เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด – ตอนที่ 18 แย่งทุกอย่างกลับคืนมา

“คุณแม่คะ ไหนบอกว่าคนที่แต่งงานกับหนานกงเฉินจะอยู่รอดไม่ถึงวันรุ่นขึ้นไงคะ ถึงจะรอดไปในคืนวันแต่งงานแต่ก็ไม่ถึงเดือน? แต่ทำไมนังไป๋มู่ชิงไม่เห็นเป็นอะไรเลย? ยังดูดีมีชีวิตชีวาอยู่” หลังจากที่ไป๋มู่ชิงกลับไป เธอก็เอาแต่ตอแยกับเรื่องนี้
“รอดมาได้ในคืนวันแต่งงานถือว่าเธอดวงแข็ง แต่จะรอดถึงเดือนหรือเปล่านี่สิ”ซูวยาหยงพูดเสริม
“หนูกลัวว่าเรื่องเล่านี้จะไม่ใช่เรื่องจริง ถ้างั้นนังนี่ก็เหมือนหนูตกถังข้าวสารเลยสิ” ไป๋ยิ่งอันรู้สึกหงุดหงิด
ถึงแม้ตระกูลหลินจะถือว่ารวยแล้ว แต่ถ้าเทียบกับตระกูลหนานกงคงเทียบไม่ติด ถ้าหนานกงเฉินเป็นคนปกติ เธอคงไม่ต้องลังเลที่จะแต่งงานกับเขา เธอก็จะได้เป็นว่าที่คุณหญิงของตระกูลหนานกง
“เรื่องที่ว่าภรรยาของหนานกงเฉินตายติดๆกันถึงหกคนนั้นเป็นเรื่องจริง ถ้าเรื่องเล่าไม่เป็นความจริง แล้วจะเกิดเรื่องพวกนี้ได้ยังไงกัน? เพราะฉะนั้นเรารอดูไปเถอะ นังนี่อยู่รอดไม่ถึงเดือนหรอก”
“แต่ยังไงหนูก็ยังไม่สบายใจ” ไป๋ยิ่งอันจับมือของแม่ไว้แน่น “ถ้าเธอไม่ตายล่ะ ถ้าเรื่องเล่าไม่เป็นจริงล่ะ เราสูญเสียหนักเลยนะคะ”
“สูญเสียอะไรกัน ถึงเรื่องเล่าจะไม่จริง ไม่มีใครรู้ว่าหนานกงเฉินรูปลักษณ์เป็นยังไง จะอ้วนจะผอมหรือจะสูงหรือเตี้ย อยู่มาเกือบสามสิบปีไม่เคยเปิดเผยหน้าที่ไหน ถ้าไม่ใช่เพราะขี้เหร่มากจะหลบๆซ้อนๆทำไม? แล้วผู้ชายรวยๆที่ยัยนั่นพูดถึง เธอคงกุเรื่องขึ้นมาเองนั่นแหละ”
ถึงแม้ซูวยาหยงจะพูดได้สมเหตุสมผล แต่เมื่อวานไป๋ยิ่งอันเห็นกับตาว่าผู้ชายคนนั่นจูบไป๋มู่ชิง
ซูวยาหยงพูดด้วยหน้าตายิ้มแย้ม “แม่ว่า บนโลกนี้ไม่มีผู้ชายคนไหนเทียบกับหลินอันหนานได้หรอก ทั้งหล่อทั้งรวย ที่สำคัญเขายังหลงรักลูกอีก ลูกนี่แหละที่จะได้เป็นเจ้าสาวของเขา จะคิดมากไปทำไมกัน”
ไป๋ยิ่งอันก็ยังรู้สึกเสียดายอยู่ดี พร้อมพูดตอบไปว่า “ยังไงตระกูลหนานกงก็น่าสนใจมากกว่าอยู่ดี ถ้าหากว่าหนานกงเฉินหน้าตาหล่อเหมือนเขาแถมยังแข็งแรงด้วย”
“ถ้าหนานกงเฉินดูดีเหมือนเขา ยังไงแม่ก็จะแย่งเขากลับมาให้ได้”
“แต่ไป๋มู่ชิงแต่งงานแทนหนูไปแล้วนะ”
“แล้วยังไงล่ะ ในเมื่อแม่บังคับให้นางแต่งงานแทนหนูได้ แม่ก็มีวิธีที่จะให้หนูไปแทนที่ได้เหมือนกัน” ซูวยาหยงหัวเราะด้วยความพอใจ “ไว้ใจแม่เถอะลูกรัก”
“ใช่สิ คุณแม่เก่งที่สุดเลยค่ะ” ไป๋ยิ่งอันก็ยิ้มหัวเราะคิกคักตาม
ยังไงเธอก็เชื่อใจความสามารถของแม่เธออยู่แล้ว เพราะแม่เธอช่วยแย่งหลินอันหนานมาให้เธอ แล้วยังให้ไป๋มู่ชิงแต่งงานแทนเธออีก ยังมีอะไรอีกที่แม่เธอทำไม่ได้บ้าง
ถ้าเรื่องเล่าเป็นเรื่องปลอมล่ะก็ ยังไงเธอก็จะแย่งหนานกงเฉินกลับมาเป็นของตัวเองให้ได้ เธอก็จะได้เป็นว่าที่คุณหญิงของตระกูลหนานกง!
เมื่อหนานกงเฉินกลับมาถึงบ้าน ก็ได้ยินพี่เหอบอกว่าคุณหญิงอยากพบเขา
เขาลังเลเล็กน้อยแต่ก็เดินตรงไปที่ห้องของคุณหญิง
ในห้องนอนใหญ่ที่ดูดีหรูหรา คุณหญิงก็นั่งอยู่บนโซฟา กำลังรอเขากลับมานั่นเอง
“คุณยายเรียกผมเหรอครับ?” หนานกงเฉินนั่งลงที่เก้าอี้ตรงหน้าพร้อมยกน้ำชาที่พี่เหอเตรียมไว้ขึ้นมาจิบ
คุณหญิงจ้องมองไปที่เขาด้วยความไม่พอใจ “ได้ข่าวว่าหลานเอายาคุมกำเนิดให้ไป๋มู่ชิงกินหรอ?
หนานกงเฉินแปลกใจเล็กน้อย คาดไม่ถึงเลยว่าคุณหญิงจะถามเขาเรื่องนี้
ในขณะเดียวกันก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น หญิงรับใช้คนหนึ่งที่ยกถ้วยยาได้เดินเข้ามาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงมีมารยาทว่า “คุณชายคะ ยาต้มเสร็จแล้วค่ะ”
หนานกงเฉินมองไปที่ถ้วยยาสีดำนั้น รสชาติที่แสนจะขมคอมีแต่เขาเท่านั้นที่เข้าใจ
“วางลงก่อน” เขาพูด
หญิงรับใช้วางถ้วยยาลงแล้วก็หันเดินออกไป
หนานกงเฉินยกถ้วยยาขึ้น แล้วยื่นไปทางคุณหญิง “คุณยายเคยลองชิมรสชาติของยานี้หรือยังครับ?”
คุณหญิงเอือมที่จะพูดเพราะเขาตอบไม่ตรงคำถาม
“ถ้าคุณยายเคยชิมต้องสงสารผมแน่ๆเลย” ริมฝีปากอันสวยงามของเขายิ้มแห้งๆแล้วพูดต่อว่า “ผมก็อยากมีเหลนให้คุณยายนะครับ แต่ถ้าเหลนคนนี้ต้องเกิดมาเหมือนผมที่ต้องทานยาพวกนี้ตั้งแต่เด็ก แล้วอาจจะอยู่ไม่รอดถึงอายุสามสิบ ไม่เกิดมาดีกว่าครับคุณยาย”
สีหน้าเริ่มแรกที่ไม่พอใจค่อยๆลดลง พร้อมพูดปลอบว่า “หลานเฉิน โรคของหลานไม่ใช่เพราะร่างกายหลานหรอก แต่เพราะ…..” คุณหญิงหยุดพูดไป แล้วเอ่ยต่อว่า “ลูกที่เกิดมาอาจจะไม่มีโรคก็ได้นะหลานยาย เพราะเหตุผลนี้ทำให้หลานไม่อยากมีลูกเหรอ? อีกอย่าง ถ้าหลานไม่มีลูกแล้วใครจะเป็นคนรับช่วงดูแลตระกูลเราล่ะ? จะให้ตกไปถึงมือลุงกับป้าของหลานงั้นหรือ?”
“ถ้าจะต้องมี ก็คงไม่มีกับคุณหนูไป๋คนนี้หรอกครับ” หนานกงเฉินเอ่ย
เมื่อรู้อยู่แล้วว่าคุณหนูไป๋คนนี้จะไม่ใช่ภรรยาคนสุดท้ายของเขา แล้วจะให้โอกาสเธอทำไมล่ะ?
คุณหญิงยังอยากพูดอะไรบางอย่าง แต่หนานกงเฉินก็ขยับเก้าอี้ลุกขึ้น “คุณยายรีบเข้านอนนะครับ ผมยังต้องไปเคลียร์งานอีกหน่อย”
พูดจบเขาก็หันหลังเดินตรงออกไปโดนที่ไม่สนใจว่าคุณหญิงจะโกรธหรือเปล่า
เมื่อเขาเดินผ่านหน้าประตูห้องของไป๋มู่ชิง เขาหยุดอยู่ตรงนั้นแล้วมองกวาดประตูที่กำลังล็อกอยู่ แล้วมีหญิงรับใช้เดินมาพอดี “เปิดไฟในห้องเธอทั้งหมด”
หญิงรับใช้ประหลาดใจเล็กน้อยพร้อมพยักหน้ารับ “ค่ะ คุณชาย”
จากนั้นหนานกงเฉินก็เดินผ่านเข้าห้องตัวเองไป

เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด

เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด

ไป๋มู่ชิงเคยได้ยินเรื่องเล่าตั้งแต่เด็กว่า ตระกูลหนานกงในเมืองซีเป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุด แต่น่าเสียดายที่คุณชายใหญ่ของตระกูลกลับป่วยเป็นโรคประหลาด โรคที่เขาเป็นจะทำให้เขามีอายุอยู่ได้ไม่ถึงอายุ30ปี ไป๋มู่ชิงยังได้ยินมาอีกว่า คุณชายหนานกงเฉินแต่งงานใหม่ทุกๆปี แต่เจ้าสาวของเขากลับมีชีวิตอยู่ได้ไม่ถึงวันต่อมาหลังคืนเข้าหอ แต่ไม่ทราบสาเหตุของการแต่งงานและยังไม่ทราบถึงสาเหตุการเสียชีวิตของเจ้าสาวด้วย เมื่อตระกูลหนานกงได้ส่งของหมั้นมาให้ตระกูลไป๋ ไป๋มู่ชิงก็คิดไม่ถึงว่าพ่อของเธออยากจะปกป้องชีวิตพี่ของเธอไว้ถึงขนาดผลักเธอเข้าไปในประตูนรกอย่างโหดร้าย บังคับให้เธอแต่งงานกับหนานกงเฉินเป็นเจ้าสาวคนที่เจ็ดของเขา แทนพี่สาวของเธอ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset