เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ – ตอนที่ 860 ถูกกระตุ้น

บทที่ 860 ถูกกระตุ้น

สถานการณ์มาอย่างกะทันหันโดยไม่ทันได้ตั้งตัวแบบนี้ ตวนมู่เจ๋อกับถังหมิงซีคิดไม่ถึงมาก่อน

พวกเขาแค่เห็นว่าที่นี่ไม่มีคน ก็เลยนัดที่นี่ แต่ไม่คาดว่าจะเจอคนที่รู้จัก

และคนที่รู้จักยังมาทักทายกับพวกเขา

ตวนมู่เจ๋อ ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว แต่ผู้ป่วยคนนั้นยังไม่ได้เห็นสถานการณ์ของตวนมู่เสว่ ก็เลยตีสนิทกับถังหมิงซีต่อ

“คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้มาเจอนักจิตวิทยาถังที่นี่ ภายใต้คำแนะนำทางจิตวิทยาของคุณในแต่ก่อน ตอนนี้ผมเป็นคนมองโลกในแง่ดีขึ้นเยอะเลย ท่านอยู่ต่างประเทศไม่ใช่หรือ? ทำไมกลับประเทศกะทันหัน?เมื่อกี้ผมคิดว่าผมมองผิดซะอีก”

เขาลูบมือถูไปมาอย่างตื่นเต้น เห็นได้ชัดว่าเป็นผู้ป่วยของถังหมิงซี

ถังหมิงซีไม่มีเหตุผลที่จะดุผู้ป่วย แต่กรณีตอนนี้ไม่เหมือนกัน เขาได้แต่ลุกขึ้น โค้งคำนับฝ่ายตรงข้ามอย่างสุภาพ

“ท่านครับ ผมไม่ใช่นักจิตวิทยาถังที่รู้จัก ท่านคงจำผิดคน”

ผู้ป่วย:“หรือ?เป็นไปไม่ได้ ท่านไม่ใช่นักจิตวิทยาถังหรอ?”

ถังหมิงซียิ้ม “ไม่ใช่”

ผู้ป่วยงงในสิ่งที่เขาทำ เพราะว่าไม่รู้เหตุรู้ผลจริง เขามองไปทางตวนมู่เสว่กับตวนมู่เจ๋อ สุดท้ายเห็นตวนมู่เจ๋อมองเขาด้วยสายตาเย็นชา คำเตือนในดวงตานั้นชัดเจนมาก

เขางงไปแปป เห็นได้ว่าคนนี้ไม่ง่ายที่จะยั่วยุ ไม่กล้าพูดอะไรอีก ได้แต่หันหลังและจากไป เดินไปพลางแตะศีรษะไปพลาง“ไม่สมเหตุสมผล เมื่อก่อนเจอกันทุกวัน จะจำผิดคนได้ยังไงกัน?กลับไปถามเถอะ”

รอคนไปแล้ว ถังหมิงซีนั่งลงใหม่ ยิ้มและพูดว่า“คิดว่าผมเป็นหมอ?หรือว่าในประเทศมีคนหน้าตาเหมือนผมหรือ?”

ตวนมู่เจ๋อเม้นปาก ไม่พูดต่อ

ตวนมู่เสว่ ทิ้งช้อนในมือ ยิ้มแบบเย็นชาว่า“เขามองผิดคนจริง คุณไม่ควรเป็นนักจิตวิทยา คุณควรเป็นนักแสดง”

พูดจบก็ลุกขึ้นโดยตรง

“เสี่ยวเสว่ เธอหยุดเดี๋ยวนี้”

ตวนมู่เจ๋อพูดยื้อเธอเอาไว้เหลือบตามองตวนมู่เสว่อย่างเย็นชา

ตวนมู่เสว่หันหลังมา เห็นพี่ชายเองใช้สายตาแบบนี้มองตัวเธอเอง ปรากฏสีหน้าผิดหวังออกมาชั่วขณะ

“พี่ชาย พี่ไม่ใช่บอกว่าพาฉันมาหาเพื่อนของพี่เหรอ ที่แท้พี่ก็หลอกน้องแบบนี้ พี่พาฉันมาหาหมอจิตวิทยาเหรอ ฉันแค่ชอบคนหนึ่งเอง พี่ก็คิดว่าน้องป่วยทางจิตเหรอ”

ถังหมิงซีก็คิดไม่ถึง เรื่องนี้ยังไม่เริ่มก็จบแล้ว เขาเดินไปหาตวนมู่เสว่อย่างรู้สึกผิด

“คุณหนูตวนมู่ เรื่องไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิด ผม……”

“คุณหุบปาก คุณอย่าเข้ามา!”ตวนมู่เสว่เห็นเขาเดินมาหาตัวเอง ถอยตามสัญชาตญาณ ทั้งเบิกตากว้างๆถกเถียง“ฉันไม่ได้ป่วย พวกคุณน่ะสิป่วย ถึงได้พาฉันมาหาหมอที่นี่”

“เสี่ยวเสว่ ไม่ใช่หาหมอ แค่ให้คำปรึกษาทางจิตวิทยาหน่อย แนะนำเธอในทางที่ถูกต้อง”

ตวนมู่เจ๋อลุกขึ้น มองไปที่เธอแล้วพูด

“ฉันไม่ต้องการ ฉันเป็นคนปกติ ฉันไม่ต้องการการให้คำปรึกษาทางจิตวิทยาอะไรทั้งนั้น”

“โอเค โอเค คุณไม่ต้องการการให้คำปรึกษาทางจิตวิทยา ถ้าอย่างนั้นผมรู้จักคุณไม่ใช้ฐานะหมอจิตวิทยา ใช้ฐานะเพื่อนร่วมชั้นของพี่ชายคุณ พวกเราแค่เป็นเพื่อนกัน ได้ไหม”

“เสี่ยวเสว่ เชื่อฟังนะ พี่ชายไม่ทำร้ายเธอหรอก”

ตวนมู่เสว่มองผู้ชายสองคนที่ตัวสูงข้างหน้า แล้วลองนึกถึงตอนที่ตัวเองโดนหลอกถึงที่นี่ อดไม่ได้ที่จะยิ้มขมขื่น

“ฉันโง่จริงๆ ฉันคิดว่าพี่ชายฉันจะเข้าใจฉัน คิดไม่ถึง…… ไม่นึกเลยถูกเรียกว่าผู้ป่วยทางจิต ครั้งนี้ยังพาฉันมาหาหมอจิตวิทยา ครั้งหน้า……จะพาฉันไปโรงพยาบาลประสาท.แล้วใช่ไหม ฉันผิดตรงไหน ฉันแค่รักคนคนหนึ่งเอง……”

“ฉันไม่ได้ผิด ฉันไม่ได้ผิด ……ผิดที่พวกคุณ พวกคุณไม่รู้ว่าชอบคนหนึ่งมันเป็นยังไง”

พูดจบ ตวนมู่เสว่ก็ไม่สนใจว่าตวนมู่เจ๋อโกรธหรือป่าว หันหลังก็วิ่งออกไปเลย

“เสี่ยวเสว่!”ตวนมู่เจ๋อสีหน้าเปลี่ยนไป รีบตามไป ถังหมิงซีก็ต้องตามไปด้วย

แต่ตวนมู่เสว่ยังกระสับกระส่ายอยู่ รีบวิ่งลงไป แปปเดียวเธอก็หายไปต่อหน้าพวกเขาในทันที

ออกจากร้าน ไม่เห็นแม้แต่เงาของเธอ ตวนมู่เจ๋อทำได้แค่ปรึกษากับถังหมิงซีเท่านั้น

“คุณไปซ้ายมือ ผมไปขวามือ”

“ได้”

ถังหมิงซีคิดแล้ว อดไม่ได้ที่จะพูดว่า“ดูเหมือนว่าตอนนี้อารมณ์ของเธอแย่มาก เดี๋ยวหาเจออย่าพาเธอกลับมา ส่งเธอกลับบ้านก่อน บอกเธอจะไม่พาเธอไปดูหมอจิตวิทยาแล้ว”

ตวนมู่เจ๋อคิดว่าเขาพูดถูกต้องแล้ว ก็พยักหน้า

ทั้งสองเดินแยกกันไปหา แต่หาตั้งนานก็ไม่เจอตวนมู่เสว่ โทรไปก็ปิดเครื่อง

ใบหน้าของถังหมิงซีรู้สึกผิด“ขอโทษจริงๆ นี่เป็นความผิดของฉัน คิดไม่ถึงในประเทศยังพบผู้ป่วยแต่ก่อนของฉันได้”

ตวนมู่เจ๋อพยักหน้าอย่างสีหน้าจริงจัง เขาแววตาเรียบเฉย ฟังเสียงที่ว่าไม่มีการตอบรับจากเลขหมายที่ท่านเรียกส่งออกมาจากโทรศัพท์“นี่ไม่เกี่ยวคุณ ใครก็ไม่รู้วันนี้พวกเราจะพบผู้ป่วยของคุณ และเขายังมาทักทายกับคุณ”

“ใช่สิ”ถังหมิงซีรู้สึกอึดอัดใจเกินไป“ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ น้องสาวคุณตอนนี้ถูกกระตุ้นแล้ว หวังว่าเธอไม่ทำเรื่องโง่ๆจึงจะดี”

ถูกกระตุ้น เรื่องโง่เหรอ?

ตวนมู่เจ๋อมุมปากเล็กน้อย พูดเสียงเย็น“วันนี้ลำบากนายแล้ว นายกลับก่อนเถอะ วันอื่นฉันค่อยติดต่อไป”

ถังหมิงซียั่วโมโหไล่น้องสาวเขาไป ก็ไม่รู้จะพูดอะไรดี ยังไงก็ต้องไปก่อน

รอเขาไปแล้ว ตวนมู่เจ๋อหาเบอร์โทรของเฉียวจื้อโทรไปให้เขา

อุปนิสัยของน้องสาวเขาเขาเข้าใจเป็นอย่างดี ทำเรื่องโง่ๆ……โอกาสที่ทำร้ายตัวเองมีน้อยมาก แต่ถ้าทำร้ายคนอื่น……

ความน่าจะเป็นไปได้ใหญ่มาก

หลังจากเฉียวจื้อได้รับข้อมูลนี้เกือบจะบ้าแล้ว ไม่สนใจคนรอบๆก็ด่ากันอย่างรุนแรงกับตวนมู่เจ๋อ

“คุณทำอะไรวะ ก่อนหน้านี้จะบอกว่าระวังระมัดไม่ใช่เหรอ ทำไมยังยั่วโมโหไล่น้องสาวคุณไป ตอนนี้คนก็หาไม่เจอ จะทำยังไงดีละ”

ได้ยินการต่อว่าของเขา สายตาของตวนมู่เจ๋อเย็นไปหลายส่วน พูดอย่างไม่เกรงใจว่า“ผมใจดีมาบอกให้คุณรู้ แต่ไม่มีภาระผูกพันตอบคำถามอื่นของคุณ”

เฉียวจื้อว่า“เฮ๊ย!”

“ถ้าป้องกันได้ดี แม้ว่าเธออยากลงไม้ลงมือกับคนอื่น ก็จะลงมือไม่ได้”

เฉียวจื้อฟังแล้วโกรธแทบตาย ฟังคนคนนี้พูดอะไรกัน ขณะที่เขากำลังจะด่าฝ่ายตรงข้ามอย่างรุนแรง ตวนมู่เจ๋อก็วางสายไปแล้ว

เฉียวจื้อโมโหมาก พูดคำหยาบกับโทรศัพท์มือถือเวลานานมาก ด่าจนสะใจแล้วจึงจะเก็บโทรศัพท์ หลังจากนั้นหยิบกุญแจรถแล้วรีบออกไป

ตวนมู่เสว่รักตัวเองขนาดนี้ แม้ว่าทำเรื่องโง่ๆก็เพียงแค่ทำกับคนอื่น

แค่ไม่รู้ว่าเธอจะเลือกพี่สะใภ้หรือจะเลือกเจ้ายู่ฉือคนนี้

เรื่องนี้ทำให้อารมณ์เสียจริงๆ

ทำไมผู้หญิงหัวรั้นขนาดนี้ อย่าว่าแต่ยู่ฉือปฏิเสธชัดเจนขนาดนี้ แม้บางทีผู้หญิงรู้ว่าข้างหน้าเป็นกองไฟ คุณดึงเธอไว้ เธอก็อยากกระโดดเข้าไปอีก

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ ถูกบังคับเป็นตัวแทนของงานแต่งงานนี้ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่พิการแต่กลับมีอำนาจใหญ่ “ฉันเย่โม่เซินไม่เอาผู้หญิงที่ท้องและไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใครเด็ดขาด”เดิมทีคิดว่างานแต่งงานนี้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอกลับเผลอใจ ไปไปมามา สุดท้ายเธอก็จากไปด้วยความเสียใจผ่านไปหลายปี ลูกชายที่หน้าตาคล้ายกับเขามากตบหัวของเย่โม่เซินด้วยฝ่ามือเล็กๆ“พ่อคนร้าย นายว่าใครเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเป็นใคร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset