เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ – ตอนที่ 900 บอกเขาไปเถอะ

บทที่ 900 บอกเขาไปเถอะ

เย่โม่เซินพบมู่จื่อก่อนส้งอานและยู่ฉือจินก้าวนึง จากนั้นก็พาเธอไปให้หมอตรวจที่โรงพยาบาลโดยตรง หลังจากคุณหมอตรวจก็ออกมาพูดกับเขาว่า

“เพราะตกใจเกินไป จนทำให้สลบไป”

ได้ยินดังนั้นเย่โม่เซินก็โล่งใจ ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว

แต่ประโยคต่อไปของหมอทำให้หัวใจเขากลับมาเต้นเร็วอีกครั้ง

“คุณเป็นสามีของคนไข้ใช่ไหม”

ถึงแม้ตอนนี้จะยังไม่ใช่ แต่เขาก็คิดว่าจะแต่งงานกับเธออยู่แล้ว จึงพยักหน้าไปอย่างสงบ

จู่ๆหมอก็แสดงสีหน้าหงุดหงิด “คุณเป็นสามีประสาอะไร ทำไมให้ภรรยาเจอเรื่องตกใจแบบนี้ เธอตั้งท้องอยู่คุณไม่รู้เหรอ”

เย่โม่เซิน “……”

“ท้องเหรอ”

ข่าวนี้กระแทกให้เย่โม่เซินมึนไป

“คุณทำหน้าอะไรของคุณ เธอตั้งครรภ์เกือบ3เดือนแล้ว และทารกก็มีภาวะแท้งคุกคาม คุณเป็นสามีประสาอะไรถึงไม่รู้”

สามีไม่สนใจภรรยา เรื่องแบบนี้เจอบ่อยในโรงพยาบาล แต่นิสัยคุณหมอท่านนี้ก็อดไม่ได้ที่จะบ่น เขาสั่งสอนเย่โม่เซินไปยกนึง

เป็นเวลานานเย่โม่เซินถึงจะตั้งสติได้ “ขอโทษครับ ต่อไปจะระวังครับ”

น้ำเสียงของเขาทั้งทุ้มทั้งเย็นชา พลังบนตัวเขาก็เปลี่ยนจากเมื่อก่อน หมอหรี่ตาลง แล้วบอกให้เขาไปเดินเรื่องเอกสาร

สาเหตุก็คือร่างกายของหานมู่จื่ออ่อนแอเกินไป ต้องพักฟื้นรักษาครรภ์ในโรงพยาบาลระยะหนึ่ง

ในขณะจัดการเรื่องแอ็ดมิทเขากัดริมฝีปากไว้แน่นตลอดเวลา ความเย็นชารอบตัวที่พ่นออกมากเหมือนกับจะทำให้คนรอบข้างแข็งตายได้ คนที่เดินผ่านไปจึงหลีกห่างอย่างอัตโนมัติ

หลังจากดำเนินเอกสารเสร็จ เสียงมือถือดังขึ้น เย่โม่เซินเหลือบไปมอง เป็นเบอร์ของมู่จื่อ

มือถือของมู่จื่ออยู่ที่ส้งอาน นี่ก็น่าจะเป็นส้งอานที่โทรเข้ามา

เงียบไปครู่หนึ่ง เย่โม่เซินก็กดรับสาย

*

เมื่อส้งอานไปที่โรงพยาบาล หยูโปก็ติดตามมาด้วย ทั้งสองมีสีหน้าลุกลน และมองเห็นเย่โม่เซินที่ยืนอยู่ริมผนังจากระยะไกล

และเมื่อเข้าใกล้ส้งอานสัมผัสได้ถึงพลังรอบตัวเขาเปลี่ยนไปจากปกติ

ในขณะนี้เขายืนพิงกำแพง แต่ริมฝีปากบางถูกกดแน่นจนเป็นเส้นตรงขากรรไกรล่างของเขาแน่นและรุนแรง ดวงตาของเขาถูกปิดด้วยเปลือกตาที่หลบตา แม้ว่าจะมองไม่ชัดจากแววตาของเขา แต่สามารถสัมผัสได้จากพลังบนร่างกายของเขา ขณะนี้ดวงตาของเย่โม่เซินต้องมืดมนแน่ๆ

มีบางอย่างไม่ถูกต้อง

ส้งอานชะลอฝีเท้าลง

จริงๆในตอนที่เขาพูดถึงโรงพยาบาล ส้งอานก็รู้สึกไม่ปกติแล้ว เขาพาเธอมาโรงพยาบาล เรื่องที่เธอตั้งท้องจะปิดบังได้อย่างไร

ตอนนี้เย่โม่เซินจำเรื่องในอดีตไม่ได้ เขาและเธอเพิ่งคบกันได้ไม่นาน ลูกในท้องของเธอกำลังจะครบ3เดือน เรื่องนี้คิดแล้ว……น่าจะเข้าใจผิดมากกว่า

ฉะนั้น ตอนนี้เย่โม่เซินก็รู้แล้ว

เขาจะทำอย่างไร ส้งอานเดินเข้ามาด้วยความไม่แน่ใจ

ก่อนที่เธอจะพูด เย่โม่เซินเงยหน้าและสายตาก็ประสบกับใบหน้าของเธอ “คุณน้าส้ง คุณมาถึงแล้วเหรอครับ”

น้ำเสียงเย็นชา ฟังไม่ได้ยินอารมณ์ใดๆ

ปฏิกิริยาแบบนี้เหรอ ส้งอานไม่มั่นใจว่าเขาจะรู้เรื่องที่มู่จื่อตั้งครรภ์หรือยัง และก็เดาใจเขาไม่ถูก แต่ก็ไม่กล้าเปิดประเด็น จึงถามแค่อาการของมู่จื่อ

“มู่จื่อเป็นไงบ้าง”

เย่โม่เซินพูดอย่างนิ่งเรียบ “แค่ตกใจครับ ไม่ได้รับอันตรายอะไร”

แค่ตกใจ ไม่ได้รับอันตราย งั้นก็ไม่น่าจะเป็นอะไรแล้ว

ส้งอานถอนหายใจด้วยความโล่งอก แม้แต่หยูโปที่อยู่ข้างหลังเธอก็รู้สึกโล่งใจไปด้วย

ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับมู่จื่อจริงๆ ตระกูลยู่ฉือคง…….เดือดร้อนแน่ๆ อีกทั้ง…….เธอกำลังตั้งครรภ์ด้วย

ก่อนนั้นไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน

จากนั้นฉากก็เงียบลงอย่างประหลาด และทั้งสามคนมีความคิดที่แตกต่างกัน

*

หานมู่จื่อรู้สึกว่าเธอหลับไปเป็นเวลานาน นานจนเธออยากจะตื่น แต่เปลือกตาของเธอยังหนักอึ้งจนเธอไม่สามารถลืมตาได้ รอบตัวมีคนตรวจเธออยู่ ใช้มือฉีกตาดูตาขาวของเธอ จากนั้นก็ได้ยินคนหลายคนพูดอะไรกัน

เธอได้ยินไม่ชัดเจน รู้สึกมึนๆหนักๆ

จนกระทั่งเธอตั้งสติได้ ก็พบว่ารอบข้างเงียบลงแล้ว

หานมู่จื่อค่อยๆเปิดตา รอบข้างมีแต่สีขาว ข้างหูเหมือนมีเสียงดนตรี เธอหันไปอีกด้าน มองเห็นเย่โม่เซินที่กำลังนั่งพักสายตาอยู่ข้างๆ

ทันทีที่สบตากับใบหน้าที่หล่อเหลา หานมู่จื่อก็คิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้

เมื่อเธอคิดว่าตัวเองกำลังจะล้มลงไป เย่โม่เซินก็รับเธอขึ้นมา แต่เธอก็ตกใจมาก จึงเป็นลมไป

ตอนนี้…..อยู่ที่โรงพยาบาล

โรงพยาบาล…..

ทันใดนั้นหานมู่จื่อก็จำอะไรบางอย่างได้และใช้มือลูบท้องน้อยของเขาโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็ลุกขึ้นนั่งอย่างกะทันหัน แต่เนื่องจากใช้แรงมากเกินไปทำให้มีอาการวิงเวียนศีรษะอีกครั้ง จึงทำให้ล้มลงไป

คราวนี้ก็เกิดเสียงดังขึ้น

เย่โม่เซินที่นั่งพักสายตาลืมตาขึ้นและรีบเข้าไปพยุงทันที

“รู้สึกตัวแล้วเหรอ”

เสียงเขาแหบราวกับไม่สบายจากการนอนดึก แต่ก็ทำให้รู้สึกมีเสน่ห์ไม่เบา

หานมู่จื่อใช้เวลานานกว่าจะเป็นปกติ เธอคว้ามือเย่โม่เซินมาจับไว้ “ฉัน……”

เธออยากจะถามว่าลูกในท้องเป็นอย่างไรบ้าง แต่เมื่อเธอได้พบกับดวงตาที่ลึกล้ำและเศร้าหมองเหล่านั้น เธอไม่สามารถส่งเสียงได้แม้แต่คำเดียว และริมฝีปากสีขาวของเธอก็เปิดออกเล็กน้อย

เย่โม่เซินเห็นเธอสับสนและลังเล เหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง เสียงคุณหมอที่พูดกับเขาจึงผุดขึ้นมาอีกครั้ง

เธอกำลังต้องท้อง…….

ลูกกระเดือกเย่โม่เซินกลิ้งไปกลิ้งมาและกล่าวว่า “คุณปลอดภัย หมอบอกว่าแค่ตกใจมาก พักผ่อนเยอะๆก็หาย”

แค่ตกใจเหรอ หานมู่จื่อกัดริมฝีปากล่างของเธอโดยไม่รู้ตัวและหลังจากนั้นไม่นานก็พูดว่า “มีปัญหาอื่นอีกไหม”

เมื่อได้ยินเย่โม่เซินเงยหน้าขึ้นและสายตาจ้องมองไปที่เธอ

สายตาที่แน่วแน่ แต่ไม่ได้แสดงถึงความประสงค์ร้ายใดๆ หานมู่จื่อหายใจไม่ออกและหน้าก็ซีดลง

“มีปัญหาอะไร” เขาถามพร้อมกับพ่นลมหายใจอุ่น ๆ ลงบนใบหน้าของเธอ และใช้สองมือของเขายื่นออกไปวางไว้ข้างหลังเธอแทนหมอน และจากนั้นก็โอบเธอไว้ในอ้อมกอด และหันสายตามาจ้องมองเธอ

แววตาและท่าทางแบบนี้เหมือนกับจะมัดหานมู่จื่อเอาไว้

หานมู่จื่อไม่มั่นใจว่าเขารู้ไหม กลัวตัวเองจะหลุดปากพูดไป

แต่…… ถ้าอยู่ด้วยกันไป เขาจะรู้เรื่องการตั้งครรภ์ของเธอไม่ช้าก็เร็ว ที่เธอไม่ได้พูดในเวลานี้ เพราะเธอหวังว่าจะรอให้เขาฟื้นความทรงจำก่อนแล้วค่อยแบ่งปันความสุขนี้กับเขา

ตอนนี้ หากว่าเขารู้แล้ว แต่ตนยังปิดบัง เขาจะผิดหวังกับตัวเธอไหม

เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ หานมู่จื่อก็กัดปากตัวเองและตัดสินใจว่าจะบอกความจริงให้เขารู้

สำหรับเธอแล้ว เย่โม่เซินไม่ใช่คนแบบนั้น

ขอแค่เธอพูดออกมา เขาจะต้องให้โอกาสเธออธิบายแน่ ถึงจะบอกก่อนล่วงหน้า แต่…..บางทีอาจจะช่วยกระตุ้นความทรงจำเขาก็ได้

“ที่จริงฉัน……”

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ ถูกบังคับเป็นตัวแทนของงานแต่งงานนี้ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่พิการแต่กลับมีอำนาจใหญ่ “ฉันเย่โม่เซินไม่เอาผู้หญิงที่ท้องและไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใครเด็ดขาด”เดิมทีคิดว่างานแต่งงานนี้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอกลับเผลอใจ ไปไปมามา สุดท้ายเธอก็จากไปด้วยความเสียใจผ่านไปหลายปี ลูกชายที่หน้าตาคล้ายกับเขามากตบหัวของเย่โม่เซินด้วยฝ่ามือเล็กๆ“พ่อคนร้าย นายว่าใครเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเป็นใคร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset