เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ – ตอนที่ 542 ความกลัว

บทที่ 542 ความกลัว

“หม่ามี๊?”

“หม่ามี๊!?”เสี่ยวหมี่โต้วเห็นหม่ามี๊ตัวเองหน้าซีดเหมือนกระดาษ ใบหน้าภายใต้หน้ากากนั้นได้ขมวดคิ้วเข้าหากัน และรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย

ตอนแรกเขาแค่ต้องการทดสอบหม่ามี๊เท่านั้นเอง แต่นึกไม่ถึงว่าหม่ามี๊จะยังคงต่อต้านขนาดนี้

เห้อ

เสี่ยวหมี่โต้วยื่นมือเล็กๆของเขาแกว่งไปมาตรงหน้าของหานมู่จื่อ เพื่อเรียกสติของเธอกลับมา

แต่ดูเหมือนหานมู่จื่อยังคงตกอยู่ในพะวงความคิดของตัวเองอยู่ และยังไม่สามารถเดินออกมาจากมันได้

สถานการณ์แบบนี้……

เสี่ยวหมี่โต้วเหมือนนึกอะไรขึ้นได้ จึงไม่กล้าทดสอบหานมู่จื่ออีก แต่รีบยื่นมือไปกอดคอของหานมู่จื่อไว้แน่น เมื่อโดนร่างกายของเธอเป็นอย่างที่เขาคิดไว้จริงๆ ลำคอของเธอเย็นมาก และมีเหงื่อไหลออกมาตลอดเวลา

หม่ามี๊!หม่ามี๊!!!”เสี่ยวหมี่โต้วร้องเรียกหานมู่จื่อ แต่หานมู่จื่อกลับไม่มีปฏิกิริยาอะไรตอบโต้เลย

สภาพของเธอตอนนี้ ทำให้เสี่ยวหมี่โต้วกลัวมาก เกืยบจะร้องไห้ออกมา:“หม่ามี๊!หม่ามี๊สนใจเสี่ยวหมี่โต้วหน่อย!”

เสียงร้องไห้ของเด็กผู้ชายดังขึ้นมา ทำให้หานมู่จื่อดึงสติตัวเองกลับมาได้ ก้มหน้าลงไปเห็นเด็กน้อยกำลังกอดคอเธอไว้ ดวงตาคู่นั้นร้องไห้จนตาแดงก่ำ เธอเพิ่งรู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อกี้……

“เสี่ยวหมี่โต้ว”

เหมือนมีชีวิตใหม่อีกครั้ง หานมู่จื่อเรียกชื่อของเขาออกมาอย่างเชื่องช้า

“หม่ามี๊ ลูกอยู่ตรงนี้ หม่ามี๊อย่าทำให้ลูกตกใจได้ไหม?”เสี่ยวหมี่โต้วตอบคำถามของหานมู่จื่อและในเวลาเดียวกันเขาก็ได้ถอดหน้ากากออกมา จากนั้นใช้ใบหน้าอุ่นๆของตัวเองแนบชิดไปหาหางมู่จื่อ เพื่อถ่ายทอดความอบอุ่นให้

หลังจากที่หานมู่จื่อเรียกสติตัวเองกลับมาแล้ว จึงค่อยๆกลับคืนสู่สภาพปรกติ ร่างกายของเสี่ยวหมี่โต้วดีมาก ดังนั้นใช้เวลาไม่นานนักร่างกายที่อบอุ่นของเขาก็ได้ถ่ายทอดความอุ่นผ่านเสื้อผ้าไปให้แม่

ความรู้สีกนี้ ……ก็เหมือนถูกดึงให้ออกมาจากความมืดนั่นเอง

คือปลดปล่อยมั้ง?หานมู่จื่อใช้แรงกอดเสี่ยวหมี่โต้วแรงๆ และเหมือนพึมพำพูดกับตัวเอง

“เสี่ยวหมี่โต้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ลูกจะเป็นเด็กดีของแม่ตลอดไป ”

“อืม”เสี่ยวหมี่โต้วพยักหน้าแรงๆ:“เสี่ยวหมี่โต้วจะเป็นเด็กดีของแม่คนเดียวและตลอดไป หม่ามี๊อย่าเสียใจไปเลย……”

เขาเข้าใจความรู้สึกของแม่จึงไม่ได้ถามอะไรออกมา หานมู่จื่อก็รู้ดีว่าเด็กคนนี้เป็นคนเอาใจใส่และเข้าอกเข้าใจคนอื่นมากกว่าเด็กทั่วไป จึงไม่ได้พูดอะไรมากกับเขา ได้แต่ยื่นมือไปลูบหัวเขาเบาๆ:“ขอโทษด้วยนะ หม่ามี๊……เมื่อกี้ไม่ได้ตั้งใจทำให้ลูกตกใจ?”

เสี่ยวหมี่โต้วส่ายหัว:“หม่ามี๊อย่าเสียใจไปเลย เสี่ยวหมี่โต้วจะอยู่เป็นเพื่อนหม่ามี๊ตลอดไป”

“จริงเหรอ?”ใบหน้าของหานมู่จื่อเต็มไปด้วยน้ำตาและมองไปที่เสี่ยวหมี่โต้ว:“แล้วถ้าสมมุติว่า……มีอยู่วันหนึ่งมีคนจะมาพาเสี่ยวหมี่โต้วไปกับเขา ไปจากหม่ามี๊หล่ะ?”

สีหน้าของเสี่ยวหมี่โต้วเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมขึ้นมาทันที “ไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นแน่นอนหม่ามี๊”

“หม่ามี๊รู้ หม่ามี๊แค่พูดว่าสมมุติ……”

เสี่ยวหมี่โต้วจับมือเธอไว้ แบมือของเธอออกแล้วจับไปแนบไว้กับแก้มของเขา จากนั้นใช้หน้าของเขาลูบไปที่ฝ่ามือของเธออย่างอ่อนโยนและเบาๆ “ไม่มีวันนั้นแน่นอนหม่ามี๊ เสี่ยวหมี่โต้วเป็นของหม่ามี๊คนเดียว หม่ามี๊ไม่ต้องกังวลนะ?”

“อืม” หานมู่จื่อกลืนน้ำตากลับคืนไป นั่งอยู่กับที่สักพักแล้วจึงค่อยๆเรียกสติตัวเองกลับคืนมาได้ จากนั้นยื่นหน้ากากไปให้เสี่ยวหมี่โต้ว:“ลูกใส่หน้ากากคืนเหมือนเดิมก่อน แล้วไปรอแม่ที่ห้อง หม่ามี๊ไปดูน้า

เสี่ยวเหยียนก่อนว่าเป็นยังไงบ้าง ”

“น้าเสี่ยวเหยียน?”

“เธอไปรับแขกเป็นเพื่อนคุณน้าของลูก น่าจะดื่มเหล้าไปไม่น้อย ดังนั้นแม่ต้องไปดูหน่อย”

“วู๊”เสียวหมี่โต้วดูเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ ดวงตาเล็กๆนั้นหมุนไปมาหลายรอบ แล้วพูดเสียงเบาออกมา:“หม่ามี๊จะจับคู่คุณน้าให้กับน้าเสี่ยวเหยียนไม่ใช่เหรอ?”

เมื่อไม่ได้ยินแบบนั้น หานมู่จื่อตะลึงไปสักครู่ แล้วนึกขึ้นได้อย่างรวดเร็วว่าที่เสี่ยวหมี่โต้วพูดนั้นหมายถึงอะไร

“คุณน้าอายุมากแล้ว ถ้ายังไม่มีภรรยาน่าสงสารมากเลยนะ หม่ามี๊ ถ้าอย่างนั้น ……เรากลับบ้านก่อนดีไหม?

ฮิฮิ คืนนี้ผมจะนอนกับหม่ามี๊!”

หานมู่จื่อ:“……”

สุดท้าย เธอยื่นมือไปขยี้จมูกของเสี่ยวหมี่โต้วอย่างอ่อนใจ:“แก่แดดใหญ่แล้วนะ คราวหลังคำพูดแบบนี้อย่าให้คุณน้าได้ยินเด็ดขาดนะ ถ้าคุณน้าของลูกได้ยินลูกบอกว่าเขาอายุมาก เขาต้องโกรธลูกแน่ ๆ “

“หึ แต่ว่าหม่ามี๊ปรกติก็ชอบพูดว่าคุณน้าแก่แล้วนี่หน่ะ”

“ลูกเห็นแม่ปรกติเคยพูดเล่นที่ไหนหล่ะ?ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะคุณน้าของลูกชอบแนะนำเนื้อคู่ให้กับแม่ และแม่ไม่มีทางเลือกจริงๆ จึงต้องพูดตอบโต้เพื่อรับมือกลับไปเท่านั้นเอง”

สองแม่ลูกพูดคุยกัน ไม่นานนักเสี่ยวหมี่โต้วก็ทำให้หานมู่จื่อลืมความเสียใจและความสงสัยแปลกใจของเมื่อกี้ไปได้ เวลานี้รู้สึกอุ่นใจ น่าจะเป็นเพราะเสี่ยวหมี่โต้วให้ความรับประกัน ดังนั้นเธอจึงรู้สึกว่าไม่มีอะไรที่ต้องกลัวอีก

เธอลุกขั้นจูงมือของเสี่ยวหมี่โต้วไว้ แล้วเดินกลับไปทางเดิม:“ไปเก็บของก่อน แล้วเราค่อยกลับบ้านกัน”

“อืม!”เสี่ยวหมี่โต้วพยักหน้าแรงๆ เนื่องจากถูกหานมู่จื่อจูงมือไว้ ดังนั้นตอนที่เขาเดินอยู่นั้นจึงจำเป็นต้องเขย่งเท้าเดินเล็กน้อย ดูน่ารักเป็นพิเศษ จากนั้นเขาถามออกมาด้วยความสงสัยว่า:“ทำไมหม่ามี๊จึงไม่ยอมนัดบอดหล่ะ?”

เมื่อเอ่ยถึงเรื่องนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าของหานมู่จื่อจางลงเล็กน้อย

“เด็กน้อยไม่ต้องรู้เยอะขนาดนี้ ลูกอายุน้อยขนาดนี้ ทำไมอยากรู้เยอะขนาดนั้นจ๊ะ?อีกหน่อยถ้าลูกโตขึ้น คงจะไม่ไปเป็นนักข่าวบันเทิงหรอกนะ?”

เสี่ยวหมี่โต้ว:“……”

เขามองอย่างหงุดหงิดไปที่หางมู่จื่อ มุ่ยปากเล็กน้อย:“หม่ามี๊ไม่เป็นห่วงเสี่ยวหมี่โต้วเลย เสี่ยวหมี่โต้วเคยบอกแล้วว่าโตขึ้นจะทำงานรับใช้ประเทศชาติ”

“วู๊” หานมู่จื่อคิดดูแล้วสักครู่:“นักข่าวบันเทิง บันเทิงประชาชน ทำให้ประชาชนมีความสุข ก็ถือว่าเป็นการรับใช้ประเทศชาติเหมือนกัน?”

พูดจบหานมู่จื่อหัวเราะอย่างติดตลกออกมา

“หม่ามี๊ใจร้าย!เสี่ยวหมี่โต้วไม่สนใจหม่ามี๊ล่ะ!”พูดจบ เสี่ยวหมี่โต้วปล่อยมือเธอออก วิ่งกระโดดไปอยู่ข้างหน้า

หานมู่จื่อมองดูเด็กน้อยที่วิ่งห่างออกไปแล้วยิ้มออกมาอย่างมีความสุข และเดินเร็วขึ้นเล็กน้อย

เพียงแต่รอยยิ้มบนใบหน้าจางลงเล็กน้อย และหวังว่าจะไม่มีวันนั้นเกิดขึ้น

เสี่ยวหมี่โต้วเป็นที่พึ่งทางใจหนึ่งเดียวของเธอในตอนนี้ ถ้าวันไหนเสี่ยวหมี่โต้วโดนแย่งไป เธอต้องเป็นบ้าแน่ๆ

***

งานเลี้ยงยังคงดำเนินอยู่ ทันใดนั้นกระเป๋าใส่มือถือของเสี่ยวเหยียนดังขึ้น ท่าที่กำลังชนแก้วอยู่นั้นได้หยุดชะงักลง รวมถึงหานชิงที่ยืนอยู่ข้างๆก็ได้หยุดก้มลงมองเธอเหมือนกัน

“ฉันขอดูข้อความที่ส่งมาสักครู่นะ”เสี่ยวเหยียนพูดขึ้นอย่างเกรงใจ จากนั้นรูดซิปกระเป๋าออก และดึงมือถือออกมาดูแล้วเงยหน้าขึ้น:“มู่จื่อบอกว่าเธอเหนื่อยแล้ว ขอพาเสี่ยวหมี่โต้วกลับไปพักผ่อนก่อน”

ตอนที่พูดประโยคนี้ออกมานั้น ใบหน้าของเสี่ยวเหยียนแดงเล็กน้อย สายตาไม่ค่อยกล้ามองไปที่หานชิงเท่าไร่นัก

เนื่องจากข้อความต่อท้ายหลังจากนั้นเป็นข้อความที่ทำให้คนดูแล้วหน้าแดงได้

เมื่อพูดจบ หางชิงสัมผัสได้ว่ากระเป๋าตัวเองสั่นสะเทือนไปหนึ่งครั้ง

เขาชะงักไปสักครู่แล้วจึงได้หยิบมือถือออกมาดู เหมือนกับเสี่ยวเหยียนได้รับข้อความจากมู่จื่อเหมือนกัน

คำพูดเหมือนกันกับที่เสี่ยวเหยียนบอกกับเขา บอกว่าเหนื่อยแล้วขอพาเสี่ยวหมี่โต้วกลับไปพักผ่อนก่อน และหลังจากนั้น……ก็เป็นประโยคที่ทำให้คนหน้าแดงคิดเป็นอย่างอื่น

“ดูแลเสี่ยวเหยียนดีๆนะ ถ้าเกิดเธอดื่มเมาขึ้นมา พี่ต้องช่วยฉันส่งเธอกลับมาด้วยนะ หรือพากลับมาที่บ้านตระกูลหานของเราก็ได้มีห้องรับแขกหลายห้อง พี่ให้เธอนอนที่นั่นก็ได้ หนุ่มโสดวัยกลางคน สู้ๆ~”

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ ถูกบังคับเป็นตัวแทนของงานแต่งงานนี้ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่พิการแต่กลับมีอำนาจใหญ่ “ฉันเย่โม่เซินไม่เอาผู้หญิงที่ท้องและไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใครเด็ดขาด”เดิมทีคิดว่างานแต่งงานนี้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอกลับเผลอใจ ไปไปมามา สุดท้ายเธอก็จากไปด้วยความเสียใจผ่านไปหลายปี ลูกชายที่หน้าตาคล้ายกับเขามากตบหัวของเย่โม่เซินด้วยฝ่ามือเล็กๆ“พ่อคนร้าย นายว่าใครเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเป็นใคร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset