เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ – ตอนที่ 683 มีแค่คุณคนเดียว

ซูย้าวนั่งลงที่ขอบเตียง ยื่นมือออกไปหยิบโทรศัพท์ของเขา

หน้าจอที่สว่างปรากฏขึ้นมาตรงหน้าเธอ มันคือรูปถ่ายของเด็กๆ ดูเหมือนเป็นช่วงฤดูหนาว เด็กๆ กำลังเล่นสกี ล้อมรอบกันยิ้มอย่างมีความสุข

เป็นอย่างที่คิดไว้ ลี่เฉินซีเป็นพ่อที่ดีคนหนึ่งจริงๆ

เธอลังเลที่จะวางโทรศัพท์ลง แต่ในใจเธอกลับสงสัยอะไรบางอย่าง ถึงแม้เธอจะรู้ว่าทำแบบนี้มันไม่ถูกต้อง แต่เธอก็ต้านแรงกระตุ้นของความอยากรู้อยากเห็นไม่ได้ เธออยากจะลองใส่รหัสผ่านบนหน้าจอ

แต่ว่า เธอก็ไม่ได้รู้จักเขาดีขนาดนั้น รหัสผ่าน…

เมื่อเธอกำลังครุ่นคิด เสียงของเขาก็ดังขึ้นมา:”วันเกิดของคุณ”

ซูย้าวตกใจ เงยหน้าขึ้นก็เห็นเขาที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยแล้วเดินออกจากห้องแต่งตัว ดูเหมือนเขาจะไม่ค่อยชินกับการใส่ชุดลำลองสักเท่าไหร่ ดังนั้นเขาจึงยืนจัดเสื้อยืนอยู่หน้ากระจกไม่หยุด

เมื่อพวกเขาเงียบไปพักหนึ่ง ดูเหมือนลี่เฉินซีจะนึกอะไรขึ้นมาได้ เขารีบพูดตัวเลขออกมาอย่างรวดเร็ว

จากนั้นเขาก็จัดเสื้อยืดของตัวเองเสร็จ หันหน้าเดินไปหาเธอ:”วันเกิดเมื่อก่อนของคุณ”

เธอลืมทุกอย่างที่เกี่ยวกับซูย้าวไปหมดแล้ว และแน่นอนว่าเธอก็คงลืมวันเกิดไปแล้ว เขาเกือบลืมเรื่องนี้ไป

เห็นว่าเธอแข็งทื่ออยู่ตรงนั้นไม่ขยับเขยื้อน เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา สแกนลายนิ้วมือปลดล็อกโทรศัพท์ จากนั้นก็ยื่นไปให้เธออีกครั้ง:”อยากดูอะไรก็ดูสิ!”

พูดจบก็ยังบีบปลายจมูกของเธอเบาๆ :”กลัวว่าผมจะมั่วไปทั่วเหรอ?คุณนี่ดื้อจริงๆ !”

ซูย้าวหมดคำพูด เธอไม่ได้อยากจะดูเนื้อหาในโทรศัพท์ของเขาจริงๆ แต่มันมีแค่แวบหนึ่ง ที่เธอสงสัยขึ้นมาจริงๆ ก็แค่นั้น แต่เขายื่นให้เธอแบบนี้ มันยิ่งทำให้เธอกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

เธอก้มหน้าลงมองหน้าจอโทรศัพท์ และเธอก็ตกใจทันที

เพราะว่าภาพพื้นหลังหน้าหลักเป็นภาพเธอ

และสิ่งที่ทำให้เธอไม่เข้าใจก็คือ เธอถูกคนถ่ายตอนไหน เธอไม่รู้ด้วยซ้ำ!

ในภาพ เธอสวมชุดสูทผู้หญิงทั้งตัว สวมเสื้อโค้ทยาวๆ มีผู้คนสิบกว่าคนยืนล้อมรอบเธออยู่ข้างหลัง ก้าวเดินที่แผ่วเบา คิ้วที่น่าเกรงขามและใบหน้าที่เย็นชาก็ปรากฏขึ้นมา ราวกับท่านประธานหญิงจอมเผด็จการ

และในความทรงจำของเธอ ตัวเองเคยเป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่? !

ตอนที่เธออยู่ที่ต่างประเทศ แม้แต่ประตูของDouble Aceกรุ๊ปเธอก็แทบจะไม่เคยก้าวเข้าไป ดังนั้นในความรู้และความเข้าใจของทุกคนถึงได้คิดว่าDouble Aceกรุ๊ปมีแค่ประธานอานเพียงคนเดียว

หรือว่าเป็นเธอเมื่อก่อน? !

เธอหลับตาลงอย่างช่วยไม่ได้แล้วก็เงยหน้าขึ้นมองเขา:”ภาพนี้ คุณไปเอามาจากไหน?”

“ผมเป็นคนถ่ายเอง” เขาพูดอย่างไม่ละอายใจ แล้วยังเอนตัวลงมา ใช้แขนข้างหนึ่งวางตรงขอบเตียงข้างๆ เธอมืออีกข้างจับหน้าเธอไว้:”ถ่ายได้ไม่เลวเลยใช่ไหมล่ะ?”

ถ่ายได้ไม่เลวจริงๆ ถ่ายให้เธอดูเป็นท่านประธานหญิงจอมเผด็จการอย่างสมบูรณ์แบบ!

คนที่ไม่รู้คงจะคิดว่าเธอคือมหาเศรษฐีที่มีชื่อเสียง ลี่เฉินซีเวอร์ชันผู้หญิงเสียอีก ไม่แปลกที่เขามาวนเวียนอยู่กับเธอไม่ยอมปล่อยแบบนี้ เพราะตอนที่เขาไม่มีอะไรทำเขาก็สามารถมองเห็นเงาของตัวเองจากตัวเธอ!

“ถ่ายเมื่อไหร่? แล้วอีกอย่าง นี่มันคือการแอบถ่ายชัดๆ ละเมิดความเป็นส่วนตัว!” เธอดึงมือเขาออกและสู้ด้วยเหตุผล

แต่เขากลับยิ้มมุมปากขึ้นมา:”ถ่ายผู้หญิงของตัวเอง ละเมิดความเป็นส่วนตัวอะไรกัน”

เขายืดตัวขึ้นและเดินออกไปข้างๆ ยืมพิงที่โต๊ะและจุดบุหรี่:”ถ่ายเมื่อสองปีก่อน”

ตอนนั้น เธอพึ่งจะกลับมาในประเทศ ทำงานให้กับจู้สือกรุ๊ป และผู้คนที่อยู่ข้างหลังเธอก็คือลูกน้องของเธอในตอนนั้น

ซูย้าวยกมือขึ้นมาเกาคิ้วด้วยความงงงวย รู้สึกไม่มีอะไรน่าสนใจ เธอก็ปิดหน้าจอโทรศัพท์แล้วโยนออกไปข้างๆ และเมื่อเธอลืมตาขึ้นอีกครั้ง เธอก็สังเกตเห็นเขาที่ยืนอยู่ไม่ไกล สวมกางเกงยีนส์สีอ่อนและเสื้อยืด รูปร่างที่สูงใหญ่และหล่อเหลา รูปร่างที่ชัดเจน มันคือไม้แขวนเสื้อที่สมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะสวมเสื้อผ้าแบบไหน เมื่อมันสวมอยู่บนตัวของเขามันช่างสง่างามเสมอ

และมองออกไปจากมุมของเธอ ตัวของเขาพร่ามัวไปด้วยแสงอาทิตย์ยามบ่ายที่เจิดจ้า เงาที่ย้อนแสง ราวกับพระเอกที่เดินออกมาจากการ์ตูน ยิ่งทำให้คนจินตนาการลึกเข้าไปใหญ่

เขากวาดสายตามองไปที่เธอ:”ทำไมไม่ดูโทรศัพท์ต่อล่ะ ไม่กลัวว่าผมจะอ่อยผู้หญิงไปทั่ว?”

ซูย้าวขมวดคิ้ว เดิมทีเธอก็ไม่ได้อยากจะดูอะไรแบบนั้นอยู่แล้ว!

แต่เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ และอยากจะหยอกล้อเขา เธอจงใจแกล้งทำท่าทางดูถูก:”ท่านประธานบริษัทลี่ซื่ออย่างคุณ ถ้าอยากจะทำอะไรแบบนั้น ยังจะหลงเหลือหลักฐานให้ฉันเห็นเหรอ?แล้วอีกอย่าง คุณก็คงไม่ได้มีโทรศัพท์แค่เครื่องเดียวใช่ไหม?”

เขายิ้มอ่อน เขาไม่ได้มีโทรศัพท์แค่เครื่องเดียวจริงๆ

แต่อีกเครื่องหนึ่งมีไว้สำหรับเรื่องงานเท่านั้น เครื่องนี้คือเครื่องที่เกี่ยวข้องกับชีวิตส่วนตัว

ลี่เฉินซีดับบุหรี่ เดินเข้าไปข้างเธอ ยื่นมือให้เธอและพูดว่า:”จะไปช้อปปิ้งไม่ใช่เหรอ ไปกันเถอะ!”

เธอจับมือเขา แล้วพวกเขาก็ลงมาชั้นล่าง

เมื่อก้าวเข้ามาในลิฟต์ ทันใดนั้นเขาก็ดึงเธอเข้ามากอดในอ้อมแขนของตัวเอง วางคางไว้อยู่บนหัวของเธอและพูดเบาๆ :”ยัยบื้อ นอกจากคุณแล้วผมก็ไม่มีผู้หญิงคนอื่น เดี๋ยวมีเวลาผมจะเอาโทรศัพท์ทั้งสองเครื่องมาให้คุณดู โอเคไหม?”

ซูย้าวตกใจ คิดไม่ถึงว่าเขาจะอธิบายออกมาเอง เธอกะพริบตา ถ้าจะบอกเขาว่าตัวเองไม่ได้อยากดูแล้วก็ไม่ได้สนใจ เขาคงจะผิดหวังมากใช่ไหม?

เธอหรี่ตาลงอย่างช่วยไม่ได้และพูดว่า:”จริงเหรอ?มีแค่ฉันคนเดียวจริงเหรอ?”

เขายิ้มอย่างขมขื่น จับเธอหันหน้าเข้ามาหาตัวเอง ยกมือขึ้นจับแก้มเล็กๆ ของเธอ:”ไม่เชื่อผมเหรอ?”

“ไม่ใช่ไม่เชื่อ…” เธอค่อยๆ ก้มหน้าลง ที่จริงแล้วเธอก็สงสัยว่าหน้าตาและฐานะอย่างเขา ถ้าอยากมีภรรยาสักคน หรือมีแฟนสักคนมันง่ายจะตาย ทำไมต้องเลือกเธอ?

แต่เรื่องพวกนี้ ถึงแม้ว่าเธอจะพูดออกมา มันคงจะทำให้พวกเขาถกเถียงกันซะมากกว่า สุดท้ายก็ต้องเลิกกันอย่างไม่มีความสุข

และนึกถึงเรื่องที่เขาขอแต่งงาน แล้วยังออกแบบชุดแต่งงานด้วยตัวเธอเอง เขาคงจะจริงจังจริงๆ เธออย่าทำให้มันเสียบรรยากาศเลยจะดีกว่า

ซูย้าวคิดแบบนี้ จู่ๆ เธอก็เงยหน้าขึ้นมา ในขณะที่เดินตรงเข้าไปหาเขา เธอก็ยกมือขึ้นไปกอดคอของเขาไว้แน่น:”สิ่งที่คุณพูด ฉันเชื่ออยู่แล้ว ต่อไปฉันจะไม่ดูแล้ว!”

ลี่เฉินซีตัวแข็งทื่อ เธอเป็นแบบนี้ มันผิดปกติ

แต่ก็ต้องยอมรับว่า นี่คือสิ่งที่เขาตั้งหน้าตั้งตารอมากที่สุด ทั้งๆ ที่เธอก็ยืนอยู่ตรงหน้าแล้วยังรู้ความแบบนี้ แต่เขาจะคิดมากทำไม?

เขาโน้มตัวลงไปจูบเธอเบาๆ แล้วพูดว่า:”เก่งที่สุด” เมื่อลิฟต์มาถึงชั้นหนึ่ง ประตูลิฟต์ค่อยๆ เปิดออก เขาก็จับมือเธอแล้วเดินออกมาจากลิฟต์ด้วยกัน

เขามองข้ามดวงตาอันสวยงามที่ค่อยๆ มืดมนลงของซูย้าว ความมืดมนนั้น มันควบแน่นในดวงตาของเธออย่างเงียบๆ มีเวลาเหลือไม่มากแล้ว งั้นก็ทำให้เขามีความสุขหน่อยก็ได้!

แต่ในความเป็นจริง เธอตั้งใจไว้แบบนั้น แต่สุดท้ายมันกลับทำให้เธอรู้สึกเบื่อ

เพราะเจียงจี้เซิงโทรศัพท์มาตอนเย็น เชิญพวกเขาสองสามคนไปกินอาหารเย็นด้วยกัน ระหว่างทางที่พวกเขากำลังไป ซูย้าวทำหน้าบึ้งตลอด เธอไม่พอใจ แค่ดูก็รู้

ลี่เฉินซีขับรถไปพร้อมกับหันไปมองเธอ:”ทำไมคุณถึงทำหน้าบึ้งล่ะ?ไปช้อปปิ้งมาแล้วไม่ใช่เหรอ?”

“ช้อปปิ้ง?” ซูย้าวทวนสองคำนี้ด้วยน้ำเสียงที่คลุมเครือ เธอยิ้มอย่างเย็นชา “นั่นเรียกว่าช้อปปิ้งเหรอ คุณลี่ คุณเข้าใจคำว่าช้อปปิ้งผิดไปหรือเปล่า?”

“ช้อปปิ้งก็คือช้อปปิ้ง ต้องเดิน เดินไปซื้อไป…”

เธอยังพูดไม่จบเขาก็พูดขึ้นมาว่า:”คุณก็ซื้อแล้วไม่ใช่เหรอ?”

ซูย้าวหลับตาลงอย่างช่วยไม่ได้ เอนหัวพิงเบาะนั่ง เขาให้เธอซื้อแล้วจริงๆ แล้วก็ไม่ใช่แค่ซื้อ แต่เขาเหมาของแบรนด์มาหมดทั้งร้านเลยต่างหาก!

ตลอดทั้งช่วงบ่าย ใช้เวลาประมาณสี่ชั่วโมงกว่า ไม่ว่าเธอจะไปร้านไหน หยุดอยู่ที่หน้าเคาน์เตอร์ไหน เขาก็จะพูดออกมาว่า’เอามาทั้งหมด! ‘จากนั้นก็ทิ้งที่อยู่เอาไว้และรูดบัตรเดินออกไป

เขาทำแบบนี้ซ้ำๆ หลายสิบครั้ง ซูย้าวรู้สึกว่าการช้อปปิ้งครั้งนี้ เธอได้เหมามาหมดทั้งห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในหลิ่งโจว ต่อไปเธอเองก็คงจะเปิดซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ได้แล้ว!

นี่มันไม่ใช่ช้อปปิ้ง ไม่ใช่ช้อปปิ้งอย่างแน่นอน!

ไม่สิ พูดให้ถูกก็คือ เธอไม่ควรลากเขามาช้อปปิ้งด้วย ใช่ เธอเลือกคนผิด ผู้ชายคนนี้น่ากลัวจริงๆ เขาไม่มีวันเข้าใจความรู้สึกการช้อปปิ้งของผู้หญิง ความรู้สึกที่ค่อยๆ เลือกซื้อแบบนั้น!

เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ

เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ

เธอเป็นสาวใบ้ เมื่ออายุ19ปีก็ถูกแม่เลี้ยงและพี่สาวบังคับแต่งงานกับเขาโดยการขาย ภายใต้การแต่งงานที่หรูหราได้ซ่อนแผนร้ายอันน่าทึ่งไว้….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset