เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ – ตอนที่ 388 ก่อนเจอกันครั้งแรก

บทที่ 388 ก่อนเจอกันครั้งแรก

“เย่โม่เซิน?” เฉินเฟยเข้าไปดูใกล้ ๆ แวบหนึ่ง พอเห็นชื่อนั้นก็อดที่จะเบิกตาโตไม่ได้

“เป็นอะไรไป? คุณรู้จักดีเลยใช่ไหม? ฉันเคยได้ยินชื่อเย่โม่เซินนี้มาก่อน ดูเหมือนจะเป็นบุคคลชั้นนำในวงการธุรกิจ”

เมื่อได้ยิน เฉินเฟยก็มองเธออย่างแปลกใจแวบหนึ่ง แล้วอธิบาย: “ซิงหั่ว อย่างนั้นพี่เฟยบอกได้เลยว่าเธอรู้แค่งู ๆ ปลา ๆ เย่โม่เซินคนนี้ไม่เพียงแต่เป็นบุคคลชั้นนำในวงการธุรกิจ ถ้าจะให้บรรยายล่ะก็ เขาคงเป็นคนใหญ่คนโตในวงการธุรกิจ เป็นหัวหน้า คนธรรมดาอย่างพวกเราก็พูดการแบบนี้ แต่ถ้าพูดให้ยิ่งใหญ่ยิ่งขึ้นไปอีก อย่างนั้นก็คงเป็นราชาของประธานอีกที… ”

“ฟังแล้วโคตรเก่งเลย”

“ที่รัก เธอเป็นดาราหญิงนะ คำว่าโคตรเก่งนี้จากนี้อย่าพูดออกมาเลยได้ไหม?” เฉินเฟยเบิกตาโตอย่างตกใจแล้วสอนเธอ

“น่าแปลกจัง ถึงแม้จะบอกว่าตระกูลหลินฐานะไม่เลว แต่ว่า…ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะเจอคู่นัดบอดเป็นถึงราชาของประธานนี่นา ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเย่โม่เซินคนนี้ยอดเยี่ยมอย่างที่คุณพูดขนาดนั้นจริง ๆ เขายังจะต้องหาคู่นัดบอดทำไม? คาดว่าคงผู้หญิงมาเกาะติดที่ประตูทุกวันไม่รู้นานแค่ไหนแล้ว!”

เฉินเฟยคิดสักพัก ก็รู้สึกว่าที่หลินซิงหั่วพูดมามีเหตุผล “จะเป็นไปได้ไหมที่น้องสาวของเธอจะถูกหลอก? หรือไม่ก็…เธอกำลังฝัน?”

หลินซิงหั่วพยักหน้าอย่างหนักแน่น: “ฉันคิดว่าเธอน่าจะถูกหลอกแล้ว ไม่อย่างนั้นฝ่ายตรงข้ามที่ฐานะดีขนาดนี้จะมานัดบอดกับเธอทำไมล่ะ!”

“เธอว่าน้องสาวแรงเกินไปแล้ว!”

เฉินเฟยหมดคำพูด

หลินชิงชิงก็ตอบข้อความกลับมาใหม่

หลินชิงชิง: [พี่สาว รูปผู้หญิงที่คุณเพิ่งส่งมาในกลุ่มเป็นใครเหรอ? เทพธิดาของคุณ? เป็นดาราหญิงด้วยเหรอ? ทำไมฉันถึงไม่เคยเห็น!]

หลินซิงหั่ว: {อ๋อ ไม่ใช่ดาราหญิง เป็นนักออกแบบที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ}

หลินชิงชิง: {นักออกแบบ?}

แล้วหลินซิงหั่วก็นึกอะไรออก ก่อนหน้านี้หานมู่จื่อบอกกับตนเองว่าบริษัทของเธอเพิ่งจะเปิด ถ้าแนะนำให้หลินชิงชิงล่ะก็

พอคิดถึงตรงนี้ หลินซิงหั่วก็ยกยิ้มและตัดสินใจบางอย่างแล้วหันไปหาเฉินเฟยที่กำลังเช็ดเหงื่อบางส่วนตรงมุมหน้าผากอยู่ด้านข้าง แล้วก็มักจะรู้สึกตลอดว่ามีคนกำลังจะประสบหายนะอีกแล้ว

เพิ่งจะได้รับคำสั่งซื้อจากหลินซิงหั่วเมื่อไม่นาน ก็มีคนมาที่บริษัท หลังจากที่เห็นผลงานการออกแบบของเธอแล้วก็รู้สึกชอบมาก จึงอยากจะออกแบบชุดราตรี

เมื่อมีลูกค้าเข้ามาหานมู่จื่อก็ต้อนรับอย่างเป็นธรรมชาติ

“ความจริงแล้วลูกพี่ลูกน้องเป็นคนแนะนำให้ฉันมา” หลินชิงชิงบอกฐานะของตนเองอย่างชัดเจน ยิ้มแล้วเอ่ยอย่างเป็นมิตร: “ได้ยินมาว่าคุณเป็นเทพธิดาของพี่สาวฉัน หลังจากที่เธอแนะนำผลงานของคุณให้ฉัน พอฉันเห็นแล้วก็รู้สึกว่ามันสวยมาก”

ลูกพี่ลูกน้องหญิงคนนี้ไม่ต้องพูดแล้ว…

หานมู่จื่อก็พอจะเดาออกแล้วว่าใคร

เธอยิ้มเล็กน้อย แล้วยื่นมือออกไปทางหลินชิงชิง: “ฉันรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมาก ขอบคุณค่ะ”

“ไม่เป็นไร ในเมื่อคุณเป็นเทพธิดาของพี่สาวฉัน อย่างนั้นคุณก็เป็นเทพธิดาของฉันด้วย ชุดออกแบบของฉัน……ต้องพึ่งคุณแล้ว!”

“ได้ค่ะ” หานมู่จื่อพยักหน้า หลังจากนั้นก็มองเสี่ยวเหยียนแวบหนึ่ง เสี่ยวเหยียนรีบลุกขึ้นแล้วก้าวไปข้างหน้า : “ขออนุญาตถามคุณผู้หญิงท่านนี้ คุณมีความต้องการพิเศษสำหรับการออกแบบชุดหรือไม่?”

“ความต้องการ?” หลินชิงชิงเลิกหางตาขึ้นสักพัก หลังจากนั้นมองหานมู่จื่อ: “ความต้องการหนึ่งเดียวของฉันคือหวังว่าShellyจะออกแบบให้ฉันด้วยตนเอง”

เสี่ยวเหยียน: “……”

ที่แท้ก็พุ่งเป้ามาที่มู่จื่อ

“คุณหลินถ้าแบบนั้น คุณ Shelly นักออกแบบของพวกเราอาจจะ……”

“คุณคงจะไม่ได้ปฏิเสธหรอกนะ?” หลินชิงชิงมองไปทางหานมู่จื่อ “แต่ฉันมาเพราะคุณเลยนะ~”

หานมู่จื่อเงียบไปสักพัก หลังจากนั้นพยักหน้า: “ได้ ฉันจะออกแบบให้คุณด้วยตัวเอง”

หลินชิงชิงยิ้มออกมาทันที: “อย่างนั้นก็ขอบคุณนะคะ ความต้องการตอนนี้ฉันยังคิดไม่ออก รอฉันคิดออกแล้วจะโทรศัพท์หาคุณ”

“ได้ค่ะ”

ดังนั้นทั้งสองฝ่ายจึงได้แลกเบอร์โทรกัน

หลังจากที่รอให้หลินชิงชิงจากไป เสี่ยวเหยียนก็พูดอย่างไม่พอใจ: “ถ้าเธอออกแบบให้หล่อนล่ะก็ ค่าใช้จ่ายก็ต้องสูงขึ้นกว่านี้สิ? แต่เธอกลับคิดตามราคาแบบกลุ่ม”

“ไม่เป็นไร ถือเสียว่าเป็นการโปรโมทบริษัทก็พอแล้ว เธอคิดดู หลินซิงหั่วคนเดียวก็พาหลินชิงชิงมาอีกคนแล้ว ไม่แน่ว่าหลังจากนี้หลินชิงชิงคนนี้อาจจะแนะนำลูกค้าคนอื่นมาให้พวกเราก็ได้นิ?”

เพียงแต่……ถ้าเธอรู้ว่าหลินชิงชิงจะแนะนำให้ลูกค้าที่เธอเคยรู้จักมาก่อนคนนั้นล่ะก็หานมู่จื่อคงจะไม่คิดแบบนี้ไปตลอดชีวิต

ในที่สุดบริษัทก็ค่อย ๆ ดำเนินมาตามแนวทางที่ถูกต้องภายใต้การปรับปรุงของหานมู่จื่อถึงแม้จะมีคนบ่นอยู่ แต่หานมู่จื่อก็มีท่าทีที่เข้มแข็งมาก คนที่อยากจะเปิดฉากหาเรื่องก็ทำไม่ได้

ไม่เพียงแต่แบบร่างต่างถูกส่งกลับ หลังจากนั้น หานมู่จื่อที่มีใบหน้าเย็นชาก็ขอให้พวกเธอส่งกลับมาใหม่ในอีกสองวัน

ผลปรากฏว่าแบบร่างที่ใช้เวลาสองวันยังสู้ที่ส่งมาก่อนหน้านี้ไม่ได้หานมู่จื่อพยายามระงับความโกรธในใจลง แล้วนำผลงานมาวางไว้บนโต๊ะก่อนที่จะกวาดสายตามองทุกคน

“นี่คือระดับความสามารถของพวกคุณเหรอ? เหล่านักออกแบบหัวกะทิ?”

พอจางยู่ได้ยินก็โมโหขึ้นมาทันที ขมวดคิ้วพร้อมสายตาเย็นชาแล้วลุกขึ้นยืน “คุณพูดแบบนี้หมายความว่าอย่างไร? ระดับความสามารถของพวกเราทำไม? พอเข้ามาก็ส่งงานเหล่านี้ให้พวกเรา? จริง ๆ แล้วตัวคุณเองมีความสามารถหรือเปล่า บางทีอาจจะเป็นแค่มือใหม่ที่ไม่รู้เรื่องอะไรสักอย่าง ยังมาชี้นิ้วสั่งให้พวกเรา”

พอได้ยินหานมู่จื่อก็ใช้สายตาเย็นชาจ้องมองเธอ

สายตาเย็นชานั้นไม่มีความอบอุ่นแม้แต่น้อย ราวกลับจะแช่แข็งจางยู่อยู่กับที่

จางยู่ราวกับสัมผัสได้ถึงความกดดันภายใต้สายตาที่ทรงอำนาจของเธอ จึงหดคอลงอย่างหวาดกลัวเล็กน้อย แต่ก็ยังพูดอย่างไม่กลัวตายว่า: “ฉันพูดผิดเหรอ? ตัวคุณเองจะออกแบบผลงานอะไรออกมาได้ ถือดีอย่างไรมาบอกว่าความสามารถของพวกเราไม่พอ?”

หานมู่จื่อไม่พูดอะไร เพียงแค่ยื่นผลงานของพวกเขาไปให้เสี่ยวเหยียน “เอาไปถ่ายเอกสารจากนั้นส่งให้พวกเขา”

เสี่ยวเหยียนรับเอกสารมาแล้วรีบไปถ่ายสารอย่างรวดเร็ว

จางยู่กลับคิดว่าเธอไม่กล้าพูดอะไรเพราะคำพูดของตนเอง จึงได้เหยียดตัวตรงแล้วพูดอย่างหยิ่งยโส: “ฉันพูดแทงใจดำคุณล่ะสิ? ตัวคุณเองวาดรูปไม่เป็นจริง ๆ สินะ”

เลิงเยาเยาก็ชายตามองแล้วหัวเราะเธอ: “ทิ้งผลงานของพวกเรา ถ้ามีความสามารถคุณก็วาดเองสักรูปสิ นี้เป็นแค่แบบร่าง คุณยังเรื่องมากขนาดนี้ ฉันก็อยากเห็นว่าคุณจะมีความสามารถสักแค่ไหนเชียว”

ไม่ว่าพวกเธอจะเยาะเย้ยตนเองอย่างไร หานมู่จื่อก็ไม่ตอบและรอคอยอย่างสงบ

เสี่ยวเหยียนกลับมาอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นนำแบบร่างที่ถ่ายเอกสารเสร็จแล้วเหล่านั้นส่งให้ถึงมือทุกคน

หานมู่จื่อพลิกเปิดแบบดูต้นฉบับเดิมแล้วกวาดตามองทีละแผ่น

“ฉันไม่ได้ให้ข้อจำกัดใด ๆ กับพวกคุณ เพราะอยากให้พวกคุณทุกคนพูดคุยปรึกษากันหลังจากนั้นให้โอกาสพวกคุณตามหาลักษณะพิเศษและจุดเด่นบนร่างของเธอแล้วออกแบบชุดที่เข้ากับหลินซิงหั่วยิ่งไปกว่านั้น ควรที่จะแสดงถึงสัดส่วนร่างกายของเธอออกมาให้สมบูรณ์แบบที่สุด แน่นอน ในส่วนของท่วงท่าและสัดส่วนรูปร่างจุดนี้พวกคุณทำได้ดีมาก แต่พวกคุณกลับพลาดจุดสำคัญที่สุดไปอย่างหนึ่ง”

“ตลกเกินไปแล้ว” จางยู่หัวเราะออกมา: “คุณบอกว่าพวกเราพวกเราจับจุดเรื่องสัดส่วนของรูปร่างได้ดี อย่างนั้นคุณยังมีอะไรดี ๆ จะพูดอีก?”

หานมู่จื่อมองเธออย่างราบเรียบแวบหนึ่ง แล้วพูดต่อ: “จางยู่ ฉันคิดว่าคุณคงจะไม่ได้เรียนรู้หลินซิงหั่วก่อนที่จะออกแบบชุดราตรีนี้สินะ”

จางยู่อึ้งไปสักพัก เธอรู้ได้อย่างไร?

“คุณพูดไร้สาระอะไร?”

“อันดับแรก สไตล์ที่คุณออกแบบไม่สอดคล้องกับนิสัยใจคอของหลินซิงหั่ว ดูจากแบบร่างของคุณ ผลงานออกแบบชิ้นนี้ของคุณคงจะเป็นประเภทมีชีวิตชีวามีพลัง เหมาะสำหรับเด็กสาวที่เพิ่งเดบิวต์มากกว่า”

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ ถูกบังคับเป็นตัวแทนของงานแต่งงานนี้ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่พิการแต่กลับมีอำนาจใหญ่ “ฉันเย่โม่เซินไม่เอาผู้หญิงที่ท้องและไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใครเด็ดขาด”เดิมทีคิดว่างานแต่งงานนี้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอกลับเผลอใจ ไปไปมามา สุดท้ายเธอก็จากไปด้วยความเสียใจผ่านไปหลายปี ลูกชายที่หน้าตาคล้ายกับเขามากตบหัวของเย่โม่เซินด้วยฝ่ามือเล็กๆ“พ่อคนร้าย นายว่าใครเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเป็นใคร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset