เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ – ตอนที่ 532 กล่าวโทษ

บทที่532 กล่าวโทษ

“คิดว่าอะไร ? คิดว่าเธอท้องกับพี่ใหญ่นายเย่หลิ่นหานงั้นเหรอ ? คิดว่าเธอเลือกเย่หลิ่นหานไม่ใช่นาย ?” ส้งอานจี้ถามอย่างไม่ลดละ

เย่โม่เซินไม่ได้พูดอะไรอีก เพราะสิ่งที่ส้งอานพูดนั้นถูกต้องทั้งหมด

เขาเม้มปาก สีหน้าย่ำแย่มาก บรรยากาศรอบตัวเย็นยะเยือกไปหมด

“นายรู้ไหมระหว่างพวกนายสิ่งที่น่ากลัวที่สุดคืออะไร ไม่มีความเชื่อใจไงล่ะ”

ความเชื่อใจ ?

ม่านตาของเย่โม่เซินหดตัวเล็กน้อย

ส้งอาน “ไม่ว่าจะเป็นคู่รักหรือสามีภรรยา นี่ก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุด ที่จริงแล้วคู่รักส่วนใหญ่บนโลกนี้ต่างยังมีความเชื่อใจกันไม่มากพอ แค่ถูกสายลมแผ่วเบาพัดผ่านก็ทำให้ตัดขาดกันได้แล้ว และในช่วงเวลาส่วนใหญ่ การอธิบายก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย”

เมื่อพูดถึงตรงนี้ แววตาของส้งอานก็ฉายแววปวดร้าวเล็กน้อย ราวกับกำลังหวนนึกถึงอดีตของตัวเอง

เมื่อเห็นว่าเขาไม่พูดไม่จา ส้งอานก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองพูดออกไปจะเข้าหูเขาบ้างหรือเปล่า ก่อนจะพูดอย่างหนักแน่นว่า “ในฐานะน้าของนาย ฉันก็แค่หวังดีกับนายเท่านั้น น้ามีนายเป็นหลานชายคนเดียว ฉันเองก็ไม่ได้แต่งงานและไม่มีลูก คิดว่าคงจะเป็นแบบนี้ไปตลอดชีวิต ดังนั้นน้าไม่มีวันทำร้ายนาย เรื่องนี้นายก็ลองคิดดูให้ดีแล้วกัน ใต้ฟ้ายังมีผู้หญิงดีๆอีกมากมาย อย่าทำให้คนอื่นและตัวเองลำบากใจเลย คืนนี้ฉันจะกลับเมืองซูแล้ว ถ้ามีเวลานายก็อย่าลืมมาเยี่ยมน้าบ้างนะ”

เมื่อได้ยินว่าเธอกำลังจะไป แม้ว่าสีหน้าของเย่โม่เซินจะย่ำแย่ขนาดไหน แต่ก็ต้องพยักหน้ายามรับไปทีหนึ่ง

หลังจากวันที่ถูกเย่โม่เซินพังงานดูตัวไป ฉินหยานคนนั้นก็ติดต่อเธอมาแค่ครั้งเดียว พูดกับหานมู่จื่อว่าขอโทษคำหนึ่ง บอกว่าเขาไม่อาจท้าทายอำนาจของตระกูลเย่ได้ ดังนั้นเรื่องงานดูตัวในวันนั้นก็ให้ทำเหมือนไม่เคยเกิดขึ้น

ความคิดแบบนี้ทำให้หานมู่จื่อรู้สึกปลื้มปีติมาก ดังนั้นก็เลยไม่ได้ตอบข้อความกลับไป

กลางคืนตอนที่ทานข้าวกันหานชิงก็ถามถึงความคืบหน้าของเธอกับฉินหยาน หานมู่จื่อก็ทำได้แค่ยิ้มและตอบกลับไปว่า “ไม่เข้าตาค่ะ”

สีหน้าของหานชิงดูไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่ แล้วพูดออกไปอย่างไม่แยแสว่า “งั้นก็เปลี่ยนอีกคน”

“พี่คะ !” หานมู่จื่อขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ “พี่คิดว่ากำลังขายของเหรอ อันนี้ไม่เอาก็เปลี่ยนอีกอัน”

“ดูตัวก็แบบนี้ไม่ใช่เหรอ ? ถ้าไม่ชอบก็แค่เปลี่ยนอีกคน เรื่องธรรมดาจะตาย” หานซิงพูดออกมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย

หานมู่จื่อคิดถึงวันดูตัวที่เย่โม่เซินโผล่ไปทำลายงาน จากนิสัยของเขาแล้วหากเธอยังหาคู่ดูตัวต่อไป ยังไงก็คงไม่มีทางสำเร็จ คนอย่างเขา คงไม่คิดรามือง่ายๆแน่

เมื่อคิดถึงจุดนี้ หานมู่จื่อก็พูดขึ้นมาว่า “ช่างเถอะค่ะ ไม่ต้องแนะนำให้ฉันแล้ว เรื่องนี้ฉันจะคิดด้วยตัวเอง”

หานซิงขมวดคิ้ว “เธอจะคิดด้วยตัวเอง ? ห้าปีมานี้ก็ไม่เห็นว่าเธอจะไปไหนมาไหนกับใครเลย ตอนอยู่เมืองนอกเธอปฏิเสธคนที่เข้ามาแล้วตั้งกี่คน พวกนั้นเป็นคนที่ยอดเยี่ยมทั้ง……..”

“พี่คะ !” หานมู่จื่อตัดบทเขาทันที “ยังไงฉันก็ไม่อยากไปดูตัวแล้ว พี่เป็นพี่ชาย พี่ก็คอยเป็นคนคัดกรองให้ฉันแล้วกัน ไม่อย่างนั้นฉันไม่มีทางไปดูตัวเด็ดขาด”

อาจจะเป็นเพราะกำลังโมโห เมื่อหานมู่จื่อพูดจบก็ลุกขึ้นเดินจากไปทันที

หานซิง “……”

ลุงหนานที่อยู่ข้างๆพอเห็นแล้ว ก็ทำได้แค่ยิ้มเจื่อนๆ ก่อนจะพูดเพื่อผ่อนคลายบรรยากาศ “นิสัยของคุณมู่จื่อ ยังเป็นเด็กอยู่เลยนะครับ ฮ่าฮ่าฮ่า”

เมื่อได้ยินแบบนั้น คิ้วของหานซิงก็ขมวดขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ “เธอไม่ใช้เด็กแล้ว”

ลุงหนานพูดอย่างอ่อนโยน “นายท่าน ยังไงคุณมื่อจื่อก็เป็นน้องสาวของคุณ ต่อหน้าคนในครอบครัวยังไงก็ต้องแสดงนิสัยเด็กๆออกมาอย่างเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้วครับ”

เมื่อพูดแบบนี้ ก็ดูเหมือนจะสมเหตุสมผล

เงียบไปครู่หนึ่ง หานซิงก็ดูเหมือนจะคิดอะไรขึ้นมาได้อีก

“ดูเหมือนว่า ฉันยังไม่เคยเปิดเผยตัวตนของเธอต่อหน้าสาธารณะเลยใช่ไหม”

ตอนแรกลุงหนานก็ชะงักไปเล็กน้อย ผ่านไปครู่หนึ่งก่อนจะได้สติกลับมา “คุณท่านลืมแล้วเหรอครับ ก่อนหน้านี้ตอนกลับประเทศคุณเคยพูดว่าจะจัดงานเปิดตัวคุณมู่จื่อให้ทุกคนรู้จัก แต่ว่าคุณมู่จื่อรู้สึกว่าแบบนั้นมันเอิกเกริกเกินไป ก็เลยปฏิเสธคุณไป”

“งั้นตอนนี้ก็เริ่มจัดเตรียมเลยเถอะ”

ลุงหนานรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “คุณท่าน ?”

“ถ้าหากเธอไม่อยากดูตัว ก็ให้เธอปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณะซะ ลูกหลานตระกูลหานของฉัน ไม่ขาดแคลนคนหมายปองหรอก”

ลุงหนานนิ่งอึ้งไปเล็กน้อย “แบบนี้……ต้องบอกคุณมูจื่อก่อนหรือเปล่าครับ ?”

“ไม่ต้อง” หานซิงทำสีหน้าครุ่นคิดเล็กน้อย ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “รอถึงเวลาค่อยเรียกตัวเธอออกไปก็พอ ถ้าอยู่กลางงาน ถึงอยากจะปฏิเสธก็ปฏิเสธไม่ได้แล้ว”

เหมือนว่าหานซิงจะคิดอะไรขึ้นมาได้ สายตาฉายแววเย็นชา “เย่โม่เซิน หลังจากทำร้ายเธอมามากมายขนาดนั้น ยังกล้าคิดจะกลับมาขอคืนดีกับเธออีก ต้องดูด้วยว่าพี่ชายอย่างฉันจะยอมหรือเปล่า”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ลุงหนานเองก็รู้ดี ยังไงเขาก็เป็นคนเก่าคนแก่ของตระกูลหานแล้ว อีกอย่างก็คอยอยู่ข้างตัวหานซิงมาตลอด ตอนนั้นหลังจากที่มู่จื่อไปต่างประเทศแล้วเขาก็ต้องไปโน่นไปนี่กับหานซิงหลายที่ และคอยจัดการหลายเรื่อง

และเรื่องการหย่าก็เป็นหนึ่งในนั้น ดังนั้นหานซิงก็เลยรู้เรื่องราวที่คนรอบข้างไม่รู้อยู่มากมาย

รวมถึงเรื่องราวของหานมู่จื่อกับเย่โม่เซินในตอนนั้นด้วย

“คุณท่าน แบบนี้คุณมูจื่อ……จะไม่พอใจหรือเปล่าครับ ?”

“อีกหน่อยเธอจะรู้เอง ว่าฉันทำไปก็เพราะหวังดีกับเธอ”

น้องสาวที่เขาตามตัวกลับมาอย่างยากลำบาก จะปล่อยให้คนนอกมารังแกได้ยังไง

ถ้ารังแกไปแล้ว งั้นก็ต้องเอาคืนเป็นร้อยเท่า ก็แค่ฝ่ายตรงข้ามดันเป็นเย่โม่เซินเลยทำให้เขาจัดการยากมาโดยตลอด เพราะว่าอำนาจบริษัทที่อยู่ในมือของคนๆนี้อยู่เหนือกว่าตัวเอง หลายปีมานี้เขาก็คอยขัดแข้งขัดขาตลอด แต่ก็ถูกเย่โม้เซินจัดการแก้ไขได้อย่างง่ายดาย

คำว่าพี่เขยในวันนั้นทำให้หานซิงจุกอกมาจนถึงตอนนี้

ถ้าเกิดแตะต้องไม่ได้ ก็ต้องหาบ้านที่ดีให้กับมู่จื่อแทน

*

เมื่อหานซิงออกคำสั่งไปแล้ว งานเลี้ยงก็เริ่มเตรียมการขึ้น จ้างคนมามาก เลยทำให้เวลาในการเตรียมการรวดเร็วตามไปด้วย อีกอย่างงานเลี้ยงก็จัดในสวนของบ้านตระกูลหาน

พวกหานมู่จื่อกับเสี่ยวหมี่โต้วอยู่ในคอนโดที่ตัวเองซื้อ ดังนั้นก็เลยไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นในบ้านตระกูลหาน

แต่ว่าช่วงนี้หานมู่จื่อก็ใช้ชีวิตอย่างสบายใจดีเหมือนกัน เพราะเย่โม่เซินไม่ได้มาตอแยเธออีก คงเป็นเพราะเขาเข้าใจสิ่งที่เธอพูดในวันนั้นแล้ว

อีกอย่างงานออกแบบของฝั่งเลิงโย่วโย่วก็ได้เริ่มขึ้นแล้ว

ดังนั้นหานมู่จื่อก็เลยคิด ว่าต่อไปเธอกับเย่โม่เซินก็คงไม่ต้องเจอหน้ากันแล้ว

ในเวลาเดียวกันทางบริษัทก็ได้เริ่มโปรเจคงานออกแบบตัวใหม่ หานมู่จื่อคิดว่าจะหาเวลาทำโปรโมทดีๆ เอฟเฟกต์ของพวกดารายังคงทรงพลังมาก ช่วงนี้ทางบริษัทก็เลยมีงานเข้ามามากมาย

ทุกคนในบริษัทก็เริ่มงานยุ่งกันหมด คนที่ก่อนหน้านี้มีความเคลือบแคลง หรือไม่เคลือบแคลง ตอนนี้ก็ไม่มีเวลาไปคิดอย่างอื่นแล้ว

หานมู่จื่อดีต่อลูกน้องมาก รับปากไว้ว่าขอแค่งานที่ออกแบบถูกใจลูกค้า ก็จะได้โบนัสห้าเปอร์เซ็นต์ของยอดขาย คุ้มค่าขนาดนี้ยังไงทุกคนก็ต้องเต็มใจเข้าร่วมอยู่แล้ว

เมื่อการดำเนินงานของบริษัทเริ่มกลับเป็นปกติ ทุกอย่างก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา

เพียงแต่วันนี้หลังจากเลิกงานแล้ว หานมู่จื่อก็ได้รับข้อความจากหานซิง ให้เธอกลับไปบ้านตระกูลหานคืนนี้

หานมู่จื่ออยากจะถามเขาว่ามีเรื่องอะไร แต่ฝั่งตรงข้ามก็ไม่ได้บอกรายละเอียด หานมู่จื่อก็เลยทำได้แค่ตอบตกลงไป

หลังจากวางสาย หานมู่จื่อกับเสี่ยวเหยียนก็กำลังเตรียมตัวจะไปรับเสี่ยวหมี่โต้วกลับบ้าน แต่คุณครู่ที่โรงเรียนกลับแจ้งว่า ก่อนหน้านี้หานซิงมารับตัวเสี่ยวหมี่โต้วกลับไปแล้ว

ทั้งสองคนสบตากันครั้งหนึ่ง จากนั้นเสี่ยวเหยียนก็พูดขึ้นอย่างสุดจะทน “ทำบ้าอะไรเนี่ย ? ทำไมจู่ๆถึงรับตัวเสี่ยวหมี่โต้วไป รู้สึกว่าต้องมีอะไรแน่”

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ ถูกบังคับเป็นตัวแทนของงานแต่งงานนี้ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่พิการแต่กลับมีอำนาจใหญ่ “ฉันเย่โม่เซินไม่เอาผู้หญิงที่ท้องและไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใครเด็ดขาด”เดิมทีคิดว่างานแต่งงานนี้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอกลับเผลอใจ ไปไปมามา สุดท้ายเธอก็จากไปด้วยความเสียใจผ่านไปหลายปี ลูกชายที่หน้าตาคล้ายกับเขามากตบหัวของเย่โม่เซินด้วยฝ่ามือเล็กๆ“พ่อคนร้าย นายว่าใครเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเป็นใคร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset