เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ – ตอนที่ 1490 อย่าฝืน

บทที่1490 อย่าฝืน

คำพูดนั้นออกมาจากปากของเซียวซู่ อยู่ในห้องที่เงียบสงบ ทำให้คนฟังแล้วหน้าแดงใจเต้น

ทันใดนั้นหน้าของเจียงเสี่ยวไป๋แดงก่ำจะแย่ เธอผลักเขา“ฉันรู้ค่ะ แต่คุณไม่สบายไม่ใช่เหรอคะ?”

“คุณป้อนผมดื่มแกงสร่างเมาแล้วไม่ใช่เหรอครับ?”

“ใช่ แต่ยังไม่นานเท่าไหร่เลยไม่ใช่เหรอคะ?”

“ผมสร่างเมาแล้ว”

“โกหก เป็นไปได้ยังไง?”เจียงเสี่ยวไป๋พูดแทรกเขาด้วยความโกรธ พูดอย่างจริงใจและให้คำแนะนำ พูดจาน้ำเสียงเหมือนคนเป็นแม่:“ถึงแม้วันนี้เป็นวันพิเศษ แต่ยังไงซะก็เป็นสถานการณ์พิเศษ คุณอย่าฝืน”

พอพูดจบ เจียงเสี่ยวไป๋ยังลุกขึ้นห่มผ้าให้เซียวซู่ และตบแก้มของเขา“นอนดีๆ”

“อ๊า!”

เพิ่งพูดจบ คนที่อยู่ตรงหน้าก็พลิกตัวนั่งลงมาอย่างกะทันหัน จากนั้นได้อุ้มเธอขึ้นมา เจียงเสี่ยวไป๋คาดไม่ถึง ตกใจจนมีปฏิกิริยากอดคอของเซียวซู่ไว้

เธอห้อยโหนอยู่กลางอากาศทั้งคน ถูกเซียวซู่อุ้มไปที่ทิศทางของห้องน้ำ

“งั้นก็ให้คุณดูดีๆ ว่าผมกำลังฝืนอยู่หรือเปล่า”

……

อืม เจียงเสี่ยวไป๋ยังไงก็คิดไม่ถึง วินาทีก่อนเซียวซู่ที่ยังเหมือนปลาตายตัวหนึ่งจู่ๆจะกลายเป็นคนที่แข็งแรงมีชีวิตชีวา อาจจะเพราะน้ำแกงสร่างเมาของเธอได้ผลดีเกินไป หรืออาจจะคำพูดที่เธอพูดคำนั้นสะกิดโดนศักดิ์ศรีของผู้ชาย

สรุปก็คือ ค่าตอบแทนที่เจียงเสี่ยวไป๋ต้องจ่ายเยอะจริงๆ

พอหลังเที่ยงคืน เซียวซู่ถึงปล่อยเธอ เธอเหนื่อยจนนอนลงไปก็หลับเลย อะไรก็ไม่สนแล้ว

แต่อยู่ในความฝัน รู้สึกได้รางๆว่ามีคนเอาผ้าขนหนูอุ่นๆช่วยเธอเช็ดร่างกาย ท่าทางนิ่มนวลอ่อนโยนสุดๆ อีกทั้งอุณหภูมิของผ้าขนหนูก็กำลังดี เจียงเสี่ยวไป๋ก็เลยหลับยิ่งลึกเลย

พอเธอตื่นขึ้นมาอีกที ก็ตอนบ่ายก็วันที่สองแล้ว

เธอเหนื่อยไม่อยากกระดิกแม้แต่นิ้วที่น่ากลัวคือท้องยังหิวด้วย ตอนที่นอนอยู่บนเตียงท้องร้องโครกคราก มีความรู้สึกหิวจนหน้ามืดตาลายจริงๆ

แต่เธอนอกจากหิวแล้ว ก็ยังเหนื่อยมากด้วย เพราะฉะนั้นเจียงเสี่ยวไป๋เลยนอนอยู่ที่นั่นตลอด หรี่ตาครึ่งหนึ่ง

จนกว่าเซียวซู่ผลักประตูเข้ามา ได้ยินเสียงท้องร้องของเธอ

“คุณตื่นแล้วเหรอ? หิวแล้วใช่มั้ย?”

เห็นเซียวซู่ สายตาของเจียงเสี่ยวไป๋เปลี่ยนไปทันที จ้องเขาเหมือนกับศัตรู

ต้องโทษสารเลวคนนี้คนเดียว ถ้าไม่ใช่เขา ตัวเองก็ไม่ถึงขั้นลุกไม่ไหวหรอก

คิดถึงตรงนี้ เจียงเสี่ยวไป๋ไม่คิดจะเหลียวมองเขาเลย เธอหลับตาไว้ไม่สนใจเขา

“ผมต้มโจ๊กไว้ กินหน่อยมั้ย?”

เจียงเสี่ยวไป๋ได้ยินแล้วลืมตาขึ้นมาใหม่ จากนั้นได้ส่งเสียงฮื้อทีนึง“คุณป้อนฉันถึงจะกิน!”

เซียวซู่ก็เลยหันหลังออกไปอีก อาศัยช่วงเวลาที่เขาออกไป เจียงเสี่ยวไป๋ได้หลับตาพักผ่อนสายตา จนกว่าเธอได้กลิ่นหอมของอาหาร

เธอลืมตาขึ้น มองดูเซียวซู่เดินมาใกล้ตัวเอง

จากนั้นเซียวซู่ได้พยุงเธอขึ้นมา และเริ่มป้อนโจ๊กให้เธอ หลังจากเจียงเสี่ยวไป๋กินไปครึ่งถ้วยถึงฟื้นฟูพลังชีวิตขึ้นมาบ้าง เธอก็พูดมากขึ้นมาอีก

“ฉันตื่นสายเกินไปใช่มั้ยคะ พ่อแม่จะโทษฉันหรือเปล่าคะ?”

เซียวซู่ฟังแล้วเม้มปาก พูดพร้อมหูแดงก่ำ:“น่าจะไม่ เพราะเป็นสถานการณ์พิเศษ”

เจียงเสี่ยวไป๋อดยื่นมือไปหยิกแขนของเซียวซู่ไม่ได้“โทษคุณคนเดียว คุณไม่ใช่เพิ่งจะกินอาหารคาวเป็นครั้งแรกสักหน่อย ทำไมทำเหมือนไม่ได้กินเนื้อเป็นปีเลย?”

“ฮึ่ม……”เซียวซู่ยื่นมือบังริมฝีปากตัวเองไว้และกระแอมทีนึง ก็ไม่ใช่เพราะเห็นเธอใส่ชุดแต่งงาน ตอนนั้นเซียวซู่ก็เลยควบคุมไม่ได้ และอดทนไว้อย่างลำบากตลอดเหรอ

“กินอีกหน่อย”

“อืม”

เจียงเสี่ยวไป๋กินโจ๊กไปถ้วยหนึ่ง แล้วยังรู้สึกหิวอีก ดังนั้นก่อนที่เซียวซู่จะไปตัก เธอได้ดึงมือของเขามาที่ปากและกัดอย่างแรง

เธอจงใจใช้แรง มีใจอยากโจมตีกลับที่เมื่อคืนถูกเขารังแก

ใครจะไปรู้วินาทีต่อมา เซียวซู่เอาถ้วยวางไว้บนเก้าอี้ที่อยู่ข้างๆ และกระโจนเธอล้มลงไปที่เตียง

“อ๊าๆ คุณทำอะไร เกิดบ้าอะไรขึ้นมา?”

เซียวซู่จ้องเธอไว้อย่างเคร่งขรึม“คุณกำลังยั่วสวาทผม”

เจียงเสี่ยวไป๋:“ฉันยั่วที่ไหน?”

เธอสาบาน เธอแค่อยากแก้แค้นเซียวซู่จริงๆ กัดเขาทีนึง แต่ก็กลัวเขาได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นจึงได้กัดให้เขาเจ็บ ไม่ได้กัดให้มือของเขามีเลือดออก นี่ก็ถือว่าเป็นการยั่วสวาทเหรอ?

“ยั่ว”เซียวซู่จ้องดวงตาเธออย่างจริงจัง“นี่ก็นับด้วย เพราะฉะนั้นต่อไปดีที่สุดอย่าแหย่ผม เพราะยังไงซะตอนนี้เราก็เป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว”

เจียงเสี่ยวไป๋พูดด้วยความโกรธเคือง“ฉันเหนื่อยจนจะแย่อยู่แล้ว งั้นคุณก็ทำฉันเหนื่อยตายไปเลยก็แล้วกัน!”

พูดน่ะพูดแบบนี้ แต่พอเห็นเธอเหนื่อยจนไม่อยากขยับแล้ว เซียวซู่ก็ยังสงสาร ก็เลยไม่ได้ทำต่อไป แต่ได้ดึงเธอลุกมานั่งอีกครั้ง และพูดเบาๆ:“ขู่คุณเฉยๆ กินอีกถ้วยมั้ย?”

“อืม!”

วันนี้เจียงเสี่ยวไป๋ทำลายสถิติกินโจ๊กไปสามถ้วย จากนั้นยังอยากกินอีก เซียวซู่กลับไม่เห็นด้วยแล้ว กลัวเธอกินทีเดียวเยอะๆจะทำให้ท้องอืด ดังนั้นยังไงก็ไม่เห็นด้วย

เจียงเสี่ยวไป๋เลยโกรธจนไม่อยากสนใจเขาแล้ว

ที่ยิ่งแย่กว่าคือ เซียวซู่ไม่ให้เธอกินโจ๊กต่อก็แล้วไป ไม่นึกเลยว่ายังรู้สึกว่าเธอกินเยอะเกิน เรียกร้องให้เธอลุกขึ้นมาเดินย่อยหน่อย

เหอะๆๆ เจียงเสี่ยวไป๋อยากเหอะๆใส่หน้าเขาจริงๆ ตัวเองถูกเขาทรมานจนเป็นสภาพไหนตัวเองไม่รู้หรือไง? ตอนนี้ให้เธอออกไปเดินย่อย? งั้นก็ต้องให้ขาทั้งสองข้างของเธอเชื่อฟังสิ?

“ฉันไม่เดิน”เจียงเสี่ยวไป๋หันหน้าไป“ฉันยังกินไม่อิ่ม ไม่มีแรงเดิน”

เซียวซู่ขมวดคิ้วเล็กน้อย:“เสี่ยวไป๋ อย่าก่อกวน วันนี้คุณกินเยอะเกินไปแล้ว”

“ฉันกินเยอะที่ไหน? ก็ฉันหิวหนิ อีกอย่างแค่โจ๊กสามถ้วยเอง เดี๋ยวก็ย่อยแล้ว”

พอพูดจบ เจียงเสี่ยวไป๋ได้ยักคิ้ว เหมือนคิดอะไรได้ เธอยื่นมือไปให้เซียวซู่ “จะให้ฉันออกไปอ่ะได้ แต่ขาของฉันเดินไม่ได้ คุณแบกฉันสิ?”

“แบก?”

“ก็ใช่น่ะสิคะ”เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้าและยิ้มอ่อนๆ: “ไหนคุณบอกว่าให้ฉันไปเดินย่อยหน่อยไม่ใช่เหรอคะ? แต่ฉันเดินไม่ได้ ดังนั้นคุณแบกฉัน มันก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอ?”

เซียวซู่:“ผมแบกคุณย่อยอาหารเนี่ยนะ?”

เซียวซู่เพิ่งจะได้ยินคำพูดที่บ้าบอคอแตกขนาดนี้เป็นครั้งแรก เขาแบกเสี่ยวไป๋ไว้ คนที่ใช้แรงคือเขา ส่วนเจียงเสี่ยวไป๋ก็คือจากที่ๆขยับไม่ได้ย้ายไปบนตัวของคนที่เดินได้

พูดตรงๆหน่อยก็คือเปลี่ยนที่นอนต่อ

เซียวซู่รู้ ยัยเด็กคนนี้กำลังโกรธเขาเรื่องเมื่อคืน ดังนั้นก็เลยจะขัดเขาทุกอย่าง เพื่อทรมานเขา

“คุณไม่เห็นด้วยใช่มั้ย? หนังสือรับประกันของเมื่อคืน? นี่ฉันแค่เสนอข้อเรียกร้องออกมาเล็กๆข้อหนึ่งเองนะ คุณถึงกับต้องคิดนานขนาดนี้เลย?” เจียงเสี่ยวไป๋ยักคิ้ว และเอาพลังทรงอำนาจออกมา

เซียวซู่หันหลังอย่างยอมจำนนต่อชีวิต เอาแผ่นหลังให้เธอ

“ขึ้นมาเถอะ ผมพาคุณไปเดินเล่นที่ใต้ตึกรอบหนึ่ง”

เห็นแผ่นหลังกว้างใหญ่ของเขา เจียงเสี่ยวไป๋เผยสีหน้าดีใจออกมา คลานขึ้นไปอย่างไว แต่หลังจากคลานขึ้นไป เจียงเสี่ยวไป๋ก็ตระหนักได้ถึงเรื่องที่อึดอัดมาก ก็คือบนตัวเธอยังใส่เสื้อเชิ้ตของเซียวซู่อยู่เลย!

เจียงเสี่ยวไป๋ก็เลยถอยกลับไปทันที

“ไม่ไปแล้ว”

พอนึกถึงจะลงไปเดินเล่นใต้ตึกยังต้องเปลี่ยนเสื้อผ้า เจียงเสี่ยวไป๋ก็ยอมแพ้เองอีก

“เป็นอะไรไปครับ?”

“คุณดูฉันใส่แบบนี้ จะไปไหนได้คะ? ไม่ไปแล้ว ฉันจะนอน”

พอพูดจบ เจียงเสี่ยวไป๋นอนลงที่เตียง แล้วคลุมผ้าห่ม

แววตาของเซียวซู่มีความจนปัญญาลึกๆโผล่ขึ้นมา

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ ถูกบังคับเป็นตัวแทนของงานแต่งงานนี้ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่พิการแต่กลับมีอำนาจใหญ่ “ฉันเย่โม่เซินไม่เอาผู้หญิงที่ท้องและไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใครเด็ดขาด”เดิมทีคิดว่างานแต่งงานนี้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอกลับเผลอใจ ไปไปมามา สุดท้ายเธอก็จากไปด้วยความเสียใจผ่านไปหลายปี ลูกชายที่หน้าตาคล้ายกับเขามากตบหัวของเย่โม่เซินด้วยฝ่ามือเล็กๆ“พ่อคนร้าย นายว่าใครเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเป็นใคร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset