เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด – ตอนที่ 13 กฎของตระกูล

ถึงแม้คุณหญิงจะใส่แว่นอยู่ แต่ก็เห็นไม่ชัด คุณหญิงเลยย้ำถามอีกครั้งว่า “ใช่เธอจริงๆใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ……” เซิ่งซินตอบด้วยน้ำเสียงสั่น
“ไปจับตัวเธอกลับมาเดี๋ยวนี้!” คุณหญิงพูดเสียงดังพร้อมตบโต๊ะ จนพี่เหอกับเซิ่งซินสะดุ้งตกใจ
ที่เซิ่งซินไม่กล้าพูดตรงๆ ก็เพราะรู้ว่าแกจะโกรธมาก
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ไป๋มู่ชิงก็ถูกนำตัวกลับมาที่บ้านตระกูลหนานกง
ในระหว่างทาง ถึงแม้เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่ก็คงเดาไม่ยากคงเกี่ยวกับเรื่องวันนี้ ต้องเป็นคนของตระกูลไป๋มาฟ้องแน่ๆ
การกลับบ้านหลังแต่งงานความจริงมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่เธอกลับทำให้ตัวเองอยู่ในสภาพที่น่าสมเพชเช่นนี้ ทั้งผ้าพันแผลเต็มหัวแล้วยังมีคราบเลือดเปื้อนตามเสื้อผ้า
เมื่อคุณหญิงเห็นสภาพเธอแบบนี้ก็อารมณ์ขึ้นจนใช้ไม้เท้าฟาดไปที่ตัวเธอพร้อมเอ่ยว่า “เอากฎตระกูลมาใช้!”
“คุณยายคะ……”ไป๋มู่ชิงล้มลุกคลุกคลานอยากจะขออภัยจากคุณหญิง
พี่เหอยื่นมือถือไปให้เธอดู “คุณหญิงน้อย ผู้หญิงในรูปใช่คุณหญิงน้อยหรือไม่?”
ไป๋มู่ชิงมองไปที่รูปในโทรศัพท์ ใจเธอตกวูบ มีรูปแบบนี้ได้ยังไงกัน
ตอนนั้นเธอเพียงแค่จะขอให้ผู้ชายในรูปช่วย เธอที่ยังบาดเจ็บแค่เอนตัวไปหาเขา แต่หน้ากลับไปโดนที่อกของเขาพอดี เป็นการกระทำที่จะเอาตัวรอดปกติ แต่ในสายตาคุณหญิงกลับโดนบอกเล่าจนเสียหาย ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าต้องเป็นไป๋ยิ่งอันแน่ที่ส่งรูปมา
คาดไม่ถึงเลยว่าเธอจะใช้วิธีสกปรกอย่างนี้ ตอนนี้ถึงเธอจะมีคำอธิบายแก้ตัว ก็คงไม่มีประโยชน์อะไรแล้วล่ะ
เธอพยายามพูด “คุณยายคะ มันไม่ใช่อย่างที่เห็น เขา…..”
“ถ้าไม่ใช่เพราะแหวนยังอยู่บนนิ้วเธอ ฉันล่ะอยากจะไล่เธออกจากตระกูลเดี๋ยวนี้เลย! ไสหัวไปซะ!” คุณหญิงโกรธจนเอาไม้เท้าฟาดไปที่ตัวเธออีกครั้ง จนทำให้เธอร้องเจ็บเสียงดัง
จากนั้นก็มีคนรับใช้เดินมาลากตัวไป๋มู่ชิงออกไปที่สวนหลังบ้าน
“พวกคุณจะทำอะไรน่ะ!?” ไป๋มู่ชิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงหวาดกลัว เธอมองไปรอบๆ เหมือนคนใช้เคยบอกว่านี้เป็นห้องโถงบรรพบุรุษ พวกเขาลากเธอมาที่นี่ทำไมกัน
คนรับใช้สองคนกดตัวเธอให้คุกเข่าพี่เหอเดินมาแล้วพูดกับเธอด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก “คุณหญิงน้อย คุณต้องคุกเข่าไถ่โทษตรงนี้1วัน1คืน คิดไต่ตรองกับสิ่งที่ตัวเองทำลงไปซะ”
พูดเสร็จก็หันหลังเดินออกไป
1วัน1คืน? ไป๋มู่ชิงนิ่งเงียบไป
ในบ้านของตระกูลไป๋ ไป๋ยิ่งอันเอารูปที่ไป๋มู่ชิงกับชายคนนั้นเดินไปเดินมาต่อหน้าของไป๋จิ้งผิง แล้วเอ่ยว่า “คุณพ่อ เห็นหรือยังคะ ลูกสาวสุดที่รักของคุณพ่อทำตัวต่ำต่อยเหมือนแม่เธอเลย มั่วผู้ชายไปทั่ว!”
“พอได้แล้ว” ไป๋จิ้งผิงชักสีหน้าใส่
“คุณพ่อจะมาว่าหนูทำไม หนูแค่อยากให้พ่อเห็นธาตุแท้ของเธอ” ไป๋ยิ่งอันเดินไปนั่งลงข้างๆ “คุณพ่อยังอุตส่าห์รู้สึกผิดกับเธอ กลัวเธอจะอยู่ที่บ้านหนานกงลำบาก ดูสิ ชีวิตนางดีแค่ไหน เพิ่งแต่งงานใหม่ๆก็ไปแอบมั่วกับผู้ชายคนอื่นแล้ว”
“นั่นสิ” ซูวยาหยงพูดเสียดขึ้น “คุณพี่ นังมู่ชิงหน้าไหว้หลังหลอก คุณพี่อย่าโดนหลอกนะคะ”
“อีกอย่าง ตระกูลหนานกงยังกล่าวโทษว่าบ้านเราเลี้ยงลูกสาวมายังไง จนตอนนั้นหนูอับอายจนไม่รู้จะตอบยังไง ชื่อเสียงเกียรติตระกูลของเราเสื่อมเสียหมด!”
ไป๋จิ้งผิงสูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามควบคุมอารมณ์ตัวเอง “ตระกูลหนานกงหมายความว่ายังไงกัน?”
“ก็แค่ลงโทษเธอไป แต่ก็ยังไม่ได้คำตอบว่าจะทำยังไง ฉันก็เลยบอกว่าเดี๋ยวจะอบรมสั่งสอนเธอเอง”
“งั้นหรือ พรุ่งนี้ก็ให้นางกลับมาที่บ้านแล้วกัน” ไป๋จิ้งผิงยันตัวลุกขึ้น แล้วเดินขึ้นบันไดไป
สองแม่ลูกที่ยังอยู่ก็มองหน้ากันแล้วหัวเราะอย่างสะใจ

เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด

เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด

ไป๋มู่ชิงเคยได้ยินเรื่องเล่าตั้งแต่เด็กว่า ตระกูลหนานกงในเมืองซีเป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุด แต่น่าเสียดายที่คุณชายใหญ่ของตระกูลกลับป่วยเป็นโรคประหลาด โรคที่เขาเป็นจะทำให้เขามีอายุอยู่ได้ไม่ถึงอายุ30ปี ไป๋มู่ชิงยังได้ยินมาอีกว่า คุณชายหนานกงเฉินแต่งงานใหม่ทุกๆปี แต่เจ้าสาวของเขากลับมีชีวิตอยู่ได้ไม่ถึงวันต่อมาหลังคืนเข้าหอ แต่ไม่ทราบสาเหตุของการแต่งงานและยังไม่ทราบถึงสาเหตุการเสียชีวิตของเจ้าสาวด้วย เมื่อตระกูลหนานกงได้ส่งของหมั้นมาให้ตระกูลไป๋ ไป๋มู่ชิงก็คิดไม่ถึงว่าพ่อของเธออยากจะปกป้องชีวิตพี่ของเธอไว้ถึงขนาดผลักเธอเข้าไปในประตูนรกอย่างโหดร้าย บังคับให้เธอแต่งงานกับหนานกงเฉินเป็นเจ้าสาวคนที่เจ็ดของเขา แทนพี่สาวของเธอ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset