้องการเธอ

หลังจากนั้นตอนที่เขาเห็นว่าสวี่เย็นหวั่นพูดว่ามีคนที่ชอบอยู่แล้ว สีหน้าที่เธอแสดงออกมาเป็นสีหน้าที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนเลย

มันไม่ใช่การตกหลุมรักอย่างสุดซึ้ง แต่ว่ามันเป็นการเฝ้าปรารถนาถึงสิ่งมหัศจรรย์

นี่เป็นครั้งแรกที่เห้อเหลียนจิ่งเห็นสีหน้าแบบนี้บนใบหน้าของผู้หญิงที่อยู่รอบตัวเขา ตอนที่เธอพูดถึงผู้ชายคนนั้นขึ้นมาสายตาของเธอมีแต่ความปรารถนา ไม่มีอะไรผสมปนเปเลย มีแต่ความชอบคนคนนั้นอย่างบริสุทธิ์ใจ

ถ้าบอกว่าก่อนหน้านี้เห้อเหลียนจิ่งเป็นคนที่ถ้าต้องการอะไรแล้วไม่ได้ก็จะทิ้งระเบิด แต่ว่าหลังจากนั้นสิ่งที่เขาแสดงหาก็คือความจริงใจ เพราะว่าเขาอยากจะเป็นผู้ชายคนนั้นที่สวี่เย็นหวั่นปรารถนา

พ่อกับแม่ของเขา ตลอดชีวิตนี้ไม่มีวันรู้ว่าความสัมพันธ์นั้นรสชาติมันเป็นยังไง คนรอบข้างที่เขาเคยเจอก็เอาแต่ผลประโยชน์เป็นหลักเท่านั้น เพราะฉะนั้นเขาจับสวี่เย็นหวั่นให้ได้อย่างถึงที่สุด

ไม่ว่าจะต้องแลกมาด้วยอะไร แต่เขานึกไม่ถึงเลยว่า สุดท้ายเขาก็ทำผิดไป

สุดท้ายสวี่เย็นหวั่น ก็เริ่มรังเกียจเขาลึกขึ้นๆ

และเสี่ยวเหยียนในอีกด้านหนึ่งนั้น ตั้งแต่เธอฟื้นขึ้นมาจิตวิญญาณของเธอก็ผิดปกติเล็กน้อย เธอหลับลึกมากทั้งวัน แต่ว่าในตอนที่หลับลึกอยู่นั้นก็เอาแต่บ่นอุบอิบ เอาแต่บอกให้หานชิงหนีไป ไม่อยากให้เกิดเรื่องขึ้นกับเขา

หานชิงพาเธอกลับบ้านมาสองวันแล้ว แต่ว่าสถานการณ์ของเธอยังไม่ดีขึ้นเลย เพราะว่าหลัวหุ้ยเหม่ยกับพ่อจางเป็นห่วงเธอ หานชิงก็เลยจัดแจงให้พวกเขามาอยู่ที่นี่ และในระหว่างนี้หานมู่จื่อก็มาเยี่ยมเหมือนกัน ทุกครั้งที่อยากจะพูดกับเสี่ยวเหยียน เธอก็จะเริ่มพูดมั่วซั่ว ไม่ก็หลับไป

ในสถานการณ์แบบนี้ เหมือนกับเธอกำลังสะกดจิตสมองของตัวเอง แล้วสมองของตัวเธอก็บังคับให้เธอเข้าสู่อาการฝันร้าย

สถานการณ์แบบนี้ ถึงแม้ว่าตอนเริ่มต้นจะไม่ได้ดูมีอะไรเปลี่ยนแปลงนัก แต่ในระยะยาว หากอารมณ์ของเธอไม่ได้รับการปรับหรือผ่อนคลายลง สุขภาพจิตของเธอจะมีปัญหาในไม่ช้า

ถ้าเกิดว่าสุขภาพจิตมีปัญหาเมื่อไหร่ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งแล้ว

หานมู่จื่อคิดแล้วคิดอีกก็รู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ร้ายแรงมาก จะปล่อยไว้แบบนี้ต่อไปไม่ได้ เธออยากจะแนะนำพี่ชายของเธอให้พาเสี่ยวเหยียนไปโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษา แต่ว่าพอเห็นหานชิงใต้ตาดำเพราะอดหลับอดนอนดูแลเสี่ยวเหยียน สุดทัายเธอก็เลยกลืนคำพูดกลับลงคอไป

เขาเป็นคนพาเสี่ยวเหยียนออกมา ถ้าเธอไปเกลี้ยกล่อมให้เขาพากลับไปอีก เขาต้องไม่ยอมตกลงแน่ๆ

แต่ในฐานะที่เคยเป็นพี่สาวของสาวที่ดีกับเสี่ยวเหยียนมาตั้งแต่สมัยก่อน ส่วนตอนนี้เป็นน้องสะใภ้ แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะเห็นเสี่ยวเหยียนมีสภาพจิตใจที่ไม่ปกติแบบนี้ต่อไป

ดังนั้นเธอก็เลยไปหาหานชิง แล้วก็พูดคุยเรื่องนี้กับเขาอย่างจริงจัง

“ปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้วนะ มันผ่านมานานแล้ว ฉันกลัวว่าจะเกิดปัญหาอะไรขึ้นกับเธอ”

หานชิงมองเธอด้วยสายตาที่เหนื่อยล้า เขาดูหมดหนทางเป็นอย่างมาก “เธอนึกว่าพี่ไม่กลัวเหรอ? ”

เขากลัว กลัวกว่าใครทั้งนั้น เขาไม่ได้ปกป้องเธอให้ดีในงานแต่งงาน ถึงแม้ว่าหลังจากนั้นจะช่วยเธอออกมาได้ แต่ว่าการที่เสี่ยวเหยียนเป็นแบบนี้ยิ่งทำให้เขากังวลจนนอนไม่ได้เลย เอาแต่เฝ้าเธออยู่แบบนั้นทั้งวันทั้งคืน

ตอนที่หานมู่จื่อเห็นว่าหานชิงเป็นแบบนี้นั้น ก็รู้สึกอึดอัดใจมาก คิดอยู่สักพักแล้วพูดว่า “พี่ ถ้าเกิดว่าพี่พูดจูงใจเธอ หรือกล่อมเธอแล้วยังไม่ได้ผล ถ้ายังงั้นฉันแนะนำให้พี่ใช้ยาที่มีความแรงหน่อย”

“ยาที่มีความแรงงั้นเหรอ? ”

“อืม” หานมู่จื่อพยักหน้า “พี่ไม่เคยเป็นแม่คน ดังนั้นพี่ก็จะไม่รู้ความรู้สึกของการเป็นแม่หรอก ตอนนี้เสี่ยวเหยียนท้อง สำหรับเธอแล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดนอกจากพี่แล้วก็คือลูก ถ้าเกิดว่าเธอยังเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ เด็กที่รอดมาได้อย่างยากลำบากนั้นก็อาจจะมีปัญหาได้ คำพูดพวกนี้พี่ลองเตือนเสี่ยวเหยียนหน่อย ให้เธอใจเย็นลงบ้าง”

พอได้ยินดังนั้น หานชิงก็ขมวดคิ้วเข้าหากัน เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นกังวลถึงผลที่ตามมาถึงข้อเสนอนี้

“พี่ พี่ต้องคิดแบบนี้นะ ถ้าเกิดว่าปล่อยให้เธอเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ คนที่ได้รับบาดเจ็บสุดท้ายก็คือเธออยู่ดี ตอนที่พี่พูดก็แค่ต้องระวังหน่อยก็พอแล้ว แล้วอีกอย่างฉันไม่คิดว่าหลังจากที่เธอได้ยินเรื่องนี้แล้ว จะไม่สนใจความปลอดภัยของลูกหรอกนะ”

พูดแบบนี้แล้ว ก็ดูราบรื่นดี

หานชิงรับปาก “โอเค พี่จะหาโอกาสลองคุยกับเธอดู”

หานมู่จื่อจากไปอย่างรวดเร็ว

ถึงแม้ว่าหลัวหุ้ยเหม่ยกับพ่อจางจะอยู่ที่คฤหาสน์นี้ แต่เรื่องชีวิตประจำวันของเสี่ยวเหยียนจะเป็นหานชิงที่เป็นคนดูแลมาตลอด ช่วยล้างหน้าให้เธอ แปรงฟันให้เธอ อาบน้ำล้างหน้า

อาการของเสี่ยวเหยียนไม่ได้แย่ขนาดนั้น เธอฝันร้ายบ่อยๆ แต่ว่าก็มีบางทีที่เป็นปกติเหมือนกัน บางทีเธอก็สามารถแปรงฟันเองได้ แต่ว่าบางทีก็เริ่มเข้าสู่โหมดการสะกดจิตตัวเอง ติดอยู่ในกองไฟและไม่สามารถออกไปได้

ตามที่หมอพูด คือเธอตกใจมากเกินไป ก็เลยไม่สามารถเดินออกมาได้

แต่ว่าเสี่ยวเหยียนในคืนนี้เชื่อฟังเป็นอย่างมาก ตอนที่หานชิงให้เธอกินข้าวนั้น เธอก็เงียบ ไม่ทำเสียงดัง เธอไปนั่งที่โต๊ะด้วยตัวเอง แล้วก็รอให้หานชิงเอาข้าวมาเสิร์ฟให้

หานชิงหยิบชามแล้วยื่นให้เธอ เห็นท่าทางที่เธอยื่นมือมารับไป หลังจากนั้นก็หยิบตะเกียบ ในใจเขาก็รู้สึกจนปัญญาอย่างมาก แต่ว่าในขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกว่าเสี่ยวเหยียนเชื่อฟังผิดปกติ ดังนั้นก็เลยยื่นมือไปลูบหัวของเธอ แล้วก็พูดเบาๆ ว่า “เย็นนี้ทำแต่อาหารที่เธอชอบกิน เธอลองชิมดูว่าชอบรสชาติไหม? ”

เสี่ยวเหยียนกินข้าวเข้าไปคำหนึ่งอย่างเชื่อฟัง หลังจากนั้นก็พยักหน้า “ชอบ”

“ชอบก็ดีแล้ว” หานชิงยิ้มจางๆ “เธอต้องกินเยอะๆ กินอิ่มแล้วก็ไปดูทีวี หลังจากนั้นก็ไปอาบน้ำ”

แต่ว่าในใจของหานชิงกลับรู้สึกอันแน่น เพราะว่าเขากำลังคิดอยู่ว่าจะพูดในสิ่งที่มู่จื่อแนะนำเมื่อตอนกลางวันยังไงดี ไม่พูดไม่ได้ว่าความคิดของมู่จื่อนั้นถูกต้อง บางทีก็อาจจะลองดูก็ได้

ตอนที่คิดเกี่ยวกับสิ่งนี้ หานชิงก็คีบอาหารให้จานของเธอ แล้วก็ลองพูดดูว่า “ตอนนี้อาการของเธอค่อนข้างพิเศษ ดังนั้นก็เลยต้องกินอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการมากขึ้น อย่าเอาแต่กินข้าวเปล่า”

พอได้ยินว่าอาการของพิเศษนั้น การเคลื่อนไหวของเสี่ยวเหยียนก็หยุดลงอย่างเห็นได้ชัด หลังจากนั้นเธอก็ไม่ได้พูดอะไร เอาแต่กินข้าวเงียบๆ

พอเห็นว่าเธอไม่ได้ตอบสนองอย่างก้าวร้าว หานชิงก็ลองพูดอย่างระมัดระวัง “ถ้าเกิดว่าไม่บำรุงร่างกายให้ดี มันจะไม่ดีต่อการเจริญเติบโตของลูกน้อยนะ”

พอได้ยินดังนั้น มือของเสี่ยวเหยียนก็หยุดทันที เธอมองดูเหตุการณ์ตรงหน้า มีบางสิ่งบางอย่างปรากฏขึ้นมาในหัวของเธอ ภาพตรงหน้าเริ่มพร่ามือและสั่นไหว

พอสังเกตได้ว่ามีอะไรไม่พูดต้อง หานชิงก็หรี่ตาลง กลัวว่าเธอจะเสียการควบคุมอารมณ์ ก็เลยจับข้อมือของเธอไว้ “ไม่ต้องไปคิดเรื่องนั้นอีกแล้ว ตอนนี้พวกเราออกมาจากกองไฟได้แล้ว เธอไม่ได้เป็นอะไร ฉันก็ไม่ได้เป็นอะไร ลูกก็ปลอดภัย”

“ปล่อย ปล่อยฉัน”

เสียงที่เสี่ยวเหยียนพูดเริ่มสั่นเครือ ถูกหานชิงจับมือที่ถือตะเกียบไว้ ตอนนี้ตะเกียบหล่นไปหมดแล้ว อีกมือหนึ่งยังถือชามข้าวอยู่ แต่เห็นได้ชัดว่ามันก็ไม่ปลอดภัยเช่นกัน

หานชิงว่าในสายตาของเธอมีแต่คำว่าหลบนี่ เขาไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไม ทำได้แค่ใช้ยาแรงกับเธอ

“ฉันเข้าใจที่เธอตกใจมากเกินไป แต่ว่าตอนนี้พวกเราออกมาได้แล้ว แต่ว่าเธอกลับเอาแต่ฝันร้ายตลอดวัน แล้วเธอจะให้ฉันทำยังไง? ลูกในท้องของเธอจะทำยังไง? เธอไม่ต้องการฉันกับลูกแล้วเหรอ? ”

ปัง!

พอเสี่ยวเหยียนได้ยินดังนี้ ชามข้าวในมือของเธอก็ร่วงลงพื้นด้วยความตกใจ และแตกเป็นเสี่ยงๆ

เธอเงยหน้าขึ้นมา มองไปที่หานชิงด้วยสายตาที่ตื่นตระหนก

“ฉันต้องการเธอ ลูกก็ต้องการเธอ เพราะฉะนั้นอย่าเป็นแบบนี้อีกเลยโอเคไหม? ” หานชิงจับข้อมือของเธอไว้แน่น ไม่ปล่อยให้เธอหนีไป

และภาพที่สั่นไหวตรงหน้าของเสี่ยวเหยียนก็เปลี่ยนไปกลายเป็นสถานการณ์ในกองไฟนั้น ค่อยๆ ชัดเจนขึ้นเรื่อง หลังจากนั้นก็เปลี่ยนไปกลายเป็นใบหน้าของหานชิง

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ ถูกบังคับเป็นตัวแทนของงานแต่งงานนี้ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่พิการแต่กลับมีอำนาจใหญ่ “ฉันเย่โม่เซินไม่เอาผู้หญิงที่ท้องและไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใครเด็ดขาด”เดิมทีคิดว่างานแต่งงานนี้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอกลับเผลอใจ ไปไปมามา สุดท้ายเธอก็จากไปด้วยความเสียใจผ่านไปหลายปี ลูกชายที่หน้าตาคล้ายกับเขามากตบหัวของเย่โม่เซินด้วยฝ่ามือเล็กๆ“พ่อคนร้าย นายว่าใครเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเป็นใคร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset