เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด – ตอนที่ 20 ความบังเอิญ2

คำถามที่ว่าทำไมถึงถึงอยู่รอดจนถึงตอนนี้ได้ เธอเองก็แปลกใจเหมือนกัน อาจจะเป็นเพราะเรื่องเล่านี้เป็นเรื่องที่ถูกแต่งขึ้นมา
ก่อนออกจากบ้าน คุณหญิงก็เน้นย้ำกับเธอแล้วว่าอะไรที่ไม่ควรพูดเธอก็จะไม่พูด เพราะฉะนั้นเธอเองก็ไม่รู้จะตอบคำถามของเหยาเหม่ยยังไงดี
ในขณะที่เธอกำลังลังเลอยู่ ก็มีเสียงเยาะเย้ยดังขึ้นมา “อ้าว นี่ไม่ใช่คุณหญิงน้อยตระกูลหนานกงหรอกเหรอ บังเอิญจังเลยเนอะ”
ไป๋มู่ชิงเริ่มขมวดคิ้ว เธอรีบก้มหน้าก้มตาเช็ดคราบน้ำตาบนใบหน้า
ไป๋ยิ่งอันสังเกตเห็นรอยน้ำตาที่ขอบตาเธอ เดินเข้าไปแสร้งถาม “นี่เพิ่งแต่งงานได้ไม่นาน ทำไมถึงมานั่งร้องไห้แบบนี้ล่ะ คุณชายตระกูลหนานกงไม่ดีกับเธอหรอ?”
พูดจบไป๋ยิ่งอันก็หันไปพูดกับเพื่อนสนิทอย่างเหอหลิงว่า “เมื่อกี้เรากำลังพูดถึงพอดีเลยว่าชีวิตคุณหนูไป๋คนนี้เป็นยังไงบ้างหลังจากแต่งงาน แต่ดูเหมือนเธอจะไม่ค่อยสู้ดีเลยเนอะ”
เหอหลิงเป็นเพื่อนสนิทของไป๋ยิ่งอัน แต่ก็ถือว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน เพราะเหอหลิงเป็นญาติของซูวยาหยง ถึงไป๋มู่ชิงจะรู้จักเธอแต่ก็ไม่ค่อยสนิท
เมื่อได้ยินไป๋ยิ่งอันพูดแบบนั้นแล้ว เหอหลิงก็รีบเสริมว่า “แต่งงานกับผู้ชายที่ทั้งขี้เหร่ ร่างกายก็ยังไม่แข็งแรง แถมยังมีเรื่องเล่าแบบนั้นอีก ถึงจะรอดมาได้แต่ชีวิตเธอจะดีได้ยังไงกัน?”
“ก็จริง น่าสงสารจังเลย”
เหอหลิงจงใจจ้องมองไปที่เธอพร้อมถามว่า “ฉันสงสัยจังเลยว่าหนานกงเฉินจะขี้เหร่ขนาดไหน จนไม่กล้าออกพบปะผู้คนเหรอ? หรือเขาปวดจนลุกจากเตียงไม่ได้?
ไป๋มู่ชิงพยายามเก็บอารมณ์ไว้ โดยที่ไม่โต้ตอบสักคำ
จนเหยาเหม่ยที่นั่งอยู่ข้างๆทนฟังไม่ได้ ลุกขึ้นตบโต๊ะพร้อมชี้หน้าพวกเธอสองคน “นังหน้าไม่อาย คิดว่าการแย่งแฟนคนอื่นเป็นเรื่องที่น่าภูมิใจหรอ? ถ้าฉันไม่ได้ตบปากเธอจนเลือดหนองฉันจะ……!”
เหยาเหม่ยยังพ่นคำด่าไม่หมด เธอก็โดนไป๋มู่ชิงลากลงมานั่งกับโซฟาเหมือนเดิม
“ช่างมันเถอะ เราไปที่อื่นกัน” ไป๋มู่ชิงเริ่มใจร้อน
โดยรอบๆเริ่มมีผู้คนมามุงดู เธอเกรงว่าถ้าไม่รีบห้ามปราม เรื่องที่เธอแต่งงานแทนจะโป๊ะแตก หรือถ้ามีเรื่องตบตีกับไป๋ยิ่งอันในที่แบบนี้ คุณหญิงคงไม่ปล่อยเธอไว้แน่
เธอทำได้แค่ทน พยายามเก็บอารมณ์ไว้
ถึงเธอจะทนได้ แต่เหยาเหม่ยที่อารมณ์ร้อนขึ้นหัวทนไม่ได้ หันไปพูดกับเธอว่า “เธอจะลากฉันทำไม อย่างนังนี่มันสมควรโดนตบสั่งสอน!”
“ไว้วันอื่นเถอะ วันนี้ไม่ค่อยเหมาะ” ไป๋มู่ชิงรีบลากตัวเธอออกไป
เห็นว่าทั้งสองกำลังจะเดินออกไป เหอหลิงก็รีบเดินมาขวางทางไว้ พร้อมพูดแซะว่า “เธอว่าใครกันหรอ? ฉันก็แค่แปลกใจอยากรู้ว่าพี่เขยหน้าตาขี้เหร่แค่ไหนมันผิดหรอ? พี่สาวก็ตอบฉันมาสิ ว่าเขาขี้เหร่จริงๆ เทียบไม่ติดแม้แต่ปลายเล็บของพี่อันหนาน” พูดจบเธอก็ยื่นมือไปจับแขนไป๋มู่ชิงไว้
ไม่จบไม่สิ้นจริงๆ!
ตอนนี้ไป๋มู่ชิงรู้สึกเลือดพุ่งพล่านไปทั้งตัว โกรธจนกำมือแน่น ถ้าเป็นไปได้เธออยากจะตบหน้ายัยนี่แรงๆ แต่เธอจะสร้างปัญหาไม่ได้ ไม่งั้นเธอคงไม่ได้ออกจากบ้านมาเที่ยวเล่นแบบนี้อีกแน่
ทั้งที่เธอต้องพยายามกั้นอารมณ์ร้อนนี้ไว้ ยังต้องคอยห้ามไม่ให้เหยาเหม่ยก่อเรื่องอีก
ในขณะที่เธอไม่รู้จะทำยังไงต่อดี ก็มีเสียงผู้ชายหัวเราะเยาะเย้ยดังขึ้นมาจากข้างหลัง”นี่พวกเธอกกำลังพูดถึงหนานกงเฉินเหรอ? ผมเคยเจอเขา……”
ทุกคนยืนนิ่งไป แล้วหันไปหาต้นเสียงอย่างพร้อมเพรียงกัน กลับเห็นผู้ชายใบหน้าหล่อเหลายืนยิ้มกริ่มอยู่ท่ามกลางผู้คนที่มามุงดู
ไป๋มู่ชิงก็หันมองไปด้วย จากนั้นก็ทำเธออึ้งเล็กน้อย
ไม่ใช่เพราะผู้ชายคนนี้หรอก แล้วก็ไม่ใช่เพราะคำพูดของเขาด้วย แต่กลับเป็นผู้ชายร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างหลังต่างหาก
คนที่ช่วยเธอไว้ในโรงพยาบาลวันนั้น อะไรกันเนี่ย ทุกครั้งที่เจอเขา ฉันตกอยู่ในสภาพทุลักทุเลแบบนี้ทุกที
เธอสบตาเข้ากับเขาที่กำลังมองมาที่เธอพอดี เธอจึงรีบหลบสายตาเขา ใบหน้าก็เริ่มร้อนแดงขี้น
“เคยเจอเขา? งั้นนายก็ต้องรู้สิว่าหน้าตาของเขาเป็นยังไง” ไป๋ยิ่งอันถามอย่างอยากรู้ เธอคงเป็นคนที่อยากเห็นหน้าตาของหนานกงเฉินมากที่สุดแล้ว
“ผมก็ต้องรู้สิ” เซิ่งเคอก็ยังยิ้มกริ่มอยู่ “เขาน่ะหรอ ส่วนสูงแค่ประมาณนี้” เขายกมือขึ้นเทียบ สูงถึงประมาณติ่งหูเขา
“ใบหน้าที่ขี้เหร่เหมือนถูกรถเก็บขยะทับหน้า แถมร่างกายยังผอมซูบจนเห็นโครงกระดูก ตอนเดินก็เป๋ไปเป๋มา ดูรวมๆแล้วเหมือนผีโครงกระดูกชัดๆ ตอนนั้นผมเห็นแค่เว็บเดียวก็ตกใจจนฉี่จะราดแล้ว”สีหน้าของหนานกงเฉินที่ยืนฟังอยู่ข้างหลังเริ่มขมวดคิ้มเข้ม พูดสะสนุกปากเลยนะ
ได้ยินอย่างนั้น ทั้งไป๋ยิ่งอันกับเหอหลิงก็แอบยิ้มสะใจคิกคักกัน
“นายแน่ใจเหรอ?” ไป๋ยิ่งอันถามเพื่อให้แน่ใจ
“แน่ใจสิ จะโกหกทำไมกัน” เซิ่งเคอพยักหน้ารับตาม
ถ้าเป็นอย่างนั้น ไป๋ยิ่งอันก็รู้สึกสบายใจแล้ว

เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด

เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด

ไป๋มู่ชิงเคยได้ยินเรื่องเล่าตั้งแต่เด็กว่า ตระกูลหนานกงในเมืองซีเป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุด แต่น่าเสียดายที่คุณชายใหญ่ของตระกูลกลับป่วยเป็นโรคประหลาด โรคที่เขาเป็นจะทำให้เขามีอายุอยู่ได้ไม่ถึงอายุ30ปี ไป๋มู่ชิงยังได้ยินมาอีกว่า คุณชายหนานกงเฉินแต่งงานใหม่ทุกๆปี แต่เจ้าสาวของเขากลับมีชีวิตอยู่ได้ไม่ถึงวันต่อมาหลังคืนเข้าหอ แต่ไม่ทราบสาเหตุของการแต่งงานและยังไม่ทราบถึงสาเหตุการเสียชีวิตของเจ้าสาวด้วย เมื่อตระกูลหนานกงได้ส่งของหมั้นมาให้ตระกูลไป๋ ไป๋มู่ชิงก็คิดไม่ถึงว่าพ่อของเธออยากจะปกป้องชีวิตพี่ของเธอไว้ถึงขนาดผลักเธอเข้าไปในประตูนรกอย่างโหดร้าย บังคับให้เธอแต่งงานกับหนานกงเฉินเป็นเจ้าสาวคนที่เจ็ดของเขา แทนพี่สาวของเธอ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset