เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ – ตอนที่ 507 ไม่ตัดใจ

บทที่ 507 ไม่ตัดใจ

จะกลับมาอีกทำไมอย่างงั้นหรือ?

จำได้ว่าคำถามนี้เธอไม่ใช่คนแรกที่ถาม

ดูเหมือนว่ามีหลายคนล้วนถามคำถามนี้กับเธอ หลังจากที่พวกเขารู้เรื่องราวในอดีต

กลับมาทำไม?

เธอเกิดและเติบโตที่นี่ เธอจากไปอย่างน่าเศร้าเมื่อห้าปีที่แล้ว จากนั้นก็เปลี่ยนชื่อนามสกุลตัวเอง

ตอนนี้เธอคิดว่าเธอสามารถเผชิญหน้ากับเรื่องราวทั้งหมดนี้ได้ เธอจึงอยากจะกลับมา มันผิดงั้นหรือ?

เธอค่อยๆเงยหน้ามองหลินชิงชิง “เรื่องที่ฉันกลับมา เกี่ยวอะไรกับเธอ?”

ทำไมคนหลายๆคนมักถามคำถามนี้กับเธอ เธออยากกลับก็แค่กลับ

“เพราะเขาใช่ไหม?”หลินชิงชิงกัดริมฝีปากและถามอย่างไม่พอใจ “เธอมีท่าทีเย็นชากับเขา ไม่ใช่เพราะเธออยากกลับมาหาเขางั้นหรือ?”

หานมู่จื่อพูด “แล้วเกี่ยวอะไรกับเธอ?”

“เกี่ยวสิ”หลินชิงชิงยังมีท่าทีไม่พอใจ “ถ้าเธอไม่ชอบเขา ฉันก็ยังพอมีโอกาส แต่ถ้าเธอต้องการให้เขากลับไป ฉันก็ไม่มีโอกาสเลยสักนิด”

“…”

หานมู่จื่อมีผลต่อเธอจริงๆ หลังจากทำสิ่งเหล่านั้นแล้ว ในหัวของเธอก็ยังคิดถึงแต่เย่โม่เซิน เธออ้าปากค้างหัวเราะด้วยความขบขัน “แม่เธอบอกว่าเธอสำนึกผิดแล้ว และอยากจะขอโทษฉันด้วยความจริงใจนี่? นี่เธอสำนึกผิดแล้วจริงๆน่ะหรือ?”

“ฉันสำนึกผิดแล้วกับฉันชอบเขามันคนละเรื่อง ฉันผิดเองเรื่องสาดน้ำกรด เพราะตอนนั้นฉันคิดว่าเธอแย่งเขาไปจากฉันจริงๆ ฉันจึงทำเรื่องที่ไม่น่าให้อภัยแบบนี้กับเธอ ฉันสำนึกผิดจากใจจริง ฉันขอโทษเธอ แต่ว่า…”

“แต่ว่าเธอยังตัดใจจากเขาไม่ได้ เธอคิดว่าตัวเองยังมีโอกาส?”

สิ่งที่หลินชิงชิงพูดมา เธอไม่ได้ปฏิเสธและทำได้เพียงหรี่ตาลง

“ฉันชอบเขาจริงๆ ฉันรู้ว่าเธอเป็นอดีตภรรยาของเขา แต่ถ้าหากเธอไม่ได้มีความรู้สึกอะไรกับเขา เธอก็ให้โอกาสคนอื่นไม่ได้หรือ? ครั้งนี้เป็นความผิดของฉันเอง ฉันสำนึกผิดแล้ว ขอโทษเธอจากใจจริง!!”

พอพูดจบหลินชิงชิงก็ลุกขึ้นยืนจ้องหน้าหานมู่จื่อ จากนั้นก็โค้งตัวขอโทษเธอ

หานมู่จื่อค่อนข้างแปลกใจ เธอคิดว่าคงเป็นเรื่องยากสำหรับคนคนนี้ที่จะขอโทษใครสักคน เธอไม่ได้คาดหวังว่าทัศนคติของเธอจะดีขนาดนี้ หรือเป็นเพราะเธอรู้ความจริง เธอจึงมีท่าทีเปลี่ยนไป?

หัวใจของผู้หญิงเป็นแบบไหนกันนะ?

เดิมทีเรื่องนี้ทำไปเพราะเห็นแก่หน้าของน้าส้ง และตอนนี้เธอเต็มใจที่จะขอโทษ อีกทั้งยังสำนึกผิดจากใจจริง เรื่องนี้จึงถือว่าเป็นเรื่องที่ดีสำหรับหานมู่จื่อ

อย่างน้อยเธอจะได้ไม่ลำบากใจ

“หลังจากออกมาแล้ว เธอจะพุ่งเป้ามาที่ฉันอีกไหม?”หานมู่จื่อถาม

พอได้ยินดังนั้นหลินชิงชิงก็นิ่งไปสักพัก จากนั้นก็ส่ายหน้า

“แม้ว่าฉันจะเกลียดเธอ แต่ฉันก็ไม่ได้เป็นคนที่ไร้เหตุผลขนาดนั้น ก่อนหน้านี้ฉันคิดว่าเธอจงใจ ดังนั้นฉันจึงอยากให้เธอได้รับบทเรียน น้ำกรดนั่นเป็นน้ำกรดที่เจือจางแล้ว ไม่ได้ร้ายแรงอะไรขนาดนั้น เพราะไม่อย่างนั้นล่ะก็…”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หานมู่จื่อก็เหลือบตาขึ้น “เธอยังกล้าคิดว่าตัวเองทำดีเพียงเพราะน้ำกรดนั้นถูกเจือจางหรือ?”

หลินชิงชิงเบ้ปาก “เปล่า ฉันก็เเค่ตรวจสอบดูแล้วถึงได้รู้ว่ามันไม่ได้อันตรายขนาดนั้น เพราะฉะนั้น…”

“……”

หานมู่จื่อไม่รู้จริงๆว่าเธออยากบอกอะไร เธอหลับตา “ถึงฉันจะยกโทษให้เธอแล้ว แต่เย่โม่เซินเป็นคนที่ได้รับบาดเจ็บ อย่างไรเธอก็ควรได้รับการสั่งสอน”

“ฉันรู้”หลินชิงชิงลดศีรษะลง “เรื่องนี้ฉันผิดเอง ฉันสำนึกผิดแล้ว หากในอนาคตฉันกล้าลงมือกับพวกเธออีก ก็ขอให้ฟ้าดินลงโทษฉัน อีกอย่างหนึ่งฉันคิดว่าจะอยู่ที่นี่ทบทวนตัวเองสักพัก”

“หวังว่าเธอจะทำได้อย่างที่พูด”หานมู่จื่อเม้มริมฝีปากแล้วลุกขึ้น “หากเธอไม่ได้สำนึกอย่างจริงใจ มันจะทำให้แม่ของเธอเจ็บปวดอย่างแท้จริง อันที่จริงไม่ใช่เพราะฉันยกโทษให้เธอหรอกนะ แต่…ฉันไม่อยากทำร้ายแม่ของเธอ”

พอพูดจบ หานมู่จื่อก็หันกลับไป

หลินชิงชิงยังคงนั่งอยู่ที่นั่นและคิดทบทวนคำพูดของหานมู่จื่อ จากนั้นก็มีปฏิกิริยาสนอง หรือว่า…เพราะแม่ของเธอไปขอร้องหานมู่จื่อ แล้วทำให้เธอสะเทือนใจ?

*

หลังจากที่หานมู่จื่อเดินออกมา เธอก็กลับไปโรงพยาบาลพร้อมกับเย่โม่เซิน

ส้งอานน่าจะมีธุระต่อจึงให้พวกเขาทั้งสองคนกลับไปก่อน จากนั้นก็กลับเข้าไปข้างในอีกครั้งพร้อมกับคุณแม่หลิน

หลังจากที่หานมู่จื่อพาเย่โม่เซินกลับไปที่โรงพยาบาล เธอก็ถามถึงอาการบาดเจ็บของเขา

“ไม่ต้องเป็นห่วงอาการบาดเจ็บของผมตลอดเวลาหรอก ถ้าคุณเต็มใจดูแลผมสักนิด แผลของผมก็จะได้หายไวๆ”

หานมู่จื่อ “…”

หลังจากมองเย่โม่เซินอย่างเงียบๆ เธอก็เก็บของเเล้วพูดว่า “เรื่องทางนี้ก็จัดการเรียบร้อยหมดแล้ว ส่วนแผลของคุณ…”

“อาการผมเริ่มดีขึ้นแล้ว? คุณก็จะไปงั้นหรือ?”เย่โม่เซินมองเธอที่กำลังเก็บของ “หรือว่าเป็นเพราะผู้หญิงคนนั้นขู่คุณ คุณเลยต้องอยู่ห่างๆผม?”

มือที่กำลังเก็บของของหานมู่จื่อชะงักไปสักพัก จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมามองเขา

“เปล่า คุณคิดมากไปแล้ว ฉันก็แค่เก็บของก่อนแค่นั้นเอง”

“ตอนแรกคุณวางแผนว่าจะคอยดูแลผมตอนที่ยังบาดเจ็บ แต่พอผมสามารถเคลื่อนไหวด้วยตัวเองได้แล้ว คุณก็จะไปใช่ไหม?”

หานมู่จื่อเม้มริมฝีปากและมองเย่โม่เซินอย่างเงียบๆ

เธอมีความคิดที่จะทำแบบนั้นจริงๆ แต่เห็นได้ชัดว่าเย่โม่เซินดูงี่เง่ากว่าที่เธอคิดไว้มาก ดังนั้นตอนนี้เธอจึงไม่รู้ว่าควรกลับไปที่บริษัทดีหรือไม่

เธอคิดอยู่สักพักก็พูดอย่างมีชั้นเชิง

“ไม่ใช่แบบนั้น แต่แค่บริษัทของฉันยังมีธุระที่ต้องจัดการอีกมาก คุณก็รู้ว่าบริษัทฉันทำอะไร ฉันใช้เวลามากมายในการดูแลคุณ งานที่บริษัทก็กองเป็นภูเขาแล้ว อีกอย่างคุณก็เริ่มดีขึ้นแล้ว ฉันจะได้กลับไปจัดการงานที่บริษัท”

“จัดการเสร็จแล้ว?”

เธอพยายามระงับอารมณ์ เห็นได้ชัดว่าเย่โม่เซินไม่คิดจะปล่อยเธอไป เขาถามแกมบังคับ

หานมู่จื่อจะตอบคำถามพรรค์นี้อย่างไรดี

เธอได้เพียงแต่ยิ้ม “ยังมีงานอีกมาก เกรงว่าอีกนานกว่าจะเสร็จ”

แววตาเฉียบคมจ้องมองเธอราวกับมีด หานมู่จื่ออดไม่ได้ที่จะถอยหลังและไอเล็กน้อย “เอาไว้ฉันจะมาเยี่ยมคุณบ่อยๆ”

ทันทีที่พูดจบ เย่โม่เซินก็พูดขึ้นมาว่า “ตราบใดที่ผมยังไม่หายดี คุณจะไม่ทิ้งผมไปใช่ไหม?”

หานมู่จื่อ “อะไรนะ?”

“แบบนี้ใช่ไหม?”เย่โม่เซินถามซ้ำแล้วซ้ำเล่าราวกับต้องการคำยืนยัน “ใช่ไหม?”

“……”

หานมู่จื่อสูดหายใจและมองเย่โม่เซินอย่างจริงจัง “ฉันเคยพูดไปชัดเจนแล้ว คุณยังต้องการอะไรอีก? คุณเอาแต่ถามฉันแบบนี้เพื่อต้องการขู่ฉันหรือ? เย่โม่เซิน ถ้าคุณกล้าพูดประโยคนี้มาอีกล่ะก็ ถึงคุณตาย ฉันก็จะไม่ชายตามองคุณเลยสักครั้ง!”

เธอพูดในสิ่งที่เธอต้องการจะพูดออกมาก่อน เพื่อที่พอถึงเวลาเย่โมเซินจะได้ไม่ทำร้ายตัวเองจริงๆ สายตาและท่าทางของเขาทำให้เธอมีลางสังหรณ์บางอย่าง

อันที่จริงเย่โม่เซินแค่อยากจะถามเธอเท่านั้น ไม่ได้มีความคิดจะทำร้ายตัวเอง ทว่าพอเขาเห็นสายตาจริงจังของเธอตอนที่พูดประโยคเหล่านั้นออกมา เขาก็อดไม่ได้ที่จะยกมุมปากอันเรียวบางขึ้น

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ ถูกบังคับเป็นตัวแทนของงานแต่งงานนี้ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่พิการแต่กลับมีอำนาจใหญ่ “ฉันเย่โม่เซินไม่เอาผู้หญิงที่ท้องและไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใครเด็ดขาด”เดิมทีคิดว่างานแต่งงานนี้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอกลับเผลอใจ ไปไปมามา สุดท้ายเธอก็จากไปด้วยความเสียใจผ่านไปหลายปี ลูกชายที่หน้าตาคล้ายกับเขามากตบหัวของเย่โม่เซินด้วยฝ่ามือเล็กๆ“พ่อคนร้าย นายว่าใครเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเป็นใคร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset