เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด – ตอนที่ 36 พิธีหมั้น 5

“น้องและน้องเขยอยากให้ผมมาด้วยความจริงใจขนาดนี้ ผมจะไม่มาได้ยังไง?”หนานกงเฉินก้าวเข้ามา ยืนข้างกายไป๋มู่ชิง โอบเธอไว้ในอ้อมแขน มองไปยังทั้งสองแล้วพูดว่า: “ขอโทษที ตอนพี่สาวเธอออกจากบ้าน ลืมของขวัญไว้ ผมเลยกลับเอาที่บ้าน”
พูดจบ สาวสวยที่สวมชุดลุคนักธุรกิจด้านหลัง ก็เดินขึ้นเวที โดยไม่ต้องให้เขาสั่งการ ยื่นกล่องเครื่องประดับในมือให้ไป๋ยิ่งอัน ไป๋มู่ชิงแปลกใจเล็กน้อย นี่เป็นสร้อยเพชรที่เธอลืมไว้บ้านเขา
“เปิดดูสิ ว่าชอบไหม?”หนานกงเฉินยังคงยิ้มอย่างน่าหลงไหล
รอบๆเริ่มมีคนวิจารณ์ ต่างคาดเดาและแปลกใจว่าผู้ชายตรงหน้าคือหนานกงเฉินที่เขาลือกันว่าทั้งขี้เหร่ทั้งอ่อนแอหรือเปล่า
ไป๋ยิ่งอันรับกล่องเครื่องประดับมา มองเขาแวบนึงแล้วเปิดกล่อง ข้างในคือสร้อยเพชรราคาสิบกว่าล้านเส้นนั้น ขอแค่เป็นคนรู้จริง มองปราดเดียวก็รู้ว่าราคาไม่ธรรมดา และคนรอบๆตัวล้วนเป็นคุณหนูตระกูลไฮโซที่มีอัญมณีเป็นปัจจัยที่5 อยู่แล้ว
“เป็นเพชรที่สวยมาก ราคาไม่เบาแน่?” เริ่มมีคนวิจารณ์คนอีกครั้ง
แม้ไป๋ยิ่งอันจะรู้ว่าสร้อยราคาแพงระยับ แต่ก็ไม่ได้ทำให้เธอหลงใหลมากนัก เพราะของแบบนี้ถ้าเธออยากได้ก็หาได้ทุกเมื่ออยู่แล้ว
เธอปิดฝากล่องลง ประเมินหนานกงเฉินและยิ้มอย่างเยือกเย็น: “คุณผู้ชายคะ สร้อยคอสวยมากค่ะ แต่การอ้างตัวเป็นคนอื่นเป็นเรื่องดีหรอ? หากดิฉันจำไม่ผิด คราวก่อนคุณปรากฏตัวในฐานะชู้รักของพี่สาวดิฉัน ทำไมพริบตาเดียว กลายเป็นคุณชายหนานกงได้ละ?”
“ต้องการให้ยืนยันตัวตนหรอ?” หนานกงเฉินหุบยิ้มเล็กน้อย
“คุณควรยืนยันตัวตนสักหน่อยดีกว่า”
“ยืนยันยังไงครับ? บัตรประชาชน? หรือว่า……”
ไม่รอเขาพูดจบ ผู้ช่วยสาวก็นำบัตรประชาชนของเขายื่นให้: “คุณนายหลินเชิญตรวจดูค่ะ”
ไป๋มู่ชิงกวาดสายตามองรูปกับชื่อบนบัตรประชาชน คิดในใจว่าชายคนนี้รอบคอบดี เตรียมทุกอย่างพร้อมมาก แต่ว่า……นี่เขาอยากทำลายเธอถึงตายเลยหรอ?
เธอแอบใช้มือดึงชายเสื้อของเขาเล็กน้อย เป็นการเตือนให้ทำพอประมาณ
ไป๋ยิ่งอันและหลินอันหนานเห็นบัตรประชาชนของหนานกงเฉิน สีหน้าเปลี่ยนไป เสียงอุทานรอบๆดังขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีใครคิดเลยว่า ขี้เหร่ที่เขาลือกันที่แท้เป็นชายหนุ่มรูปงามถึงขีดสุดที่ยืนอยู่ตรงหน้า
เมื่อเห็นลูกสาวถูกต้อนจนยอมแพ้ทุกเรื่อง ซูวยาหยงที่รับชมความสนุกสนานมาตลอดที่ชั้น2 รีบเดินลงมา ส่งยิ้มแห้งๆให้ทุกคนพร้อมพูดว่า: “ทุกท่านเริ่มเต้นรำก็เถอะ อย่าล้อมกันอยู่ตรงนี้เลย”
เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้พิธีกรก็ไม่รู้จะแก้สถานการณ์ยังไงดี จึงยกไมค์ขึ้นแล้วพูดว่า: “ขอให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวนำเต้นเปิดฟลอร์ด้วยค่ะ”
หนานกงเฉินกลับยื่นมือไปแย่งไมค์ในมือเขา แล้วพูดกับทุกคนว่า: “ในเมื่อเจ้าบ่าวเจ้าสาวอยากให้ผมและภรรยาของผมนำเต้นเปิดฟลอร์ พวกเราก็ขอน้อมรับคำเชิญ รบกวนฝ่ายเครื่องเสียงเตรืยมดนตรีด้วยครับ”
เขาคืนไมค์ให้พิธีกร เสียงดนตรีอันไพเราะดังขึ้นอีกครั้ง
หนานกงเฉินยิ้มให้ทั้งสองคน: “รบกวนขอทางหน่อยครับ?”
หลินอันหนานที่รู้สึกตัวก่อน ดึงไป๋ยิ่งอันที่สีหน้าเขียวสลับขาวออกจากกลุ่มคนไป
หนานกงเฉินกุมมือของไป๋มู่ชิงแล้วดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอด ไป๋มู่ชิงชนเข้ากับอกของเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว เธอยืนตัวตรงอย่างเขินๆ กระซิบข้างหูเขาว่า: “ฉันเต้นรำไม่เป็น……”
หนานกงเฉินกลับไม่ปล่อยเธอไป มือข้างนึงแตะตรงเอวของเธอมืออีกข้างกุมมือเธอไว้ หมุนตัวพาเธอหมุนตามไปรอบนึง เพราะกระซิบข้างหูเธอว่า: “เท่าที่ผมรู้ เธอเคยได้รับรางวัลใหญ่สาขาเต้นรำนะ”
เขารู้กระทั่งเรื่องนี้ด้วยหรอ?
ไม่ผิด ไป๋ยิ่งอันเล่นเปียโนได้ เต้นรำเป็น แต่เธอคือไป๋มู่ชิงไม่ใช่ไปยิ่งอัน!

เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด

เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด

ไป๋มู่ชิงเคยได้ยินเรื่องเล่าตั้งแต่เด็กว่า ตระกูลหนานกงในเมืองซีเป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุด แต่น่าเสียดายที่คุณชายใหญ่ของตระกูลกลับป่วยเป็นโรคประหลาด โรคที่เขาเป็นจะทำให้เขามีอายุอยู่ได้ไม่ถึงอายุ30ปี ไป๋มู่ชิงยังได้ยินมาอีกว่า คุณชายหนานกงเฉินแต่งงานใหม่ทุกๆปี แต่เจ้าสาวของเขากลับมีชีวิตอยู่ได้ไม่ถึงวันต่อมาหลังคืนเข้าหอ แต่ไม่ทราบสาเหตุของการแต่งงานและยังไม่ทราบถึงสาเหตุการเสียชีวิตของเจ้าสาวด้วย เมื่อตระกูลหนานกงได้ส่งของหมั้นมาให้ตระกูลไป๋ ไป๋มู่ชิงก็คิดไม่ถึงว่าพ่อของเธออยากจะปกป้องชีวิตพี่ของเธอไว้ถึงขนาดผลักเธอเข้าไปในประตูนรกอย่างโหดร้าย บังคับให้เธอแต่งงานกับหนานกงเฉินเป็นเจ้าสาวคนที่เจ็ดของเขา แทนพี่สาวของเธอ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset