เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ – ตอนที่ 209 ไม่กล้าแม้แต่จะชี้ตัว

บทที่209 ไม่กล้าแม้แต่จะชี้ตัว

เย่โม่เซินยิ้มอย่างเย็นชา “พี่ชายคิดมากเกินไป การถอดถอนเป็นเพียงการปิดบังคนอื่น เฉียวเฉียวเป็นถึงภรรยาผม ผมจะยอมให้ภรรยาของผมถูกรังแกในที่แบบนั้นได้อย่างไร?”

พูดถึงตอนนี้ เย่โม่เซินก็หมุนวงล้อตรงไปทางเสิ่นเฉียว ในมือของเสิ่นเฉียวยังคงถือเอกสารไว้

“เฉียวเฉียว เธอว่าใช่ไหม?”

“อะไรนะ?”เสิ่นเฉียวไม่ทันตอบสนอง ทันใดนั้นที่เอวแน่น เย่โม่เซินโอบตัวเธอไว้ แล้วดึงเธอเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนของเขา ตัวเธอขยับไปที่อ้อมแขนของเย่โม่เซินโดยที่เธอไม่สามารถควบคุมได้

เย่หลิ่นหานที่อยู่ด้านข้างเห็นฉากนี้ มือที่ห้อยอยู่ทั้งสองข้างของเขาก็กำเอง ความโกรธก็ปรากฏขึ้น

“ดูเหมือนว่าวันนี้ภรรยาของผมจะใจร้อนมากเป็นพิเศษ เป็นฝ่ายรุกก่อนเข้ามาในอ้อมกอดผมเอง นั้น…… ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง”

ก่อนที่เสิ่นเฉียวจะรู้ว่าเย่โม่เซินกำลังจะทำอะไร เขาก็จับคางเธอแล้วก็เริ่มจูบขึ้นมาทันที

ช่วงเวลาที่อยู่ใกล้กัน เสิ่นเฉียวตัวสั่น ถึงกับลืมดิ้นรน

แม้แต่เย่โม่เซินที่แต่ก่อนเคยทานข้าวกับหานเส่โยวอยู่ พอตอนนี้ ยังกล้าจูบเธอต่อหน้าพี่ชายได้ไง มันหมายความว่าอะไร?

นี่ไม่ใช่ความสัมพันธ์ที่เรียกว่ารักหรอก และไม่ใช่ความปรารถนา แต่เป็นการแก้แค้น!

เป็นเพราะเย่หลิ่นหานอยู่ตรงนี้ เขาจึงตั้งใจทำแบบนี้

ในสมองวนเวียนอยู่พักหนึ่ง เมื่อเสิ่นเฉียวรู้สึกตัวได้อีกทีและขณะที่เธอคิดที่จะผลักเย่โม่เซินออก เย่โม่เซินได้จับไหล่ของเธอดึงตัวเธอออก

มองดูอีกครั้ง เย่หลิ่นหานก็ไม่ได้อยู่ในห้องทำงานแล้ว

เสิ่นเฉียวชูมือขึ้นตบไปที่เย่โม่เซินหนึ่งที

“ไอ้เลว”

เย่โม่เซินโดนตบหน้า บนใบหน้าก็มีรอยมือที่ตบขึ้นทันที เขาหันหน้าไปด้านข้าง ริมฝีปากเขาเม้มแน่นทำให้เห็นลายเส้นชัด

แต่ความโกรธของเสิ่นเฉียวยังคงอยู่ อยากจะตบเขาอีกครั้ง คราวนี้มันถูกเย่โม่เซินห้ามไว้

เธอดิ้นรนหลายครั้ง แต่ดิ้นรนไม่ออก

พูดกับเย่โม่เซินด้วยความโกรธว่า:”คุณหมายความว่ายังไง? ให้ฉันเป็นเครื่องมือในการแก้แค้นหรอ?”

ดวงตาของเย่โม่เซินเหมือนตะขอ ดวงตามืดมิดและเย็นชา คำพูดที่พูดเหมือนมีดคม “คุณเป็นผู้หญิงคนแรกที่กล้าตบผม”

“นั้นแล้วยังไง? ”เสิ่นเฉียวกัดริมฝีปาก “คุณดูถูกฉันเธอทำให้ฉันอับอายได้ แล้วฉันจะไม่สามารถแก้แค้นคุณได้หรือไง? คุณคิดว่าฉันจะขอบคุณคุณไหมถ้าคุณเลื่อนตำแหน่งกลับมาให้ฉัน? เย่โม่เซิน ฉันบอกคุณก่อนว่าฉันจะไม่ขอบคุณคุณหรอก! ฉันยอมอยู่ในแผนกที่เล็กจนไม่รู้จะเล็กยังไงแล้วทำงานของตัวเอง ไม่อยากกลับไปที่น่าขยะแขยงแบบนั้น!”

พูดจบ เสิ่นเฉียวใช้แรงผลักเย่โม่เซินออกไป หันหลังวิ่งออกไป

ตอนเธอหันหลัง เย่โม่เซินเห็นดวงตาสีแดงของเธอ การเคลื่อนไหวของมือก็หยุดลง มองดูเธอวิ่งหนีออกไปจากตนเองอย่างตะลึง แล้วหายลับตาไป

ครู่ต่อมา เขาตามองต่ำลง

คุณเศร้ายัง?

เสิ่นเฉียวก็ไม่ใช่คนที่ไม่มีอารมณ์ ถูกเย่โม่เซินดูถูกใส่ เธอถือกระเป๋าของเธอเลิกงานออกก่อนเวลา ไม่สนว่าเย่โม่เซินจะหักเงินเดือนหรือโบนัสของเธอหรือเปล่า? เธอไม่อยากอยู่ที่นั่นอีกต่อไป

เธอจึงออกจากงานก่อนกำหนด จากนั้นก็ไปนั่งในร้านกาแฟ นั่งจนถึงเวลาจะเลิกงานเธอเลยส่งข้อความให้หานเส่โยว

หานเส่โยวเลยรีบไป เสิ่นเฉียวนั่งมานานแล้ว ดื่มกาแฟไปหลายแก้ว

“เฉียวเฉียว”หานเส่โยววิ่งเข้ามา ยังหอบอยู่ แต่หลังจากเข้าใกล้เสิ่นเฉียวแล้วก้าวของเธอก็ช้าลง เมื่อเดินไปข้างหน้าเธอและนั่งลง การหายใจก็สงบลง

“นั่งเลยสิ ”เสิ่นเฉียวพูดอย่างเบาๆ

หานเส่โยวนั่งลงอย่างประหม่า พนักงานเข้ามาและเธอก็สั่งกาแฟหนึ่งแก้ว จากนั้นจึงมองไปที่เสิ่นเฉียว

“เฉียวเฉียว สีหน้าเธอ……ดูไม่ค่อยดีเลย เธอยังโกรธฉันอยู่หรอ?”

“โกรธ?” เสิ่นเฉียวเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่าย หานเส่โยวแต่งตัวอย่างสวย แต่ว่าไม่ใช่ชุดที่ใส่ตอนเที่ยงแล้ว ตอนนี้เธอใส่กระโปรงสีชมพู การออกแบบคอกลมให้เห็นเฉพาะคอที่เรียว

เสิ่นเฉียวมองขึ้นอย่างสงบ จากนั้นก็ลดตาลง

“ฉันจะโกรธอะไรล่ะ?”

“เฉียวเฉียว วีดีโอที่เสี่ยวเหยียนส่งให้ เธอเชื่อแล้วหรอ?”

“คุณอย่าเชื่อเธอนะ เธอไม่ถูกกับฉันตั้งแต่เจอกันครั้งแรกแล้ว สายตาเธอนั้นก็แปลกมากด้วย เธอบอกว่าฉันไปยั่วคุณชายเย่เลย ฉันเป็นพี่น้องที่ดีกับคุณนะ จะทำเรื่องแบบนั้นได้ไง?”

เธอพูดค่อนข้างเยอะ เสิ่นเฉียวไม่พูดไร

“เฉียวเฉียว คุณพูดสักคำสิ หรือคุณเชื่อที่เธอพูดหรอ? นี่เราเป็นพี่น้องกันนะ ถ้าเธอไม่เชื่อฉัน ฉันสาบานได้”

สาบาน……

ดวงตาของเสิ่นเฉียวกะพริบ มองไปที่หานเส่โยว

หานเส่โยวหยุดอยู่นิ่งก่อนจะเงยหน้าขึ้น “ฉันสาบานต่อฟ้า ฉันไม่เคยคิดที่จะยั่ว……”

“เธอพูดอะไรกับเย่โม่เซิน? ” เสิ่นเฉียวขัดจังหวะเธอทันที หานเส่โยวเม้มริมฝีปาก เสียงเบาลง “ก็……ก็ไม่พูดไร”

“ไม่ใช่พูดเรื่องทำงานหรอ? ทำไมจะไม่พูดไรล่ะ?

”เสิ่นเฉียวรู้ว่าน้ำเสียงของตนกำลังตั้งคำถาม แต่คำถามนี้เธอก็แค่เดินตามหัวใจของเธอ เธอแค่อยากถามพี่น้องที่สนิทสนมคนนี้ว่าเธออยากทำอะไรกันแน่

“เฉียวเฉียว เธอพูดแบบนี้……หมายความว่าเธอเชื่อคำพูดของเสี่ยวเหยียนหรอ คุณกำลังสงสัยฉันอยู่ ใช่ไหม?”

เสิ่นเฉียวหายใจเข้าลึก ๆ “ทำไมเธอจะคิดแบบนี้? ฉันถามว่าพวกคุณคุยอะไรกัน นี่มีปัญหาอะไรมั้ย? เราเป็นพี่น้องที่แสนดีที่เคยพูดคุยกันได้ทุกเรื่องมาก่อนไม่ใช่หรือ? แค่บอกเนื้อหาในการสนทนาของเธอกับเขายังบอกไม่ได้หรอ?”

“เฉียวเฉียว ฉัน…….”

เสิ่นเฉียวมองไปที่เธออย่างแน่วแน่ ตาของหานเส่โยวเปลี่ยนเป็นสีแดงในทันที เธอหลั่งน้ำตาต่อหน้าเธอ เสิ่นเฉียวผงะ

“ฉันคิดว่าเธอควรเชื่อใจฉันโดยไม่มีเงื่อนไข เฉียวเฉียว! ตอนฉันมีปัญหา เป็นเธอที่ดึงฉันออกมาจากปัญหาเหล่านั้น ถึงแม้ชาตินี้ฉันจะไม่ดีต่อคนอื่น ฉันก็จะดีต่อเธอ อาจจะ……ทัศนคติของฉันที่มีต่อเสี่ยวเหยียนไม่ค่อยดีนัก บางทีฉันอาจจะหยิ่งกับคนอื่น แต่ฉันอยู่ต่อหน้าเธอ เฉียวเฉียว! ฉันคิดแทนเธอมาตลอด! ที่ฉันตั้งใจเข้าหา เย่โม่เซิน นั่นก็เป็นเพราะฉันต้องการยั่วเขาไง!”

“เพราะฉะนั้น……เธอยอมรับว่าเธอจงใจเข้าหาเย่โม่เซินแล้ว?”

“ใช่ ”หานเส่โยวร้องไห้แล้วพูด “ฉันยอมรับฉันตั้งใจเข้าหาเย่โม่เซินเอง แต่แล้วไงล่ะ? เขาร้ายกับเธอมาก ฉันไม่ถูกตากับเขา ฉันแค่ต้องการล้างแค้นแทนเธอ อีกอย่าง……คุณกับเขาก็เป็นแค่สามีภรรยากันในนามเท่านั้น ลูกในท้องเธอ……”

“หยุดพูดได้แล้ว!”ใบหน้าของเสิ่นเฉียวเปลี่ยนไปอย่างมากและพูดแทรกเธอ“ ต่อไปเธอไม่ต้องพูดถึงเรื่องนี้อีก!”

อารมณ์ความรู้สึกเธอสะเทือนอย่างรุนแรง หานเส่โยวร้องไห้อยู่แล้วก็หัวเราะขึ้นมาพร้อมพูดว่า :“ทำไมไม่ให้พูดถึงล่ะ?ที่ฉันพูดเป็นความจริงและเรื่องจริง ที่ฉันต้องลำบากให้พี่ชายฉันช่วยตามหาคนๆนั้น เพียงแค่หวังว่าคุณจะได้เจอคนที่ฝากชีวิตได้ของคุณ? แต่ว่าคุณทำอะไรอยู่? เขายืนอยู่ตรงหน้าคุณ แต่คุณก็ไม่กล้าแม้แต่จะชี้ตัวเขา! ?”

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ ถูกบังคับเป็นตัวแทนของงานแต่งงานนี้ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่พิการแต่กลับมีอำนาจใหญ่ “ฉันเย่โม่เซินไม่เอาผู้หญิงที่ท้องและไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใครเด็ดขาด”เดิมทีคิดว่างานแต่งงานนี้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอกลับเผลอใจ ไปไปมามา สุดท้ายเธอก็จากไปด้วยความเสียใจผ่านไปหลายปี ลูกชายที่หน้าตาคล้ายกับเขามากตบหัวของเย่โม่เซินด้วยฝ่ามือเล็กๆ“พ่อคนร้าย นายว่าใครเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเป็นใคร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset