เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด – ตอนที่ 2 คืนวันแต่งงาน

ในที่สุดหนานกงเฉินได้ก้าวขึ้นไปบนเตียง ไป๋มู่ชิงเห็นว่าเขากำลังมุ่งหน้าไปหาเธอ โดยสัญชาติญาณของเธอ เธอก็ได้ไปขดตัวอยู่ตรงกลางเตียง
หนานกงเฉินไปหยุดอยู่ตรงหน้าของเธอ เขาอยู่ในตำแหน่งที่สูงกว่าและได้มองลงมายังเธอ เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า“ฉันได้ยินมาว่าเธอสามารถรักษาโรคที่ฉันเป็นได้เหรอ?”
ไป๋มู่ชิงพึมพำว่าเธอเหรอที่รักษาเขาได้?นั่นมันหมายความว่ายังไงกัน?
ขนาดตัวเธอเองยังไม่มีความมั่นใจเลย แต่เขานั้นเอาความมั่นใจนั้นมากจากไหนกันนะ?
“ฉันก็กำลังถามเธออยู่” หนานกงเฉินได้โน้มตัวเข้าไปหาเธอแล้วใช้มือของเขาจับคางของเธอไว้ และได้บังคับให้เธอจ้องตาของเขา
เพียงแค่ชั่วขณะ เขาได้มองเข้าไปในตาของเธอแล้วได้เห็นภาพลางๆของไป๋ยิ่งอัน ในตอนแรกที่เขาดูรูปเขาก็มีความรู้สึกชอบแล้ว เพราะเหตุนี้ เขาเลยยอมรับการแต่งงานที่คุณผู้หญิงได้วางแผนเอาไว้ให้
เขาก็รู้ทั้งรู้ว่าผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขานั้นไม่ใช่ไป๋ยิ่งอัน แต่ว่าเขาเลือกที่จะแต่งด้วยอยู่ดี
ในคืนนั้นเอง ไป๋มู่ชิงมองหน้าของหนานกงเฉินไม่ค่อยชัด แต่เธอนั้นกลับโดนหนานกงเฉินจ้องมองเข้าไปในตาเพื่อที่ทำให้เธอตกใจ
ไป๋มู่ชิงลังเลอยู่สักพักหนึ่ง ถึงตอบไปด้วยเสียงที่สั่นว่า“ถ้าหากว่า……ฉันบอกว่าไม่ล่ะ คุณจะปล่อยฉันไปไหม?
“เธอคิดว่าอย่างไรล่ะ”?ทันใดนั้นหนานกงเฉินได้ผลักเธอลงไป และสั่งเธอว่า“ถอดเสื้อเธอออกเดียวนี้”
“ ฉันไม่ถอด……”ไป๋มู่ชิงรีบเอามือมาจัดชุดนอนของตนเอง ผู้ชายคนนี้จะน่ากลัวเกินไปแล้วนะ เธอไม่อยากมีความสัมพันธ์อะไรกับเขา ในความวุ่นวายนั้นเธอได้หันตัวไปแล้วใช้มือคลำเพื่อที่จะหาวิธีลงจากเตียง แต่ว่าหนานกงเฉินรู้ทันเธอ ดวงตาที่เฉียบคมของเขาได้เห็นดังนั้นก็จับชุดนอนของเธอไว้
“สุภาพบุรุษเขาไม่ใช้กำลังกันหรอก!”ไป๋มู่ชิงพยายามดิ้นเพื่อจะได้หลุดออกมาจากเขา และวิ่งไปล่างเตียงอย่างรวดเร็ว
หนานกงเฉินโมโหมาก จนเดินอ้อมไปอยู่ตรงหน้าของเธอ และลากเธอกลับขึ้นไปบนเตียงอย่างป่าเถื่อน หลังจากนั้นเขาได้ฉีกชุดนอนของเธอออก
ไป๋มู่ชิงรู้สึกว่าผิวของเธอนั้นเย็นเฉียบ รู้ว่าตัวเองนั้นถูกถอดเสื้อผ้าจนเปลือยแล้ว ถึงแม้ว่าเธอรู้สึกทั้งอายทั้งโกรธแต่เธอก็ยังดิ้นและตะโกนไปว่า“หนานกงเฉิน!ทำไมคุณถึงกล้ากลั่นแกล้งผู้หญิงที่บอบบางแบบนี้กัน?ฉันจะไปบอกให้ทุกคนได้รับรู้ว่าคุณนั้นเป็นคนที่ชั่วร้ายขนาดไหน……!”
หนานกงเฉินกลับไม่รู้สึกอะไรเลย ร่างที่แข็งแรงของเขานั้นก็ได้ทับร่างกายเธอ และเขาก็กระซิบข้างหูของเธอด้วยน้ำเสียงที่เลือดเย็นว่า“ครั้งนี้จะดีกว่าครั้งไหนๆ ไม่งั้นจุดจบของเธอก็จะเหมือนกับคนอื่นๆที่ผ่านมา!”
พอไป๋มู่ชิงได้ฟังที่เขาพูดแล้วนั้นในใจของเธอก็รู้สึกอึ้ง เหมือนกับพวกเธอเหรอ?พวกเธอที่พูดนั้นหมายถึงใครกันนะ?ภรรยาทั้งหกคนที่ตายไปแล้วของเขาเหรอ?
เธอก็รู้สึกหวาดกลัวที่จะมองหน้าของเขา ได้เพียงแต่กัดฟันแล้วไม่กล้าส่งเสียงออกมาเลย
เขาไม่ได้รู้สึกสงสารเธอเลยแม้แต่นิดเดียว
ไป๋มู่ชิงดิ้นไปไหนไม่ได้ ได้แต่เพียงกัดฟันไว้ หลังจากมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งไป๋มู่ชิงก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะว่าเธอเหนื่อยจนเผลอหลับไปหรือว่าเพราะโดนหนานกงเฉินทรมาน เพราะเธอสลบไปโดยที่ไม่รู้อะไรเลย
ไป๋มู่ชิงเข้าสู่ห้วงความฝัน ในฝันนั้นไฟได้ลุกโชน ไป๋ยิ่งอันพี่สาวของเธอนั้นได้ยื่นมือมาขอให้เธอช่วย พี่สาวเธอรู้สึกผิดเป็นเพราะเธอไม่ดีเอง เธอไม่ควรกลั่นแกล้งไป๋มู่ชิง เธอยังพูดอีกว่าเธอนั้นไม่อยากตาย
หลังจากนั้นไฟก็ลุกขึ้นมา ในแค่ชั่วพริบตาเดียวพี่สาวได้กลืนหายไปกับกองไฟนั้น
“พี่คะ!”ไป๋มู่ชิงเรียกพี่สาวของเธอ แล้วเธอก็ได้ตื่นขึ้นมาจากฝันพร้อมเหงื่อที่ท่วมตัวของเธอ
ในตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างถือว่าไม่คุ้นเคยเลยสำหรับเธอ เพราะเธอไม่เคยเจอมาก่อน เธอรู้สึกมึนงงอยู่บนเตียงไปสักพักหนึ่ง ในตอนนั้นเองเธอรู้สึกว่าเธอนั้นเจ็บปวดไปทั่วร่างกาย
ความทรงจำก่อนที่เธอจะเผลอหลับไปนั้นค่อยๆชัดเจนขึ้นมา ทั้งการปรากฏตัวของหนานกงเฉินและเหตุการณ์เมื่อคืนนั้น เธอได้ก้มหน้าลงมองร่างกายของตัวเอง หลังจากนั้นก็หันไปเห็นเงาผู้ชายคนหนึ่ง!

เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด

เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด

ไป๋มู่ชิงเคยได้ยินเรื่องเล่าตั้งแต่เด็กว่า ตระกูลหนานกงในเมืองซีเป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุด แต่น่าเสียดายที่คุณชายใหญ่ของตระกูลกลับป่วยเป็นโรคประหลาด โรคที่เขาเป็นจะทำให้เขามีอายุอยู่ได้ไม่ถึงอายุ30ปี ไป๋มู่ชิงยังได้ยินมาอีกว่า คุณชายหนานกงเฉินแต่งงานใหม่ทุกๆปี แต่เจ้าสาวของเขากลับมีชีวิตอยู่ได้ไม่ถึงวันต่อมาหลังคืนเข้าหอ แต่ไม่ทราบสาเหตุของการแต่งงานและยังไม่ทราบถึงสาเหตุการเสียชีวิตของเจ้าสาวด้วย เมื่อตระกูลหนานกงได้ส่งของหมั้นมาให้ตระกูลไป๋ ไป๋มู่ชิงก็คิดไม่ถึงว่าพ่อของเธออยากจะปกป้องชีวิตพี่ของเธอไว้ถึงขนาดผลักเธอเข้าไปในประตูนรกอย่างโหดร้าย บังคับให้เธอแต่งงานกับหนานกงเฉินเป็นเจ้าสาวคนที่เจ็ดของเขา แทนพี่สาวของเธอ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset