เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ – ตอนที่ 1559 ฉันต้องการเขาแค่คนเดียว

บทที่1559 ฉันต้องการเขาแค่คนเดียว

“รักสะอาด ?” เวินจิ่งหรัวหัวเราะอย่างมั่นใจ “นั่นสำหรับผู้ชายอย่างพวกนาย ฉันเป็นผู้หญิงนะ สำหรับยี่ซูแล้วไม่เหมือนกันหรอก”

พอพูดจบ เวินจิ่งหรัวก็ถึงกับหัวเราะออกมา แล้วพูดโปรยเสน่ห์ว่า “อีกไม่กี่วันก็ถึงงานเลี้ยงวันเกิดฉันแล้ว พวกนายก็มากับเขาด้วยสิ”

จงฉู่เฟิงรู้สึกรังเกียจท่าทางแบบนี้ของเวินจิ่งหรัวมาก ทั้งๆที่เป็นเด็กสาวมหาลัย แต่กลับแต่งตัวล่อแหลม เหมือนผู้หญิงที่ออกมาจากสโมสรบางแห่งอย่างไรอย่างนั้น ไม่รู้ว่าสมองเธอทำมาจากอะไร แถมยังเป็นคางคกที่หลงผิดคิดอยากจะกินเนื้อหงส์ ถึงขั้นคิดอยากให้พี่ซูไปเป็นแฟนหนุ่มของเธอ!

ไม่รู้จักดูเลยว่าตัวเองเป็นสินค้าประเภทไหน จงฉู่เฟิงหัวเราะสองที “งานเลี้ยงวันเกิดคุณเหรอ กลิ่นเครื่องสำอางแรงเกินไป ผมกลัวไปแล้วจมูกอักเสบ ช่างมันเสียเถอะ”

พอประโยคนี้เข้าหูเวินจิ่งหรัวก็ฟังออกทันทีว่ากำลังเยาะเย้ยตัวเองอยู่ สีหน้าเลยเปลี่ยนไปทันที

“จงฉู่เฟิง ฉันรู้ว่านายปากเก่ง แต่ว่าคนที่ฉันไล่ตามไม่ใช่นาย นายมีสิทธิ์อะไรมาพูดแบบนี้กับฉัน นายมีความเป็นสุภาพบุรุษอยู่บ้างไหม”

“มีแน่นอน” จงฉู่เฟิงเยาะเย้ยเธออย่างไม่เกรงใจ “เธอไม่รู้เหรอว่าฉันจงฉู่เฟิงขึ้นชื่อเรื่องความเป็นมิตร สำหรับอัตราส่วนของเด็กผู้หญิงในโรงเรียนนี้ ทุกคนต่างก็รู้ว่าฉันจงฉู่เฟิงคนนี้เป็นเหมือนเครื่องปรับอากาศส่วนกลาง ฉันดีกับทุกคน ทำไมถึงได้ไม่ดีกับเธออยู่คนเดียว ในใจเธอรู้บ้างไหม ?”

พอได้ยินแบบนั้น เวินจิ่งหรัวก็ยิ้มออกมา “เหรอ ? คงไม่ใช่เพราะคนที่ฉันจีบคือยี่ซู ดังนั้นนายก็เลยหึงหรอกใช่ไหม แต่ว่านะจงฉู่เฟิง ทำไมนายไม่ลองส่องกระจกชะโงกดูเงาตัวเองบ้างล่ะ สภาพแบบนี้ของนาย จะไปเข้าตาฉันได้ยังไง”

“นายน้อยจำเป็นต้องเข้าตาเธอด้วยเหรอ ถ้ามีวันไหนที่ฉันเข้าตาเธอ งั้นฉันคงต้องไปทำศัลยกรรมทันที เพราะฉันรู้สึกว่าการที่ถูกเธอชอบ มันเหมือนการโดนดูถูกยังไงล่ะ”

“นาย!”

ปัง!

ประตูของหอพักถูกเปิดออก เงาของร่างสูงผอมเพรียวปรากฏขึ้นที่หน้าประตู

คำพูดหยุดลงทันที เวินจิ่งหรัวที่เดิมทีสีหน้าโกรธเกรี้ยว พอเห็นยู่ฉือยี่ซูเข้า สีหน้าเธอก็เปลี่ยนไปในทันที “ยี่ซู นายกลับมาแล้วเหรอ อีกไม่กี่วันก็วันเกิดฉันแล้ว ฉันอยากชวนนายไปร่วมงานเลี้ยงวันเกิดฉัน”

“ลงมา” น้ำเสียงของยู่ฉือยี่ซูเย็นยะเยือก ดวงตาคู่หนึ่งจับจ้องเธอเหมือนหินเหล็กเย็นเฉียบสองก้อน บรรยากาศที่แผ่ออกมารอบตัวทำให้คนไร้ทางต่อต้าน

เวินจิ่งหรัวทำหน้าหนา “คือว่า ฉันก็แค่……”

เธอยังพูดไม่ทันจบ ยู่ฉือยี่ซูก็เดินมาทางเธอด้วยสีหน้าบึ้งตึง แล้วถึงผ้าห่มบนเตียงออกมาโยนใส่บนตัวของเวินจิ่งหรัว “ไสหัวออกไป”

น้ำเสียงอึมครึมของเขาแฝงไปด้วยความไม่พอใจ ราวกับกำลังสะกดกลั้นไฟโกรธของตัวเองไว้ หลังจากเธอดึงผ้าห่มออก ก็พูดอย่างโกรธเคืองว่า “ยู่ฉือยี่ซู ฉันมาชวนนายไปงานเลี้ยงวันเกิดด้วยความหวังดีนะ แล้วท่าทีแบบนี้ของนายมันอะไรกัน”

“ท่าทีอะไร ?” ยู่ฉือยี่ซูหัวเราะเสียงเย็นออกมา “เชิญไปงานเลี้ยงวันเกิดอะไรต้องมานั่งเชิญอยู่ตรงนี้ เข้ามาในหอพักแล้วนั่งอยู่บนเตียงคนอื่นได้รับอนุญาตจากฉันแล้วหรือยัง ? ฉันไม่เคยทำร้ายผู้หญิงมาก่อน ถ้ามีครั้งหน้าอีก ฉันก็ไม่รังเกียจที่จะทำลายกรณีที่สอง”

“นาย!” เวินจิ่งหรัวคิดไม่ถึงว่ายู่ฉือยี่ซูจะไม่ไว้หน้าเธอขนาดนี้ เลยยิ่งทำหน้าด้านหน้าทนแล้วนั่งอยู่ตรงนั้นไม่ยอมขยับเขยื้อน “ฉันไม่ไป ทั้งๆที่คนเขาก็แค่หวังดีจะมาชวนนายไปงานเลี้ยงวันเกิดแท้ๆ นายไม่ไปก็ไม่ไปสิ ทำไมต้องทำกับฉันแบบนี้ด้วย”

จงฉู่เฟิงที่อยู่ด้านข้างก็ทนดูต่อไปไม่ไหวแล้ว ถึงแม้ว่าเขาจะมีความคิดที่อยากจะเข้าไปถีบผู้หญิงคนนี้ให้กระเด็น แต่ว่าสุดท้ายก็ถูกความเป็นสุภาพบุรุษห้ามเอาไว้ เพียงแค่เข้าไปดึงผ้าปูที่นอนทั้งหมดมาคลุมบนตัวของเวินจิ่งหรัวไว้ แล้วแบกเธอขึ้นมาทั้งอย่างนั้น

“จงฉู่เฟิง นายมันไอ้คนบ้านายจะทำอะไร ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้”

“หุบปาก ถ้ายังไม่อยากให้ฉันโยนเธอลงไปชั้นล่างละก็”

ในชื่อของจงฉู่เฟิงคนนี้มีคำว่า” เฟิง”อยู่ ซึ่งพ้องเสียงกับคำว่าคนบ้า ท่าทางของเขาก็เหมือนกันกับชื่อเขา บ้าจนน่ากลัว

ถ้าเขาบอกว่าโยน ก็อาจจะทำแบบนั้นจริงๆ

เวินจิ่งหรัวถูกทำให้ตกใจไปในทันที และไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีกจริงๆ สุดท้ายก็ถูกโยนออกมานอกหอพัก เธอคลี่ผ้าห่มออกแล้วถลึงตาจ้องจงฉู่เฟิง

“บอกเธอแต่แรกแล้วว่าเขารักสะอาด เธอก็ไม่ยอมเชื่อ ตอนนี้รู้แล้วหรือยัง ไม่ใช่ว่าชอบพี่ซูเหรอ ผ้าห่มผืนนี้พี่ซูของเธอเคยห่มมาแล้ว ยกให้เธอเลยแล้วกัน”

เวินจิ่งหรัวโกรธจนโยนผ้าห่มไปทางจงฉู่เฟิง เพราะที่นี่เป็นหอพักชาย ดังนั้นด้านข้างเลยมีคนไม่น้อยที่ชะโงกศีรษะมาดูเพราะได้ยินเสียงอย่างคึกคัก

“มองหาอะไร” เวินจิ่งหรัวตอกกลับไปอย่างดุร้าย

คนที่ปอดแหกพอเห็นตาคู่งามนั้นจ้องเข้า ก็รีบหดคอกลับไปทันที คนที่ใจกล้าหน่อยก็พูดหยอกล้อเธอ “พวกเราก็ไม่อยากดูหรอก แต่นี่มันหอพักชายนะ เธอวิ่งเข้ามาให้พวกเราดูเองแบบนี้ ถ้าไม่ดูก็เสียของแย่สิ”

“พวกนาย!”

จงฉู่เฟิงพูดอย่างรังเกียจว่า “เธอรีบกลับไปเถอะ อย่ามาทำตัวน่าขายหน้าอยู่ตรงนี้ต่อเลย”

เวินจิ่งหรัวโกรธจนหันหลังเดินจากไป

หลังจากที่เธอกลับไปที่หอพักแล้ว พวกพี่สาวน้องสาวทั้งหลายต่างก็เข้ามาต้อนรับ

“จิ่งหรัว เป็นยังไงบ้าง ยู่ฉือยี่ซูคนนั้นตกลงยอมไปร่วมงานเลี้ยงวันเกิดเธอหรือยัง ?”

ไม่พูดถึงก็ยังดี พอพูดถึงอารมณ์เวินจิ่งหรัวก็พุ่งพรวด และโยนบัตรเชิญในมือทิ้ง แล้วพูดอย่างโกรธเกรี้ยวว่า “ตกลงบ้าอะไร ฉันไปชวนเขาถึงที่หอ แต่เขากลับให้เพื่อนร่วมหอของเขาโยนฉันออกมา ไอ้บ้าจงฉู่เฟิง ฉันไม่มีทางยอมจบแค่นี้แน่”

พอพวกพี่สาวน้องสาวเหล่านั้นได้ยินเข้า ก็มองเวินจิ่งหรัวด้วยความรู้สึกเห็นใจขึ้นมาทันที

หนึ่งในนั้นพูดปลอบว่า “ถ้าอย่างนั้นก็ช่างเถอะ ในโรงเรียนพวกเราคนที่จีบยากที่สุดก็คือยู่ฉือยี่ซู ถึงแม้ปกติเวลาเธอมีคำถามไปถามเขา เขาจะบอกสิ่งที่เขารู้ให้กับเธอ แต่ฉันรู้สึกว่าเขาไม่ได้มีความคิดที่จะมีความรักเลย เหมือนว่าในใจจะมีแค่เรื่องการเรียนเท่านั้น”

“นั่นสิ ไม่เคยเห็นเขาโปรดปรานผู้หญิงคนไหนมาก่อนเลย”

พอพูดถึงตรงนี้ ในใจของเวินจิ่งหรัวก็รู้สึกดีขึ้นมาเล็กน้อย ถ้าหากพูดว่ายู่ฉือยี่ซูมีคนที่ชอบ แล้วไม่สนใจตัวเอง ถ้าอย่างนั้นเธอคงรู้สึกแย่จนอยากตาย

โชคดีที่ในใจเขามีแค่เรื่องเรียน และไม่คิดอยากจะมีความรัก

เวินจิ่งหรัวเริ่มสงบลง “ถ้าอย่างนั้นฉันรอเขาดีกว่า ตอนนี้ก็เรียนมหาลัยปีสองแล้ว ถ้าปีนี้เขาไม่มีความรัก ฉันก็ไม่เชื่อหรอกว่าปีต่อไปเขาจะไม่มี ถ้าปีต่อไปไม่มี ฉันก็ไม่เชื่อหรอกว่าปีถัดๆไปเขาจะไม่มี”

“จิ่งหรัว นี่เธอมุ่งมั่นขนาดไหนกัน ที่จริงในโรงเรียนของพวกเราก็มีผู้ชายดีๆอีกหลายคนนะ ไม่พูดถึงเรื่องอื่น แค่รูปร่างหน้าตาและฐานะทางบ้านดีก็มีอยู่ไม่น้อยเลย”

“นั่นสิ ผู้ชายนะ ถ้าคนนี้ไม่ได้ก็หาอีกคนสิ ถึงแม้ยู่ฉือยี่ซูจะค่อนข้างดี แต่ว่าคนอื่นๆก็ไม่ได้แย่นะ จิ่งหรัว เธอลองพิจารณาคนอื่นดูหน่อยไหม ?”

“แล้วนั่นมันเกี่ยวอะไรกับฉันด้วย” เวินจิ่งหรัวยกมือขึ้นมากอดอก แล้วเปิดปากพูดอย่างหยิ่งผยองว่า “ถึงผู้ชายบนโลกนี้จะมีมากมายแค่ไหน ฉันก็ชอบยู่ฉือยี่ซูแค่คนเดียวเท่านั้น นอกจากเขาแล้วฉันไม่เอาใครทั้งนั้น”

เวินจิ่งหรัวไม่รู้ ว่าในอนาคตเธอจะต้องสูญเสียมากมายแค่ไหนกับคำพูดประโยคนี้ของเธอ และจนถึงตอนนั้นเธอถึงได้รู้ ว่าเรื่องบางเรื่องนั้นมันฝืนกันไม่ได้จริงๆ

เพียงแต่นั่นก็เป็นเรื่องในภายหลัง ในตอนนี้เธอก็ยังคงยึดติดกับความชอบยู่ฉือยี่ซู ทั้งแต่งตัวเป็นผู้หญิงที่ดูเป็นผู้ใหญ่ และทำตัวเป็นนักเรียนแสนดี

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ ถูกบังคับเป็นตัวแทนของงานแต่งงานนี้ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่พิการแต่กลับมีอำนาจใหญ่ “ฉันเย่โม่เซินไม่เอาผู้หญิงที่ท้องและไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใครเด็ดขาด”เดิมทีคิดว่างานแต่งงานนี้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอกลับเผลอใจ ไปไปมามา สุดท้ายเธอก็จากไปด้วยความเสียใจผ่านไปหลายปี ลูกชายที่หน้าตาคล้ายกับเขามากตบหัวของเย่โม่เซินด้วยฝ่ามือเล็กๆ“พ่อคนร้าย นายว่าใครเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเป็นใคร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset