เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ – ตอนที่ 771 เขามาเป็นครั้งคราว

บทที่ 771 เขามาเป็นครั้งคราว

ยิ่งคิด ยิ่งทำให้ใจตื่นเต้น เฉียวจื้อคิดว่าคืนนี้จะสามารถแกล้งยู่ฉือเซินได้ เพื่อแก้แค้นที่เขาฟ้องรายงานคุณปู่

รถขับไปได้สักพัก หานมู่จื่อยกมือขึ้นแล้วเหลือบมองเวลาบนนาฬิกามันขับรถมาได้ยี่สิบนาทีเต็มทำไมยังไม่มาถึง?

แค่ไปกินอาหารมื้อดึกต้องไปไกลขนาดนี้เลย?

พอคิดถึงนี่ เธอก็อดที่จะเหลือบไปมองเฉียวจื้อจากนั้นก็ถาม: “ที่ที่จะไปกินมื้อดึก มันไกลมากเหรอ?”

เฉียวจื้อโบกมือขณะขับรถ “ไม่ไกลไม่ไกล อยู่ด้านหน้านี้เอง เดียวก็ถึงแล้ว เธอวางใจเถอะ หากการประชุมมันดึกเกินไป ฉันสัญญาว่าจะพาเธอกลับด้วยตัวฉันเอง ไม่ปล่อยให้เธอได้รับอันตรายเด็ดขาด”

อีกฝ่ายดูเหมือนจะค่อนข้างชอบธรรม หานมู่จื่อไม่สงสัยอีกต่อไป

หลังจากนั้นไม่กี่นาที รถก็หยุดเฉียวจื้อก็พาหานมู่จื่อออกจากรถแล้วโยนกุญแจให้คนจอดรถซึ่งกำลังจะพาหานมู่จื่อเข้ามา

“ไป พวกเราถึงแล้ว”

หานมู่จื่อยืนอยู่ที่เดิม มองไปรอบๆ จากนั้นใบหน้าของเธอก็จริงจังทันที

“นายบอกว่าที่กินมื้อดึกอยู่ที่นี่?”

เฉียวจื้อไม่สังเกตเห็นความเคร่งขรึมบนใบหน้าและความตื่นตัวในดวงตาของเธอและพยักหน้าอย่างไร้สมอง: “ใช่ที่นี้แหละ”

หานมู่จื่อเม้มริมฝีปากของเธออย่างเคร่งขรึมและไม่ขยับ เฉียวจื้อหันหน้าไปมองเธออย่างสงสัย

“ไป”

“ฉันไม่ไปแล้ว”

พูดจบ หานมู่จื่อก็หันหลังเดินไป ไม่มีการลังเลและไม่แม้แต่ให้เวลาเฉียวจื้อคิด

พอเฉียวจื้อได้สติกลับมา เธอก็เดินจากไปไกลแล้ว เขาเรียกแล้วรีบเดินไปตามหานมู่จื่อ

“ให้ตายสิ ทำไมเธอถึงไปเลยล่ะ? ฉันขับรถมาจะครึ่งชั่วโมงเพื่อมาถึงที่นี่เลยนะ” เฉียวจื้อเดินไปหยุดตรงหน้าของเธอ เพื่อขวางไม่ให้เธอเดินไป

หานมู่จื่อมองเขาเย็นๆ “นายไม่ได้นัดยู่ฉือเซินไว้ และไม่ได้มาเลี้ยงอาหารฉันด้วย”

ไม่คิดว่าความคิดของตัวเองจะถูก

“ใช่ไง ฉันมาเลี้ยงอาหารเธอไง”

“กินอาหารในสถานที่แบบนี้?”

เฉียวจื้อพยักหน้ารับ: “ในที่แบบนี้แหละ เมืองนอกก็เป็นแบบนี้……ฉันกับยู่ฉือเซินก็เป็นแบบนี้ตลอด เธอไม่เคยได้ยินเขาพูดถึงเหรอ?”

หานมู่จื่อ: “……”

หน้าของเขาดูจริงจัง ทำเหมือนตัวเองเป็นคนเชยๆจนทำให้หานมู่จื่อเกิดความสงสัยในตัวเอง

หรือว่าเธอเข้าใจอีกฝ่ายผิด? เธอขมวดคิ้วที่สวยแล้วมองไปรอบๆ “ที่แบบนี้ มีอะไรให้กิน?”

เฉียวจื้อยิ้ม อธิบายกับเธอเบาๆ: “เธอคงไม่รู้สินะ? ครั้งแรกที่มาที่แบบนี้ของต่างประเทศ? ที่นี่มีทุกอย่าง อย่าว่าแต่อาหารมื้อดึกเลย แม้ว่าเธออยากกินอาหารเช้า ที่นี่ก็ทำให้เธอได้”

หานมู่จื่อ: “……”

เป็นบาร์ที่ดีมากขนาดนี้เลยเหรอ?

และใช่ ที่ที่เฉียวจื้อพาหานมู่จื่อมาคือบาร์ เต็มไปด้วยสีแสงเสียงในยามค่ำคืน สถานที่แบบนี้หานมู่จื่อเคยไปน้อยครั้งมาก

ไม่ใช่ว่าเธอรังเกียจสถานที่แบบนี้ แต่เพียงแค่ว่าในปกติเวลาพักผ่อนของเธอมันน้อยมาก และเธอก็คิดว่าผู้ใหญ่ก็ควรจะควบคุมตัวเองหน่อยเช่นกัน

“ไปเถอะไปเถอะ ฉันพาเธอเข้าไปก่อน”

ในขณะที่เธอกำลังเหม่อ เฉียวจื้อก็ดันหานมู่จื่อเข้าไป หลังจากเข้ามาหานมู่จื่อก็พบว่า สุขอนามัยของบาร์ที่นี่ดีมาก แถมข้างในยังต่างกับที่ตัวเองคิดไว้ แม้ว่าจะเปิดเพลงที่ดังมาก แต่ทุกคนก็นั่งดื่มในที่ของตัวเองอย่างสุภาพ เว้นแต่อีกฝ่ายจะเต็มใจ มิฉะนั้นจะไม่มีสถานการณ์ที่บังคับพาคนไป

“ที่นี่ไม่ใช่ว่าใครก็มาได้” เฉียวจื้อเห็นเธอที่มองสำรวจ แล้วเขาก็อธิบายดังๆ “สามารถมาที่นี่ได้ ล้วนแต่เป็นคนที่มีหน้ามีตาทั้งนั้น ทุกคนรู้ดีว่านอกจากทั้งสองคนจะเต็มใจ ก็ไม่กล้าทำอะไรมาก”

เมื่อได้ยินเขาพูดแบบนี้ หานมู่จื่อก็มองออกว่าเฉียวจื้อเป็นคนที่เชี่ยวชาญมาก เห็นได้ชัดว่ามาที่แบบนี้บ่อย แถมยังคุ้นเคยกับกฎของที่นี่

เมื่อคิดคำพูดก่อนหน้านี้ของเขาว่ายู่ฉือเซินมาที่นี่บ่อย หานมู่จื่อก็ขมวดคิ้วทันที

หรือว่าหลังจากที่เย่โม่เซินความจำเสื่อม ก็ถูกเฉียวจื้อพามาที่แบบนี้ หรือว่ามา……มาหาความสนุกแบบนั้น?

พอคิดถึงนี่ หานมู่จื่ออดถามไม่ได้: “เมื่อกี้นายบอกว่า……ยู่ฉือเซินมาที่นี่กับนายบ่อย?”

เฉียวจื้อผงะ เมื่อเห็นเธอขมวดคิ้ว ก็รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่

จริงๆแล้วยู่ฉือเซินเคยมาที่นี่กับเขาแค่หนึ่งครั้ง จากนั้นดื่มเหล้าแล้วก็จากไป เห็นได้ชัดว่าไม่สนใจสถานที่แบบนี้

และแน่นอนว่าตอนที่เขามามีผู้หญิงหลายคนเข้าหาเขา

ถ้าจะบอกว่ายู่ฉือเซินไม่สนใจสถานที่แบบนี้ สู้บอกว่ากลัวผู้หญิงพวกนั้นจะดีกว่า

แน่นอนว่าเฉียวจื้อจะไม่บอกหานมู่จื่อ เขาจึงรีบโบกมือ “ไม่มีอะไร เขามาเป็นครั้งคราว เธอไม่ต้องคิดมาก”

ท่าทีที่เขาจะพูดแต่ก็ไม่พูดแบบนี้ ทำให้หานมู่จื่อรู้สึกเหมือนถูกปกปิด

ดูเหมือนว่าเย่โม่เซินจะมาที่นี่บ่อยๆ และเฉียวจื้อก็เหมือนช่วยเขาปกปิด

หานมู่จื่อรู้สึกอึดอัดมาก เดินตามเฉียวจื้อขึ้นไปชั้นสองด้วยสีหน้าจริงจัง

“พวกเราจองห้องไว้ อยู่ข้างหน้าไม่ไกลจากตรงนี้”

พูดๆอยู่ เฉียวจื้อก็พาเธอมาถึงหน้าห้องๆหนึ่ง จากนั้นก็ดันประตูเดินเข้าไป

เมื่อเข้ามาในห้อง กลิ่นฉุนของเหล้าก็ตีเข้าหน้า หานมู่จื่อแทบจะเวียนหัว และถอยหลังไปหนึ่งก้าว

“เป็นอะไร?” เฉียวจื้อหันไปมองเธอ

“ที่นี่กลิ่นเหล้าแรกมาก” เธอย่นจมูกแล้วพูด

เฉียวจื้อมองไปในห้อง พูดยิ้มๆ: “งั้นฉันเปิดประตูให้กลิ่นมันจางหายก่อน และให้พวกเขาหยุดดื่ม เธออย่ากลัวสิ เข้าไปก่อนเถอะ”

มาก็มาแล้ว หานมู่จื่อก็ต้องตามเฉียวจื้อเข้าไป เดินไปด้วยขมวดคิ้วไปด้วย คิดในใจว่าสถานที่แบบนี้เย่โม่เซินจะมาจริงๆเหรอ?”

เขาที่ให้ความสำคัญกับสุขอนามัยขนาดนั้น แถมยังมีโรครักความสะอาดอีก จะมาสถานที่ยุ่งเหยิงแบบนี้เหรอ?

เมื่อทุกคนเห็นเฉียวจื้อก็ไม่ได้สนใจเขา แต่ว่าเห็นผู้หญิงที่อยู่ด้านหลัง และเธอยังแต่งตัวมิดชิด ไม่ได้แต่งหน้าด้วย แถมยังผมดำทั้งหัว จนอดไม่ได้ที่จะมอง

“เห้ย คุณชายเฉียวนี่เปลี่ยนรสนิยมเหรอ? ชอบแนวแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?”

“ใช้ได้หนิ เบื่อแนวเซ็กซี่ร้อนแรง เปลี่ยนมาเป็นแบบใสๆ แต่ว่า……” มีผู้ชายคนหนึ่งเท้าคางไว้ ยิ้มหื่นๆ: “ไม่รู้ว่าข้างในจะใสเหมือนข้างนอกหรือเปล่า?”

คำพูดเหล่านี้ทำให้หานมู่จื่อสตั๊นท์ไม่กล่าวอะไรออกมา จากนั้นเธอก็มองตามเสียงไปเห็นชายชาวต่างชาตินั่งอยู่ที่นั่นกอดไซร้หญิงสาวหุ่นเซ็กส์ซี่เขาพูดภาษาอังกฤษ เห็นว่าหานมู่จื่อเป็นคนจีนและคิดว่าเขาฟังไม่ออก ดังนั้นคำพูดคำจาของเขาเห็นได้ชัดว่ากำเริบเสิบสานเป็นพิเศษ

สีหน้าของเฉียวจื้อก็เปลี่ยน เขาก็แค่อยากหยั่งท่าทีของยู่ฉือเซิน แต่ไม่คิดจะเกี่ยวข้องกับผู้หญิงของยู่ฉือเซิน ไม่อย่างนั้น……คนที่จะซวยคงจะเป็นตัวเอง

เขารีบปฏิเสธทันที: “อย่ามาพูดมั่ว ผู้หญิงคนนี้เป็นของพี่ยู่ฉือเซิน”

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ ถูกบังคับเป็นตัวแทนของงานแต่งงานนี้ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่พิการแต่กลับมีอำนาจใหญ่ “ฉันเย่โม่เซินไม่เอาผู้หญิงที่ท้องและไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใครเด็ดขาด”เดิมทีคิดว่างานแต่งงานนี้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอกลับเผลอใจ ไปไปมามา สุดท้ายเธอก็จากไปด้วยความเสียใจผ่านไปหลายปี ลูกชายที่หน้าตาคล้ายกับเขามากตบหัวของเย่โม่เซินด้วยฝ่ามือเล็กๆ“พ่อคนร้าย นายว่าใครเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเป็นใคร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset