เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ – ตอนที่ 177 ออกโรง

บทที่177 ออกโรง

ประโยคสุดท้ายนั่น ราวกับว่ามีความรู้สึกสงสัยอยู่

เสิ่นเฉียวไม่รู้ว่าเธอรู้สึกไปเองหรือเปล่า เพราะในตอนนี้หานเส่โยวมีท่าทางบังคับขู่เข็ญแบบที่เธอเองก็ไม่เคยเห็น

นิ่งไปครู่หนึ่งแล้วเสิ่นเฉียวก็หันมองเธอ

“เส่โยว แกเป็นอะไร?”

ได้ยิน หานเส่โยวก็รู้ตัวในทันที รู้ได้ว่าเมื่อกี้ตัวเธอออกตัวมากไปหน่อย

เธอส่ายหัวไปมา หลุบตาลงแล้วก็หัวเราะแห้งๆ

“แกยังจะมาถามฉันอีกว่าฉันเป็นอะไร? ฉันก็แค่ระวังแทนแกไง ความจริงก็ไปตรวจสอบแกแล้วว่าทำไม? ก็ไม่ใช่เพราะว่าอยากจะให้แกออกไปจากวังวนของความทุกข์ ความลำบากในตอนนี้ไม่ใช่เหรอ? ผลลัพธ์ออกมาแกกลับไม่ทำตามเสียนี่ คนเขายืนอยู่ตรงหน้าแกแล้วแท้ๆ แกกลับไม่กล้าพูดอะไรสักคำ แถมยังไม่กล้ายอมรับอีก ฉันไม่เข้าใจจริงๆว่าในใจแกคิดอะไรอยู่ เพราะฉะนั้นฉันก็เลยอยากรู้ว่าแกชอบเย่โม่เซินไหม?”

“ที่จริงแล้ว….ฉันเองก็ไม่รู้” เสิ่นเฉียวหลุบตาลง อารมณ์ของเธอในตอนนี้มันกำลังสลด “ฉันคิดว่าฉันไม่ควรจะชอบเขา แต่ว่า…..”

เห็นท่าทางสับสนของเธอ ใจของหานเส่โยวก็เต้นตึกตัก เธอกลัวว่าจะชอบเย่โม่เซินเข้าแล้วจริงๆ?

“แต่ว่าอะไร? อย่าบอกนะว่าแกมองไม่ออก? เขาไม่ชอบแกเลยสักนิด”

ตอนที่สติของหานเส่โยวกลับมารวมกัน เธอก็ได้พูดมันออกไปแล้ว อยากจะเอากลับมาก็สายไปแล้ว

โชคดีที่ว่าเสิ่นเฉียวไม่ได้สนใจสีหน้ากับน้ำเสียงของเธอมากนัก แถมกลับโดนคำพูดนั้นของเธอทำร้ายเข้าอย่างจัง แล้วเธอก็ยิ้มอย่างข่มขื่นแล้วพยักหน้า

“แกพูดถูก ฉันมองออกอยู่แล้วว่าเขาไม่ได้ชอบฉันสักนิด”

เขาไม่ได้แค่ไม่ชอบเธอ แถมยังเกลียดและรำคาญเธออีกต่างหาก

คิดได้แบบนี้ ความรู้สึกของเสิ่นเฉียวก็ดิ่งลงเรื่อยๆ ไม่มีทางจะฟื้นคืนได้

“ขอโทษน้า ฉันไม่ได้ตั้งใจจะพูดแบบนี้ แกอย่าเศร้าไปเลยนะ…..”

“ฉันไม่เป็นไร พวกเราเข้าไปกันเถอะ” เสิ่นเฉียวดึงหานเส่โยวไปทางห้องทำงานของตัวเอง หลังจากนั้นทั้งสองคนก็นั่งลง หานเส่โยวเปิดกล่องนั้นออกอย่างทนไม่ไหว พบว่าข้างในนั้นเป็นชุดราตรีสีน้ำเงิน

“ชุดนี้……ดูแล้วไม่เลวเลย แถม….ฉันเคยเห็นชุดนี้ เป็นชุดที่ถูกออกแบบชุดใหม่ล่าสุดโดยดีไซเนอร์ชาวอิตาลี ได้ยินมาว่าถูกประมูลขายถึงหนึ่งล้าน”

มือข้างที่ถือปากกาของเสิ่นเฉียวสั่นเล็กน้อย แล้วมองไปทางชุดราตรีตัวนั้น

ชุดที่ถูกประมูลมาราคาหนึ่งล้าน….

นี่มันเป็นราคาบ้าบออะไรกัน?

อยู่ๆก็มานึกถึงเงินสามแสนที่เขาให้แม่เธอ แต่ชุดที่อยู่ตรงหน้านี้ราคาหนึ่งล้าน เสิ่นเฉียวเขียนต่อไม่ไหว วางปากกาลงแล้วลุกขึ้นไปเก็บชุดมาวางไว้ให้ดี

“เป็นอะไร? ชุดสวยขนาดนี้ สวยกว่าชุดที่ฉันซื้อให้อีก ไม่อย่างนั้นคืนนี้แกสวมชุดนี้เถอะ”

“ไม่ได้”เสิ่นเฉียวส่ายหน้า ปฏิเสธความคิดของหานเส่โยว

“ชุดนี้แพงเกินไป หนึ่งล้าน…ฉันรับเอาไว้ไม่ได้”

พูดจบ เสิ่นเฉียวก็เก็บกล่องเข้าไปในตู้ทันที ตั้งใจว่าเดี๋ยวค่อยหาโอกาสคืนเย่หลิ่นหานหลังจากนี้

“แกน่ะ ชอบปฏิเสธเวลาคนอื่นทำอะไรดีๆให้ จริงๆเชียว….”

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว พอถึงตอนบ่ายเสี่ยวเหยียนก็มาหาเสิ่นเฉียวที่บริษัท เตรียมจะไปแต่งหน้ากันทั้งสามคน ตอนที่เสี่ยวเหยียนเห็นหานเส่โยวแววตาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่ว่าคิดถึงคำที่เสิ่นเฉียวเคยพูด เธอก็ยิ้มแล้วทักทายกับหานเส่โยว

หานเส่โยวก็โทรศัพท์หาช่างแต่งหน้า

*

พระอาทิตย์ตกดิน งานเลี้ยงก็ใกล้จะเริ่มขึ้น

ในที่สุดงานเลี้ยงประจำปีบริษัทตระกูลเย่ที่หนุ่มๆสาวๆรอคอยกันก็ค่อยๆถูกเปิดม่านขึ้น เวลาเกือบครึ่งเดือนที่เตรียมการกันมา คนที่มาร่วมงานนอกจะมีพนักงานของบริษัทตระกูลเย่แล้ว ก็ยังมีคนชั้นสูงที่ถูกรับเชิญมาด้วย คนที่เดินสวนกันไปสวนกันมาล้วนเป็นชายหนุ่มและหญิงสาว ที่สวมชุดที่เลิศหรูดูแพง หล่อเหลาสมาร์ตทั้งนั้น

พนักงานหญิงในบริษัทสวมชุดราตรีหลากสีสันดึงดูดสายตา รองพื้นบนใบหน้าของแต่ละคนหนาไม่แพ้กันเลยทีเดียว ยืนอยู่ตรงทางเข้าเพื่อรอดูพวกหนุ่มหล่อที่กำลังทยอยกันเข้ามาใน แล้วหันมายิ้มเล็กยิ้มน้อยกับตัวเอง

กลุ่มชายหนุ่มที่บริษัทร่วมมือกัน มารวมตัวอยู่ด้วยกันแล้วหัวเราะขึ้นอย่างช่วยไม่ได้

“มองแต่คนสิ ท่าทางเหมือนกับหมาป่าที่กำลังหิวโหยเลย เหมือนกับว่าพวกเราเป็นอาหารของพวกเธออย่างนั้นแหละ ถ้าไม่ใช่อยู่ในสายตาของคนจำนวนมาก กลัวว่าพวกเธอจะกระโดดมาฉีกพวกเราแล้ว”

“แกอย่าเอ็ดไป ฉันคิดว่าพวกเธอน่ากลัวว่าหมาป่าอีกนะ”

“ชู่ว พวกแกดูพวกหญิงพวกนั้น แป้งบนหนานี่ไม่รู้ว่าใครหนากว่าใคร ชุดก็ไม่รู้ว่าของใครโป๊กว่ากัน แต่ว่าหน้าตาก็ไม่ได้ดีเท่าไหร่ ไม่มีรสนิยมเลยสักนิด พวกเธอคงไม่คิดหรอกใช่ไหมว่าแต่งตัวนิดหน่อย แค่สวมชุดราตรีก็สามารถทำให้พวกเราหันไปสนใจได้น่ะ ไม่มองตัวเองเสียบ้างว่าเป็นใคร!”

“แค่เล่นๆก็คงได้ ยังไงที่นี่ น่าจะมีหลายคนที่ยังไม่เคยโดนเปิด”

“จิ๊ เดี๋ยวนี้ที่ไหนมีที่ยังไม่เคยโดนบ้างเล่า ฉันว่าหาคนที่หุ่นดีๆหน่อย ไม่แน่…..”

พวกเขาพูดไปพูดไปก็หัวเราะขึ้นมา รอยยิ้มบนใบหน้าก็ดูไร้มารยาทก็ดูไร้มารยาทไปโดยสิ้นเชิง

อยู่ๆ ก็ใครคนหนึ่งดึงมือชายคนหนึ่งเอาไว้

“จ้าวหยู่ มีเป้าหมายแล้ว!”

“อะไร?”

คนอื่นๆก็มองตามสายตาของเขาไป

เงาของร่างกายอ้อนแอ้นสามร่างกำลังค่อยๆเดินมาทางนี้

เสี่ยวเหยียนถือกระโปรงทรงหางปลาสีรุ้งเอาไว้ ใบหน้าน่ารักจิ้มลิ้มมีรอยยิ้มสดใสประดับอยู่ ข้างๆเป็นหานเส่โยวที่สวมชุดเกาะอกสีขาวยาวกร่อมพื้น แล้วก็สวมสร้อยไข่มุกมองแล้วดูดีมีระดับ บวกกับผิวขาวของเธอและรอยยิ้มบนใบหน้าที่ดูพอเหมาะพอสม ดังนั้นเลยเรียกสายตาได้หลายคู่

ส่วนเสิ่นเฉียวน่ะเหรอ บนร่างกายชุดที่สวมอยู่กลับเป็นชุดสีแดงตัวนั้น เพราะว่าการออกแบบสไตล์คอวี ดังนั้นก่อนที่เธอจะออกมาเธอก็ได้หาผ้าคลุมไหล่สีอ่อนผืนบางมาคลุมไหล่เอาไว้ เพราะว่าเป็นเส้นด้ายเบาบาง ดังนั้นก็เลยไม่สามารถปกปิดรูปร่างที่งดงามของเธอเอาไว้ได้

ภาพที่กึ่งเปิดกึ่งปิดแบบนี้ ยิ่งทำให้คนยิ่งใจเต้น

เธอเดินออกมาอย่างไม่เป็นธรรมชาติ เหตุผลเพราะชุดๆนั้น รู้สึกว่าทุกๆก้าวที่โดนจะต้องโดนใครๆมอง ถึงแม้ว่าจะมีผ้าคลุมไหล่คลุมไว้แล้ว แต่ว่าเสิ่นเฉียวก็ยังรู้สึกไม่คุ้นชิน

ดังนั้นภาพลักษณ์ของเธอในตอนนี้จัดอยู่ในร่างปีศาจแต่ว่าสีหน้ากลับไม่รู้เรื่องไม่รู้ราว โดยเฉพาะดวงตาเย็นชาคู่นั้นสามารถเรียกคนให้หันมองได้ไม่น้อย

“พี่ชาย ชุดสีเขียวคนนั้นไม่เลวเลยนะ หุ่นก็ดี แถมรอยยิ้มของเธอก็บาดตา!”

“ฉันคิดว่าสีขาวนั่นใช้ได้ หน้าตาก็ดูดี เหมือนเธอจะเป็นลูกสาวที่เพิ่งจะเพิ่งพบตัวของตระกูลหานมั้ง? คุณหนูตระกูลหานช่างแตกต่างกับคนอื่น”

“แกอย่าว่าไป เมื่อก่อนฉันโชคดีเคยเจอหน้าคุณหญิงหานครั้งหนึ่ง ฉันคิดว่าลูกสาวที่พลัดพรากคนนี้…..พูดอะไรที่ไม่ค่อยเสนาะหูหน่อยนะ ไม่ได้รับความสวยของคุณหญิงหานมาแม้แต่ครึ่งเดียวเลย”

“กลับเป็นคนที่สวมชุดสีแดงข้างๆนั่นเสียอีก ถึงมองแล้วจะเดินไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ แต่ว่าเธอสวยใช้ได้เลย โดยเฉพาะดวงตาคู่นั้น…..เหมือนกับทะเลสีคราม! แม่จ๋า ผมกำลังมีความรัก”

“หยุดไปเลยแก วันนึงแกมีความรักกี่ครั้ง?”

“ฉันตัดสินใจแล้ว ถ้าเกิดว่าผู้หญิงที่สวมชุดแดงคนนั้นไม่มีแฟน ฉันจะจีบเธอ”

ทั้งสามคนได้รับสายตาจำนวนมากที่ส่งมาจากรอบด้าน เสิ่นเฉียวรู้สึกเขินมากๆ เดินไปเรื่อยๆก็ไปหลบอยู่ด้านหลังหานเส่โยวกับเสี่ยวเหยียนแล้ว ให้พวกเธอช่วยบังสายตาที่มองมา

“โอ๊ย แถมเธอยังขี้อายอีก ชอบจังเลย……”จ้าวหยู่ที่พูดว่าตัวเองกำลังมีความรักเมื่อกี้ อดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นมาอังที่แก้มตัวเองแล้วพูดขึ้นยิ้มๆ

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ ถูกบังคับเป็นตัวแทนของงานแต่งงานนี้ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่พิการแต่กลับมีอำนาจใหญ่ “ฉันเย่โม่เซินไม่เอาผู้หญิงที่ท้องและไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใครเด็ดขาด”เดิมทีคิดว่างานแต่งงานนี้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอกลับเผลอใจ ไปไปมามา สุดท้ายเธอก็จากไปด้วยความเสียใจผ่านไปหลายปี ลูกชายที่หน้าตาคล้ายกับเขามากตบหัวของเย่โม่เซินด้วยฝ่ามือเล็กๆ“พ่อคนร้าย นายว่าใครเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเป็นใคร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset