เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ – ตอนที่ 321 ขอร้องคุณล่ะ อย่าผลักฉันออกไป

บทที่321 ขอร้องคุณล่ะ อย่าผลักฉันออกไป

เสิ่นเฉียวกระพริบตา ขนตายาวๆก็กะพริบไปมาเช่นกัน เธอนึกไปสักพัก

“วันนั้นคุณรู้ว่าฉันไปเจอกับเย่หลิ่นหานแล้วทำไมคุณไม่บอกมาตั้งแต่แรก ฉันไม่ได้อยากจะปิดบังคุณนะ!”

เธอกัดริมฝีปากล่าง เธอรู้สึกสำนึกผิดอยู่ในใจเป็นอย่างมาก

เธอก็ยังคิดว่าทำไมเขาถึงต้องโมโหขนาดนั้น อีกทั้งสีหน้าและแววตาในตอนนั้นที่เขาถามตัวเธอก็ดูแปลกๆ เธอจึงใส่ใจมันมาตลอด ดังนั้นเธอถึงอยากจะรีบเดินทางไปที่งานเลี้ยง

แต่นึกไม่ถึง…..ภายหลังมีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย

“ไม่ได้อยากจะปิดบังฉัน?” สายตาที่เย้ยหยันของเย่โม่เซินจ้องมองไปที่ใบหน้าของเธอ “ช่างเป็นผู้หญิงที่สร้างคำพูดโกหกเก่งจริงๆ ก่อนที่คุณจะออกไปคุณบอกฉันว่าอะไร? คุณนัดกับเสี่ยวเหยียนไว้ดิบดีแล้ว? ไม่อยากผิดคำพูด อีกทั้งยังบอกเซียวซู่ว่าคุณจะมางานเลี้ยงอย่างตรงเวลา สุดท้ายเป็นยังไง? คุณไม่ปรากฏตัวทั้งคืน!”

“ฉันไปแล้ว!” เสิ่นเฉียวรีบพูดแก้ต่างให้ตัวเอง “ในคืนนั้นฉันไปแล้วจริงๆ แต่คืนนั้นมันเกิดเรื่องไม่คาดคิดเล็กน้อย ดังนั้นฉันเลยมาถึงค่อนข้างดึก อีกอย่างคืนนั้นฉันไปเจอกับเสี่ยวเหยียนจริงๆ ถึงแม้ว่าฉันจะเจอกับเย่หลิ่นหาน แต่เสี่ยวเหยียนก็อยู่! ฉันไม่ได้โกหกคุณนะ!”

“แล้วทำไมคุณถึงไม่บอกฉันมาตรงๆ?”

เสิ่นเฉียวพูดอธิบายให้ตัวเองอย่างเสียงดัง แต่เสียงของเย่โม่เซินนั้นดังยิ่งกว่า

เสิ่นเฉียวรู้สึกอึ้งกับเสียงที่ขึ้นสูงของเขา เธอจ้องมองเขาไปสักพัก จากนั้นจึงก้มหน้าแล้วมองพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง “คือฉันไม่ดีเอง ฉันไม่ควรจะปิดบังคุณ……เดิมทีฉันก็ไม่อยากจะปิดบังคุณ แต่……..ฉันกลัวว่าถ้าพูดไปแล้วคุณจะเข้าใจผิดฉัน”

เดิมทีความสัมพันธ์ระหว่างเขาและเย่หลิ่นหานก็ค่อนข้างละเอียดอ่อนอยู่แล้ว ดังนั้นเธอจึงไม่กล้าที่จะพูดถึงเมื่ออยู่ต่อหน้าเย่โม่เซิน

“ช่างเป็นเหตุผลที่ฟังขึ้นจริงๆ” เย่โม่เซินหัวเราะอย่างเย็นชา จากนั้นพูดด้วยความเย้ยหยันใส่เธอ

เสิ่นเฉียวเงยหน้าขึ้นมามองเขา “เรื่องนี้ฉันจัดการไม่ดีเอง ฉันต้องขอโทษคุณ เย่โม่เซิน….ฉัน….”

ประโยคด้านหลัง ทำไมเธอกลับพูดไม่ออกนะ

เสิ่นเฉียวรู้สึกลำบากใจมาก เธอหายใจเข้าลึกๆแล้วจ้องมองเขา

สายตาของเขายังคงดูเย็นชา ไม่มีความอบอุ่นเลยสักนิด มันหนาวเหน็บไปถึงในใจของเธอ

ต้องเผชิญหน้ากับเย่โม่เซินที่เป็นเช่นนี้ เสิ่นเฉียวรู้สึกว่าความกล้าหาญที่ตัวเธอกว่าจะรวบรวมออกมาได้มันกำลังค่อยๆลดน้อยลง เธอรู้สึกกลัวเล็กน้อย ถ้า….ถ้าเธอยังไม่พูดอะไรอีกละก็ ดีไม่ดี….หลังจากนี้เธอจะยิ่งไม่มีความกล้าที่จะพูดอะไรออกมาอีก?

เมื่อนึกถึงจุดนี้ เสิ่นเฉียวใช้แรงกัดฟันตัวเองแล้วพูด “เย่โม่เซิน พวกเรา……”

“หย่ากันเถอะ”

อยู่ๆเย่โม่เซินก็เอ่ยปากพูดแล้วแทรกคำพูดของเธอ

มีแต่ความตกตะลึงเกิดขึ้น

“สัญญาฉบับนั้นฉันให้คุณแล้ว ก่อนหน้านี้คุณก็อยากได้มันมาตลอดไม่ใช่หรอ? ตอนนี้ได้ตามที่คุณต้องการแล้ว คุณเอาสัญญาแล้วเดินออกไป จากนี้อยากจะอยู่กับใครก็ไปอยู่ คุณกับฉันเย่โม่เซินคนนี้เราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก”

เสิ่นเฉียวเบิกตาโต เธอยืนอึ้งอยู่กับที่

“คุณ คุณเอาจริงหรอ? คุณไม่ได้แค่โกรธฉัน แต่…..ต้องการหย่ากับฉันจริงๆใช่มั้ย?”

เย่โม่เซินแสยะปากยิ้ม “คุณดูว่าท่าทีของฉันเหมือนกำลังพูดเล่นรึไง?”

เสิ่นเฉียวพูดอะไรไม่ออก เธอรู้สึกสำลักในคอ ราวกับว่ามีอะไรบางอย่างมาขวางกั้นอยู่ในใจของเธอ

“ไปเถอะ ที่นี่ไม่เหมาะกับคุณ เสิ่นเฉียว เดิมทีคุณก็แต่งงานแทนน้องสาวของคุณไม่ใช่หรอ? ตอนนี้ คุณมีอิสระแล้ว”

คุณมีอิสระแล้ว

ที่นี่ไม่เหมาะกับคุณ คุณไปเถอะ

คำพูดเหล่านี้ราวกับเป็นมีดที่แทงเข้าไปในหัวใจของเสิ่นเฉียว

เขาพูดออกมาอย่างง่ายดาย แต่เธอกลับรู้สึกยากที่จะยอมรับ

หลังจากที่เย่โม่เซินพูดจบ เขาก็หันหลังแล้วขยับรถเข็นเพื่อเดินจากไป

เสิ่นเฉียวก็ไม่รู้ว่าความกล้าหาญนี้มาจากไหน อยู่ๆเธอก็ลุกขึ้นมาแล้วกระโดดลงมาจากโซฟาด้วยเท้าเปล่า จากนั้นพุ่งตัวไปขวางอยู่ด้านหน้าของเขา “คุณต้องการจะไล่ฉันไปขนาดนี้ อย่าบอกนะว่าคุณไม่รักฉันเลย? เย่โม่เซิน ก่อนหน้านี้ใครกันที่บอกให้ฉันเชื่อเขา ตอนนี้คุณกลับมาไล่ฉัน ฉันจะเชื่อคุณได้ยังไง?”

เย่โม่เซินมองด้วยสายตาที่เย็นชา “ แล้วแต่คุณ ไม่เกี่ยวกับฉัน”

“ไม่เกี่ยวกับคุณ?” เสิ่นเฉียวก็หัวเราะอย่างเย็นชา เธอชี้ไปที่แผลบนริมฝีปากของตัวเอง “งั้นคุณบอกฉันได้มั้ยว่าเมื่อตะกี้คุณจูบฉันทำไม? ทั้งทั้งที่คุณต้องการจะหย่ากับฉันแล้ว รังเกียจฉันขนาดนั้นแล้วคุณจูบฉันทำไม?”

เย่โม่เซินจ้องมองเธอด้วยสีหน้าที่ไร้ความรู้สึก

เสิ่ยนเฉียวจ้องมองเขา ทั้งสองต่างก็จ้องมองกันและกัน

ต่อมา เย่โม่เซินเอื้อมมือมาดึงตัวเธอเข้าไปในอ้อมอกแล้วจูบเธออีกครั้ง

เสิ่นเฉียวอึ้งไปสักพัก จากนั้นจึงปล่อยวางแล้วค่อยๆหลับตาลง

เธอกำลังจะเอามือไปโอบที่คอของเย่โม่เซิน อยู่ๆเย่โม่เซินก็ใช้กำลังดึงตัวเธอออกไป เสิ่นเฉียวล้มลงแล้วนั่งอยู่บนพรม

“เห็นรึยัง?”

เขายื่นมือไปเช็ดมุมปากของตัวเอง สายตาที่เย็นชาจนถึงขีดสุด ไร้ซึ่งความรู้สึกใดใด

เสิ่นเฉียวอ้าปากค้างเล็กน้อย ผ่านไปสักพักเธอจึงก้มหน้าลงแล้วยิ้มอย่างขมขื่น “นี่มันหมายความว่าอะไร? คุณเยาะเย้ยฉันงั้นหรอ? คุณกำลังจะบอกฉันว่าต่อให้เกลียดฉันก็สามารถจูบฉันกอดฉันได้ คุณเห็นฉันเป็นแค่ของเล่นชิ้นหนึ่ง ใช่มั้ย?”

“ถ้าเข้าใจแล้วก็ไสหัวออกไป”

ต่อให้ความรู้สึกที่จูบเธอมันดีมากขนาดไหน แต่เย่โม่เซินเกลียดที่สุดก็คือการโดนคนอื่นหักหลัง

ความทุกข์ที่แม่ของเขาต้องแบกรับ เขามองจ้องแล้วจำมันได้ดี เขาจะไม่ยอมเดินตามรอยแม่ของเขาอย่างแน่นอน

ถ้าเธอจะเป็นคนใจโลเลเอาแน่เอานอนไม่ได้เช่นนี้ งั้นเขาจะเป็นคนลงมือทำเรื่องทุกอย่างให้จบด้วยมือของเขาเอง

ให้เธอไปอยู่เคียงข้างกับคนที่เธออยากจะอยู่ด้วย

เสิ่นเฉียวนั่งนิ่งอยู่บนพรม เธอนั่งก้มหน้าก้มตาท่าทางราวกับกระต่ายที่หดหู่ เป็นภาพที่พิเศษมาก

เมื่อผ่านไปสักพัก เธอค่อยๆลุกขึ้นมายืน

“คุณรู้มั้ยเย่โม่เซิน วันนี้ฉัน….เดิมทีฉันอยากจะมาคืนดีกับคุณ ฉันรู้ว่าคืนนั้นฉันเป็นคนทำผิดไป ดังนั้นฉันจึงต้องยอมเสียอะไรบางอย่างเพื่อชดใช้สิ่งที่เกิดขึ้น ต่อให้คุณยังโกรธฉัน นั่นมันก็เป็นเรื่องที่สมควร เพราะว่าฉันไม่ได้รักษาคำสัญญา ฉันยอมที่จะรับบทลงโทษ ขอแค่…อย่าหย่ากันก็พอ”

รูม่านตาของเย่โม่เซินหดเข้าไปทันที ผู้หญิงคนนี้พูดอะไรนะ?

“ฉันชอบคุณจริงๆ….” เสิ่นเฉียวพูดคำนี้ในขณะที่ตัวเริ่มสั่น น้ำตาคลออยู่เต็มเบ้าตา “ในคืนนั้นมันเกิดเรื่องขึ้นมาจริงๆ ต่อมาฉันตัดสินใจดีแล้วว่าฉันจะมาอยู่กับคุณ”

เธอเงยหน้าขึ้น เธอจ้องมองเย่โม่เซินด้วยสายตาที่หนักแน่น “ดังนั้น อย่าไล่ฉันไปเลยได้มั้ย?”

เย่โม่เซิน “……”

อยู่ๆเสิ่นเฉียวก็พุ่งตัวเข้าไป เอามือทั้งสองโอบกอดไปที่คอของเย่โม่เซิน ร่างกายของเธอแขวนอยู่บนคอของเขา

ร่างกายของเย่โม่เซินนั่งนิ่งอยู่ตลอด เมื่อเธอกระโจนเข้ามาเช่นนี้ ตัวเขารวมไปถึงรถเข็นก็ขยับถอยไปด้านหลัง รับรู้ได้ถึงมือที่ไร้เรี่ยวแรงของเธอกำลังโอบอยู่ที่คอของตัวเอง เสียงสะอื้นร้องไห้ก้องอยู่ในหูของเขา

ใจที่แข็งของเขาค่อยๆอ่อนลง

“ให้โอกาสฉันอีกสักครั้งเถอะ คราวนี้ฉันจะไม่ไปเจอเขาอีกแล้ว ดีมั้ย?”

เสิ่นเฉียวกอดเขาเอาไว้ มองไม่เห็นดวงตาของเธออีก ในที่สุดเธอก็สามารถพูดออกมาได้อย่างกล้าหาญ

ขอแค่เธอเคยพยายามก็จะไม่มีอะไรที่ต้องเสียใจอีก

เย่โม่เซิน ขอร้องล่ะ….ให้โอกาสฉันอีกสักครั้ง!

ครั้งเดียวก็พอ!!!

ถ้าคุณยังผลักฉันออกไปอีกละก็ ฉันคง…ไม่มีความกล้าที่จะมาพึ่งพิงคุณอีกแล้วจริงๆ

ดังนั้น อย่า…อย่าผลักฉันออกไปเลย

ขอร้องคุณล่ะ

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ ถูกบังคับเป็นตัวแทนของงานแต่งงานนี้ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่พิการแต่กลับมีอำนาจใหญ่ “ฉันเย่โม่เซินไม่เอาผู้หญิงที่ท้องและไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใครเด็ดขาด”เดิมทีคิดว่างานแต่งงานนี้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอกลับเผลอใจ ไปไปมามา สุดท้ายเธอก็จากไปด้วยความเสียใจผ่านไปหลายปี ลูกชายที่หน้าตาคล้ายกับเขามากตบหัวของเย่โม่เซินด้วยฝ่ามือเล็กๆ“พ่อคนร้าย นายว่าใครเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเป็นใคร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset