เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ – ตอนที่ 277 เก็บเด็กคนนี้มาจากไหน?

บทที่ 277 เก็บเด็กคนนี้มาจากไหน?

เมื่อเห็นความเคร่งเครียดของชายหนุ่ม ซูย้าวก็ขมวดคิ้ว โดยเฉพาะเมื่อได้เห็นสายตาที่น่าเกรงขามของลี่เฉินซี  ค่อยๆมองมา เธอต้องรีบอธิบายอย่างรวดเร็วว่า “ไม่ใช่อย่างที่คุณคิด”

“คุณรู้ดี ว่าฉันไม่ได้เป็นใบ้ ก่อนหน้านี้ที่ฉันไม่สามารถพูดได้ ก็มีสาเหตุอยู่”

อาจเพราะไวต่อความรู้สึกกับประเด็นนี้สินะ!

ดังนั้นซูย้าวเลยอธิบายขึ้นมา แต่ก็มีความกังวลเล็กน้อย

“ไม่มีปัญหาเรื่องกรรมพันธุ์หรอก เพราะเมื่อก่อน ซีซีอายุสามขวบ ก็สามารถพูดได้”

เมื่อฟังน้ำเสียงที่อ่อนโยนของเธอ ลี่เฉินซีขมวดคิ้วเล็กน้อย “ตกลงเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ทำไมเด็กถึงไม่พูด?”

“ฉันก็ไม่ทราบข้อมูลอย่างละเอียดหรอก แต่ก็ได้พาไปตรวจร่างกายต่างๆแล้ว สุขภาพแข็งแรงดี ไม่มีปัญหาอะไร ”

ความจริง ซูย้าวรู้อยู่แก่ใจ หลังจากเกิดเหตุการณ์เมื่อสองปีก่อนขึ้น ซีซีก็ไม่พูดอีกเลย

อาจเป็นเพราะกลัวมากเกินไป!

ตอนนั้นแพทย์ที่ตรวจซีซีได้แนะนำก็คือ ให้ไปพบจิตแพทย์ สื่อสารกับเด็กอย่างช้าๆ ฝ่าอุปสรรคทางจิตใจ เด็กก็จะเต็มใจพูดเองโดยธรรมชาติ

แต่หมอจิตแพทย์ก็พบมาหมดแล้ว แต่ว่า……

“ถ้าอย่างนั้นเป็นเพราะสาเหตุอะไร?”

สายตาอันร้อนรนของลี่เฉินซี เขาให้ความสำคัญกับปัญหานี้มาก เพราะท้ายที่สุดแล้วมันเกี่ยวข้องลูกสาวของเขา เขาใส่ใจไม่เพียงพอใช่ไหม?

ในตอนนี้ ซูย้าวไม่ได้มีความคิดที่จะพูดถึงเรื่องนี้มากนัก และพูดเพียงว่า “ซีซียังเด็ก ต่อไปคงจะดีขึ้น อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องนี้ก่อน เรื่องของเจิ้งเอ๋อหล่ะ คุณได้หาข้อมูลหรือยัง?”

สายตาลี่เฉินซีผิดหวังเล็กน้อย และเสียงเขาก็เบาลง “ผมหาดูแล้ว หากมีอะไรคืบหน้าจะแจ้งให้คุณทราบ”

ซูย้าวมองไปที่สายตาเขา ที่มีแต่ความซับซ้อน จากนั้นก็ตอบแค่ ‘อืม’ แล้วเดินจากไปด้วยความไม่ค่อยลงรอย

ที่โถงกว้างชั้นล่าง โม่หว่านหว่านกำลังอุ้มซีซีรอเธออยู่ และทั้งสามคนก็ไปที่ลานจอดรถเพื่อกลับโรงแรม

พอเดินไปถึงที่รถ โม่หว่านหว่านรู้สึกแปลกใจว่าก่อนหน้านี้ตัวเองไม่ได้ล็อกรถ อาจเป็นเพราะซีซีป่วย ก็เลยกังวลเกินไปสินะ!

ขณะที่เปิดประตูรถ นั่งตรงตำแหน่งคนขับ ซูย้าวก็อุ้มซีซีไว้และเปิดประตูด้านหลัง กำลังจะขึ้นรถ หล่อนก็ตกใจ แทบจะกรีดร้องออกมา

เมื่อได้ไปดูใกล้ๆ หลังจากแน่ใจว่าเงาเล็กๆที่นอนอยู่เบาะหลังเป็นเด็ก ใจที่กำลังเต้นแรงก็ค่อยๆเบาลง

โม่หว่านหว่านก็ถูกดึงดูดความสนใจเลยหันมาดู หล่อนเอนตัวไปดูเป็นเด็กผู้ชายคนนึง ที่ขายังพันผ้าพันแผล นอนอยู่บนเบาะรถ ดูเหมือนว่าจะหลับไปแล้ว

“เด็กคนนี้……เกิดอะไรขึ้น?” ซูย้าวถาม

โม่หว่านหว่านส่ายหน้า แสดงท่าทางว่าตัวหล่อนเองก็ไม่รู้เช่นกัน แล้วลงจากรถ เดินไปที่เบาะหลัง และเดาว่า “คงไม่ใช่เด็กเร่ร่อนหรอกนะ! หรือว่า……”

ซูย้าวก็ไม่แน่ใจเช่นกัน จึงวางซีซีลงก่อน และปลุกเด็กน้อยทันที เพียงแค่ยกไหล่ของเด็กออก ก็ดูเหมือนว่าเธอจะรู้จักเด็กคนนี้

“เด็กคนนี้คือคนที่ก่อนหน้านี้เจอที่โรงแรมรึป่าว?” โม่หว่านหว่านก็จำไม่ได้

ซูย้าวพยักหน้า “ใช่ ฉันจำได้เขาชื่อเตียวเตียว! มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง และยังบาดเจ็บไปทั้งตัวอีก……”

“ส่งกลับไปที่โรงพยาบาลเถอะ! ดูก็รู้ว่าเขาหนีออกมาจากโรงพยาบาล เด็กคนนี้คงจะซนจริงๆ แล้วตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าพ่อแม่ของเขากระวนกระวายในการตามหาเขาแค่ไหน!” โม่หว่านหว่านพูด

ซูย้าวก็เห็นด้วย ระหว่างที่ทั้งสองกำลังจะเริ่มอุ้มเด็ก เด็กอาจได้ยินคำพูดของโม่หว่านหว่าน หรืออาจจับเขาแรงเกินไปจึงทำให้เขาตื่น เด็กก็ดิ้นเต็มแรง มือเขาก็จับข้อมือของซูย้าวไว้ “ไม่เอา!”

“เธอตื่นแล้วเหรอ?”ซูย้าวมองเด็กคนนั้นด้วยสายตาที่อ่อนโยน “มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง? หนีออกมาใช่ไหม?

เด็กฝืนยกตัวขึ้นนั่ง จับมือของซูย้าวไว้แน่นราวกับจับฟางช่วยชีวิตเส้นสุดท้าย และส่ายหัว “ไม่เอา! อย่าส่งผมไป พี่สาว ช่วยด้วย!”

‘ช่วยด้วย’ และพูดประโยคนี้อีก

ดูเหมือนว่าบนร่างกายของเด็กคนนี้ มีเหตุการณ์บางอย่างที่ผิดปกติเกิดขึ้นจริงๆ

ซูย้าวขมวดคิ้ว มองไปที่เขาอีกครั้ง มองไปที่ผ้าพันแผลและบาดแผลเหล่านั้น “ทำไมเธอถึงบาดเจ็บขนาดนี้? ไม่ต้องกลัว น้าจะส่งหนูไปโรงพยาบาลเองนะ!”

เมื่อได้ยินคำว่า‘โรงพยาบาล’เด็กก็ส่ายหัวทันที “ไม่ไป ผมไม่ไป! คนเลวจะจับตัวผมไป ขอร้องเถอะ ช่วยผม!”

เด็กได้รับบาดเจ็บสาหัสมาก สามารถวิ่งออกมาจากโรงพยาบาลได้ คงจะใช้พละกำลังทั้งหมดที่มีแล้วแหละ ตอนนี้เสียงพูดเขาเบามาก ราวกับจะขาดใจ

ซูย้าวมองเด็กด้วยน้ำตาคลอเบ้า ในชั่วขณะก็ใจอ่อนลง ทนไม่ได้ที่จะปฏิเสธ ได้แค่พยักหน้า “ตกลง น้าจะไม่ส่งเธอไป แต่หนูบาดเจ็บเต็มตัว……”

ไม่รอให้เธอถาม เมื่อเด็กได้ยินว่าซูย้าวไม่ส่งเขาไป ก็หลับตาลงทันที และเป็นสลบไปอีก

ชั่วขณะที่ ซูย้าวและโม่หว่านหว่าน หันมองเด็กในรถอีกครั้ง พวกเขามองหน้ากัน ไม่รู้จะทำยังไง

“เด็กคนนี้ บาดเจ็บไปทั้งตัว ต้องมีอะไรแน่ๆ! เธอไม่ส่งไปโรงพยาบาล แล้วจะส่งไปที่ไหน? ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น จะทำยังไง?” โม่หว่านหว่านกล่าวเตือน

ซูย้าวมองดูเด็ก และเกิดความลังเลเล็กน้อย

เด็กตัวแค่นี้ พูดคำว่า’คนเลว’หมายถึงคนแบบไหน? หรือเป็นเพราะทะเลาะกับพ่อแม่น้อยใจงั้นเหรอ?

แต่บาดเจ็บทั้งตัวนี้สิ ก็เป็นอีกปัญหาหนึ่ง

ขณะที่เธอลังเลอยู่ ในทางตรงกันข้ามซีซี ไม่พูดสักคำ เดินตรงไปขึ้นรถ จากนั้นมองไปที่ซูย้าว และบอกแม่ให้ขึ้นรถกลับบ้าน

หากเป็นเช่นนี้ โม่หว่านหว่านและซูย้าวก็ไม่จำเป็นต้องลังเลให้เสียเวลาอีกต่อไป

กลับถึงโรงแรม ซูย้าวอุ้มเด็กที่บาดเจ็บคนนี้ ไปไว้ในห้องก่อน จากนั้นก็โทรหาหลินโม่ป่าย ที่นี่มีเขาเป็นหมอเพียงคนเดียว การรักษาบาดแผล น่าจะไม่มีปัญหานะ!

ระหว่างที่รอ เธอและโม่หว่านหว่านก็เช็ดตัวให้เด็กและค่อยเปลี่ยนเสื้อผ้า ขณะเปิดเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง ทันใดนั้นก็เห็นรอยแผลเต็มตัวอย่างน่าตกใจ

ซูย้าวช็อกไปสักพัก

ในสมองก็นึกขึ้นได้ เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่ศูนย์การค้า เด็กคนนี้ถูกผู้หญิงคนหนึ่งตี

ทุกคนต่างคิดว่าผู้หญิงคนนั้นกำลังสั่งสอนลูกอยู่ ด้วยวิธีที่ไม่เหมาะสม แต่ไม่มีใครคำนึงเรื่องนี้

ในตอนนั้น เด็กคนนั้นมองเธอด้วยแววตาอันเศร้าสร้อยโดยที่ไม่ได้รับความช่วยเหลือ ทำไมตัวเราเองถึงไม่เอะใจนะ?

“เด็กคนนี้……เกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่? แบบนี้ควรแจ้งตำรวจ!” โม่หว่านหว่านพูดต่อทันที

ทำไมซูย้าวถึงไม่แจ้งความ เรื่องแบบนี้ควรได้รับการแก้ไขตามกฎหมาย เพียงแค่มองไปที่เด็กที่หมดสติอยู่ ร่างกายซูบผอมฟกช้ำไปหมดทั้งตัว สภาพจิตใจก็ไม่โอเค

“รอให้เขาหายดีขึ้นก่อนเถอะ!” เธอรีบใส่ชุดนอนหลวมๆให้เด็ก วางเขาไว้บนเตียงและห่มผ้าให้เขา

เดินออกมาจากห้อง เธอก็รู้สึกหนักใจ ตกลงเด็กผู้ชายคนนี้ เจออะไรมากันแน่? เกิดอะไรขึ้น? เด็กอายุน้อยๆถึงบาดเจ็บไปทั้งตัว เพื่อที่ต้องการจะหนี แม้บาดเจ็บขนาดนี้ เขาก็ยอมหนีเกือบตาย

แล้วลูกของเธอที่ถูกพรากไป เขาจะมีโอกาสอยู่เคียงข้างใครสักคนเช่นนี้หรือไม่นะ?

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ หัวใจของซูย้าว ก็เหมือนถูกควบคุมด้วยบางสิ่งบางอย่างทันที เธอแน่นหน้าอกจนหายใจไม่ออก

เมื่อหลินโม่ป่ายมาถึง เขาเอากล่องยาและเครื่องมือแพทย์เบื้องต้นมาด้วย เมื่อตรวจร่างกายเด็ก และดูรอยไหม้ที่ขาแล้ว ก็วัดอุณหภูมิร่างกาย จากนั้นก็ออกจากห้องมา

“พวกคุณไปเก็บเด็กคนนี้มาจากที่ไหน? ต้องส่งโรงพยาบาลด่วน หากช้ากว่านี้ อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

เมื่อพูดจบ ซูย้าวไม่นิ่งเฉย ทุกคนรีบเข้าไปในห้อง ต้องการพาเด็กไปโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด

ตลอดเวลาซีซีที่ไม่เคยสนใจเรื่องเหล่านี้ ไม่รู้ว่าเขาออกมาจากห้องตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่ เขายืนอยู่ที่ประตู มองดูทุกคนที่อยู่ในห้อง จากนั้นก็มองไปที่เด็กผู้ชายที่นอนอยู่บนเตียง

“ซีซี พี่ชายคนนี้ป่วยหนักมาก แม่กับคุณลุงจะส่งเขาไปรักษาที่โรงพยาบาล ไม่อย่างนั้น……”

ซูย้าวยังไม่ทันพูดจบ ซีซีก็วิ่งไปที่ข้างเตียงก่อน มองดูเด็กผู้ชายที่อาการโคม่าบนเตียง และไปจับมือของเขา จากนั้นเขาก็เงยหน้ามองไปที่ทุกคนและส่ายหน้าไปมา

“เอ่อ……”

เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ

เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ

เธอเป็นสาวใบ้ เมื่ออายุ19ปีก็ถูกแม่เลี้ยงและพี่สาวบังคับแต่งงานกับเขาโดยการขาย ภายใต้การแต่งงานที่หรูหราได้ซ่อนแผนร้ายอันน่าทึ่งไว้….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset