เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด – ตอนที่ 84 สลับตัว

ซูวยาหยงรับรู้ได้ถึงสายตาที่จับจ้องมาของคุณผู้หญิง ทำให้รู้สึกกลัวอยู่ในใจ
เธอกระวนกระวายจนพูดออกมาว่า“เอ่อ……จริงๆแล้วยิงอันแค่รู้สึกไม่ดีที่ต้องพูดกับผู้ใหญ่ ดังนั้นเลยให้ฉันมาคุยกับท่านด้วยตัวเอง”
พอพูดจบ เธอดึงมือของไป่มู่ชิง“ใช่ไหม ยิ่งอัน”
ไป๋มู่ชิงงงไปเลย ตอนที่มองไปที่ทั้งสองคนเธอพยักหน้าไปแบบทื่อๆว่า“ใช่คะ คุณย่า”
ซูวยาหยงค่อยๆโล่งใจขึ้นมา
คุณผู้หญิงคิดแล้วคิดอีกยังไงก็รู้สึกว่าถ้าให้ไป๋มู่ชิงไปก็ไม่สบายใจแน่ๆ เพราะเด็กในท้องนั้นสำคัญกับตระกูลมาก เธออยากจะดูแลไป๋มู่ชิงจนถึงเธอคลอด
พี่เหอมองสองแม่ลูกแล้วหันไปกระซิบที่ข้างหูคุณผู้หญิงว่า“คุณผู้หญิง เด็กในท้องของคุณนายหญิงน้อยเริ่มจะโตแล้ว อีกไม่นานยังไงคุณชายใหญ่ต้องรู้ ให้เธอกับอยู่บ้านสักช่วงหนึ่งไปก่อนไม่ดีกว่าเหรอ”
ยังไงนี่ก็เป็นวิธีเดียว ถ้าให้ไป๋มู่ชิงกลับบ้านไปก่อน ยังไงมากที่สุดก็ประมาณครึ่งเดือนก่อนที่ท้องเธอจะใหญ่ขึ้นมา ยังไงคุณผู้หญิงก้จะส่งเธอไปอยู่ต่างประเทศอยู่แล้ว
ถ้าหากว่าให้เธอรู้สึกหมองเศร้ากับการตั้งท้องนี้ สู้ให้เธอกลับไปอยู่บ้านแบบสบายใจไม่ดีกว่าเหรอ ยังไงก็ดีกับเด็กในท้องด้วย
“ถ้ายิ่งอันอยากจะกลับไป งั้นให้เธอกลับบ้านไปอยู่สักพักละกัน”ในที่สุดคุณผู้หญิงก็พูดออกมาแบบนี้
ซูวยาหยงหัวเราะออกมาอย่างโล่งใจ “ขอบคุณคุณผู้หญิงมากค่ะ งั้นฉันจะพาเธอกลับไป”พอพูดจบ เธอไม่รอช้าที่พูดกับไป๋มู่อันว่า“ยิ่งอัน ไปเก็บของได้แล้ว”
“จะไปตอนนี้แล้วเหรอ?”ไป๋มู่ชิงพูดออกมาทันที
นี่ไม่รีบไปหน่อยเหรอ?เพราะเธอยังไม่ได้คุยเรื่องนี้กับหนานกงเฉินเลย
“ใช่แล้ว พอพ่อเธอได้ยินว่าเธอออาจจะกลับไปก็ดีใจมากเลย นี่พ่อรอเธออยู่ที่บ้านจนไม่ไปที่บริษัทเลยนะ”ตอนที่ซูวยาหยงพูดประโยคนี้ เธอก็แอบๆไปจับแขนของไป๋มู่ชิง
ไป๋มู่ชิงก็ไม่กล้าพูดอะไร ได้แต่พูดกกับคุณผู้หญิงว่า“คุณย่าคะ งั้นหนูไปเก็บของข้างบนก่อนนะคะ”
คุณผู้หญิงพยักหน้าเบาๆและไม่ลืมที่จะเตือนว่า“กลับบ้านไปแล้วยังไงต้องดูแลตัวเองดีๆนะ อย่าให้ลมหรือไปชนเข้ากับอะไรล่ะ เข้าใจไหม?”
“เข้าใจแล้วค่ะคุณย่า”ไป่มู่ชิงรู้สึกร้อนที่ตา นี่เป็นครั้งแรกที่รู้สึกผิดกับคุณย่า
พอเข้าไปในห้อง ซูวยาหยงเปลี่ยนสีหน้าทันที พูดเหน็บแนมว่า“ทำไมกัน?อยู่ที่นี่อย่างกินดีมีสุขจนไม่อยากกลับไปเลยเหรอ?”
ไป๋มู่ชิงไม่ได้สนใจที่เธอพูด เอาแต่เก็บข้าวของของเธอไปเงียบๆ
“ใช่สิ กลัวความจนมาตั้งแต่เด็ก คงไม่ง่ายเลยสินะที่จะยอมไปจากที่นี่”ซูวยาหยงเดินไปนั่งที่โซฟา กอดอกพูดกับเธอว่า“เธอน่ะควรขอบคุณพี่สาวเธอนะทีให้เธอได้มาใช้ชีวิตอยู่อย่างสุขสบายแบบนี้ ไม่อย่างนั้นชีวิตนี้เธอคงไม่ได้มาอยู่เป็นนายหญิงน้อยแบบนี้หรอก”
ไป่มู่ชิงได้แต่อดทนเอาไว้ หันไปจ้องเธอและพูดด้วยท่าทางไร้อารมณ์ว่า“แม่รองแน่ใจได้อย่างไรว่าตรงประตูไม่มีคนของตระกูลหนานกงแอบฟังอยู่?”
พอเธอพูดแบบนี้แล้วซูวยาหยงหยุดพูดทันที ลุกขึ้นไปดูที่หน้าประตูแต่เห็นว่าไม่มีใครอยู่เลยตบอกอย่างโล่งใจ
ถึงแม้ว่าที่หน้าประตูจะไม่มีใครมาแอบฟัง แต่เธอก็ระมัดระวังอย่างดีเพราะไม่งั้นความพยายามที่เธอทำมาก็จะสูญเปล่า
ตอนที่ไป่มู่ชิงมาแรกนั้นแทบจะไม่มีใครเอาอะไรมาให้เธอเลย หลังจากนั้นไม่ว่าจะเป็นพวกเสื้อผ้า ของใช้ประจำวันหนานกงเฉินล้วนเป็นคนเตรียมให้เธอ
ในวันนี้ที่จะต้องไปแล้วก็ไม่มีของอะไรมากที่จะต้องเอาไป
เสื้อผ้าที่หนานกงเฉินซื้อให้เธอก็เอาแขวนไว้ในตู้เสื้อผ้า ไม่คิดจะเอาไปแม้แต่ตัวเดียว เครื่องประดับที่ไปเลือกซื้อกับเขาเธอก็เก็บไว้ในลิ้นชักที่เดิม
จากวันนี้ไปที่นี่คงต้องเป็นของไป๋ยิ่งอันหมดแล้ว ไม่อยากจากไป ต้องคิดถึงที่นี่แน่ๆ แต่ยังไงก็ต้องไปเผชิญหน้ากับความเป็นจริง
หวังว่าหลังจากนี้ เธอจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่อย่างสงบสุข ไม่มีหลินอันหนาน ไม่มีหนานกงเฉินและไม่มีตระกูลไป่อีก
ซูวยาหยงพูดด้วยน้ำเสียงที่หมดความอดทนว่า“ไปกันได้แล้ว อย่ามัวแต่มาอาลัยอาวรณ์แล้ว ยังไงที่นี่ก็ไม่ใช่ที่ของเธออีกต่อไปแล้ว”
ไป๋มู่ชิงเลิกคิดเดินไปหยิบกระเป๋าของเธอขึ้นมาจากโซฟาและลงไปข้างล่างกับซูวยาหยง
ตอนที่เดินมาถึงตรงบันไดซูวยาหยงหยิบกระเป๋าจากมือเธอมา อีกมือพยุงแขนเธอเดินลงมา ทำตัวเหมือนแม่ลูกที่รักกัน
“คุณผู้หญิง งั้นพวกเราไปก่อนนะคะ”ซูวยาหยงเคารพคุณผู้หญิงอย่างนอบน้อม
คุณผู้หญิงเห็นสีหน้าของไป๋มู่ชิงก็พูดกับเธออย่างอบอุ่นว่า“งั้นกลับกันดีๆนะ”
ไป๋มู่ชิงก็พยักหน้าเบาๆให้กับคุณผู้หยิงและได้ไปจากห้องรับแขกของตระกูลหนานกง
ครั้งแรกในหลายปีก่อนที่เธอเข้ามาที่บ้านตระกูลไป่ แม่ได้พาเธอไปเจอกับพ่อแต่ซูวยาหยงกลับไล่เธอออกไป
ครั้งที่สองคือไม่กี่เดือนก่อน ซูวยาหยงที่บ้านเป็นการส่วนตัวไปหาเธอ แม่เธอและน้องชายเพื่อเชิญมาที่บ้านตระกูลไปเพื่อมาอยู่ด้วยกัน จากนั้นฝันร้ายก้ได้กลับมาอีกครั้ง
แม่และน้องชายได้สาบสูญหายไป ส่วนเธอโดนหลอกให้ไปแต่งงานกับตระกูลหนานกงแทนไป๋ยิ่งอัน ชีวิตที่สงบสุบกลับต้องมาวุ่นวายแบบนี้
แล้ววันี้เธอต้องกลับไปเหยียบตระกูลไปอีก โชคร้ายยังรอเธออยู่ตรงนั้น
เห้นเธอกลับมาไป๋ยิ่อันดีใจมาก เพราะแผนของเธอสำเร็จแล้ว!
บนโต๊ะอาหารเย็น ไป๋ยิ่งอันคีบของอร่อยให้ไป๋มู่ชิงเยอะมาก ถามเรื่องเกี่ยวกับตระกูลหนานกงด้วยท่าทางที่หัวเราะคิกคัก
ในใจของไป๋มู่ชิงรู้สึกอึดอัดเป็นอย่างมาก มีอาหารอร่อยเต็มโต๊ะแต่เธอกลับกลืนอะไรไม่ลงเลย
ในใจของไป๋มู่ชิงรู้สึกอึดอัดเป็นอย่างมาก มีอาหารอร่อยเต็มโต๊ะแต่เธอกลับกลืนอะไรไม่ลงเลย
ไป๋มู่ชิงบีบตะเกียบไว้แน่นและเงยหน้าไปจ้องซูวยาหยง
ซูวยาหยงสัมผัสได้ถึงสายตาของเธอ ยิ้มอย่างสงบว่า“มู่อัน ไม่ต้องกลัว ทำแท้งสมัยนี้ไม่เจ็บหรอก เด็กก็ยังพึ่งเป็นรูปเป็นร่างไม่เจ็บขนาดนั้นหรอก”
ไป๋ฒุ่ชิงหัวเราะออกมาอย่างเศร้าใจ ที่เธอเป็นห่วงนั้นกลับเป็นการเจ็บปวดจากอาการผ่าตัดหรอกเหรอ?
ไป๋จิ้งผิงวางตะเกียบลง ลุกขึ้นยืนพูดว่า“ฉันกินอิ่มแล้ว พวกค่อยๆกินกันไปนะ”
“พ่อ ทำไมกินน้อยแบบนี้ล่ะ?”ไป๋ยิ่งอันพูดด้วยความเป็นห่วง
“ตอนบ่ายกิของว่างไปเยอะ ตอนนี้ยังไม่หิว”ไป๋จิ้งผิงจัดเสื้อผ้าของตัวเอง ตอนที่เขาจะเดินออกไปก้พูดกับไป๋มู่ชิงว่า“มู่ชิง กินข้าวเสร็จแล้วอย่าลืมมาหาพ่อที่ห้องหนังสือด้วยนะ”
ไป๋มู่ชิงยังไม่ทันได้ตอบรับ แต่เขากลับออกไปจากโต๊ะกินข้าวเดินขึ้นไปข้างบนแล้ว
ไป๋มู่ชิงกินข้าวไม่ลงอยู่แล้ว ไป๋จิ้งผิงพึ่งจะเดินจากไป เธอก็ลุกจากเก้าอี้และเดินออกไปจากห้องอาหารโดยไม่พูดอะไรกับสองแม่ลูกเลย
สองแม่ลูกมองเธอเดินจากไป ทันใดนั้นไป่ยิ่งอันมองซูวยาหยงด้วยความกังวล“แม่ แม่ว่าพ่อให้เธอไปหาทำไม?”
“จะมีอะไรอีก?วางใจเถอะ พ่อรักเธอที่สุดแล้ว”ซูวยาหยงก้มหน้าทานข้าวในจานต่อ เธอไม่กังวลเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย
ไป๋มู่ชิงเคาะประตูเข้าไปในห้องหนังสือของไป๋จิ้งผิง มองไปที่โต๊ะทำงานแล้วพูดว่า“พ่อ พ่ออยากพบฉันเหรอ?”
“ใช่แล้ว”ไป๋จิ้งผิงบอกให้เธอนั่งลง
ไป่มูชิงนั่งตรงข้างเขารอเขาพูด
ตอนนั้นที่พ่อไม่สนใจใยดีแม่ของเธอ เธอก็ไม่ได้คาดหวังอะไรจากพ่ออีกแล้ว ในตอนนี้โดนบังคับให้ไปแต่งงานกับตระกูลหนานกงและยังโดนบังคบให้ออกมาจากตระกูลหนานกง เธอก็หมดหวังกับเขาแล้ว
ไป๋จิ้งผิงถอนหายใจออกมาเบาๆ มองไปที่เธอพูดว่า“มู่ชิง พ่ออยากให้รู้ก่อนว่าตอนที่ตระกูลไป๋ตกยากนั้น ก็ได้เงินของแม่รองม่ทำให้พ้นจากวิกฤตมา”
“เรื่องนี้ฉันเคยได้ยินมาแล้ว ดังนั้นพ่อเลยทิ้งแม่ เลือกที่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้น”ไป๋มู่ชิงหัวเราะเยาะ“หลังจากนั้นพ่อแต่งงานแล้ว แต่ก็ไม่ทิ้งแม่ ถ้าแอบคบกับแม่ในภายหลังเบื่อแล้วก็ทิ้งเธอ แม่ร้องไห้บอกกับพ่อว่าท้อง แต่พ่อกลับไม่ยอมรับว่านั้นเป็นลูกของพ่อ และยังให้ลุงมารับแม่กลับเมืองหยานไม่ให้เข้ามาในเมืองซีอัก”
“มู่ชิง เรื่องที่เธอไม่ใช่สายเลือดของฉัน จนถึงวันนี้ฉันก็ไม่แน่ใจ เรื่องราวความข้องใจของพ่อกับแม่ลูกไม่ได้รู้เรื่องทั้งหมด ลูกไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อถึงทิ้งเธอ และก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อถึงไม่ยอมรับลูก แต่ไม่ว่าจะพูดยังไง ลูกก็เคยทุ่มเทให้กับตระกูลไป๋ เคยเสียสละมายังไงพ่อก็จะชดเชยให้”ไป๋จิ้งผิงหยิบเช็คออกมาจากในลิ้นชักให้ธอ“นี่เงินสิบล้าน อย่าให้แม่รองกับยิ่งอันรู้นะ นับจากวันนี้ไปลู แม่กับน้องชายเอาไปอยู่ด้วยกันนะ”
ไป๋มู่ชิงมองไปที่เช็คบนโต๊ะ เงยหน้าพูดว่า“พ่อ ที่เมื่อก่อนหนูไม่กล้าเรียกพ่อว่าพ่อเป็นเพราะหวังว่าพ่อกับแม่รองจะต่างกัน อย่างน้อยก็ควรมีจิตสำนึกมากกว่าเธอ เงินสิบล้านนี้หนูไม่ต้องการหรอก แต่หวังว่าพ่อจะช่วยเรื่องหนึ่ง ยังไงก็ต้องช่วยหนู”
“ช่วยเรื่องอะไร?”ไป๋จิ้งผิงถามเธอ
“ลูกอยากเก็บเด็กคนนี้ไว้ ไป่ยิ่งอันยังคงเป็นนายหญิงน้อยของตระกูลหนานกงได้ แต่ลูกจะพาเด็กคนนี้หนีไปในที่ไกลๆและจะไม่กลับมาที่เมืองซีอีก”
“อยากเก็บเด็กคนนี้ไว้?“
“ใช่ค่ะ นี่เป็นคำของร้องและความหวังเดียว”
“ทำไมกันล่ะ?ผู้หญิงตัวคนเดียวหอบลูกไปไกลๆยังไงก้ไม่สะดวก จะไปแต่งงานกับใครก็ไม่ได้แล้ว”ไป๋จิ้งผิงไม่เข้าใจ
“นี่มันเป็นเรื่องของลูก ไม่เกี่ยวกับพ่อ”ไป๋มู่ชิงพูดอย่างไม่แยแสเลย
“แต่ว่า……”
“เป็นไปไม่ได้!”ทันใดนั้นก็มีคนเปิดประตูเข้ามาในห้องหนังสือ ไป๋ยิ่งอันบุกเข้ามาจ้องไป๋มู่ชิงอย่างโกรธแค้น“ฉันเคยพูดแล้วนะ ยังไมฉันก็จะไม่ให้เลือดเนื้อเชื้อไขของตระกูลหนานกงเกิดออกมาบนโลกนี้หรอกนะ เธอบ้าไปแล้วหรือยังไงกัน”
“ไม่ผิดที่ไม่ควรเก็บเด็กคนนี้ไว้!”ซูวยาหยงก็ตามเข้ามายืนอยู่กับไป๋ยิ่งอันพูดว่า“ไป๋มู่ชิง เธออย่าคิดว่าพวกเราไม่รู้ว่าเธอวางแผนอะไรไว้ ถ้าหากนี่เป็นลูกชาย หลังจากนี้ถ้าเธอหอบเขาหาหนานกงเฉิน ไป๋ยิ่งอันก็ซวยสิ”

เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด

เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด

ไป๋มู่ชิงเคยได้ยินเรื่องเล่าตั้งแต่เด็กว่า ตระกูลหนานกงในเมืองซีเป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุด แต่น่าเสียดายที่คุณชายใหญ่ของตระกูลกลับป่วยเป็นโรคประหลาด โรคที่เขาเป็นจะทำให้เขามีอายุอยู่ได้ไม่ถึงอายุ30ปี ไป๋มู่ชิงยังได้ยินมาอีกว่า คุณชายหนานกงเฉินแต่งงานใหม่ทุกๆปี แต่เจ้าสาวของเขากลับมีชีวิตอยู่ได้ไม่ถึงวันต่อมาหลังคืนเข้าหอ แต่ไม่ทราบสาเหตุของการแต่งงานและยังไม่ทราบถึงสาเหตุการเสียชีวิตของเจ้าสาวด้วย เมื่อตระกูลหนานกงได้ส่งของหมั้นมาให้ตระกูลไป๋ ไป๋มู่ชิงก็คิดไม่ถึงว่าพ่อของเธออยากจะปกป้องชีวิตพี่ของเธอไว้ถึงขนาดผลักเธอเข้าไปในประตูนรกอย่างโหดร้าย บังคับให้เธอแต่งงานกับหนานกงเฉินเป็นเจ้าสาวคนที่เจ็ดของเขา แทนพี่สาวของเธอ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset