เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ – ตอนที่ 1603 ไม่ได้ชอบเขาหรอก

บทที่1603 ไม่ได้ชอบเขาเสียหรอก

หลังจากที่บอกเรื่องในใจของตัวเองออกไปกับคุณนายถางแล้วนั้น ถางหยวนหยวนก็ยิ่งทุ่มเทให้กับการลดความอ้วนมากยิ่งขึ้น

ช่วงปิดเทอมฤดูหนาวก็ได้ผ่านไป ก่อนไปโรงเรียน ถางหยวนหยวนก็ได้ลองชั่งน้ำหนักดู พบว่าตัวเองเพิ่งจะผอมลงประมาณ2.5กิโลเท่านั้นเอง จึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะรู้สึกท้อใจขึ้นมาเล็กน้อย

“แม่ ทำไมหนูถึงผอมลงแค่2.5กิโลเองล่ะ?”

เธอกุมหัวตัวเอง ทุกข์ใจขึ้นมาเล็กน้อย

“นี่มันเพิ่งจะนานเท่าไหร่เอง ผอมลง2.5กิโลก็สุดยอดมากแล้ว ลูกคิดว่าใครที่ลดความอ้วนแล้วจะสามารถลดลง2.5กิโลอย่างนี้ได้ง่ายๆกันเหรอ?”

คุณนายถางหยิกแก้มเธอไปเบาๆ เอ่ยเสียงอ่อนนุ่ม “ลดความอ้วนเรื่องพวกนี้นั้นจะต้องค่อยๆทำไปตามลำดับ ไม่อาจรีบร้อนกระหายในความสำเร็จจนเกินไปได้ ไม่อย่างนั้นแล้วถึงตอนนั้นจะทำร้ายร่างกายของตัวเองขึ้นมา จะทำยังไง?”

“ค่ะ”

ถางหยวนหยวนทำได้เพียงพยักหน้าออกไป

“เอาล่ะ ตอนที่ลูกไปโรงเรียนก็ต้องเหมือนกับอยู่ที่บ้าน ไม่อาจบอกว่าหิวแล้วจะไม่กินอะไรได้นะ รู้มั้ย? กินของแคลอรีสูงให้น้อยลงหน่อย เครื่องดื่มของหวานอะไรพวกนี้ก็ดื่มให้น้อยๆลงหน่อย”

“ค่ะ”

เรื่องพวกนี้ถางหยวนหยวนรู้ดีอยู่แล้วทั้งนั้น เพราะว่าสิ่งพวกนี้เป็นนักฆ่าสำหรับการลดความอ้วนทั้งนั้นเลย แคลอรีสูงไม่ว่าแต่ยังไม่มีคุณค่าทางโภชนาการอะไรอีก อีกอย่างสิ่งที่สำคัญที่สุดเลยก็คือกินของหวานๆเยอะก็จะยังเป็นโรคเบาหวานได้ง่ายอีก

ในแผนการลดความอ้วนของถางหยวนหยวนนั้น ของหวานและเครื่องดื่มได้ขีดฆ่าไปหมดแล้ว

แต่ในช่วงเวลานี้ ในทุกๆวันเธอก็ไม่ได้แตะช็อกโกแลตกับสายไหมเลย ปากก็อยากกินขึ้นมาไม่ไหวแล้ว ปากแห้งอยากกินมาก แต่ก็กินไม่ได้

เธออยากตั้งใจลดความอ้วน

ตอนเปิดเทอม ยู่ฉือยี่ซูกับจงฉู่เฟิงก็มารับถางหยวนหยวน

หลังจากที่เห็นเธอแวบแรก ทั้งสองคนพากันตะลึงไปเล็กน้อย จากนั้นแสงสว่างในตาของจงฉู่เฟิงก็หม่นลงทันที

หญิงสาวผอมลง การไปเที่ยวครั้งนั้น ได้ทำร้ายเธอไปอย่างที่คิดเลย

ถางหยวนหยวนที่ผอมลง2.5กิโลอันที่จริงดูเผินๆก็มองไม่ค่อยออกหรอก แต่เพราะไม่ได้เจอกันอยู่สักพักนึง ก็เลยมองออกว่าเนื้อบนหน้าเธอหายไปนิดนึง

แต่ทุกคนก็ปิดปากเงียบไม่เอ่ยถึงเรื่องนี้ออกมา เพียงแต่ในระหว่างทางไปโรงเรียนก็เงียบเชียบอย่างมาก

อีกทั้งตอนที่จงฉู่เฟิงถือกระเป๋าให้เธอ พบว่ามันก็ว่างเปล่าเช่นกัน ไม่ได้ยัดขนมเอาไว้เต็มกระเป๋าเหมือนเมื่อก่อนแล้ว

หลังจากที่ทั้งสองคนมาส่งเธอถึงโรงเรียนแล้วนั้น จงฉู่เฟิงก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากพูดออกไป “น้องหยวน ครั้งนี้ทำไมถึงไม่เอาขนมไปด้วยล่ะ ลืมใช่มั้ย ช่วงนี้ให้พี่ฉู่เฟิงไปซื้อมาจากห้างแถวๆนี้ให้หน่อยหรือเปล่า?”

ข่มกลั้นมาตลอดทาง เขาก็ทนไม่ไหวแล้วจริงๆ

แล้วมองดูยู่ฉือยี่ซูอีกที สีหน้ายังคงเรียบนิ่ง จงฉู่เฟิงคิดในใจ นายมองไม่ออกหรือไงว่าเธอผอมลง? ทำไมถึงไม่มีปฏิกิริยาอะไรออกมาเลย?

ถางหยวนหยวนเอ่ยยิ้มๆออกมาอย่างกระอักกระอ่วนเล็กน้อย “ไม่ต้องหรอกค่ะพี่ฉู่เฟิง ต่อจากนี้ฉันจะกินขนมให้น้อยลงหน่อย”

พูดมาถึงตรงนี้แล้ว เธอก็หยุดชะงักไปเล็กน้อย มองยู่ฉือยี่ซูไปอย่างไม่ตั้งใจแวบนึงแล้วเอ่ยพูดอธิบายออกไป “อาหารขยะกินมากไปมันไม่ดีต่อร่างกาย”

มุมปากของจงฉู่เฟิงกระตุกออกมาเล็กน้อย หาคำที่จะตอบกลับออกไปไม่ได้อยู่สักพักนึง

แต่ยู่ฉือยี่ซูก็ได้เอากระเป๋าเดินทางลงจากรถ แล้วยื่นมือออกไปลูบหัวถางหยวนหยวนเบาๆ “ดีแล้ว กินอาหารขยะให้น้อยลงหน่อยมันก็เป็นความคิดที่ดี บางครั้งที่อยากกินขึ้นมาก็กินนิดๆหน่อยๆเอาก็ได้ ในตอนปกติก็กินอาหารจานหลักให้มากหน่อยก็ดี”

คำพูดนี้มันเป็นความจริงแท้ ถ้าเป็นเมื่อก่อนจงฉู่เฟิงคงจะเห็นด้วย

แต่ตั้งแต่ที่เกิดเรื่องที่หมู่บ้านหิมะขึ้น จะยังไงในใจนี้ของเขาก็รู้สึกไม่ค่อยดีอยู่ตลอดเลย ตอนกลับไปนั้นก็ส่งข้อความหาถางหยวนหยวนอยู่หลายครั้ง อยากนัดเธอออกมา แต่ทุกครั้งถางหยวนหยวนก็จะบอกว่าตัวเองต้องอยู่บ้านก็เลยไม่ได้ไปตามนัด

ตอนนี้เจอหน้ากันก็พบว่าเธอผอมลงไปตั้งเยอะ ภายในใจก็รู้สึกเศร้าขึ้นมา

เด็กสาว ที่จากเดิมก็ควรจะมีความสุขเหมือนกับลูกนกตัวน้อยตัวหนึ่ง

จากนั้นตอนที่จัดการหอพักให้เธอ จงฉู่เฟิงก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก รอจนถึงตอนที่กลับไป ก็ถึงจะเอ่ยกับยู่ฉือยี่ซูออกไป

“นายว่าหยวนหยวนผอมลงหรือเปล่า?”

สีหน้าของยู่ฉือยี่ซูเรียบนิ่ง “ทำไม?”

“เธอ…”

จงฉู่เฟิงพูดไม่ออกอยู่นาน ไม่รู้ว่าจะพูดออกไปยังไงดี

“จงฉู่เฟิง” คงเพราะเห็นว่าเขาดูทุกข์ใจอยู่ล่ะมั้ง ยู่ฉือยี่ซูที่เงียบอยู่นานก็ได้เปล่งเสียงออกมา “อีกปีนึง เธอก็จะเป็นผู้ใหญ่แล้ว”

“แล้ว?”

“ตอนนี้เธอมีความคิดของตัวเองแล้ว จะทำอะไรก็จะต้องคิดมาดีแล้ว ไม่ต้องกังวลไป และก็ไม่ต้องไปก้าวก่ายเกินไปหรอก”

จงฉู่เฟิงคิดในใจ นั่นเป็นเพราะนายไม่รู้เรื่องที่หมู่บ้านหิมะไง ถ้านายรู้แล้วจะยังนิ่งอยู่อย่างนี้ได้อีกมั้ย

อันที่จริงเรื่องหมู่บ้านหิมะสำหรับยู่ฉือยี่ซูแล้ว ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ได้ข่าวมาด้วยตัวเอง แต่ถ้าเอาบรรยากาศในตอนนั้นมาวิเคราะห์ดู ก็สามารถคาดเดาออกอยู่พอประมาณว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง

แต่วันนั้นหญิงสาวก็สื่อออกมาชัดเจนแล้ว ว่าไม่อยากให้เขาไปซักไซ้เรื่องนี้ ยู่ฉือยี่ซูถึงแม้ว่าจะทนเห็นเธอเจอกับความเจ็บปวดไม่ได้ แต่ในเมื่อเป็นความต้องการที่เธอบอกกับตนมา เขาก็ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธออกไปอยู่แล้ว

ก่อนที่จะเอ่ยออกมาเธอก็ได้จัดการกับตัวเองไปเรียบร้อยแล้ว และก็จะไม่มีปัญหาตามมาทีหลังอีกด้วย

เมิ่งเข่อเฟยตอนที่เจอกับถางหยวนหยวนนั้น ก็เกิดความแปลกใจขึ้นมาเล็กน้อย

“หยวนหยวน ทำไมเธอถึงได้ผอมลง?”

ถางหยวนหยวนตะลึงไปเล็กน้อย จากนั้นก็ลูบหน้าตัวเองเบาๆ “มองออกด้วยเหรอ?”

เมิ่งเข่อเฟยพยักหน้า “แน่นอนสิ หน้าเล็กลง เธอผอมลงเท่าไหร่กันเนี่ย?”

“2.5กิโลล่ะมั้ง”

“ผอมลงได้ยังไง?” เมิ่งเข่อเฟยตื่นตะลึง ถึงยังไงเธอก็รู้จักกับถางหยวนหยวนมาตั้งหลายปี ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีวันที่ถางหยวนหยวนจะผอมลงได้

“ก็…ควบคุมอาหารลงหน่อย บวกกับการออกกำลังกาย ก็ผอมลงตั้งเยอะ”

คำพูดตรงท่อนหลังนี้เองก็ได้ทำเอาเมิ่งเข่อเฟยตื่นตกใจออกมา

“เธอ เธอกำลังลดความอ้วนอยู่เหรอ?”

บนใบหน้าของถางหยวนหยวนเผยสีหน้าเขินอายออกมา พยักหน้าออกไปอย่างอายๆ

“อืม กำลังลดอยู่ล่ะ”

“ทำไมจู่ๆถึงอยากลดความอ้วนขึ้นมาล่ะ?” ถึงยังไงหลายปีมานี้ ถางหยวนหยวนก็เอาแต่กินเป็นหลักอยู่ตลอด ไม่มีอะไรที่จะมาขัดขวางการกินของเธอได้ นึกไม่ถึงว่าตอนนี้จะอยากลดความอ้วนขึ้นมาเสียอย่างนั้น

ใบหน้าของถางหยวนหยวนแดงก่ำออกมา เพราะว่าเห็นเมิ่งเข่อเฟยเป็นเพื่อนสนิท ก็เลยเข้าไปกระซิบข้างๆใบหูของเธอ

ใบหน้าของเมิ่งเข่อเฟยที่จากเดิมมีความตื่นตกใจอยู่หลายส่วน หลังจากที่ได้ยินคำพูดของถางหยวนหยวนแล้ว สีเลือดบนใบหน้าก็หายไปหลายส่วน เหมือนกับว่าจะไม่กล้าที่จะเชื่อเท่าไหร่นัก

“เมื่อ เมื่อกี้นี้เธอบอกว่า…”

“เฟยเฟย มีแค่เธอกับแม่ของฉัน แล้วยังมีฉัน พวกเราสามคนเท่านั้นที่รู้ เธออย่าไปบอกคนอื่นล่ะ”

เธอยื่นมือออกไปกอดแขนของเมิ่งเข่อเฟยเอาไว้ เอ่ยยิ้มๆออกมา “ฉันจะต้องพยายามลดความอ้วนได้แน่”

แต่เมิ่งเข่อเฟยกลับรู้สึกได้ถึงเหงื่อเย็นที่ไหลอาบไปทั่วทั้งร่าง ก้มหน้ามองถางหยวนหยวนที่ดูเชื่อมั่นในตัวเธอแบบสุดๆ เป็นครั้งแรกที่ภายในใจรู้สึกทุกข์ใจขึ้นมาขนาดนี้

เธอพยายามตั้งใจเรียน แทบจะหลับอยู่ในห้องสมุด กลับบ้านช่วงปิดเทอมฤดูหนาวครั้งนี้เองก็เหมือนกัน มักจะหาเวลาเรียนอยู่เสมอ เพื่ออะไรกัน?

มาวันนี้ถางหยวนหยวนพยายามที่จะลดความอ้วน นึกไม่ถึงว่าเป้าหมายนั้นจะเหมือนกับเธอ

เมิ่งเข่อเฟยกัดลงไปบนริมฝีปากเบาๆ เอ่ยออกไปด้วยรอยยิ้ม “แน่นอนอยู่แล้ว ฉันไม่บอกคนอื่นหรอก” ถึงแม้ว่าเป้าหมายจะเหมือนกัน แต่…ทั้งสองคนก็เป็นเพื่อนสนิทกันนี่นะ ถึงยังไงก็รู้จักกันมาตั้งหลายปี อีกอย่างหยวนหยวนก็ดีกับเธอมากจริงๆ อันที่จริงครั้งที่แล้วเมิ่งเข่อเฟยก็เกิดความรู้สึกพวกนี้ขึ้นมาแบบรางๆ เพียงแต่ในตอนนั้นถางหยวนหยวนยังไม่เข้าใจอะไร เมิ่งเข่อเฟยก็เลยไม่ได้สนใจอะไร

แต่ว่าตอนนี้ เธอก็เริ่มลดความอ้วนขึ้นมาแล้ว

คิดมาถึงตรงนี้แล้ว เมิ่งเข่อเฟยก็อดไม่ได้ที่จะถามออกไป “หยวนหยวน เธอจัดการกับความรู้สึกตัวเองชัดเจนแล้วใช่มั้ย?” อะไร?

“ถึงยังไงเธอกับเขาก็โตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก จะต้องวางใจในตัวเขาไปอย่างไม่รู้ตัวอยู่แล้ว ความหมายของฉันก็คือ บางทีเธอก็แค่อยากพึ่งพิงเขาก็ได้ ไม่ได้ชอบเขาหรอก?”

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ ถูกบังคับเป็นตัวแทนของงานแต่งงานนี้ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่พิการแต่กลับมีอำนาจใหญ่ “ฉันเย่โม่เซินไม่เอาผู้หญิงที่ท้องและไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใครเด็ดขาด”เดิมทีคิดว่างานแต่งงานนี้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอกลับเผลอใจ ไปไปมามา สุดท้ายเธอก็จากไปด้วยความเสียใจผ่านไปหลายปี ลูกชายที่หน้าตาคล้ายกับเขามากตบหัวของเย่โม่เซินด้วยฝ่ามือเล็กๆ“พ่อคนร้าย นายว่าใครเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเป็นใคร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset