เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ – ตอนที่ 1647 วันนี้เป็นงานเลี้ยงก้าวผ่านวัยของสาวน้อย

บทที่1647 วันนี้เป็นงานเลี้ยงก้าวผ่านวัยของสาวน้อย

ยู่ฉือยี่ซูเตรียมของขวัญเป็นการพิเศษไว้แล้ว หลังจากที่เช็คให้แน่ใจแล้วว่าไม่มีปัญหาอะไรจึงแวะมาดู ปรากฏ​ว่าสาวน้อยยังคงอยู่ตึกที่แต่งหน้า ตอนแรกเขาคิดที่จะรออยู่ด้านล่าง

ทว่าคุณนายถางและมามี๊ก็เร่งเร้าให้เขามาดู ตอนแรกยู่ฉือยี่ซูไม่ค่อยเต็มใจนัก เขารู้สึกว่าผู้หญิงกำลังแต่งหน้าทำผมอยู่ จะให้เขาเข้าไปทำไม?

เขาก็เลยไม่เห็นด้วย

จนกระทั่งแม่ของเขาหานมู่จื่อพูดขึ้นว่า “ลูกจะกลัวอะไร? พวกลูกก็โตมาด้วยกันตั้งแต่เด็กไม่ใช่เหรอ แค่เห็นเขาแต่งหน้าทำผมจะเป็นอะไรไป?”

คุณนายถางยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “ใช่ๆ มู่จื่อพูดถูก แค่แต่งหน้าทำผมเฉยๆ ไปดูเถอะไม่เป็นอะไรหรอก ถ้าลูกขึ้นไปตอนนี้ น้องก็คงน่าจะแต่งเสร็จ​พอดี ลูกจะได้เห็นเป็นคนแรกพอดีเลย”

คนแรก………

เมื่อยู่ฉือยี่ซูได้ยินก็รู้สึกหวั่นไหว​เล็กน้อย ในที่สุดเขาก็ขึ้นมาข้างบนด้วยการยุยงของแม่ๆทั้งสอง

คาดไม่ถึงว่าผลลัพธ์​จะเป็นเช่นนี้

สาวน้อยร้องห่มร้องไห้​ในอ้อมกอดของเขา น้ำตาไหลออกมาราวกับก๊อกน้ำแตก เขารู้สึกถึงการเปียกชื้นของเสื้อเชิ้ต​ที่เขาใส่

ยู่ฉือยี่ซูยืนอยู่กับที่ เขาตะลึงและเสียศูนย์เล็กน้อย เพราะเธอไม่เคยร้องไห้แบบนี้มาก่อน เหมือนครั้งที่แล้วที่เสียใจ ก็ไม่ถึงขั้นที่มาร้องห่มร้องไห้​ในอ้อมกอดของเขา ราวกับได้รับความทุกข์​ทรมาน​อย่างหนัก

ช่างแต่งหน้าและผู้ช่วยที่เห็นเหตุการณ์​ ในใจก็คิดว่า: ตายแล้ว แบบนี้ต้องแต่งหน้าใหม่แน่ๆ แต่ก็ช่างเถอะ สามารถ​ทนได้ถึงตอนนี้ก็ถือว่าไม่ง่าย ให้ร้องไห้ออกมาเถอะ

ถ้าเธอไม่ร้องไห้ออกมา หลังจากนี้เธอจะผ่านไปได้ยังไง?

สาวน้อยร้องไห้ไม่หยุด สะอึกสะอื้น​จนพูดออกมาไม่เป็นคำ แค่เรียกพี่ชายในตอนแรกแล้วร้องห่มร้องไห้​ออกมาไม่หยุดหย่อน เธอไม่สามารถ​ควบคุม​อารมณ์​ได้ ราวกับทุกอย่างพังทลาย​หมด

ยู่ฉือยี่ซูไม่สามารถ​พูดแทรก​ได้ ทำได้เพียงเอามือตบหลังของเธอเบาๆ แล้วฟังเธอร้องไห้โดยไม่พูดไม่จา​อะไร

ไม่รู้ว่า​เวลาผ่านไปเนิ่นนาน​เพียงใด เสียงร้องไห้ของถางหยวนหยวนเริ่มเบาลง และเพราะก่อนหน้านี้ร้องไห้อย่างหนัก ก็เลยทำให้เธอสะอึก​เป็นพักๆ ทุกครั้งที่เธอสะอึกก็ทำให้ยู่ฉือยี่ซูอดเป็นห่วงไม่ได้

เวลาผ่านไปสักพัก ช่างแต่งหน้าจึงพูดขึ้นว่า “คุณหนูถาง ต้องเริ่มแต่งหน้าใหม่แล้วนะคะ งานเลี้ยง…….ใกล้เริ่มแล้วค่ะ”

หลังสิ้นเสียงพูด ก็มีคนจากด้านล่างมาเร่งพอดี

ถางหยวนหยวนยังคงอยู่ในอ้อมกอดของยู่ฉือยี่ซู เธอกอดเอวบางของเขาไว้และไม่ขยับ

“ไม่ต้องแต่งแล้วครับ”

ยู่ฉือยี่ซูพูดตอบแทนถางหยวนหยวนด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม​

ช่างแต่งหน้ามองไปยังถางหยวนหยวน เธอไม่ได้มีปฏิกิริยา​ใดๆ คงจะเห็นด้วยกับยู่ฉือยี่ซู

“พวกคุณออกไปก่อน เดี๋ยวตรงนี้ผมจัดการเอง”

“โอเคค่ะ”

นี่เป็นเรื่องของคนอื่น ช่างแต่งหน้ามีหน้าที่แค่มาแต่งหน้า ไม่มีเหตุผลที่จะต้องไปคัดค้าน​เขา

ไม่นานทุกคนก็ออกไปจากห้อง ภายในห้องเหลือเพียงยู่ฉือยี่ซูและถางหยวนหยวนสองคน

“ตอนนี้ทุกคนออกไปหมดแล้ว เหลือแค่เราสองคน”

ยู่ฉือยี่ซูเช็ดน้ำตาให้เธอ แล้วจับไปที่ดวงตาแดงของเธอ เขาเป็นห่วงและเจ็บปวดหัวใจไม่น้อย “บอกพี่ได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น?”

“พี่…….”แค่ถางหยวนหยวนเอ่ยปากพูดขึ้น น้ำเสียงก็เหมือนกำลังจะร้องไห้อีกครั้ง

ยู่ฉือยี่ซูพูดขัดขึ้น “โอเค อย่าเพิ่งพูด เดี๋ยวพี่จะถามเธอเอง เธอพยักหน้าและส่ายหัวก็พอ”

ถางหยวนหยวนจึงพยักหน้า

“ยังอยากร่วมงานเลี้ยงวันนี้ไหม?”

ตอนนี้ถางหยวนหยวนไม่มีกระจิตกระใจทำอะไรเลย ตอนแรกมันเป็นเรื่องที่น่ายินดีและมีความสุข แต่ตอนนี้เธอไม่มีความสุขเลย นึกไม่ถึงว่าการบรรลุนิติภาวะ​มันจะเจ็บปวดขนาดนี้

ทว่า ทุกคนนั้นทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจเพื่องานเลี้ยงก้าวผ่านวัยของเธอในวันนี้ ถ้าเธอไม่เข้าร่วมงาน ทุกคนก็เหนื่อยและเสียแรงเปล่าน่ะสิ?

ถางหยวนหยวนจึงรู้สึกลังเลเล็กน้อย

“ถ้าเธอไม่อยากเข้าร่วมงาน พี่สามารถช่วยเธอได้ เธอไม่ต้องไปสนใจแขกหรอก เดี๋ยวพี่จัดการให้”

ถางหยวนหยวนยังคงลังเล ถ้าให้เขาช่วยเธอ ข้อกล่าวหาทั้งหมดจะอยู่บนหัวของเขาใช่ไหม ถึงแม้ว่าการไม่เข้าร่วมงานเลี้ยงจะไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ทว่า เธอไม่อยากให้ยู่ฉือยี่ซูตกเป็นขี้ปากของคนอื่น

“หืม?”

ผ่านไปสักพัก ถางหยวนหยวนถึงจะส่ายหัว

ยู่ฉือยี่ซู “ไม่เต็มใจ? ไม่อยากไป? อยากอยู่ร่วมงาน?”

ถางหยวนหยวนพยักหน้า

จากนั้นเธอก็สูดหายใจเข้าลึกๆ ในที่สุดเธอก็จัดการกับอารมณ์​ของตัวเองได้ จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นไปสบตากับยู่ฉือยี่ซู “พี่ ฉันจะอยู่ร่วมงานค่ะ งานเลี้ยงในวันนี้ทุกคนทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจ และชุดบนตัวของฉัน ดีไซเนอร์​ก็ตัดเย็บให้ด้วยความประณีต​ ฉันจะไม่ทำให้ความเหนื่อยของทุกคนเสียเปล่า เพียงเพราะฉันไม่มีความสุข”

วันนี้เธอเป็นเจ้าของงานเลี้ยง ถ้าเป็นงานของคนอื่นก็ไม่เป็นอะไร แต่งานเลี้ยงในวันนี้จัดขึ้นเพื่อเธอ วันนี้เป็นวันบรรลุนิติภาวะ​ของเธอ เมื่อเจอกับปัญหา​เล็กๆก็ไม่กล้าเผชิญ​หน้ากับมัน งั้นเธอจะบรรลุนิติภาวะ​ไปทำไม?

ถือว่ามันเป็นบททดสอบแรกของการเข้าสู่วัยผู้ใหญ่​แล้วกัน!

ถางหยวนหยวนกัดริมฝีปากล่าง แค่ตอนที่เธอนึกถึงเมิ่งเข่อเฟยก็รู้สึกอยากร้องไห้ ไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมความสัมพันธ์​ของพวกเธอถึงเป็นแบบนี้

“โอเค”ยู่ฉือยี่ซูเคารพ​การตัดสินใจของเธอ มือหนาลูบหัวของเธอ รอยยิ้มแฝงไปด้วยความเอ็นดู “เด็กน้อยของพี่โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว เป็นคนมีความรับผิดชอบแล้ว”

ของเขา? เด็กน้อยของเขา?

ถางหยวนหยวนรู้สึกดีเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำๆนี้ ทว่า ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมารู้สึกแบบนี้ เธอจึงพูดกับยู่ฉือยี่ซูด้วยน้ำเสียงเบาว่า “พี่ ฉันจะไปล้างหน้าก่อน พี่ไปเรียกช่างแต่งหน้าให้หน่อยได้ไหม แล้วก็ในงานเลี้ยง…….”

“แค่ถ่วงเวลาเอง มีอะไรที่พี่เธอทำไม่ได้บ้าง?”

ยู่ฉือยี่ซูเขกหัวของเธอเบาๆ “ไปเถอะ พี่ลงไปจัดการข้างล่างก่อน เธอค่อยๆแต่งหน้าเถอะ”

“ขอบคุณค่ะพี่”

หลังจากที่ยู่ฉือยี่ซูเดินออกไป ถางหยวนหยวนก็ไปล้างหน้าล้างตาที่ห้องน้ำ

ถึงแม้อากาศในตอนนี้จะไม่หนาวมาก ทว่ายังอยู่ในช่วงปลายฤดู​หนาวอยู่ การใช้น้ำเย็นล้างหน้ามันสามารถทำให้สดชื่นได้ และในตอนนี้เอง ถางหยวนหยวนก็รู้สึกหนาวเล็กน้อย

เธอเช็ดน้ำส่วนเกินออกด้วยผ้าขนหนู แล้วก็นวดดวงตาของตัวเองเบาๆ จากนั้นก็เดินออกไป

ช่างแต่งหน้าและผู้ช่วยกลับมาแล้ว ตอนที่เห็นเธอก็รู้สึกประหม่าเล็กน้อย ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรออกมา

“ขอโทษที่เพิ่มภาระให้พวกพี่นะคะ”ถางหยวนหยวนพูดขอโทษก่อน จากนั้นก็ก้มคำนับ แล้วพูดขึ้นว่า “เรามาเริ่มใหม่กันเถอะค่ะ”

สาวน้อยมีสัมมาคารวะ​แบบนี้ ช่างแต่งหน้าเห็นก็รู้สึกเป็นห่วงและเห็นใจ พวกเธอพยักหน้า “โอเคค่ะ งั้นเรามาเริ่มแต่งหน้ากันเถอะ แต่ว่า ตอนนี้ดวงตาของคุณแดงเล็กน้อย เราก็เลยไม่สามารถ​แต่งลุคเหมือนก่อนหน้านี้ได้ ต้องเปลี่ยนเป็นลุคอื่นแทน”

ถางหยวนหยวนยิ้มเจื่อนๆ “ได้ค่ะ ขอแค่ออกไปพบผู้คนได้ก็พอ”

“โอเคค่ะ”

ถึงแม้ก่อนหน้านี้เธออยากโตเป็นผู้ใหญ่เร็วๆ ทว่า พอถึงเวลาจริงๆเธอถึงรู้ว่า คุณค่าและราคาของการเติบโตมันสูงขนาดนี้

ช่างแต่งหน้าและผู้ช่วยรีบทารองพื้น​ให้ถางหยวนหยวนโดยเร็ว จากนั้นถึงจะเติมแต่งสีอื่นๆให้เธอ

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ ถูกบังคับเป็นตัวแทนของงานแต่งงานนี้ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่พิการแต่กลับมีอำนาจใหญ่ “ฉันเย่โม่เซินไม่เอาผู้หญิงที่ท้องและไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใครเด็ดขาด”เดิมทีคิดว่างานแต่งงานนี้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอกลับเผลอใจ ไปไปมามา สุดท้ายเธอก็จากไปด้วยความเสียใจผ่านไปหลายปี ลูกชายที่หน้าตาคล้ายกับเขามากตบหัวของเย่โม่เซินด้วยฝ่ามือเล็กๆ“พ่อคนร้าย นายว่าใครเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเป็นใคร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset