เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ – ตอนที่ 288 คู่กรรม

บทที่ 288 คู่กรรม

หลังจากที่วุ่นๆมาทั้งวัน ซูย้าวก็กลับไปที่ห้องในโรงแรม นั่งอยู่บนโซฟาอย่างอ่อนเพลีย เหนื่อยล้าจนแทบไม่อยากจะลุกขึ้นยืน

การเดินทางมาปารีสครั้งนี้ สำหรับเธอแล้วช่างล้มเหลวอย่างเห็นได้ชัด

เธอทำได้แค่การซื้อขายบิลเล็กๆกับบริษัทอื่นเท่านั้น สำหรับจู้สือแล้ว แทบจะเล็กน้อยมาก

หลังจากที่คิดหาคำพูดได้แล้ว จึงได้หยิบโทรศัพท์ติดต่อไปหาเจ้านาย

นั่นก็คือประธานคนปัจจุบันของจู้สือกรุ๊ป บุคคลที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นตระกูลที่มีอำนาจยิ่งใหญ่ และมีคนลึกลับยากจะคาดเดาได้ สำหรับรายละเอียดตัวตนที่แท้จริงนั้น แม้แต่เธอเองก็ไม่ค่อยจะรับรู้

ไม่ใช่ว่าไม่อยากรับรู้ เพียงแต่มันเหมือนกับเหวลึกที่ไม่สามารถแตะต้องถึงได้

สำหรับผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาแล้ว ทราบแค่เพียงนามของเขาว่า jock

ไม่รู้ชื่อจริงด้วยว่าชื่ออะไร หรือบางทีอาจจะเป็นรหัสลับ และก็ไม่รู้ด้วยว่าคำนี้มีความหมายอะไรที่ลึกลับสำหรับเขาหรือไม่ แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ในช่วงไม่กี่ปีที่อยู่จู้สือมา เขาให้เธอเรียกชื่อนี้ คนอื่นก็เช่นเดียวกัน

“ต้องขออภัยด้วยค่ะ โครงการมี่ไต้ได้ล้มเหลว ทำให้ท่านผิดหวังแล้ว” น้ำเสียงที่จริงใจของซูย้าว ความผิดพลาดของตัวเอง เธอไม่ต้องการหาเหตุผลมาเพื่อแก้ตัว

เสียงไพเราะน่าฟังจากฝั่งนั้นลอยดังออกมา ราวกับแม่เหล็กที่มีแรงดึงดูด ราวกับถูกช็อตด้วยคลื่นกระแสไฟฟ้าก็ไม่ปาน ที่ทำให้รู้สึกชาและตกอยู่ในภวังค์

“ผมได้ยินว่าคุณได้ทำเต็มที่แล้ว ไม่เป็นไร”

คำตอบนี้ซูย้าวได้คาดเดาไว้ตั้งแรก หลายปีมานี้ jockเป็นประธานของจู้สือ และจะมอบหมายงานให้กับเธอ แต่ไม่เคยบังคับฝืนใจแต่อย่างใด ต่อให้งานล้มเหลว ก็พูดเพียง ‘ไม่เป็นไร’เท่านั้น

ท่าทีที่คลุมเครือ ทำให้เธอยิ่งรู้สึกสงสัย ว่าผู้ชายคนนี้ซ่อนความคิดอย่างไรไว้ข้างใน แล้วสิ่งที่อยู่ด้านหลังหน้ากากของjockจะซ่อนใบหน้าแบบไหนและจิตใจแบบใด

เธอจับโทรศัพท์แล้วเดินไปที่ริมผนังกระจก มองดูความเจริญของทิวทัศน์ยามค่ำคืนด้านนอก แล้วขมวดคิ้วขึ้น “ไม่ว่าจะอย่างไร โครงการมี่ไต้ล้มเหลวล้วนเป็นความผิดพลาดของฉัน ทำให้บริษัทได้รับความเสียหาย ฉันจะต้องหาวิธีชดเชยให้ได้!”

“อืม พอดีเลย คาร์กำลังเกิดปัญหา เธอช่วยเขาแก้ปัญหาสักหน่อยแล้วกัน! สำหรับรายละเอียดนั้น เขาจะติดต่อคุณเอง”

เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ คาร์เป็นรองประธานบริษัท ขณะเดียวกันก็ดูแลฝ่ายขายอีกด้วย และก็เป็นคนสนิทของjock ด้วยความเขามีความสามารถโดดเด่น หากงานที่ได้รับมอบหมายมีปัญหา ก็แสดงว่าปัญหานั้นคงใหญ่ไม่ใช่เล่น

หลังจากครุ่นคิด ซูย้าวก็ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ จึงตอบรับด้วยความจนใจ “ฉันจะพยายามให้ถึงที่สุดค่ะ”

“ซูย้าว คุณรู้ไหมว่าระหว่างความต้องการกับความถูกต้อง คนที่เอนเอียงไปอย่างหลัง มักจะน่าสงสารที่สุด”

อยู่ๆก็พูดประโยคขึ้นมา เบาๆ แต่กลับคมราวกับมีด ที่ทันใดนั้นทิ่มแทงเข้ามาจิตใจของเธอ

ซูย้าวตกใจตะลึง สักพักถึงได้รู้สึกตัว แล้วได้ยินเสียงชายหนุ่มที่ไพเราะจากฝั่งนั้นลอยดังขึ้น “หวังว่าครั้งหน้าคุณจะเลือกได้อย่างถูกต้อง”

ในขณะที่สายโทรศัพท์ถูกวางลง เธอจับโทรศัพท์อย่างใจลอย ท่าทางเหม่อ ความต้องการกับความถูกต้อง?

jock เขาไปรู้เรื่องอะไรมา

หลังจากรายงานเรื่องราวให้กับเจ้านายทราบแล้ว ซูย้าวคิดที่จะเก็บข้าวของเพื่อออกไปจากที่นี่ แม้แต่ตั๋วเครื่องบินกลับประเทศก็ได้จองไว้แล้ว แต่กลับได้รับโทรศัพท์จากคาร์ บอกเล่าถึงข้อมูลให้กับเธอทราบทั้งหมด และได้รู้ว่ายังไม่สามารถจากไปตอนนี้ได้

โครงการที่คาร์ดูแลอยู่เกิดมีปัญหา ป้าหลินกรุ๊ปที่ร่วมมือกับจู้สือมาโดยตลอด ที่รับผิดชอบในการผลิตผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งตีขายตลาดทวีปอเมริกาผ่านจู้สือ แต่พักนี้มีผลิตภัณฑ์ชุดหนึ่งเกิดปัญหาด้านคุณภาพ ถูกลูกค้าจำนวนไม่น้อยร้องเรียนขึ้น ดังนั้นจู้สืออาจจะถูกฟ้องร้อง จนอาจเกิดความเสียหายที่ร้ายแรงขึ้นได้

และคนที่ดูแลรับผิดชอบการร่วมมือกันในครั้งนี้ ก็คือคาร์มาโดยตลอด แต่ว่าคาร์ตอนนี้อยู่เม็กซิโก กลับมาไม่ได้ จึงมอบหมายให้ซูย้าวช่วยจัดการ

ส่วนอีกเหตุผลที่เลือกเธอนั้น เป็นเพราะว่าเถ้าแก่ของป้าหลินกรุ๊ป เป็นคนเชื้อสายจีน และตอนนี้ก็อยู่ที่ปารีสเช่นเดียวกัน

เมื่อเข้าใจสถานการณ์คร่าวๆแล้ว ซูย้าวก็เลือกที่จะไปเจรจาในวันรุ่งขึ้น เตรียมพร้อมเพื่อไปพบปะกับเจี่ยงหลินประธานของป้าหลินกรุ๊ป

เลขาที่ช่วยเธอสืบค้นประวัติของเจี่ยงหลิน ให้กับเธอ ได้บอกย้ำกับเธอในโทรศัพท์ว่า “ซูย้าว เธอต้องระวังตัวด้วยนะ ประธานเจี่ยงคนนี้ขึ้นชื่อร่ำรวยนิสัยหยาบ อารมณ์ดุร้าย!”

ได้ยินดังนั้น ซูย้าวก็ยิ้มขึ้นเบาๆ

ถึงแม้ว่าเธอจะไม่เคยเห็นเจี่ยงหลิน แต่ดูจากประวัติกับชื่อบริษัทแล้ว ทำให้รู้ได้ว่าอีกฝ่ายนั้นมีลักษณะนิสัยอย่างไร

ลืมแล้วเหรอว่าสิ่งที่เธอเชี่ยวชาญที่สุดคือการอ่านใจคน

“นอกจากนี้แล้ว คุณกับประธานเจี่ยงเหมือนมี…..ความสัมพันธ์กันเล็กน้อยด้วยนะ!” เลขาฯกล่าว

เธอขมวดคิ้ว ความสัมพันธ์เหรอ แต่เธอไม่เคยรู้จักคนที่ชื่อเจี่ยงหลินมาก่อน แล้วจะมีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร

เธอก็ไม่ได้คิดอะไรมาก วางสายโทรศัพท์ลง จากนั้นก็เดินเข้าไปที่บริษัท

ป้าหลินกรุ๊ปเป็นบริษัทที่เพิ่งเกิดใหม่เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา เน้นผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์เป็นหลัก ตีตลาดทั่วอเมริกาและยุโรป คนที่รับผิดชอบเป็นคนเชื้อสายจีนคนหนึ่ง เชี่ยวชาญในการดึงดูดเงินตราของชาวต่างชาติโดยเฉพาะ ถือได้ว่าเป็นหน้าเป็นตาให้กับประเทศได้ดีคนหนึ่ง

สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองwในประเทศจีน ซึ่งไม่ค่อยเป็นที่รู้จักสักเท่าไหร่ แต่สำหรับฝรั่งเศสแล้ว ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงสาขาย่อย แต่ว่ากลับมีความแข็งแกร่งและมีแนวทางการตลาดที่ยอดเยี่ยม

ไม่ถึงหนึ่งนาที ซูย้าวก็ยืนอยู่ที่ในตึกของเถ้าแก่อิเล็กทรอนิกส์ที่ขึ้นชื่อว่าร่ำรวยนิสัยหยาบ อารมณ์ดุร้ายคนนี้

“สวัสดีค่ะ ฉันมาหาประธานเจี่ยงค่ะ” เธอถามหญิงสาวที่อยู่หน้าเคาน์เตอร์อย่างสุภาพ

อีกฝ่ายมองเธอแล้วตอบกลับไปว่า “มีการนัดไว้ล่วงหน้าไหมคะ”

“…..ไม่มีค่ะ”

“อย่างนั้นต้องขออภัยด้วยนะคะ หากต้องการพบประธานเจี่ยงต้องทำการนัดล่วงหน้าค่ะ ตอนนี้ดิฉันสามารถนัดให้กับท่านได้นะคะ”

ซูย้าวครุ่นคิด จากนั้นหยิบนามบัตรออกมาจากกระเป๋าแล้วยื่นให้

พนักงานหน้าเคาน์เตอร์รับมาดูแล้ว แสงในดวงตากะพริบขึ้น แล้วจ้องมองเธอ “ท่านคือประธานซูจากแผนกขายของจู้สือกรุ๊ปเหรอคะ”

ซูย้าวพยักหน้ายิ้มให้

“อย่างนั้นโปรดจงรอสักครู่นะคะ ดิฉันจะช่วยท่านติดต่อกับประธานเจี่ยงเดี๋ยวนี้”

พนักงานหน้าเคาน์เตอร์ก็ทำการโทรศัพท์ขึ้น ไม่กี่นาทีปฏิกิริยาท่าทีก็เปลี่ยนไปแบบฉับพลัน รีบลุกขึ้นและเคารพอย่างนอบน้อม พูดอย่างรีบร้อนว่า “ประธานเจี่ยงตอนนี้ท่านยังพอมีเวลาว่าง เรียนเชิญท่านขึ้นบนตึกได้ค่ะ”

พนักงานหน้าเคาน์เตอร์ส่งเธอขึ้นลิฟต์ไปด้วยท่าทีที่สุภาพ และบริการเป็นอย่างดี จนทำให้ซูย้าวถึงกับอึดอัดใจ

ตามข่าวลือจะถูกบิดเบือนจากความเป็นจริงหรือไม่นะ เธอหลีกเลี่ยงความคิดที่วุ่นวาย แล้วมองตัวเลขที่บอกชั้นต่างๆของลิฟต์ที่ค่อยๆเลื่อนขึ้นไปถึงชั้นบนสุด

และในห้องสำนักงานชั้นบนนั้น

มีร่างบอบบางยืนพิงข้างชายหนุ่ม นิ้วมือเรียวยาวถือองุ่นที่ปอกเปลือกไว้กำลังค่อยๆป้อนใส่ปากของชายหนุ่ม

“หลิน นี่คุณจะพบนังสารเลวนั่นจริงๆเหรอคะ” เสียงหวานออดอ้อนของหญิงสาว

ชายหนุ่มขมวดคิ้วขึ้น “ทำไม ผมไม่สามารถเจอเธอได้เหรอ”

“เค้าแค่กลัวว่าคุณจะถูกยั่วยวนจนลืมเค้าไปนะสิ!” หญิงสาวซบอยู่ที่ทรวงอกของชายหนุ่ม เรียวขาที่ขาวเนียนวางอยู่บนตักของเขา ด้วยท่วงท่าที่ใกล้ชิด เย้ายวน ทำให้คนเกิดการจินตนาการเลยเถิด

ชายหนุ่มพยุงจับเรียวขาของเธอไว้ ยกมุมปากขึ้น “ถ้าหากเป็นอย่างที่คุณพูด ผมก็ยิ่งอยากจะเจอเธอเข้าแล้วสิ!”

“โอ๊ย เค้ารู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้! เซ็งจริงๆเลย!”

“ในเมื่อพวกคุณเป็นพี่น้องกัน อย่างนั้นนิสัยและหน้าตาคงไม่แตกต่างกันมากใช่ไหม” เขาถาม

ริมฝีปากแดงของผู้หญิงคนนั้นขยับขึ้น และดวงตาสีแอปริคอทส่องประกาย “เมื่อคุณเห็นแล้วก็จะรู้เองค่ะ! ผู้หญิงคนนั้นเป็นผู้หญิงสารเลว เลวไปจนถึงกระดูกดำเลย”

“อย่างนั้นเหรอ ยังเลวกว่าคุณอีกเหรอ” ชายหนุ่มยิ้มเจ้าเล่ห์

เธอมุ่ยปากเล็กๆ “โอ๊ย คุณว่าเค้าอีกแล้ว!”

ทันใดนั้นชายหนุ่มพลิกตัวแล้วกดร่างเธอไว้ด้านล่าง การเคลื่อนไหวที่ป่าเถื่อน แข็งแกร่ง ทำให้หญิงสาวไม่อาจไม่ยกมือขึ้นผลักเขาออก แล้วหางตาก็ชำเลืองไปมองประตูสำนักงาน “ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลา เดี๋ยวผู้หญิงคนนั้นก็จะมาแล้ว หลิน อย่าลืมสิ่งที่รับปากกับฉันไว้นะ!”

“อืม วางใจเถอะ!”

เธอค่อยๆลุกนั่ง จัดการกับเสื้อผ้าให้เข้าที่เรียบร้อย จากนั้นก็เดินเข้าไปที่ห้องรับรองด้านในแล้วปิดประตูลง ทันใดนั้นใบหน้าที่งดงามได้เปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน ดวงตาเย็นชาของเธอเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ร้ายกาจ

โถๆๆซูย้าว ไม่คิดไม่ฝันสินะว่าวันหนึ่ง จะตกอยู่ในกำมือเธออีกครั้ง นี่คงเป็นชะตาฟ้าลิขิตสินะ!

ให้พวกเธอสองสาวพี่น้องได้พบเจอกันอีกครั้ง

ใครให้พวกเขาเป็นคู่เวรคู่กรรมกันอย่างไม่มีที่สิ้นสุดล่ะ

ซูหยวนนั่งอยู่บนเก้าอี้ในนั้น ยิ้มอย่างสดใส หางตาเปล่งแสงแห่งความดุร้าย ราวกับว่าเห็นซูย้าวสยบอยู่ใต้เท้าของตัวเอง และคุกเข่าร้องขอชีวิต…..

เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ

เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ

เธอเป็นสาวใบ้ เมื่ออายุ19ปีก็ถูกแม่เลี้ยงและพี่สาวบังคับแต่งงานกับเขาโดยการขาย ภายใต้การแต่งงานที่หรูหราได้ซ่อนแผนร้ายอันน่าทึ่งไว้….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset