เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ – ตอนที่ 12 ไม่สามารถกุมหัวใจผู้ชายได้

บทที่ 12 ไม่สามารถกุมหัวใจผู้ชายได้

แสงไฟประดับแสงสีอันงดงาม เหล้าไวน์ที่มีกลิ่นหอม พูดคุยและหัวเราะอย่างสุภาพอ่อนโยน งานเลี้ยงกำลังดำเนินไปอย่างเป็นปกติ เพียงแต่การปรากฏตัวของลี่เฉินซี ทำให้กลายเป็นจุดเด่นของทั้งหมดไปทันที

ชุดสูทและรองเท้านับไม่ถ้วนเดินเข้ามาหาเขา คำเยินยอทุกประเภท ซูย้าวยืนเป็นเพื่อนอยู่ด้านข้างอย่างทำตัวไม่ถูก กินจนหน้าจะแข็งแล้ว

กว่าจะปลีกตัวออกมาได้ ไปอยู่ตรงมุมหนึ่งที่สงบคนเดียว ถือเครื่องดื่มแก้วหนึ่ง

และแล้ว ก็ได้ยินคนอื่นเขาพูดกันว่า..

“นี่ไม่ใช่คุณหนู่ใหญ่ตระกูลซูหรือ?”

ซูย้าวเงยหน้าดู ก็เห็นหญิงหนึ่งชายสามเดินมาใกล้ตรงหน้าเธอด้วยสีหน้ายิ้มเย้ย

“คุณหนูใหญ่อะไร อยู่ในตระกูลซู เธอเป็นได้แค่คุณหนูร้องมากกว่า” ผู้ชายคนหนึ่งพูดขึ้น

หนึ่งในผู้หญิงคนนั้นก็พูดว่า “คุณพูดผิดแล้ว ซูย้าวสิถึงนับว่าเป็นคุณหนูของบริษัทซูซื่อ ซูหยวนคนนั้น เป็นลูกติดมากับแม่เท่านั้น แม้แต่พ่อแท้ๆของตัวเอง เป็นใครก็ยังไม่รู้เลยมั้ง”

“แบบนี้หรือ” ชายหลายคนมีท่าทีครุ่นคิด ความเยาะเย้ยปรากฏอยู่บนใบหน้าของพวกเขา

ซูย้าวขมวดคิ้ว ดวงตาฉายแววหงุดหงิด

แล้วผู้หญิงตรงหน้าก็กลับพูดขึ้นอีกว่า “ช่างน่าอิจฉาคุณซูจริงๆ ทั้งๆที่เป็นใบ้ ก็ยังได้แต่งงานกับประธานลี่ จุ๊ๆ พูดเบาๆ”

“ชะตาชีวิตดีแล้วมีประโยชน์อะไร? ไม่สามารถกุมหัวใจผู้ชายได้” ผู้ชายอีกคนพูดขึ้น

ผู้หญิงเอามือปิดปากหัวเราะเย้ย “งั้นเรามาพนันกัน ประธานลี่รักชอบเธอด้วยใจจริง? หรือว่าไม่มีทางเลือก?”

พวกเขาพนันกันต่อหน้าซูย้าวอย่างไม่เกรงใจ เหมือนความสัมพันธ์ของตัวเองกับลี่เฉินซี กลายเป็นสิ่งที่พวกเขาเอามาพูดคุยและล้อเล่น

ไฟแห่งความโกรธเกิดขึ้นในใจของซูย้าว นิ้วมือค่อยๆกำแน่น

และแล้ว เสียงผู้หญิงคมกริบคนหนึ่ง ทำให้ความโกรธในใจของซูย้าวจางหาย

“แล้วพวกคุณล่ะ?”

พวกเขาหันไปมอง เห็นหญิงสาวร่างเพรียวเดินเข้ามา ท่าทีเป็นเอกลักษณ์ เหมือนดั่งซูเปอร์โมเดล รูปร่างท่าทางภูมิฐานแลดูสง่างาม ใบหน้าก็หล่อเหลามีเสน่ห์

หานฉ่ายหลิงมองดูหญิงสาว แล้วพูดว่า “ไม่เคยเห็นมาก่อน คิดว่าน่าจะเป็นตระกูลเล็กที่เพิ่งยกระดับขึ้นมา…พวกเศรษฐีใหม่หรือ?”

“คุณ…”

หานฉ่ายหลิงไม่เกรงกลัวเลยสักนิด พูดต่ออีกว่า “ไม่ว่าความสัมพันธ์ของคุณซูกับประธานลี่จะดีหรือร้าย พวกคุณเห็นเธอแล้ว ก็ควรที่จะเรียกว่าคุณผู้หญิงลี่อย่างให้เกียรติ ไม่ใช่หรือ?”

หญิงคนนั้นโกรธจนกัดฟันกรอด สีหน้ากลับฉายแววระวัง เหลือกตามองดูทั้งสองคนแล้วก็พาผู้ชายพวกนั้นไป

ซูย้าวมองดูหานฉ่ายหลิงอย่างขอบคุณ ยิ้มเล็กน้อยอย่างระวัง

“สวัสดีคุณซู เราเจอกันอีกแล้ว” ผู้หญิงอมยิ้มเล็กน้อย ยื่นมือออกมาอย่างเป็นมิตร

ท่าทีซูย้าวดูประหลาดใจ จับมือหานฉ่ายหลิงอย่างเก้อเขิน ในใจกลับรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย รู้สึกกระสับกระส่าย

แต่ก็เพียงแป๊บเดียว ลี่เฉินซีมองเห็นทั้งสองคนอยู่ไกลๆ แล้วรีบก้าวเดินมาอย่างรวดเร็ว “มาตั้งแต่เมื่อไหร่?”

น้ำเสียงที่ผ่านการดื่มไวน์ที่กลมกล่อมนั้นต่ำและแหบแห้ง เหมือนดั่งแม่เหล็กดูมีเสน่ห์น่าหลงใหล ความเย็นชาหายไปบ้าง ความเป็นห่วงมีมากกว่า

หานฉ่ายหลิงเงยหน้าขึ้นดู สบตาอันลึกซึ้งของลี่เฉินซี อมยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า “เพิ่งมาถึง”

ดวงตาลึกซึ้งของลี่เฉินซีแลดูสงบปราศจากคลื่นใดๆ ยากที่จะคาดเดา

มือใหญ่เรียวยาวดั่งหยก กลับจับมือของเธอไว้ การกระทำที่เป็นธรรมชาติ ปรากฏอยู่ในสายตาของซูย้าว

หานฉ่ายหลิงยังคงอมยิ้ม “เมื่อกี้เห็นคุณคุยอยู่กับประธานจาง โครงการใหม่ในเขตชานเมืองด้านตะวันตก คุยกันเป็นยังไงบ้าง?”

“ก็ดี”

ลี่เฉินซีพูดอย่างเรียบเฉย ดวงตาอันลึกซึ้งปรากฏถึงความเป็นกันเอง

ซูย้าวมองดูอยู่นิ่งๆ ดูแบบนี้แล้ว ทั้งสองคนเหมาะสมกันมากจริงๆ…

ตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้ เหมือนไม่รู้ว่ามีซูย้าวอยู่ด้วย ทำเหมือนดั่งเห็นเป็นอากาศ ไม่มองแม้เพียงนิด

ภายในใจทรมาน ปกคลุมไปท่วมใจ…

“แต่งงานกับผู้ชายแบบเขา เสียใจแล้วหรือ?”

เพ้ยส้าวหลี่เดินเข้ามา ใบหน้าหล่ออมยิ้มบางเบา ยิ้มสดใสดั่งแสงในฤดูใบไม้ผลิ แล้วก็จับมือซูย้าวไว้อย่างเป็นกันเอง แล้วก็กระซิบข้างหูของเธอ “ผมว่าคุณต้องไม่รู้เรื่องความเจ้าชู้ของลี่เฉินซีแน่ แต่ ผมเดาว่าคุณก็ไม่คิดที่จะอยากรู้หรอก”

สีหน้าซูย้าวทั้งเขียวทั้งแดง ด้วยความที่ไม่รู้จะทำอย่างไรจึงต้องจะกัดริมฝีปาก

เพ้ยส้าวหลี่ ยิ่งยิ้มอย่างเริงร่ากว่าเดิม “แต่ไม่ว่าคุณจะอยากรู้หรือไม่ ผมก็สามารถบอกคุณได้ เป็นยังไง? ซูย้าว”

ดวงตาของเขาเหมือนดั่งทะเล ลึกจนไม่เห็นที่สิ้นสุด

“ซูย้าว”

เขาเรียกชื่อของเธอ ลากหางเสียงยาว ดูเหมือนจะกระซิบอยู่ที่ปลายลิ้น นุ่มนวลและหนักแน่น

ซูย้าวขมวดคิ้ว คำพูดของคนๆนี้ดูเหลาะแหละเกินไป

“ผมจำได้ว่าตอนที่คุณเป็นเด็กคุณสามารถพูดได้ ต่อมาทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้?” เขามองดูเธอ น้ำเสียงที่แหบแห้งดังเข้าไปในหู

ในใจเธอรู้สึกแปลก สักพักแล้วก็สงบ

ในวงการของชนชั้นสูงนี้ จะว่าใหญ่ก็ใหญ่ จะว่าเล็กก็เล็ก และเพ้ยส้าวหลี่กับลี่เฉินซีก็รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก

ด้วยเหตุบางอย่าง ตอนเธอเป็นเด็กก็ได้เคยรู้จักกับเพ้ยส้าวหลี่

แต่ในตอนนั้น เธอยังเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลซู เป็นเด็กหญิงแข็งแรงสามารถพูดคุยได้อย่างร่าเริง

เพราะโชคชะตา

ตอนนี้กับเมื่อก่อน แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

“เกิดอะไรขึ้น หรือว่า…”

เพ้ยส้าวหลี่ตั้งใจลากเสียงยาว ดวงตาที่ลึกซึ้งจับจ้องมองเธอ แววตามืดมนประกายความสับสน

เขาที่เป็นแบบนี้ ดูเป็นอันตรายอย่างมาก

ซูย้าวอยากที่จะหลบหนี มองดูอย่างมีมารยาท กำลังจะหันตัว มือของเขากลับจับไหล่ของเธอไว้ แล้วก็พูดตามมาว่า “คุณไม่พูดก็ไม่เป็นไร ผมจะค่อยๆสืบไปทีละนิด”

ดูเหมือนดั่งตั้งใจ

เพ้ยส้าวหลี่ก้าวเข้ามาใกล้อีก ขยับตัวกระซิบข้างหูเธอ ยังพูดเสริมอีกว่า “ไม่ว่าใครที่เคยรังแกคุณ ผมจะไม่ปล่อยไปสักคน”

เหมือนเขาเจาะจงพูดสื่ออะไรบางอย่าง ตอนที่พูด สายตามองดูผู้ชายที่อยู่ไม่ไกล

และลี่เฉินซีที่กำลังดื่มอยู่กับหานฉ่ายหลิง ก็หันมามองทางนี้ มือที่กำแก้วเหล้าไว้ เหมือนกำลังออกแรงจับแน่นขึ้น

ความเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยนี้ ถูกหานฉ่ายหลิงสังเกตเห็นแล้ว

ซูย้าวหลีกห่างจากเพ้ยส้าวหลี่แล้ว แล้วก็รีบก้าวเท้าเดินหนีไปยังห้องน้ำ

เธอรู้จักเขาตั้งแต่เด็ก ส่วนปัญหาระหว่างเขากับลี่เฉินซี ก็รู้อยู่แต่แรกแล้ว

ผู้ชายที่มีอำนาจทั้งสองคนนี้ เหมือนดังขั้วบวกกับขั้วลบที่ขนานกัน อำนาจแข็งแกร่ง นิสัยก็เผด็จการ

เธอควรอยู่ห่างๆจะดีกว่า

ซูหยวนเห็นลี่เฉินซีอยู่แต่ไกลแล้ว รีบเดินเข้าไปหาอย่างไม่แม้แต่จะคิด คนยังไปไม่ถึง เสียงอ่อนหวานก็ดังไปถึงหูก่อนแล้ว

“พี่เฉินซี…”

หานฉ่ายหลิงหันไปมองตามเสียง มองเห็นซูหยวนในชุดกระโปรงสีแดง

ตอนที่เธอเดินมา มือนุ่มน้อยนั่นยังไม่ทันได้ควงแขนของผู้ชาย ก็ถูกลี่เฉินซีหลบก่อนแล้ว

และแล้ว มือใหญ่เรียวยาวของเขา ก็จับมือหานฉ่ายหลิงไว้อย่างสนิทสนม

สิบมือประสานกัน ความรู้ใจกันแบบนั้น จะต้องรู้จักสนิทสนมกันมาหลายปีถึงจะทำได้

ในขณะนั้น ซูหยวนอึ้งไปเลย ถามขึ้นด้วยเสียงแปลกใจว่า “พี่เฉินซี คุณหนูคนนี้คือ…”

ไม่ต้องรอลี่เฉินซีแนะนำ หานฉ่ายหลิงแนะนำตัวเองอย่างใจกว้างก่อนแล้วว่า “หานฉ่ายหลิง คุณซูหยวน ยินดีที่ได้เจอ”

ซูหยวนอึ้งไปอีกครั้ง หานฉ่ายหลิง?

นักแสดงเต้นรำที่มีข่าวฉาวกับลี่เฉินซีบนหนังสือพิมพ์นิตยสารในช่วงนี้

อีกอย่าง เธอก็เคยสืบเรื่องหลายปีที่ผ่านมาทั้งหมดของลี่เฉินซี ถึงแม้ข่าวคราวทุกอย่างยากที่จะสืบได้ แต่พบชื่อหนึ่งผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก

นั่นก็คือหานฉ่ายหลิง

น้ำนิ่งไหลลึกเหมือนอย่างลี่เฉินซีนี้ และเป็นคนที่ไม่เปิดเผยอย่างที่สุด แต่ทำไมในโซเชียลมีเดียถึงได้มีรูปของแฟนสาวล่ะ?

การแสดงออกถึงความรักอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้ เคยทำกับแค่หานฉ่ายหลิงคนเดียว

แสดงให้เห็นได้ชัดว่า ผู้หญิงคนนี้อยู่ในใจของเขา มีความสำคัญอยู่ไม่น้อย

เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ

เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ

เธอเป็นสาวใบ้ เมื่ออายุ19ปีก็ถูกแม่เลี้ยงและพี่สาวบังคับแต่งงานกับเขาโดยการขาย ภายใต้การแต่งงานที่หรูหราได้ซ่อนแผนร้ายอันน่าทึ่งไว้….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset