เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด – ตอนที่ 15 เธอควรจะเชื่อฟังใคร

20นาทีหลังจากนั้นเธอกลับถึงห้องของตัวเอง เธอพยายามพาตัวเองขึ้นไปบนเตียงแล้วใช้ผ้าห่มม้วนตัวเธอไว้
เหนื่อยแทบตาย แต่ทำไมหัวถึงหมอนแล้วก็ยังไม่รู้สึกง่วง
เธอกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียงสักพักแล้วมองไปที่นาฬิกาที่ติดอยู่บนผนัง ตีหนึ่งแล้ว เวลานี้บ้านใหญ่เงียบสงัดจนได้ยินเสียงใบไม้ร่วงเต็มพื้น ลมพัดเข้ามาทางหน้าต่างของห้องเธอจนทำให้เกิดเสียงผ้าม่านที่กระทบกับผนัง ทั้งๆที่เรื่องที่เพิ่งเกิดเมื่อกี้ทำให้เธอจิตตกอย่างมาก จนตอนนี้เธอถึงขั้นต้องจับผ้าห่มมาห่มไว้อย่างแน่น
เธออยากไปเปิดไฟ แต่ไฟทุกดวงในห้องนี้เปิดไม่ติดหรอก เพราะพี่เหอพูดไว้ว่า ถ้าคุณชายใหญ่อยู่ห้ามเธอเปิดไฟเด็ดขาด
วินาทีต่อมา ภาพในหัวเธอกลับเป็นภาพที่หลินอันหนานกำลังทำอะไรบางอย่างกับไป๋ยิ่งอันอยู่ แล้วก็คำพูดที่ไป๋ยิ่งอันพูดที่ออกมา
เธอพยายามส่ายหัวไปมา แล้วหลับตาลง จะคิดถึงเรื่องพวกนี้ทำไมกัน
อยู่ดีๆก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น เธอพยายามยันตัวให้ขึ้น แต่ร่างกายกลับพันอยู่กับห้าห่มพร้อมกับใช้มือเช็ดน้ำตาไปด้วย ดึกขนาดนี้แล้วนอกจากหนานกงเฉินแล้วจะเป็นใครอีกล่ะ
คนที่เปิดประตูเข้ามาเป็นหนานกงเฉินจริงๆด้วย ถึงแม้เธอจะมองเห็นหน้าเขาไม่ชัด แต่ท่าทางบุคลิกแบบนี้เป็นเขาแน่ๆ
เขาเดินตรงมาแล้วฉุดเธอออกจากผ้าห่ม ใช้มือจับคางเธอไว้ นิ้วมือที่ลากผ่านหน้าเธอสัมผัสกับคราบน้ำตาที่ยังหลงเหลืออยู่
“ได้ข่าวว่าเธอแอบไปมีชู้งั้นหรอ” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจ
ไป๋มู่ชิงอึ้งไปพักหนึ่ง จากนั้นรีบส่ายหัวปฏิเสธ “เปล่า ฉันไม่ได้……”
“คุณหนูไป๋ คุณอย่าลืมล่ะว่าตอนนี้คุณเป็ยภรรยาของผมแล้ว ถ้าจะร้องไห้ก็เพียงเพราะผมคนเดียวเท่านั้น รีบกั้นน้ำตาไว้ซะ” หนานกงเฉินแสดงท่าทางที่เอาแต่ใจของเขาออกมาอย่างไม่ปิดบัง
ไป๋มู่ชิงรีบยกแขนเสื้อขึ้นมาเช็ดคราบน้ำตาบนใบหน้า พร้อมตอบกลับว่า “ฉันไม่ได้ร้องไห้เพราะผู้ชาย”
“งั้นเธอร้องไห้เพราะอะไร?”
“ฉัน……”
หนานกงเฉินยิ้มแสร้งขึ้นมา “เป็นเพราะผมหรอ? โกรธที่ผมไม่ได้กลับไปบ้านฝ่ายหญิงพร้อมคุณหรอ?”
“เปล่า……ไม่ใช่……”
หนานกงเฉินไม่รอให้เธออธิบาย ก็ก้มลงไปจูบปิดปากเธอ แต่กลับได้แต่รสชาติอันขมขื่นจากริมฝีปากเธอ
มันทำให้เขารู้สึกหงุดหงิด เธอกล้าดียังไงถึงผลักเขาออกโดยไม่เกรงใจ
ไป๋มู่ชิงรู้สึกถึงความหงุดหงิดของเขา รีบอธิบายตอบ “ฉันขอโทษ คืนนี้ฉันไม่มีอารมณ์……”
แต่นี่คือความจริง เธอไม่มีอารมณ์จะทำอะไรเลย
หนานกงเฉินรู้สึกเหมือนโดนกลั่นแกล้ง ทำให้เขาอารมณ์ร้อนขึ้นหัว เขาผลักเธอลงบนเตียง ใช้มือลูบไล้ไปตามร่างกายเธอพร้อมพูดด้วยเสียงเจ้าเล่ห์ข้างหูเธอ “ไม่มีงั้นหรอ แต่ผมมีอารมณ์”
“อย่านะ……”
“ผมเตือนคุณแล้วนะ อย่าให้ผมเห็นว่าคุณร้องไห้เพราะผู้ชายอื่นอีก ไม่งั้น……ผมจะลงโทษคุณเอง” พูดจบ เขาก็ใช้มืออีกข้างกระชากเสื้อเธอออก
‘แกรก!’ เสื้อผ้าฉีกออกจากกัน ไป๋มู่ชิงรู้สึกเย็นวาบบนตัว ครั้งนี้เขาไม่ได้ล้อเล่น……
หนึ่งชั่วโมงต่อมา ห้องกลับมาเงียบเหมือนเดิม
หนานกงเฉินเสร็จภารกิจก็เดินออกจากห้องเธอไป คงจะเดินกลับห้องตัวเองไป
เธอคิดมาตลอดว่าเป็นเพราะหน้าตาที่ขี้เหร่ของเธอ ทำให้หนานกงเฉินไม่อยากเจอเธอ แต่ยังไงนี่ก็เป็นความลับของตระกูลหนานกง เธอไม่มีสิทธิ์รู้
ด้วยความกลัว ทำให้เธอนอนไม่หลับทั้งคืน จนกระทั่งปลายขอบฟ้าเริ่มมีแสงสว่างอันริบหรี่เธอถึงเผลอหลับไป แต่เธอยังไม่ทันได้หลับสนิท ก็มีคนมาเคาะประตูอย่างเสียงดัง
หญิงรับใช้ไม่สนว่าเธอตื่นหรือยัง เดินมาตรงหน้าเธอด้วยสีหน้านิ่งเฉย “อรุณสวัสดิ์คุณหญิงน้อย นี่คือยาที่คุณชายให้ดิฉันนำมาให้”
ไป๋มู่ชิงยื่นมือไปรับยามา นี่มันยาคุมกำเนิดหนิ
แต่ในเวลาเดียวกันก็มีหญิงรับใช้อีกคนเดินเข้ามาพร้อมกับถ้วยยาสีดำขมคอ นำมายื่นให้เธอ พูดด้วยน้ำเสียงมีมารยาทว่า “คุณหญิงน้อย นี่เป็นยาที่คุณหญิงใหญ่ให้ดิฉันนำมาให้คุณหญิงดื่มก่อนรับประทานอาหารเช้า”
ยาจากคุณหญิงงั้นหรอ คงเกี่ยวกับการช่วยมีบุตรแน่ๆ
ข้างหนึ่งเป็นยาคุมกำเนิด แต่อีกข้างหนึ่งกลับเป็นยาช่วยมีบุตร ไป๋มู่ชิงรู้สึกตลก อะไรของยายหลานคู่นี้เนี่ย คนหนึ่งอยากให้เธอมีลูก แต่อีกคนกลับกลัวเธอท้อง เธอควรจะเชื่อฟังใครล่ะ?
เพื่อที่จะให้หญิงรับใช้ทั้งสองกลับไปอย่างสมหวัง เธอจึงกินยาทั้งสองอย่างลงไปพร้อมกัน
พูดตามตรง ตอนนี้เธอก็ยังไม่อยากมีลูกหรอก เพราะเธอไม่มีความรู้สึกผูกพันกับตระกูลหนานกง อีกหน่อยจะเป็นยังไงก็ยังไม่รู้เลย
อีกอย่าง ถ้าหนานกงเฉินมีชีวิตรอดไม่ถึงอายุ30จริงล่ะก็ อีกหนึ่งปีข้างหน้า ไม่ว่าแหวนวงนี้ยังจะอยู่บนนิ้วเธอหรือเปล่า ยังไงเธอก็จะเป็นอิสระ คงไม่ให้เธอคลอดลูกชายให้เขาก่อนตายหรอกมั้ง

เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด

เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด

ไป๋มู่ชิงเคยได้ยินเรื่องเล่าตั้งแต่เด็กว่า ตระกูลหนานกงในเมืองซีเป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุด แต่น่าเสียดายที่คุณชายใหญ่ของตระกูลกลับป่วยเป็นโรคประหลาด โรคที่เขาเป็นจะทำให้เขามีอายุอยู่ได้ไม่ถึงอายุ30ปี ไป๋มู่ชิงยังได้ยินมาอีกว่า คุณชายหนานกงเฉินแต่งงานใหม่ทุกๆปี แต่เจ้าสาวของเขากลับมีชีวิตอยู่ได้ไม่ถึงวันต่อมาหลังคืนเข้าหอ แต่ไม่ทราบสาเหตุของการแต่งงานและยังไม่ทราบถึงสาเหตุการเสียชีวิตของเจ้าสาวด้วย เมื่อตระกูลหนานกงได้ส่งของหมั้นมาให้ตระกูลไป๋ ไป๋มู่ชิงก็คิดไม่ถึงว่าพ่อของเธออยากจะปกป้องชีวิตพี่ของเธอไว้ถึงขนาดผลักเธอเข้าไปในประตูนรกอย่างโหดร้าย บังคับให้เธอแต่งงานกับหนานกงเฉินเป็นเจ้าสาวคนที่เจ็ดของเขา แทนพี่สาวของเธอ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset