เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ – ตอนที่ 994 อย่าคิดฉวยโอกาส

บทที่994 อย่าคิดฉวยโอกาส

หลังจากนั้นเธอก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่เฉียวจื้อก็รู้สึกได้ถึงภัยคุกคามอย่างชัดเจน เขาเปิดปากอย่างน้อยใจว่า “ไม่เอาแบบนี้สิ พี่สะใภ้จะต้องเข้าใจอะไรฉันผิดแน่ๆ ฉันไม่ใช่คนแบบนั้นนะ!”

หานมู่จื่อไม่ลืมเรื่องที่เขามีชื่อด้านความเจ้าชู้ อีกอย่างตอนที่เจอกันในลิฟต์ครั้งแรก คนๆนี้ก็เกือบเอื้อมมือมาที่ตัวเองด้วย

เขาคิดว่าตัวเธอลืมไปแล้วหรืออย่างไร

“ไม่ว่าคุณจะเป็นคนยังไง กระต่ายไม่กินหญ้ารอบรัง คนรอบตัวฉันคุณก็อย่าคิดเลย”

เฉียวจื้อ “……เฮ้อ เข้าใจแล้ว แต่ว่านะพี่สะใภ้ ถ้าคนรอบตัวของเธอสนใจฉันเองล่ะ แบบนั้นฉันจะปฏิเสธ หรือยอมรับดี”

เมื่อพูดจบ เฉียวจื้อก็ทำสีหน้าลังเล

หานมู่จื่อรู้สึกหมดคำพูด จากนั้นก็ส่งสายตาให้เขารู้ตัวเองก่อนจะลุกขึ้นเดินจากไป

เฉียวจื้อหัวเราเจ้าเล่ห์ออกมา แล้วทันใดนั้นเสียงเตือนในวีแชทก็ดังขึ้น เขาก้มลงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ก็พบว่าคู่ดูตัวชายชรานัดหมายให้ส่งข้อความมาให้เขา

บ้าจริง พูดไม่รู้เรื่องหรือไงกัน

ตอนที่แลกวีแชทกันเขาก็พูดชัดเจนแล้ว ว่าทุกอย่างเป็นสิ่งที่คนเฒ่าคนแก่ที่บ้านจัดการ พวกเขาก็แค่แสดงละครตาม เพิ่มวีแชทกันก็จริง แต่ต่อไปจะไม่รบกวนอีกฝ่าย คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะยังส่งวีแชทมาหาตัวเองอีก

เฉียวจื้อไม่กล้าเล่นกับคุณหนูตระกูลใหญ่แบบนี้ พวกเธอมักจะจริงจัง ส่วนเขา……ยังไม่มีความคิดนั้น

พอเขามองข้อความทีหนึ่งแล้ว ก็ทำเครื่องหมายอ่านแล้ว ก่อนจะโยนโทรศัพท์ไว้อีกทาง ไม่ได้ไปสนใจอีก

ผ่านไปไม่นาน เสี่ยวเหยียนกับเซียวซู่ก็กลับมา ตอนที่ได้ยินเสียงกระดิ่งดัง หานมู่จื่อก็เตรียมตัวจะลุกขึ้น แต่เฉียวจื้อกลับชิงพูดก่อนว่า “พี่สะใภ้ เธอนั่งเถอะ เดี๋ยวฉันไปเปิดเอง”

เขาไม่รอให้หานมู่จื่อตอบ เฉียวจื้อก็วิ่งเหมือนบินไปที่หน้าประตูก่อนแล้ว จากนั้นก็เปิดประตูออก

เสี่ยวเหยียนกับเซียวซู่ถือข้าวของยืนอยู่หน้าประตู เมื่อเห็นคนด้านในที่มาเปิดประตูเป็นคนที่ไม่รู้จัก สีหน้าของทั้งสองคนก็ฉายแววเลิ่กลั่กทันที หันมามองสบตากันทีหนึ่ง

เสี่ยวเหยียนอดไม่ได้ที่จะถามออกมา “หรือว่าพวกเรามาผิดบ้าน ?”

พูดจบ เสี่ยวเหยียนก็ทำท่าจะถอยกลับไปดูเลขชั้น

แต่เพราะถือของมากมายอยู่ในมือ ทั้งสองคนก็เลยกดกริ่งทันทีโดยไม่ดูก่อน

ตอนนี้เสี่ยวเหยียนคิดว่าตัวเองจำเลขชั้นผิด

ใครจะรู้ว่าตอนที่เธอเตรียมจะถอยหลัง เฉียวจื้อก็เดินเข้าไปช่วยเธอถือของอย่างเป็นมิตร “ไม่ได้ผิดไม่ได้ผิด ที่นี่แหละ ของพวกนี้คงหนักมากสินะ มามามา ฉันช่วยเธอถือเอง”

เสี่ยวเหยียนจ้องเขาอย่างประหลาดใจ เฉียวจื้อก็เลยพูดอธิบาย “การบริการสาวสวย เป็นความภูมิใจของผม ยินดีที่ได้รู้จัก ขอแนะนำตัวเองก่อน ผมชื่อเฉียวจื้อ”

“……” การแนะนำตัวอันแสนประหลาดนี้ทำให้เสี่ยวเหยียนถึงกับมึนงง อีกอย่างเธอก็รู้สึกว่าคนตรงหน้าเป็นมิตรกับตัวเองเป็นพิเศษ นี่มันเรื่องอะไรกัน

ตอนนั้นเอง เซียวซู่ก็เดินมาข้างหน้าก้าวหนึ่ง แล้วยืนบังหน้าเสี่ยวเหยียน

“คุณผู้ชาย คุณ……”

เขาขมวดคิ้ว เตรียมจะสอบถามตัวตนของคนตรงหน้า แต่กลับเห็นหานมู่จื่อยืนอยู่หน้าประตู “พวกเธอกลับมาแล้ว ก็รีบเข้ามาเถอะ”

“มู่จื่อ”

เมื่อเห็นมู่จื่อ เสี่ยวเหยียนก็มั่นใจทันทีว่าไม่ได้มาผิด ก็เลยรีบถือของในมือแล้วเดินเข้าไป เฉียวจื้อพลาดโอกาสที่จะทำตัวเป็นสุภาพบุรุษ ก็เลยถอนหายใจแล้วเดินตามเข้าไปอย่างน่าเสียดาย

เมื่อทุกคนเดินเข้าไปในบ้านแล้ว หานมู่จื่อก็เห็นเฉียวจื้อเริ่มเกี้ยวพาราสีเสี่ยวเหยียนทันที

“คนสวย เธอชื่ออะไรเหรอ ฉันเป็นเพื่อนสนิทของมู่จื่อกับยู่ฉือ ชื่อเฉียวจื้อ”

คงเป็นเพราะรู้สึกเกรงใจ เสี่ยวเหยียนก็เลยหันไปมองเขา แล้วบอกชื่อของตัวเอง

“เรียกฉันว่าเสี่ยวเหยียนก็พอค่ะ”

เฉียวจื้อ “นี่เป็นชื่อเต็มของเธอเหรอ ?”

เพราะว่าอีกฝ่ายทำตัวสนิทสนมเกินไป เสี่ยวเหยียนก็เลยรู้นึกต่อต้านเล็กน้อย ทำเสียงอืมตอบรับไปคำหนึ่ง แต่เฉียวจื้อกลับยิ้มตาหยีแล้วพูดว่า “ชื่อเต็มแบบนี้ ฉันไม่เชื่อหรอก แต่ในเมื่อเธอพูดแบบนี้แล้ว ต่อไปฉันก็เรียกเธอว่าเสี่ยวเหยียนแล้วกัน”

เซียวซู่อยู่ข้างๆช่วยเสี่ยวเหยียนเก็บของเข้าตู้เย็น พอเห็นเฉียวจื้อเอาแต่จีบเสี่ยวเหยียนต่อหน้าตัวเอง ก็ขมวดคิ้วแล้วเดินเข้าไปพูดว่า

“คุณผู้ชาย คุณมาอยู่ในห้องครัวแบบนี้ จะมาช่วยพวกเราทำกับข้าวเหรอครับ”

เฉียวจื้อชะงักไป มองดูผู้ชายตรงหน้าที่ตั้งท่าเป็นศัตรู แล้วคิดถึงที่เขาปกป้องเสี่ยวเหยียนเมื่อครู่ ก็ขมวดคิ้วแล้วถามว่า “พวกคุณเป็นคู่รักกันเหรอ ?”

เซียวซู่กำลังจะบอกว่าไม่ใช่ แต่ใครจะรู้ว่าเสี่ยวเหยียนกลับตอบไปคำหนึ่งว่า “แล้วเกี่ยวอะไรกับคุณ”

เฉียวจื้อยิ้มบางๆ ไม่ได้ตอบอะไร

ตอนนี้หานมู่จื่อก็ทนดูไม่ได้อีกต่อไป เดินไปข้างหน้าแล้วพูดว่า “เฉียวจื้อ คุณออกไปข้างนอกเลย”

“เฮ้อ พี่สะใภ้ เป็นอะไรไป”

เขาหันไปมองทางหานมู่จื่อ แต่เท้ากลับไม่ขยับ

หานมู่จื่อโมโหเขาขึ้นมา เลยกัดฟันพูดว่า “ถ้าคุณยังไม่ออกไป แล้วยังทำตัววุ่นวายอยู่ในนี้ ฉันจะไปฟ้องยู่ฉือ”

ฟ้องยู่ฉือ ?

เฉียวจื้อกะพริบตาปริบๆ “ฉันไม่ได้จีบผู้หญิงของเขาสักหน่อย เธอจะไปฟ้องเขาทำไม”

“ใช่ คุณไม่ได้จีบผู้หญิงของเขา แต่คุณรู้ไหมว่าเธอเป็นคุณน้าของลูกชายคนสำคัญของยู่ฉือ คุณจีบไปเรื่อยแบบนี้ จะดีจริงหรือ”

น้าของลูกชาย ?

เฉียวจื้อท่องคำเหล่านี้อยู่ในใจหลายครั้ง ก่อนจะคิดได้ แล้วเบิกตาโตทันที

“บ้าน่า ??”

“ออกมาเลย” หานมู่จื่อพูดอีกครั้ง

ครั้งนี้เฉียวจื้อไม่ยืนทื่ออยู่ที่เดิมอีกแล้ว หันไปมองเสี่ยวเหยียนอย่างเสียดายครั้งหนึ่ง แล้วหมุนตัวเดินออกไป

ในห้องครัวก็เลยเหลือแค่เสี่ยวเหยียนกับเซียวซู่สองคน

หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เสี่ยวเหยียนก็เอ่ยขึ้นว่า “คุณก็ออกไปเถอะ เดี๋ยวฉันจัดการเอง”

เซียวซู่ “……ฉันอยู่ช่วยเธอแล้วกัน”

เสี่ยวเหยียนสีหน้าเย็นชา “อืม คุณอย่าคิดว่าช่วงนี้คุณทำเรื่องพวกนี้ แล้วฉันจะชอบคุณนะ”

คำพูดพวกนี้ทำให้แววตาของเซียวซู่เย็นชาเล็กน้อย แต่ก็เปลี่ยนเป็นไม่ใส่ใจอย่างรวดเร็ว

“ฉันก็แค่ทำเรื่องที่ตัวเองอยากทำเท่านั้น ไม่ได้มีเป้าหมายอื่น เธอไม่ต้องรู้สึกกดดันหรอก”

“ไม่มีเป้าหมาย ?” เสี่ยวเหยียนชำเลืองมองเขาทีหนึ่ง “เรื่องทั้งหมดที่ทำในคืนนั้น ก็ไม่มีเป้าหมายเหมือนกันเหรอ ? ถึงฉันจะไม่ได้ถือว่าฉลาดมากมาย แต่ฉันก็ไม่ใช่คนโง่นะ”

เมื่อฟังถึงตรงนี้ เซียวซู่ก็หัวเราะออกมา “ฉันก็แค่อยู่เพื่อช่วยทำกับข้าว เธอจำเป็นต้องระแวงฉันขนาดนั้นเลยเหรอ ถ้าเรื่องคืนนั้นทำให้เธอรู้สึกลำบากใจ ฉันรับปาก ว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีก”

จะไม่เกิดขึ้นอีก……

เสี่ยวเหยียนไม่เชื่อคำพูดของเขาหรอก วันนั้นเธอก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจู่ๆเขาก็จะเข้ามาจูบ

ถึงแม้ริมฝีปากจะประกบกันเพียงแผ่วเบา แต่ก็ร้ายแรงมากแล้ว ยิ่งช่วงนี้เขาตามติดตัวเองทุกวัน ทำให้เสี่ยวเหยียนเกิดความรู้สึกคิดระแวงไปเองขึ้นมา

เขากำลังพยายามเข้าใกล้ตัวเธอ ก็เพื่อจะจีบเธอไม่ใช่หรืออย่างไร

แต่น่าเสียดาย ที่ในสมองเธอมีแค่หานชิงคนเดียวเท่านั้น

โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่โศกเศร้าแบบนี้

“ฉันขอเตือนคุณไว้ก่อนเลยนะ คุณอย่าคิดจะฉวยโอกาส ตอนนี้ฉันอารมณ์แปรปรวนมาก”

เมื่อฟังถึงตรงนี้ เซียวซู่ก็เหมือนว่าจะฟังความหมายของเธอออกแล้ว เลยยิ้มบางๆ “ความหมายของเธอก็คือ รอให้เธอจัดการกับความรู้สึกของเธอได้แล้ว ฉันก็เริ่มจีบเธอได้แล้วใช่ไหม”

เสี่ยวเหยียนใจกระตุกวูบ แล้วหันไปมองทางเขาทันที

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ ถูกบังคับเป็นตัวแทนของงานแต่งงานนี้ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่พิการแต่กลับมีอำนาจใหญ่ “ฉันเย่โม่เซินไม่เอาผู้หญิงที่ท้องและไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใครเด็ดขาด”เดิมทีคิดว่างานแต่งงานนี้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอกลับเผลอใจ ไปไปมามา สุดท้ายเธอก็จากไปด้วยความเสียใจผ่านไปหลายปี ลูกชายที่หน้าตาคล้ายกับเขามากตบหัวของเย่โม่เซินด้วยฝ่ามือเล็กๆ“พ่อคนร้าย นายว่าใครเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเป็นใคร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset