เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ – ตอนที่ 1648 ไม่เป็นมือที่สาม

บทที่1648 ไม่เป็นมือที่สาม

การแต่งหน้าครั้งนี้ใช้อายแชโดว์​สีขาวในการแต่ง ที่เปลือกตานั้นทาด้วยกากเพชรสีทอง และสวมชุดสีทองเงิน

ดวงตาของสาวน้อยนั้นใสสะอาด เพราะเพิ่งผ่านการร้องไห้มา ดวงตาก็เลยใสสะอาดราวกับเพิ่งล้างมา ช่างแต่งหน้าได้ลงไพรเมอร์ให้กับเธอ ไม่ต้องใช้แบบมีสีก็เห็นเป็นสีแดงจางๆ เพราะช่างแต่งหน้านั้นมีฝีมือที่ยอดเยี่ยม จึงแต่งหน้าออกมาดูดีมาก ลอยแดงจางๆนั้นทำให้เหมือนทาอายแชโดว์​ไว้ ดูไม่ออกว่าเพิ่งผ่านการร้องไห้มา

“สวยจริงๆเลยค่ะ”ช่างแต่งหน้า มัดผมไปข้างหลังให้เธอ “แต่งเป็นแบบนี้แล้ว อีกเดี๋ยว​อย่าลืมยิ้มด้วยนะ”

“โอเคค่ะ”

ถางหยวนหยวนในตอนนี้ สามารถควบคุม​อารมณ์​ของตัวเองได้แล้ว จะไม่ให้น้ำตาไหลออกมาโดยง่าย ทว่า ถ้าให้เธอยิ้มนั้น มันยังคงยากไปเล็กน้อย

“งั้นยิ้มให้พี่ดูหน่อยได้ไหมคะ? พี่จะดูว่าโอเคหรือเปล่า”ช่างแต่งหน้าพูดขึ้น

หลังได้ยิน ถางหยวนหยวนก็อึ้งไปเล็กน้อย และมุมปากของเธอก็ค่อยๆยกขึ้น แต่มันก็ยากที่จะยิ้มออกมา สุดท้ายเธอก็มองไปยังช่างแต่งหน้าอย่างท้อแท้

“โอเค ไม่สามารถ​ยิ้มได้ก็ไม่เป็นไรค่ะ และไม่ต้องฝืนตัวเองหรอก อีกเดี๋ยวถ้าเข้าไปในงานแล้วจะมีคนมากมาย บางที ถ้าได้เจอกับคนรู้จัก ก็จะยิ้มออกมาเอง”

หลังจากนั้นช่างแต่งหน้าและผู้ช่วยก็ช่วยเช็คหน้าผมให้เธอ เมื่อเช็คให้แน่ใจแล้วว่าไม่มีปัญหา ถึงจะจูงมือเธอออกไป

“รองเท้าที่ใส่ในวันนี้ส้นสูงเล็กน้อย ตอนที่เดินก็ระวังๆหน่อยนะคะ อย่าสะดุด​ล้มล่ะ”

“โอเคค่ะ”ถางหยวนหยวนพยักหน้า จากนั้นช่างแต่งหน้าก็จูงมือเธอแล้วเดินออกไปด้านนอก

คนทางโน้นก็ยังคงรออยู่ เมื่อเห็นถางหยวนหยวนเดินออกมา ใบหน้าก็เต็มไปด้วยความดีใจ เดินเข้าไปแล้วพูดขึ้นว่า “คุณหนูถางแต่งหน้าเสร็จ​แล้วเหรอคะ?”

“อืม เสร็จแล้ว ไปบอกข้างล่างได้แล้วว่า เริ่มงานเลี้ยงได้”

“โอเคค่ะ”

“มันยังไม่ล่าช้าจนทำให้คนอื่นเสียเวลาใช่ไหม?”ถางหยวนหยวนถามขึ้นอย่างเป็นกังวล เพราะเหมือนเธอจะล่าช้าไปกว่าเวลาที่กำหนดมาก

คนๆนั้นรีบยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “คุณหนูถางพูดอะไรคะ ทุกคนที่มางานเลี้ยงในวันนี้ ก็ล้วนมาสังสรรค์​กัน และคุณนายถางกับคุณนายเย่ก็กำลังทักทายคนในงาน เดี๋ยวดิฉันจะไปแจ้งข้างล่างก่อน คุณหนูถางค่อยๆมานะคะ”

“ขอบคุณค่ะ”

แขกที่มาในวันนี้เยอะมาก ส่วนใหญ่ล้วนเป็นคนที่มีความสัมพันธ์​ที่ดีกับตระกูลถาง ไม่ใช่พวกที่เข้าหาเพื่อผลประโยชน์​ คนที่มาร่วมงานนั้นส่วนมากจะมีของขวัญมามอบให้ด้วย แต่ก็ไม่มีใครพูดว่างานเลี้ยงก้าวผ่านวัยจะเริ่มเมื่อไหร่ รอมาเนิ่นนานก็ยังไม่เริ่มเสียที แต่ก็ไม่มีใครถาม

งานในวันนี้ไม่ใช่เพียงแค่ตระกูล​เย่ที่มา แม้แต่ตระกูลหานก็มา งานที่ตระกูล​ใหญ่ๆสามตระกูล​มารวมกันแบบนี้ หาได้ยากมาก

ดังนั้น คนบางกลุ่มจึงอดไม่ได้ที่จะจับกลุ่มกันคุยเสียงเบา

“ลูกสาวตระกูลถางจัดงานเลี้ยงก้าวผ่านวัย คนในตระกูล​เย่ก็มาร่วมด้วย และคุณชายบริษัท​ตระกูลเย่กับลูกสาวตระกูลถางก็โตมาด้วยกัน ถ้าไม่มาก็คงจะไม่ดี แต่ว่า ตระกูลหานนั้นเกี่ยวอะไรด้วย? ไม่เคยได้ยินเรื่องมิตรภาพ​ระหว่างคุณชายทั้งสองของตระกูลหานและลูกสาวตระกูลถางเลย?”

“เรื่องนี้เธอคงยังไม่เข้าใจสินะ ทำไมลูกสาวตระกูลถางถึงได้โตมาด้วยกันกับคุณชายตระกูล​เย่ ถ้าไม่ใช่เพราะเจตนา​ของคุณหญิงเย่ ไม่เช่นนั้นทำไมไม่ถึงคราวของลูกสาวตระกูลอื่นเสียที? และฉันได้ยินมาว่า ตอนที่ประธานเย่ไปบริษัทตระกูลถาง บอกเจตนา​โดยตรงว่าต้องการหาคู่ให้ลูกชายตัวเอง และลูกสาวตระกูลถางเป็นคนที่ถูกเลือก”

“จริงเหรอ? ตระกูลถางนั้นโชคดีมากเลยนะ ก่อนหน้านี้ที่ยังไม่สนิทกับตระกูล​เย่ บริษัทตระกูลถางนั้นอย่างมากก็แค่หนึ่งในตระกูลใหญ่ของเมืองเป่ยเท่านั้น ทว่า ตอนนี้กลับสามารถ​เข้ามาเป็นหนึ่งในสามตระกูลใหญ่ได้”

“ดังนั้น แวดวงสังคมนั้นสำคัญมากจริงๆ ลูกสาวตระกูลถางคงจะเป็นสะใภ้ที่บริษัท​ตระกูลเย่ยอมรับ และผู้รับผิดชอบบริษัท​ตระกูลหานก็คือหานชิงซึ่งเป็นพี่ชายแท้ๆคุณหญิงเย่ เขาไม่ใช่เป็นเพียงราชาปีศาจที่รักเมียมาก แต่ยังเป็นปีศาจที่รักน้องมากเหมือนกัน คนที่น้องสาวของเขาเลือกแล้ว คนเป็นพี่ชายอย่างเขาจะไม่มายินดีได้อย่างไร?”

“งั้นก็หมายความว่า ถ้าตระกูล​เย่ถูกใจ ก็เท่ากับว่าเป็นพันธมิตร​กับตระกูล​เย่และตระกูลหานทั้งสองตระกูล”

“ไม่เพียงเท่านี้”

“ยังไม่เพียงเท่านี้?”มีคนประหลาดใจ

“เคยได้ยินตระกูลยู่ฉือของต่างประเทศไหม? นักธุรกิจ​เก่าแก่คนนั้น ได้มอบมรดก​ทั้งหมดให้กับเหลนชายของเขา”

มรดกทั้งหมดของบริษัท​ตระกูลยู่ฉือตกอยู่ภายใต้ชื่อของยู่ฉือยี่ซู

ยู่ฉือยี่ซูกลายเป็นนักธุรกิจ​อายุน้อยที่รวยที่สุดแล้ว

ผู้คนนั้นอดไม่ได้ที่จะอิจฉา​ ขณะที่กำลังอิจฉานั้น ก็มีคนฉุกคิดขึ้นมาว่า

“แต่ว่า คนที่คุณหญิงเย่ถูกใจนั้น คุณชายตระกูล​เย่จะถูกใจเหรอ? ได้ข่าวว่าลูกสาวตระกูลถางนั้นอ้วนมาก น้ำหนักเฉียดหนึ่งร้อยกิโลกรัมเลยนะ”

คนที่พูดคำนี้ถูกคนข้างๆเอามือปิดปากไว้

“ไม่ต้องพูดแล้ว หนึ่งร้อยโลอะไรกัน มันเป็นข่าวลือทั้งนั้น และถึงจะเป็นความจริงเธอก็ไม่ควรมาพูดแบบนี้”

“ถ้าเป็นเรื่องจริง งั้นคุณชายตระกูล​เย่จะชอบผู้หญิงอ้วนไปได้ยังไง ไม่งั้นตาของเขาคงจะหรี่จนเป็นเส้นตรงราวกับเส้นด้าย? ฉันเคยเห็นคุณชายตระกูล​เย่ รูปร่างผอมและสูงโปร่ง​ มีใบหน้าที่หล่อเหลาเข้ารูปมาก อย่างน้อยก็ควรหาคนที่เหมาะสมกับตัวเองสิ”

“บางที คนอื่นก็อาจจะมีสิทธิ์? ”

ในงานเลี้ยงนั้น มีใครบางคนแอบมีความคิดอื่นในหัว

รีบไปเรียกลูกสาวของตัวเองมา ตระกูลจางเป็นหนึ่งในนั้น ลูกสาวของเธอปีนี้อายุสิบเก้าปี ผิวพรรณ​ดีและขาว รูปร่างนั้นไม่ต้องพูดถึง แม้แต่หน้าตาก็จัดว่าเป็นที่หนึ่ง

“หนิงหนิง ก่อนหน้านี้ลูกเคยพูดว่า ผู้ชายในมหาลัยที่มาตามจีบลูกไม่มีใครหน้าตาดีเลยใช่ไหม?”

จางหนิงอู่ที่ถูกแม่ลากมาแล้วมาถามคำถาม เธอจึงอดไม่ได้ที่จะเบะปาก “ใช่ค่ะ หนูเคยพูด มีอะไรเหรอคะ?”

“งั้นลูกดูคนที่อยู่บนเวทีนั้นสิ หล่อไหม? ตรงสเปค​ของลูกไหม?”

“แม่คะ หนูเพิ่งอายุเท่าไหร่เอง? เพิ่งบรรลุนิติภาวะ​เมื่อปีที่แล้ว แม่อย่าทำเหมือนกลัวลูกจะขายไม่ออก แล้วหาคู่ให้ลูกอยู่เรื่อยแบบนี้ได้ไหมคะ? ”

“หนิงหนิง แม่หวังดีกับลูกนะ เกิดเป็นผู้หญิง สุดท้ายก็ต้องออกเรือนอยู่ดี ตอนนี้ลูกยังสาวและสวย ถ้าไม่หาตอนนี้ จะรอให้แก่ก่อนแล้วค่อยหาเหรอ? ถึงเวลานั้นคนดีๆเขายังจะถูกใจลูกอีกเหรอ?”

“แก่เหรอคะ? แม่อย่าเว่อร์ได้ไหม หนูเพิ่งอายุสิบเก้าปี อย่างน้อยต้องอีกยี่สิบปีหนูถึงจะแก่? ไม่ต้องรีบขนาดนั้นได้ไหม……..”

“เอาน่ะ ดูๆไปก่อนเถอะ ถ้าไม่ถูกใจค่อยทำเป็นเหมือนแม่ไม่เคยพูดก็แล้วกัน”

จางหนิงอู่ทำได้เพียงมองไปตามทิศทางที่แม่ของเธอชี้ไป ก็พบกับยู่ฉือยี่ซูที่อยู่บนเวทีพอดี

วันนี้ยู่ฉือยี่ซูแต่งตัวทางการ ชุดสูทสีน้ำเงินเมื่ออยู่บนตัวของเขาแล้ว ดูดีราวกับตัดมาเพื่อเขาโดยเฉพาะ​ และท่าทางนั้นดูเคร่งขรึม​และเย็นชา

จางหนิงอู่รู้สึกมาโดยตลอดว่า ชุดสูทนั้นไม่ได้เป็นชุดที่ดูดีอะไร เพราะว่าคนส่วนใหญ่ใส่แล้วเธอรู้สึกว่าเหมือนคนขายประกัน

ดังนั้น เธอก็เลยไม่ค่อยให้ความสนใจกับผู้ชายใส่ชุดสูท

ทว่า ในวันนี้หลังที่เธอเห็นยู่ฉือยี่ซู จางหนิงอู่กลับรู้สึกว่า ไม่ใช่ชุดสูทไม่สวย แต่เป็นเพราะไม่เจอกับคนใส่ที่เหมาะสม ก็เหมือนกับเธอ

ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากมีความรัก ทว่า ในบรรดา​คนที่มาตามจีบเธอนั้น เธอไม่ถูกใจเลยสักคน

เมื่อเห็นลูกสาวตัวเองนิ่งตาค้าง คุณแม่จางก็ยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “เป็นไง? คนที่แม่แนะนำให้ในครั้งนี้เพอร์เฟค​ไหม?”

หลังได้ยิน จางหนิงอู่จึงได้สติกลับมา เธอเบะปากแล้วพูดขึ้นว่า “ผู้ชายที่เพอร์​เฟคขนาดนี้เนี่ยนะยังไม่มีคู่? ไม่ใช่ว่าต้องไปแย่งของคนอื่นนะ? หนูไม่อยากเป็นมือที่สามของใครค่ะ”

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ ถูกบังคับเป็นตัวแทนของงานแต่งงานนี้ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่พิการแต่กลับมีอำนาจใหญ่ “ฉันเย่โม่เซินไม่เอาผู้หญิงที่ท้องและไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใครเด็ดขาด”เดิมทีคิดว่างานแต่งงานนี้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอกลับเผลอใจ ไปไปมามา สุดท้ายเธอก็จากไปด้วยความเสียใจผ่านไปหลายปี ลูกชายที่หน้าตาคล้ายกับเขามากตบหัวของเย่โม่เซินด้วยฝ่ามือเล็กๆ“พ่อคนร้าย นายว่าใครเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเป็นใคร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset