เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ – ตอนที่ 181 เจ็บปวดรวดเดียวเลยดีกว่า

บทที่181 เจ็บปวดรวดเดียวเลยดีกว่า

ไม่เคยคิดมาก่อน ว่า ณ ที่นี้เวลานี้ ลี่เฉินซีจะมาปรากฏตัว

แต่เรื่องจริงก็เป็นแบบนี้

เงาอันสูงใหญ่และสง่างามของลี่เฉินซี ตั้งตระหง่านอยู่ริมประตู ดวงตาสีดำลุ่มลึกกวาดมองทุกคนที่อยู่ในห้อง สุดท้าย ก็หยุดนิ่งอยู่ที่ตัวของซูย้าว

ลุกโชนราวกับเพลิง ลุ่มลึกราวกับหุบเหว

ตามด้วยประโยคแผ่วเบาที่หลุดออกมาจากริมฝีปากบางของเขา น้ำเสียงทุ้มต่ำ ราวกับท่วงทำนองจากเส้นสายของกู่ฉิน ดังก้องอยู่ในแก้วหูของทุกคน

“ตอนที่แต่งงานกัน ผมใช้ลูกไม้ลงไป ถึงมีบุญได้แต่งกับซูย้าว”

เวลาที่ลี่เฉินซีกำลังพูดนั้น ก็ก้าวเท้าช้าๆ ทีละก้าวจนไปอยู่ที่ด้านหลังของเธอ มือใหญ่ที่เรียวยาวราวกับหยกนั้นวางลงบนไหล่ของเธอเบาๆ ท่วงท่าสนิทสนม และไม่เหลาะแหละ แววตาเรียบเฉยยังคงกวาดมองทุกคน และเริ่มพูดต่อ

“สำหรับพวกคุณแล้ว ซูย้าวเป็นเพื่อนร่วมห้องที่มีความพิเศษ เพราะว่าเธอเป็นใบ้ แต่สำหรับผมแล้ว เธอคือภรรยาสุดที่รักของผม”

พอหยุดพักเล็กน้อย แล้วเริ่มเปิดปากอีกครั้งนั้น ในสายตากลับเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยมและแข็งกร้าวของราชาเหนือโลกไปเสียแล้ว เน้นชัดทีละคำ ทั้งหมดต่างก็พุ่งเข้าไปในจิตใจของทุกคนที่อยู่ในบริเวณนั้น “ในงานเลี้ยงรุ่น ภรรยาของผมไม่ใช่ของเล่นหรือตัวตลกสำหรับพวกคุณ ถ้าหากไม่อาจให้ความเคารพในตัวเธอ ผมก็ขอตัวพาเธอกลับก่อน!”

พอพูดจบ โม่หว่านหว่านก็รีบซ้ำต่อทันที พูดประโยคหนึ่งว่า “ไปกันเถอะ! ฉันก็จะไปกับพวกเธอด้วยเหมือนกัน!”

ทุกคนต่างก็เงียบกริบกันไปในชั่วขณะ

ฉากหน้าตกอยู่ในความเงียบ ทุกคนต่างก็ทำอะไรไม่ถูก

แต่พอเห็นโม่หว่านหว่านที่ดึงตัวซูย้าวให้ลุกขึ้น ก็มีบางคนที่ค่อนข้างรู้งาน รีบลุกขึ้นแล้วเข้าไปหยุดเอาไว้ และพูดประโยคที่ค่อนข้างน่าฟังออกมา “เมื่อครู่เป็นแค่การล้อเล่นเท่านั้นเอง! ทุกคนไม่ได้เจอกันมาตั้งนาน ก็ต้องล้อกันเล่นบ้างเป็นธรรมดา!”

“อาจจะทำเกินไปหน่อย แต่ไม่ได้มีเจตนาจริงๆนะ! ขอโทษด้วย!”

การขอโทษต่างๆนาๆ ทยอยออกมาเรื่อยๆ

ส่วนสีหน้าเย็นชาบนใบหน้าหล่อเหลาของลี่เฉินซี ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น สีหน้าเคร่งตึงจนไร้ความรู้สึก

คนที่อยู่ที่นั่น จะมีสักกี่คนกันที่ไม่รู้จักลี่เฉินซี แล้วจะมีสักกี่คนที่ไม่อยากใช้โอกาสนี้ เพื่อสร้างความสัมพันธ์กับเขา

แล้วจะยังมีใครกล้าหัวเราะเยาะซูย้าวอีก

ทุกคนต่างก็เข้ามาขอโทษ ซูย้าวเองก็ไม่อยากฝืนใจทุกคน ก็เลยฝืนยิ้มออกไป แล้วดึงโม่หว่านหว่านเอาไว้ ว่าตอนนี้ให้พอแค่นี้ก่อน

พอเห็นว่าฉากหน้าเริ่มคลี่คลายแล้ว สีหน้าเย็นชาของลี่เฉินซีก็เริ่มดีขึ้นมาหน่อยหนึ่ง เอนตัวลงเล็กน้อย แล้วพูดเสียงเบาข้างๆหูซูย้าวอยู่คำสองคำ ท่าทางใกล้ชิดแบบนั้น ยิ่งฉุดกระชากหัวใจของทุกคนที่อยู่ในบริเวณนั้น

มีคนมากมายแค่ไหนที่อิจฉา มีคนมากมายแค่ไหนที่ริษยา

ทันใดนั้น เขาก็ยืดตัว แล้วมองไปที่ทุกคน พูดเพียงว่า “วันนี้เป็นงานเลี้ยงรุ่นของภรรยาผม ทุกคนเชิญดื่มกินกันให้เต็มที่ ค่าใช้จ่ายทั้งหมดผมจัดการให้แล้ว!”

จากนั้น ร่างอันตระหง่านนั้นก็ตรงไปทางด้านนอก และออกไปจากห้องส่วนตัว

ทุกคนที่นั่งอยู่บริเวณนั้นต่างก็นิ่งอึ้งไป ผ่านไปครู่หนึ่ง หลังจากได้สติกลับมาคำชมเชยต่างๆก็ยังไหลมาไม่หยุด ฉากหน้าดูแล้วผ่อนคลายขึ้นมามาก

มีเพียงโม่หว่านหว่านที่สงสัย เกาะอยู่ข้างตัวเธอแล้วถามเสียงเบาว่า “เมื่อกี้เขาพูดอะไรกับเธอ ?”

ซูย้าวใช้ภาษามืออธิบาย “เขามีงานเลี้ยงรับรองอยู่ที่ชั้นบน แค่บังเอิญมาเจอเข้าเท่านั้น”

“โห! ช่างบังเอิญเสียจริงๆนะ!” โม่หว่านหว่านถอนหายใจ คิดไม่ถึงเลยว่าบางเวลาลี่เฉินซีเองก็……ให้ความร่วมมือได้เป็นอย่างดีเหมือนกันนะ!

ครู่ใหญ่ พนักงานก็เข้ามาในห้องส่วนตัว แล้วเสิร์ฟอาหารเพิ่มอีกหลายอย่าง แถมยังเสิร์ฟซุปเม็ดบัวให้กับสุภาพสตรีทุกคนด้วย

และในขณะเดียวกันก็มอบหมายว่า “ในเมื่อประธานลี่เป็นเจ้าภาพ พวกนี้ผู้จัดการเป็นคนเลี้ยงเองครับ เชิญทุกท่านรับประทานให้อร่อยนะครับ!”

พอพนักงานออกไปแล้ว ก็มีเสียงชื่นชมอีกไม่น้อยที่ส่งมาให้ซูย้าว รวมถึงโม่หว่านหว่าน ขณะที่ดื่มซุปเม็ดบัวก็พูดขึ้นว่า “อร่อยจริงๆ ฝีมือสุดยอดเชฟของที่นี่ย่อมแตกต่างจากร้านอื่นอยู่แล้ว!”

“……”

แต่ซูย้าวกลับไม่มีความอยากอาหารเลย อาจเป็นปฏิกิริยาที่เกิดจากการตั้งครรภ์ ดื่มซุปเม็ดบัวไปได้ครึ่งถ้วย ก็เริ่มรู้สึกไม่สบายขึ้นมา เลยลุกขึ้นเพื่อไปห้องน้ำ

คิดว่าจะอาเจียนเสียอีก แต่กลับแค่รู้สึกพะอืดพะอม ไม่ได้อาเจียนออกมา

เธอยืนล้างมืออยู่ตรงอ่างล้างมือ ส่วนในกระจก ก็ปรากฏใบหน้าของคนที่คุ้นเคยคนหนึ่งขึ้นมา

ซูย้าวคิดไม่ถึงเลยว่า ในร้านอาหารแห่งนี้ จะมาเจอกับซูหยวนได้

ส่วนซูหยวนก็ดูเหมือนว่าจะตั้งใจมารอเธออยู่ที่นี่อยู่แล้ว เมื่อมั่นใจแล้วว่าในห้องน้ำแต่ละห้องไม่มีคนแล้ว เธอก็ปิดประตูห้องน้ำ แล้วยืนตระหง่านอยู่ริมประตู แววตาเย็นชา และชำเลืองมองเธออย่างสบายอารมณ์

“เป็นยังไงบ้าง ? ซุปเม็ดบัวอร่อยหรือเปล่า ?” จู่ๆซูหยวนก็พูดขึ้น

ซูย้าวนิ่งอึ้งไป เธอรู้ได้อย่างไรว่ามีซุปเม็ดบัว ?

“สงสัยว่าทำไมฉันถึงรู้เมนูอาหารที่อยู่บนโต๊ะของพวกเธอเหรอ ?” ซูหยวนมองดูแววตาประหลาดใจของเธอ แล้วหัวเราะเสียงเย็น

ซูย้าวจ้องมองเธอ วินาทีต่อมา ลางสังหรณ์ที่เลวร้ายก็พุ่งเข้ามาในใจ เธอถนัดเรื่องการสังเกตสีหน้าผู้คน และในขณะนี้ เธอก็เห็นว่าบนใบหน้าของซูหยวน อ่านออกถึงความต่ำช้าและเลวทราม ภูมิใจหลังจากกลยุทธ์ที่วางไว้ประสบความสำเร็จ!

ดังนั้น โดยที่ซูย้าวไม่ทันคิด ก็รีบโน้มตัวไปทางอ่างล้างหน้า แล้วล้วงคอให้อาเจียนออกทันที

ซูหยวนเองก็อ่านท่าทางของเธอออก เลยรีบพุ่งเข้าไป หยุดการกระทำของเธอไว้ “อยากอ้วกเหรอ ? กว่าจะป้อนยาขับลูกให้เธอได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ จะให้อ้วกออกมาได้ยังไงกัน”

เป็นอย่างที่คิดจริงๆ!

ซูย้าวเดาไว้อยู่แล้วว่าเธอจะต้องไม่มีเจตนาดีแน่ เพียงแต่ว่าเรื่องที่ตัวเองตั้งครรภ์ เธอล่วงรู้ได้อย่างไร ?

“มันฟุ่มเฟือยนะ! ฉันไม่ยอมให้เธออ้วกหรอก ซูย้าว ไม่เป็นไรหรอก พอแท้งแล้วเธอก็พักผ่อนสักหน่อยก็พอ ยังไงท้องครั้งนี้ เธอก็ไม่ได้จะบอกลี่เฉินซีอยู่แล้วนี่ หรือไม่ก็ถึงเธอจะบอกเขา เขาก็ไม่ยอมรับหรอก!”

ซูหยวนจับคอเสื้อของเธออย่างเกรี้ยวโกรธ พละกำลังเยอะมากบังคับไม่ให้เธอขยับเขยื้อน ท่าทางดุร้าย ราวกับหมาป่าชั่วร้าย แทบอดใจไม่ไหวอยากจะกัดลำคอของซูย้าวให้แหลก

“ยังไงก็เป็นแค่เด็กจรจัดที่ไม่มีใครเอาอยู่แล้ว จะช้าจะเร็วก็ต้องไปเอาออก นี่เป็นเพราะพี่สาวเป็นห่วงเธอหรอกนะ เจ็บปวดรวดเดียวเลยดีกว่า รีบจบให้ยิ่งเร็วก็ยิ่งดี!”

ซูหยวนจับเธอไว้ ด้วยแรงที่มากกว่าเดิม “ฉันถามหมอมาแล้ว พอกินเข้าไป อย่างมากแค่ยี่สิบนาทีก็เริ่มเห็นผลแล้ว……”

พอได้ยินแบบนั้น ซูย้าวก็คิดได้ว่าตัวเองเพิ่งจะดื่มซุปเม็ดบัวเข้าไป ก็มาที่ห้องน้ำเลย บวกกับที่ฟังเธอพูดเรื่องบ้าบอคอแตกพวกนี้ไป ก็ยังเหลืออีกหลายนาที เธอไม่มีเวลาให้เสียอีกแล้ว!

ในสถานการณ์วิกฤตนั้น การตอบสนองของคนเราก็มักจะเกินความคาดหมาย

ซูย้าวมีความคิดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ลูกของเธอ จะไม่มีทางยอมปล่อยให้คนอื่นใช้วิธีแบบนี้มาทำร้ายได้! ไม่มีทางยอมแน่นอน!

ถึงแม้ลี่เฉินซีจะไม่ยอมรับเด็กคนนี้ เธอก็จะใช้วิธีอื่นมารับมือเอง ไม่ว่าจะอย่างไร นี่ก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเธอ คนอื่นไม่มีสิทธิ์มาตัดสินความเป็นความตายของเด็กคนนี้ได้!

ซูย้าวรวบรวมพละกำลัง แล้วสะบัดซูหยวนออกไป แล้วหันไปทางอ่างล้างหน้า ล้วงคออย่างเต็มที่ และอาเจียนออกมาบ้างแล้ว

“นังคนแพศยา! เธอรู้ไหมว่าฉันลงทุนลงแรงไปเท่าไหร่ เธอกล้าเหยียบย่ำความพยายามของฉันแบบนี้เหรอ เธอ……”

ซูหยวนเองก็โกรธขึ้นมาแล้ว เลยควบคุมสติไม่อยู่ ราวกับคนเสียสติ พุ่งเข้าหาซูย้าว

“ฉันไม่ปล่อยให้เธออ้วกหรอก เธอจะอ้วกออกมาไม่ได้!” ซูหยวนบีบคอของเธออย่างแรง พอคิดว่าชีวิตนี้ตัวเองจะไม่มีทางได้เป็นแม่คนแล้ว แต่ซูย้าวนังคนแพศยานี่ กลับตั้งครรภ์ครั้งแล้วครั้งเล่า เพลิงโกรธในใจของซูหยวนก็ยิ่งลุกโชน แรงที่บีบคอของเธอก็ยิ่งมากขึ้นไปอีก

ไม่ว่าอย่างไร ซูย้าวก็ตั้งครรภ์อยู่ ขณะที่กำลังขัดขืน ก็จำเป็นจะต้องคำนึงถึงลูกในท้องของตัวเองเอาไว้ เลยไม่สามารถข้ดขืนอย่างเต็มที่ได้

ในหัวเริ่มไม่ชัดเจน เสียงกรีดร้องก่นด่าของซูหยวนถึงแม้จะอยู่ใกล้แค่ตรงหน้า แต่ซูย้าวกลับรู้สึกว่าเสียงโหวกแหวกรอบๆเริ่มห่างออกไปทุกที ระหว่างที่เริ่มเลือนราง มีเพียงความมืดที่ค่อยๆเข้ามาใกล้ ขณะที่รู้สึกว่าลมหายใจหยุดชะงัก และกำลังจะปิดตาพร้อมกับล้มลงอย่างไร้เรี่ยวแรงนั้น เธอกลับร่วงหล่นลงสู่อ้อมกอดอันหนึ่งที่แสนอบอุ่น

ความหวานภายในอากาศพุ่งเข้าสู่ปอด ซูย้าวสูดหายใจเข้าลึกๆทีหนึ่ง กลิ่นยาสูบอันแสนสดชื่นเข้าไปในจมูก ความรู้สึกอันแสนคุ้นเคยนั้น จะต้องเป็นของลี่เฉินซีแน่นอน

เธอลืมตาขึ้นช้าๆ มองดูผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าด้วยความตกใจ เขากอดเธอไว้ แนบแน่น หลังจากจูบที่แสนลุ่มลึกนั่นผ่านไป และแน่ใจว่าเธอไม่เป็นอะไรแล้ว ถึงได้ค่อยๆปล่อยตัวเธอ

ลี่เฉินซีหันไป สีหน้าอันมืดมนนั้นย่ำแย่มาก สายตาเย็นชามองไปที่ซูหยวนเหมือนจะฆ่าคน ราวกับจะกลืนเธอทั้งเป็น

“ใครบอกให้คุณทำกับเธอแบบนี้ ?”

เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ

เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ

เธอเป็นสาวใบ้ เมื่ออายุ19ปีก็ถูกแม่เลี้ยงและพี่สาวบังคับแต่งงานกับเขาโดยการขาย ภายใต้การแต่งงานที่หรูหราได้ซ่อนแผนร้ายอันน่าทึ่งไว้….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset