เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด – ตอนที่ 33 พิธีหมั้น 2

เธอก้าวเดินไปตรงหน้าของทั้งสองคน พยายามปั้นหน้าให้นิ่งที่สุด ส่งยิ้มบางๆให้ทั้งสองคน: “ยินดีกับทั้งสองคนด้วยนะคะ ต้องขอโทษด้วยฉันลืมของขวัญไว้ที่บ้าน วันหน้าจะเอาไปให้นะคะ”
“นายหญิงน้อยมาร่วมงานได้ ฉันก็ดีใจมากแล้ว จะต้องการของขวัญอะไรอีก?” ไป๋ยิ่งอันดึงมือของเธอไว้ ยิ้มอย่างร้ายๆ: “ไม่คิดว่าคุณจะให้เกียรติมาร่วมงานพิธีหมั้นของฉันกับคุณชายหลินด้วย ขอบใจนะ”
“คนหนึ่งเป็นพี่น้องที่ฉันรัก ส่วนอีกคนก็เป็นชายที่ฉันเคยรู้จัก จะไม่มาได้อย่างไร?”ไป๋มู่ชิงกล่าวพร้อมส่งยิ้มเยาะไปยังเธอ ให้ปลายคางชี้ไปยังตัวอักษรด้านข้างเขียนว่า ‘เจ้าสาวไป๋มู่ชิง’ “ดูชื่อนี้ เธอไม่รู้สึกกระอักกระอวนใจบ้างหรอ? ทำไมไม่กล้าเปลี่ยนเป็นชื่อของตัวเองหรือไง?”
“ฉันทำแบบนี้ก็เพื่อเธอนะ ไม่เข้าใจหรอ?”
“เหอะ”ไป๋มู่ชิงหัวเราะ :”พอเถอะ อย่ามาเสียเวลาคุยไร้สาระกับฉันเลย รีบไปต้อนรับแขกเถอะ”
พูดจบ เธอก็ก้าวขาเตรียมเดินไปยังห้องจัดงาน
บังเอิญในตอนนั้น หญิงวัยกลางคนที่แต่งตัวหรูหราท่านหนึ่งได้เดินออกมาจากห้องจัดงาน หญิงไฮโซคนนั้นเดินตรงมายังไป๋มู่ชิง ดึงมือของเธอไว้พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น: “ยิ่งอัน เธอมาแล้วหรอ……”
ไป๋มู่ชิงชะงักกับความกระตือรือร้นของเธอเล็กน้อย ถอนมือออกโดยสัญชาตญาณ: “อืม……สวัสดีค่ะ คุณหญิงหลิน”
แม้เธอจะไม่เคยพบหน้าคุณแม่ของหลินอันหนานโดยตรง แต่ก็เคยได้ยินหลินอันหนานพูดถึงอยู่บ่อยๆ และเคยเห็นภาพถ่ายของเธอ จึงรู้จักเธอ
มือของคุณหญิงหลินว่างลง รู้สึกเคอะเขินเล็กน้อยจึงถามว่า:”เอ่อ……คุณผู้หญิงท่านสบายดีไหม?”
“คุณหญิงย่าสบายดีค่ะ เพียงแต่ท่านอายุมากแล้ว เลยไม่สะดวกออกงาน จึง…….”
“ไม่เป็นไรเลย คุณผู้หญิงท่านยอมให้เธอมา ฉันก็รู้สึกดีใจมากแล้ว”คุณหญิงหลินพูดอย่างตื้นตันใจ ตื้นตันจนขอบตาชื้นเล็กน้อย
คนในงานต่างก็แปลกใจว่าเธอตื้นตันเรื่องอะไร ไป๋มู่ชิงเองก็ไม่เข้าใจ จู่จู่เธอก็นึกขึ้นได้ว่าเมื่อเช้าคุณผู้หญิงได้สั่งมา จึงรีบพูดขึ้นว่า: “จริงสิ คุณหญิงหลิน คุณผู้หญิงย่าฝากประโยคถึงท่าน แต่ว่า……ประโยคนี้ไม่ค่อยน่าฟังเท่าไหร่”
สีหน้าตื้นตันของคุณหญิงหลินหมองลงทันที
แม้ว่าจะไม่ค่อยอยากพูด แต่คำสั่งของคุณผูหญิงก็ไม่อาจขัดได้ ในที่สุดไป๋มู่ชิงก็พูดออกมาตามความจริงว่า: “คุณผู้หญิงบอกว่าที่ตระกูลหนานกงมาร่วมงานพิธีหมั้นในวันนี้ เพราะเห็นแก่หน้าของตระกูลไป๋ เอ่อ……นี่เป็นคำพูดของคุณผู้หญิงนะคะ”
คุณหญิงหลินชะงักไปครู่หนึ่ง พึมพำออกมาว่า: “ดูเหมือนว่าเธอยังไม่ให้อภัยฉันสินะ”
“คุณป้าคะ ท่านพูดว่าอะไรนะคะ?”ไป๋ยิ่งอันเห็นคุณหญิงหลินคุยกับไป๋มู่ชิงอย่างกระตือรือร้น ก็รู้สึกฉุนในใจ แต่กลับเดินมาแตะแขนของคุณหญิงหลินและส่งยิ้มบางๆให้
คุณหญิงหลินส่ายหน้า: “ไม่มีอะไรจ๊ะ”พูดจบก็ถามไป๋มู่ชิงว่า: “ยิ่งอัน ทำไมอาเฉินไม่ได้มาพร้อมเธอละ?”
“เขา……”ไป๋มู่ชิงยิ้ม แต่ไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรดี
ไป๋ยิ่งอันจึงชิงตอบไปว่า: “คุณชายหนานกงคงค่อนข้างอายที่จะเจอผู้คนจำนวนมาก มากกว่าค่ะ คุณป้า อย่าโทษเขาเลยนะคะ”
“อืม……”คุณหญิงหลินพยักหน้ารับครั้งหนึ่ง แตะไหล่ไป๋ยิ่งอันให้เธอไปตามอัธยาศัยแล้ว หมุนตัวเดินไปยังห้องด้านข้างฮอลล์
หลังจากไป๋ยิ่งอันมองคุณหญิงหลินเดินเข้าห้องไป จึงถอยกลับมากอดแขนของหลินอันหนานแล้วถามว่า: “อันหนาน ทำไมฉันรู้สึกว่าแม่คุณแปลกๆนะ?”
“ไม่มีอะไรหรอก ท่านก็เป็นคนคิดมากแบบนี้มาตลอด” หลินอันหนานตอบพลางยิ้มปลอบเธอ
หลังจากผ่านเข้าประตูห้องจัดเลี้ยง เดินไปด้านในเป็นสวนดอกไม้แบบเปิดโล่งขนาดใหญ่ ข้างในมีสระว่ายน้ำ มีดอกไม้ต้นหญ้า และยังมีเวทีที่สร้างขึ้นชั่วคราวอีกด้วย

เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด

เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด

ไป๋มู่ชิงเคยได้ยินเรื่องเล่าตั้งแต่เด็กว่า ตระกูลหนานกงในเมืองซีเป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุด แต่น่าเสียดายที่คุณชายใหญ่ของตระกูลกลับป่วยเป็นโรคประหลาด โรคที่เขาเป็นจะทำให้เขามีอายุอยู่ได้ไม่ถึงอายุ30ปี ไป๋มู่ชิงยังได้ยินมาอีกว่า คุณชายหนานกงเฉินแต่งงานใหม่ทุกๆปี แต่เจ้าสาวของเขากลับมีชีวิตอยู่ได้ไม่ถึงวันต่อมาหลังคืนเข้าหอ แต่ไม่ทราบสาเหตุของการแต่งงานและยังไม่ทราบถึงสาเหตุการเสียชีวิตของเจ้าสาวด้วย เมื่อตระกูลหนานกงได้ส่งของหมั้นมาให้ตระกูลไป๋ ไป๋มู่ชิงก็คิดไม่ถึงว่าพ่อของเธออยากจะปกป้องชีวิตพี่ของเธอไว้ถึงขนาดผลักเธอเข้าไปในประตูนรกอย่างโหดร้าย บังคับให้เธอแต่งงานกับหนานกงเฉินเป็นเจ้าสาวคนที่เจ็ดของเขา แทนพี่สาวของเธอ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset