เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ – ตอนที่ 1620 เดาสิฉันเอาของขวัญอะไรให้เธอ

บทที่1620 เดาสิฉันเอาของขวัญอะไรให้เธอ

เมิ่งเข่อเฟยพยายามสงบสติอารมณ์ เธอจับมือถางหยวนหยวน “เธอก็อย่าทะเลาะกับพวกนั้นเลย พวกเขาสองคนแม้จะมีตระกูลที่ไม่เท่าเธอ แต่พวกเขาสองคนก็เหมือนคนบ้า บีบบังคับมากไปไม่รู้ว่าจะทำอะไรได้บ้าง”

ได้ยินดังนี้ ถางหยวนหยวนขมวดคิ้ว “ก่อนหน้านี้ฉันไม่รู้ว่าธาตุแท้ของพวกนั้น ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าพวกนั้นเป็นยังไง ยากมากที่ฉันจะไม่ทะเลาะกับพวกนั้น”

พูดมาก็ใช่ เมิ่งเข่อเฟยไม่รู้จะโน้มน้าวเธอยังไงแล้ว เพราะยังไงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ นิสัยของถางหยวนหยวนถ้าทนได้ละก็ สองฝ่ายคงไม่ทะเลาะกัน

เหตุผลเดียวกัน เมิ่งเข่อเฟยไม่อยากประจบพวกนั้น

ถ้าเธอเป็นคนเสแสร้ง ก่อนหน้านี้ก็คงไม่ถูกจางเสี่ยวลู่กับหยวนเย่าหันรังแก แต่ตอนนี้ทำไม่ได้แล้ว ดังนั้นถึงได้ถูกรังแกแบบนี้

เหตุผลเดียวกัน ถางหยวนหยวนคงมีความรู้สึกเดียวกับเธอ นึกถึงตรงนี้ เมิ่งเข่อเฟยก็พูดว่า: “งั้นก็ได้ ยังไงก็อย่าทะเลาะกันอีกล่ะ ความปลอดภัยสำคัญที่สุด”

“คำพูดนี้น่าจะเป็นฉันนะที่เป็นคนพูด เฟยเฟย หลังจากนี้ถ้าพวกนั้นมารังแกหรือข่มขู่เธออีก เธอต้องบอกกับฉันนะ”

“อืมๆ”

ผู้หญิงสองคนกลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันอีกครั้ง กลับไปพร้อมกันตอนเย็นๆ วันที่สอง ถางหยวนหยวนเชิญพวกนักเรียนไปกินข้าวที่โรงแรม คนกลุ่มหนึ่งพอเข้าไปแล้วถึงรู้ว่าเป็นโรงแรมหกดาว นักเรียนมัธยมปลายกลุ่มหนึ่งแม้จะมีครอบครัวฐานะดี แต่ก็ไม่เคยเห็นเด็กผู้หญิงคนไหนเลี้ยงแบบนี้

ไปกินข้าวที่โรงแรมหกดาว ยังเป็นโรงแรมของบริษัทตระกูลถางนี้อีก พวกเขาตกใจกันมาก

ก่อนหน้านี้ยังมีคนคิดจะจีบถางหยวนหยวน แต่พอรู้พื้นเพตระกูลเธอแล้วก็ต้องตกใจจนถอยหลังกันหมด

แต่ถางหยวนหยวนก็มีเพื่อนเพิ่มอีกกลุ่มหนึ่ง ทุกวันตอนที่วิ่งออกกำลังกาย พวกเขาก็จะทักทายเธอเสมอ และให้กำลังใจเธอ

หลังจากนั้นครึ่งเดือน ถางหยวนหยวนก็ใช้ชีวิตอย่างสงบสุข และเธอก็รู้สึกว่าน้ำหนักลดลงเรื่อยๆ แม้เธอจะไม่ได้ชั่งน้ำหนักนานแล้ว แต่ก็รู้สึกได้

ตั้งแต่วันนั้น เธอกับพี่ชายก็ไม่ได้ติดต่อกันนานแล้ว จงฉู่เฟิงจะแวะมาหาเธอที่โรงเรียนบ่อยครั้ง ส่งนมเปรี้ยวให้เธอ แต่ถางหยวนหยวนไม่อยากดื่ม

จากนั้นจงฉู่เฟิงก็ไม่ส่งนมเปรี้ยวให้เธออีก เปลี่ยนเป็นน้ำเปล่าแทน บางทีก็อาหารเสริมให้เธอแทน ส่งเสร็จก็รีบกลับไปทันที

ตอนแรกยังดี หลังจากนั้นก็มากขึ้นเรื่อยๆ กลุ่มผู้ชายในสนามบาสก็ต่างแซวถางหยวนหยวนกันยกใหญ่

“หยวนหยวน พี่ชายคนนั้นเป็นเพื่อนบ้านเธอเหรอ?”

“ไม่ใช่นะ”

“ไม่ใช่เพื่อนบ้านเธอ? แล้วเป็นใครล่ะ? รู้จักเธอได้ยังไง?”

“เขาเป็นเพื่อนของพี่ชายฉัน เพื่อนสนิทน่ะ”

“อ้อ เขาชอบเธอใช่ไหมล่ะ?”

ได้ยินดังนั้น ถางหยวนหยวนหน้าแดงระเรื่อ “พวกนายพูดบ้าอะไรกัน?”

“หยวนหยวน เพื่อนของพี่ชายเธอต้องชอบเธอแน่ ไม่งั้นใครจะมาส่งของให้ที่โรงเรียนทุกวันเลยล่ะ เธอคิดว่าเขาเป็นคนมีเมตตาหรือไง?”

“นั่นสิหยวนหยวน เธอไม่รู้เหรอว่าทุกครั้งที่เขามาก็นั่งตรงนั้น สายตามองแต่เธอไม่ห่างเลยล่ะ ฉันว่าเขาต้องชอบเธอแน่”

“ไม่ใช่อย่างนั้นนะ” ถางหยวนหยวนได้ยินพวกเขาบอกว่าจงฉู่เฟิงชอบตัวเอง ก็รีบปัดมืออธิบาย: “พี่ฉู่เฟิงดีกับฉันมาตลอด ไม่ใช่อย่างที่พวกนายคิดนะ เขาแค่ดูแลฉันเหมือนน้องสาวเท่านั้น”

“ยังไม่สารภาพรักกับเธอเหรอ?”

ถางหยวนหยวนรีบส่ายหน้า: “ไม่นะ”

แต่ก็เคยแอบคิดไปด้านนั้น แต่ก็แค่คิดเท่านั้น จากนั้นเธอก็รีบสลัดความคิดแบบนี้ออกไป

เขาแค่ทำดีกับเธอเท่านั้น เธอกล้าคิดแบบนี้ได้ยังไงกัน

“งั้นก็แปลกแล้ว ยังไม่สารภาพรักกับเธอเลยงั้นเหรอ?”

“แปลกอะไรกัน หยวนหยวนพึ่งอายุเท่าไหร่เอง? พี่คนนั้นดูอายุก็ไม่น้อยแล้ว หยวนหยวนพูดตามตรงนะ เธอเชื่อไหมว่าเขากำลังรอเธอโตอยู่?”

ถางหยวนหยวน: “?”

“ตอนนี้เธอพึ่งมอสี่ ปีหน้าก็บรรลุนิติภาวะแล้วใช่ไหม?”

“อืม”

“รอเธอบรรลุนิติภาวะแล้ว เขาต้องตามจีบเธอหนักกว่านี้แน่ จากนั้นก็หาโอกาสสารภาพรักกับเธอไง”

กลุ่มผู้ชายวัยรุ่นในสนามบาสพูดกับถางหยวนหยวนอย่างตั้งใจ

ถางหยวนหยวนตกใจกับคำพูดพวกเขามาก ใบหน้าซีดเซียวขึ้นมา: “พวกนายอย่าพูดบ้าๆนะ พี่ฉู่เฟิงไม่ใช่คนแบบนั้น”

เห็นเธอสีหน้าซีด และท่าทีที่ร้อนรน พวกชายหนุ่มก็ไม่ได้พูดต่อไป แต่กลับมีคนถามเธอแทน

“เธอคงไม่ได้ชอบพี่ฉู่เฟิงหรอกนะ? ทำไมพอบอกว่าเขาชอบเธอ หน้าเธอก็ซีดเชียว?”

ได้ยินดังนั้น ถางหยวนหยวนก้มหน้าลง

เธอก็ต้องชอบพี่ฉู่เฟิงอยู่แล้ว แต่ไม่ได้ชอบแนวนั้น เธอแค่รู้สึกว่าพี่ฉู่เฟิงเป็นคนดีมาก เป็นคนตรงไปตรงมาและใจดี และดูแลคนได้ดีด้วย พวกเขาเล่นอยู่ด้วยกันมาเป็นเวลานานแล้ว บอกว่าไม่ชอบคงไม่จริง

แต่ความชอบแบบนี้ไม่เหมือนกับที่เธอชอบยู่ฉือยี่ซู

ระหว่างทางที่เธอออกกำลังเปลี่ยนแปลงตัวเอง รับรู้ได้ถึงความรู้สึกบีบหัวใจ เธออยากผอมลง เอาภาพที่ดีที่สุดของตัวเองแสดงให้ยู่ฉือยี่ซูได้เห็น อยากไปเจอเขา แต่ก็กลัวเจอเขา ยิ่งไปกว่านั้นช่วงนี้ถางหยวนหยวนเริ่มคิดแล้วว่า ตอนนี้ตัวเองเปลี่ยนแปลงไปมากไปไหม ตัวเองในสภาพนี้ไปหาเขา

แล้วยังเป็นตัวเธอเองอยู่ไหมนะ?

“ถ้าเธอไม่ชอบเขาละก็ งั้นเธอต้องเริ่มหัดปฏิเสธเขาตั้งแต่ตอนนี้แล้วล่ะ”

“ปฏิเสธ?” ถางหยวนหยวนเงยหน้าอย่างงุนงง

“ใช่ ให้เขารู้สึกได้ว่าเธอปฏิเสธ แบบนี้เขาก็จะไม่เสียเวลาที่ตัวเธออีก หยวนหยวน ถ้าเธอไม่ชอบเขาละก็ สิ่งที่เขาทำก็คงเสียเวลาไปเปล่าๆ”

“ฉันรู้แล้วล่ะ”

ถางหยวนหยวนพยักหน้าตอบ

วันที่สองจงฉู่เฟิงยังคงส่งอาหารและน้ำมาให้ถางหยวนหยวน ในกระเป๋ามีแต่เครื่องประดับชิ้นเล็กที่ซื้อมาจากร้านเครื่องประดับอีก

เหมาะสมกับสีเสื้อผ้าออกกำลังกายทุกวันของเธอมาก ใส่แล้วจะต้องดูดีแน่ จงฉู่เฟิงคิดแบบนี้

แต่วันนี้จงฉู่เฟิงไม่เห็นถางหยวนหยวนบนลู่วิ่งเลย ในขณะที่สงสัย ก็เห็นหยวนหยวนใต้ต้นไม้ไม่ไกลมาก

นั่นเป็นที่ที่ปกติจงฉู่เฟิงชอบอยู่ เขากระตุกยิ้ม เด็กคนนี้รู้ว่าต้องไปรอตัวเองที่นั่นงั้นเหรอ น่ารักจัง

คิดได้ดังนี้ จงฉู่เฟิงก็รีบวิ่งไปหาเธอทันที

ถางหยวนหยวนหน้านิ่วคิ้วขมวด เพราะตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ ถางหยวนหยวนก็คิดตลอดว่าจะคุยกับพี่ฉู่เฟิงยังไงดี ให้เขาไม่ชอบตัวเอง

ตอนแรกรู้สึกว่าพูดไปแล้ว ถ้าพี่ฉู่เฟิงไม่ชอบตัวเองล่ะ งั้นตัวเองก็คิดไปเองน่ะสิ ดังนั้นก็ว่าจะไม่พูดแล้ว

แต่พอคิดแบบนั้น ถ้าพี่ฉู่เฟิงชอบตัวเองจริงๆล่ะ งั้นถ้าเธอไม่ปฏิเสธละก็ คงทำให้เขาเสียเวลากับตัวเองไปเปล่าๆ?

คิดไปคิดมา ถางหยวนหยวนก็คิดว่าพูดตรงๆดีกว่า ถึงแม้จะทำให้พี่ฉู่เฟิงรู้สึกว่าตัวเองคิดไปเองก็ไม่เป็นไร ที่สำคัญคือ อย่าให้เขาต้องเสียเวลา

ดังนั้นเธอจึงไม่มีอารมณ์ไปวิ่งอีก แล้วรอเขาตรงนี้เลยดีกว่า

จงฉู่เฟิงนั่งลง และพูดว่า: “ยัยหนู เดาสิพี่ฉู่เฟิงวันนี้เอาของขวัญอะไรมาให้?”

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ ถูกบังคับเป็นตัวแทนของงานแต่งงานนี้ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่พิการแต่กลับมีอำนาจใหญ่ “ฉันเย่โม่เซินไม่เอาผู้หญิงที่ท้องและไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใครเด็ดขาด”เดิมทีคิดว่างานแต่งงานนี้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอกลับเผลอใจ ไปไปมามา สุดท้ายเธอก็จากไปด้วยความเสียใจผ่านไปหลายปี ลูกชายที่หน้าตาคล้ายกับเขามากตบหัวของเย่โม่เซินด้วยฝ่ามือเล็กๆ“พ่อคนร้าย นายว่าใครเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเป็นใคร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset