เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ – ตอนที่ 739 คิดว่าฉันเป็นมังสวิรัติหรอ

ลมหายใจของซูย้าวชะงักอย่างเสียสมาธิในทันที มึนงงอยู่พักหนึ่ง ถึงค่อยๆ ดึงความคิดกลับมา แล้วพยายามสงบนิ่งให้เร็วที่สุด ยิ้มอย่างประชดประชัน “คำพูดจากใจจริงอะไร? คุณลี่ นายหมายถึงอะไร?”

ลี่เฉินซีลดสายตาเหยี่ยวที่แคบยาว ปัดฝุ่นที่อยู่บนกางเกง เดินเข้าไปหาเธอ “เรื่องมาถึงขนาดนี้ แกล้งทำเป็นมึนงงต่อไป นี่ไม่ใช่วิธีที่ชาญฉลาดเลยนะ”

ซูย้าวเบือนหน้าหนี ขนตาหนายาวของเธอสั่นเทาผิดปกติ นิ้วมือที่ควบคุมไม่ได้ ก็กำแน่นช้าๆ

มันไม่ฉลาดเลยจริงๆ

แต่ดูก็รู้ว่าถูกเขามองออก เธอจะทำอะไรได้?

หัวใจเธอกระชับแน่น หันกลับมามองเข้าอีกครั้ง ใบหน้าที่ดูเหมือนเฉยเมย กลับมีความซับซ้อนในแววตาที่ยากจะปกปิด

“ฉันยังคงไม่ค่อยเข้าใจ นายหมายถึงอะไรกันแน่”

ลี่เฉินซีไม่พูดอะไร เพียงแค่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ ก้มหน้ามองเธอนิ่งๆ ยกนิ้วมือที่ขาวใสขึ้น จับแก้มของเธอ จ้องมอง ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

สายตาแบบนี้ของเขาลึกซึ้งเกินไป จ้องมองนานๆ ทำให้เธอรู้สึกหนักใจ

เธอยกมือขึ้นปัดมือของชายหนุ่ม ยิ้มอย่างเย้ยหยัน พูดขึ้น “คุณลี่คงไม่คิดว่าเป้าหมายเดิมของฉัน คืออยากให้นายมีชีวิตอยู่หรอกนะ?”

ขณะที่พูดรอยยิ้มเย็นชาจางๆ บนใบหน้าของซูย้าวก็เข้มขึ้นเรื่อยๆ “คำพูดแบบนี้ นายก็เชื่อ?”

เธอพูด พลางจงใจเดินเลี่ยงเขา “งั้นถ้าฉันบอกว่าอยากให้นายตาย นายก็ไม่ไปตายจริงๆ เลยหรอ?”

ลี่เฉินซีมองไปที่เธอเงียบๆ ใบหน้าที่หล่อเหลาไร้คลื่น และไร้การเปิดเผย แม้แต่คิ้วคมเข้มยังไร้รอยย่น เพียงแค่มองเธอด้วยสายตานิ่งๆ อยู่แบบนี้ แต่ชั่วพริบตา ทันทีที่ซูย้าวคิดจะเดินจากตัวเขาไปทางด้านนอก นาทีนั้น มือข้างนึงที่ไม่ให้ตั้งตัวของชายหนุ่ม ก็คว้าแขนเธอไว้

เขาออกแรงเล็กน้อย ดึงเธอเข้าไปในอ้อมแขนโดยตรง ขณะเดียวกันมืออีกข้างก็โอบรอบเอวเธอ เขาโน้มตัวลง กัดใบหูของเธอด้วยฟันที่ดูเหมือนไม่มี น้ำเสียงแหบแห้ง เซ็กซี่ดึงดูด “ที่รัก เธอนี่โกหกไม่เก่งจริงๆ ”

ในห้างขึ้นๆ ลงๆ มาตั้งหลายปี เขาก็อ่านคนมานับไม่ถ้วน อะไรคือความจริง อะไรคือคำหลอกลวง จะเขาแยกแยะไม่ออกหรอ?

คำว่า ‘เงื่อนไขคือนายจะต้องยังมีชีวิตอยู่’ที่เธอพูดก่อนหน้านี้มาจากใจจริงแน่นอน แต่ด้านหลังนั้น ก็แค่คำพูดหยาบๆ ที่ไว้ปิดหูปิดตาคนเท่านั้น

เสียงต่ำชั่วร้ายของชายหนุ่มพ่นออกมาตรงข้างหูเบาๆ ลมหายใจที่ร้อนผ่าว การกระตุ้นที่เร่าร้อน ทำให้ร่างของซูย้าวแข็งทื่อในทันที ร่างกายตึงเกร็งอย่างทนไม่ไหว ความหนาวเย็นก็เพิ่มขึ้นในหัวใจ

“ปล่อยฉันนะ! ปล่อย!”เธอดิ้นรนอย่างสิ้นหวัง พยายามกำจัดมือใหญ่ที่เหมือนคีมเหล็กของเขา

แต่การดิ้นรนแบบนี้ เห็นได้ชัดว่าไร้ผล

ริมฝีปากของลี่เฉินซีฉีกยิ้มเบาๆ “ต่อหน้าฉัน โกหกซ้ำแล้วซ้ำเล่า เธอบอกซิ ฉันควรลงโทษเธอเสียหน่อยไหม?”

การต่อสู้ดิ้นรนของซูย้าวชะงัก ตกใจทันที “นาย…..นายบ้าไปแล้วหรอ? ที่นี่เป็นที่สาธารณะ ไม่ใช่ที่ที่นายจะทำตามอำเภอใจได้ ปล่อยฉัน!”

ลี่เฉินซีไม่ปล่อยเธอแน่นอน เขาแค่กอดรัดเธอแน่นจากด้านหลังเหมือนอย่างเก่า รอยยิ้มที่น่าสนใจก็ปรากฏขึ้นข้างริมฝีปาก ก้มศีรษะพ่นคำข้างหูเธอต่อ “อย่าลืมสิ ว่าเธอมาที่นี่มาที่นี่ด้วยตัวเองนะ”

เธอกัดฟันด้วยความโกรธ “คนที่ฉันตามหาก็ไม่ใช่นาย!”

ถ้าเธอรู้ว่าคนที่อยู่ในห้องนี้คือเขา ให้ตายเธอก็ไม่วิ่งเข้ามา!

ลี่เฉินซียิ้มต่อ แล้วยังจงใจเลียติ่งหูของเธอ มองดูใบหน้าแดงก่ำร้อนผ่าวของเธอ รอยยิ้มในแววตาก็หนาขึ้น “แล้วยังไงล่ะ คู่หมั้นของตัวเองอยู่ที่ไหนยังไม่รู้เลย ยังวิ่งมาหาฉันด้วยตัวเองอีก นี่เป็นความผิดของเธอไม่ใช่หรอ?”

เธอตกตะลึง เงยหน้ามองกลับไปที่เขาอย่างแทบไม่อยากจะเชื่อ “นายป่วยหรอ!”

ร่างของชายหนุ่มชะงักเบาๆ แขนที่รั้งเธอไว้ก็คลายออกเล็กน้อย ซูย้าวถือโอกาสคิดที่จะสลัดเขาออก แต่ก็ถูกเขาคว้าไว้อีกครั้ง จับแน่นขึ้นเล็กน้อย สายตาที่เขาส่งมาไม่เหมือนทีแรก มีความกดดัน มีความหนักแน่น “พูดความจริงมาซักคำ เธออยากที่จะแต่งงานกับเพ้ยส้าวหลี่จริงๆ หรอ?”

ซูย้าวผงะ เธอคิดไม่ถึงว่าเขาจะเปลี่ยนหัวข้อมาเรื่องนี้อย่างกะทันหัน ความลังเลให้แววตาจึงแวบขึ้นมาเล็กน้อย เบือนหน้าหนีโดยไม่รู้ตัว แต่กลับพูดว่า “แน่นอนสิ!”

โกหก!

ลี่เฉินซีมองแวบเดียวก็เข้าใจชัดเจน แต่กลับระงับความโกรธไว้แล้วพูดต่อ “เพราะอะไร? เขาดีตรงไหน?”

“ตรงไหนก็ดีทั้งนั้น!”เธอคล้อยตามคำพูดของเขา ตอบไปทันทีโดยไม่แม้แต่จะคิด “ไม่เพียงเท่านั้น ฉัน…..ฉันยังรักเขาด้วย รักมากรักมาก!”

เธออดไม่ได้ที่จะกัดริมฝีปากล่าง ราวกับว่าอยากที่จะมองข้ามหัวใจตัวเอง และอยากให้ลี่เฉินซีปล่อยมือและตายใจ พูดขึ้นต่อ “รักถึงขั้นที่ฉันตายเพื่อเขาได้ เท่านี้พอใจหรือยัง? ลี่เฉินซี ไม่ว่านายจะคิดยังไง ในสายตาของฉัน ส้าวหลี่ก็เป็นคนที่ใครก็ไม่สามารถแทนได้!”

บนใบหน้าที่ขอบมุมชัดเจนของลี่เฉินซี เผยความเย็นชาโดยทันที ครอบงำดวงตาที่หยั่งลึกของเขา ทีละน้อยละน้อย ความเฉียบขาดทยอยกันเข้ามา ทั้งๆ ที่รู้ว่าสิ่งที่เธอพูดตอนนี้คือคำโกหก แต่เมื่อพูดออกมาจากปากเธอ แต่ก็ยังคงอดทนต่อความโกรธที่ทะยานเข้ามาในหัวใจไม่ได้

เขาหัวเราะด้วยความโมโห “ไม่สามารถแทนได้? แล้วยังรักมากรักมาก?”

เสียงที่เยือกเย็นของลี่เฉินซีแทบจะเล็ดลอดออกมาระหว่างฟันทีละคำ ทวนซ้ำคำพูดของเธอที่บาดหูและทำร้าย ความหล่อเหลาถูกปกคลุมด้วยความเยือกเย็น จากนั้นเรี่ยวแรงที่คว้าตัวเธอไว้ ก็เพิ่มขึ้นหลายเท่าไม่หยุด เกือบจะป่าเถื่อนอย่างไร้สติ ดึงเธออย่างรุนแรง แล้วโยนเธอไปที่โซฟา

โซฟานิ่มๆ กระเด้งร่างที่ผอมบางของเธอขึ้น แล้วร่างที่สูงใหญ่ของชายหนุ่มก็คร่อมลงมา ซูย้าวเบิกตากว้างด้วยความตื่นตระหนก ยังไม่ทันได้ดิ้นรนต่อสู้ ก็ถูกชายหนุ่มจับแขนไว้อย่างแม่นยำ เขาดึงเนคไทของตัวเองออก มัดมือเธอไว้สองสามที

“ลี่เฉินซี นายจะทำอะไร? นายบ้าไปแล้วหรอ?”ซูย้าวตกใจกลัว ดิ้นรนเตะขาไปทางเขา

ชายหนุ่มพลิกตัวเบาๆ หลบเลี่ยงได้ จากนั้นก็ใช้ขาทั้งคู่ที่ทรงพลังของตน ผูกมัดขาเรียวของเธอไว้ นิ้วมือเรียวยาวปัดแก้มของเธอเบาๆ “เธอคิดว่าฉันจะทำอะไรล่ะ? ที่รัก นอกจากเธอแล้ว ฉันจะทำอะไรได้อีก? หืม?”

คำพูดยั่วเย้าของเขา มีเสน่ห์ดึงดูด ราวกับเสียงตามธรรมชาติที่น่าหลงใหล

แววตาของซูย้าวเต็มไปด้วยความโกรธ พูดเน้นทีละคำ “ลี่เฉินซี ถ้านายกล้าทำอะไร ฉันจะตะโกนเรียกคนนะ!”

การข่มขู่แบบนี้ แน่นอนว่าไม่มีผลอะไรกับเขา เขานอกจากจะทำตามอำเภอใจต่อแล้ว ยังลูบมุมปากของเธอด้วยความสนใจ “เธอตะโกนได้นะ ลองดูว่าที่นี่เก็บเสียงดีหรือเปล่า หรือตะโกนเรียกคู่หมั้นคนนั้นที่เธอ’รักมากรักมาก’มาจากห้องข้างๆ ก็ได้ ให้มาดูคู่หมั้นสุดที่รักของเขา ยอมอยู่ใต้ตัวฉันอย่างเชื่อฟัง…..”

ซูย้าวชะงักทันที เพ้ยส้าวหลี่อยู่ห้องถัดไป?!

ก็แปลว่า เมื่อกี้ผู้จัดการไม่ได้จำผิด แต่จงใจโดยแท้ นี่มันเป็นกับดัก!

เธอโกรธจนแทบจะทรุดตัว กัดริมฝีปากล่างอย่างรุนแรง “ลี่เฉินซี นาย…..”

ไม่ปล่อยให้เธอพูดต่อ ริมฝีปากอันบอบบางของเขาผนึกเธอไว้อย่างง่ายดาย น้ำเสียงที่แหบห้าวเผยรสชาติที่แตกต่าง “โกหกครั้งแล้วครั้งเล่าก็ช่างเถอะ นี่ยังกล้าบอกว่ารักคนอื่นต่อหน้าฉันได้อย่างเต็มปากเต็มคำ? ที่รัก คิดว่าฉันเป็นมังสวิรัติจริงๆ หรือไง?”

ซูย้าวกัดฟันอย่างดุเดือด อยากกัดปากเขามาก แต่เห็นได้ชัดว่าชายหนุ่มตาเร็วมือไว เลี่ยงได้ทันที แล้วยังใช้นิ้วปิดปากเล็กๆ ของเธอ “ฟันแหลมคมนัก แต่ต้องดูแลฟันคมๆ ของเธอให้ดี ไม่งั้น คนที่เป็นทุกข์ จะเป็นตัวเธอเอง!”

ทันทีที่เขาพูดจบ ก็ถอดทุกอย่างของเธอหมด เปิดเผยออกมา ตรงเข้าประเด็น

เพียงครู่เดียว เสื้อผ้าของทั้งสองก็กระจัดกระจายไปทั่ว เขาไม่สนใจแม้แต่น้อย เหยียบย่ำตามใจ เช่นเดียวกับเธอในตอนนี้….

ลมหายใจของซูย้าวชะงักอย่างเสียสมาธิในทันที มึนงงอยู่พักหนึ่ง ถึงค่อยๆ ดึงความคิดกลับมา แล้วพยายามสงบนิ่งให้เร็วที่สุด ยิ้มอย่างประชดประชัน “คำพูดจากใจจริงอะไร? คุณลี่ นายหมายถึงอะไร?”

ลี่เฉินซีลดสายตาเหยี่ยวที่แคบยาว ปัดฝุ่นที่อยู่บนกางเกง เดินเข้าไปหาเธอ “เรื่องมาถึงขนาดนี้ แกล้งทำเป็นมึนงงต่อไป นี่ไม่ใช่วิธีที่ชาญฉลาดเลยนะ”

ซูย้าวเบือนหน้าหนี ขนตาหนายาวของเธอสั่นเทาผิดปกติ นิ้วมือที่ควบคุมไม่ได้ ก็กำแน่นช้าๆ

มันไม่ฉลาดเลยจริงๆ

แต่ดูก็รู้ว่าถูกเขามองออก เธอจะทำอะไรได้?

หัวใจเธอกระชับแน่น หันกลับมามองเข้าอีกครั้ง ใบหน้าที่ดูเหมือนเฉยเมย กลับมีความซับซ้อนในแววตาที่ยากจะปกปิด

“ฉันยังคงไม่ค่อยเข้าใจ นายหมายถึงอะไรกันแน่”

ลี่เฉินซีไม่พูดอะไร เพียงแค่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ ก้มหน้ามองเธอนิ่งๆ ยกนิ้วมือที่ขาวใสขึ้น จับแก้มของเธอ จ้องมอง ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

สายตาแบบนี้ของเขาลึกซึ้งเกินไป จ้องมองนานๆ ทำให้เธอรู้สึกหนักใจ

เธอยกมือขึ้นปัดมือของชายหนุ่ม ยิ้มอย่างเย้ยหยัน พูดขึ้น “คุณลี่คงไม่คิดว่าเป้าหมายเดิมของฉัน คืออยากให้นายมีชีวิตอยู่หรอกนะ?”

ขณะที่พูดรอยยิ้มเย็นชาจางๆ บนใบหน้าของซูย้าวก็เข้มขึ้นเรื่อยๆ “คำพูดแบบนี้ นายก็เชื่อ?”

เธอพูด พลางจงใจเดินเลี่ยงเขา “งั้นถ้าฉันบอกว่าอยากให้นายตาย นายก็ไม่ไปตายจริงๆ เลยหรอ?”

ลี่เฉินซีมองไปที่เธอเงียบๆ ใบหน้าที่หล่อเหลาไร้คลื่น และไร้การเปิดเผย แม้แต่คิ้วคมเข้มยังไร้รอยย่น เพียงแค่มองเธอด้วยสายตานิ่งๆ อยู่แบบนี้ แต่ชั่วพริบตา ทันทีที่ซูย้าวคิดจะเดินจากตัวเขาไปทางด้านนอก นาทีนั้น มือข้างนึงที่ไม่ให้ตั้งตัวของชายหนุ่ม ก็คว้าแขนเธอไว้

เขาออกแรงเล็กน้อย ดึงเธอเข้าไปในอ้อมแขนโดยตรง ขณะเดียวกันมืออีกข้างก็โอบรอบเอวเธอ เขาโน้มตัวลง กัดใบหูของเธอด้วยฟันที่ดูเหมือนไม่มี น้ำเสียงแหบแห้ง เซ็กซี่ดึงดูด “ที่รัก เธอนี่โกหกไม่เก่งจริงๆ ”

ในห้างขึ้นๆ ลงๆ มาตั้งหลายปี เขาก็อ่านคนมานับไม่ถ้วน อะไรคือความจริง อะไรคือคำหลอกลวง จะเขาแยกแยะไม่ออกหรอ?

คำว่า ‘เงื่อนไขคือนายจะต้องยังมีชีวิตอยู่’ที่เธอพูดก่อนหน้านี้มาจากใจจริงแน่นอน แต่ด้านหลังนั้น ก็แค่คำพูดหยาบๆ ที่ไว้ปิดหูปิดตาคนเท่านั้น

เสียงต่ำชั่วร้ายของชายหนุ่มพ่นออกมาตรงข้างหูเบาๆ ลมหายใจที่ร้อนผ่าว การกระตุ้นที่เร่าร้อน ทำให้ร่างของซูย้าวแข็งทื่อในทันที ร่างกายตึงเกร็งอย่างทนไม่ไหว ความหนาวเย็นก็เพิ่มขึ้นในหัวใจ

“ปล่อยฉันนะ! ปล่อย!”เธอดิ้นรนอย่างสิ้นหวัง พยายามกำจัดมือใหญ่ที่เหมือนคีมเหล็กของเขา

แต่การดิ้นรนแบบนี้ เห็นได้ชัดว่าไร้ผล

ริมฝีปากของลี่เฉินซีฉีกยิ้มเบาๆ “ต่อหน้าฉัน โกหกซ้ำแล้วซ้ำเล่า เธอบอกซิ ฉันควรลงโทษเธอเสียหน่อยไหม?”

การต่อสู้ดิ้นรนของซูย้าวชะงัก ตกใจทันที “นาย…..นายบ้าไปแล้วหรอ? ที่นี่เป็นที่สาธารณะ ไม่ใช่ที่ที่นายจะทำตามอำเภอใจได้ ปล่อยฉัน!”

ลี่เฉินซีไม่ปล่อยเธอแน่นอน เขาแค่กอดรัดเธอแน่นจากด้านหลังเหมือนอย่างเก่า รอยยิ้มที่น่าสนใจก็ปรากฏขึ้นข้างริมฝีปาก ก้มศีรษะพ่นคำข้างหูเธอต่อ “อย่าลืมสิ ว่าเธอมาที่นี่มาที่นี่ด้วยตัวเองนะ”

เธอกัดฟันด้วยความโกรธ “คนที่ฉันตามหาก็ไม่ใช่นาย!”

ถ้าเธอรู้ว่าคนที่อยู่ในห้องนี้คือเขา ให้ตายเธอก็ไม่วิ่งเข้ามา!

ลี่เฉินซียิ้มต่อ แล้วยังจงใจเลียติ่งหูของเธอ มองดูใบหน้าแดงก่ำร้อนผ่าวของเธอ รอยยิ้มในแววตาก็หนาขึ้น “แล้วยังไงล่ะ คู่หมั้นของตัวเองอยู่ที่ไหนยังไม่รู้เลย ยังวิ่งมาหาฉันด้วยตัวเองอีก นี่เป็นความผิดของเธอไม่ใช่หรอ?”

เธอตกตะลึง เงยหน้ามองกลับไปที่เขาอย่างแทบไม่อยากจะเชื่อ “นายป่วยหรอ!”

ร่างของชายหนุ่มชะงักเบาๆ แขนที่รั้งเธอไว้ก็คลายออกเล็กน้อย ซูย้าวถือโอกาสคิดที่จะสลัดเขาออก แต่ก็ถูกเขาคว้าไว้อีกครั้ง จับแน่นขึ้นเล็กน้อย สายตาที่เขาส่งมาไม่เหมือนทีแรก มีความกดดัน มีความหนักแน่น “พูดความจริงมาซักคำ เธออยากที่จะแต่งงานกับเพ้ยส้าวหลี่จริงๆ หรอ?”

ซูย้าวผงะ เธอคิดไม่ถึงว่าเขาจะเปลี่ยนหัวข้อมาเรื่องนี้อย่างกะทันหัน ความลังเลให้แววตาจึงแวบขึ้นมาเล็กน้อย เบือนหน้าหนีโดยไม่รู้ตัว แต่กลับพูดว่า “แน่นอนสิ!”

โกหก!

ลี่เฉินซีมองแวบเดียวก็เข้าใจชัดเจน แต่กลับระงับความโกรธไว้แล้วพูดต่อ “เพราะอะไร? เขาดีตรงไหน?”

“ตรงไหนก็ดีทั้งนั้น!”เธอคล้อยตามคำพูดของเขา ตอบไปทันทีโดยไม่แม้แต่จะคิด “ไม่เพียงเท่านั้น ฉัน…..ฉันยังรักเขาด้วย รักมากรักมาก!”

เธออดไม่ได้ที่จะกัดริมฝีปากล่าง ราวกับว่าอยากที่จะมองข้ามหัวใจตัวเอง และอยากให้ลี่เฉินซีปล่อยมือและตายใจ พูดขึ้นต่อ “รักถึงขั้นที่ฉันตายเพื่อเขาได้ เท่านี้พอใจหรือยัง? ลี่เฉินซี ไม่ว่านายจะคิดยังไง ในสายตาของฉัน ส้าวหลี่ก็เป็นคนที่ใครก็ไม่สามารถแทนได้!”

บนใบหน้าที่ขอบมุมชัดเจนของลี่เฉินซี เผยความเย็นชาโดยทันที ครอบงำดวงตาที่หยั่งลึกของเขา ทีละน้อยละน้อย ความเฉียบขาดทยอยกันเข้ามา ทั้งๆ ที่รู้ว่าสิ่งที่เธอพูดตอนนี้คือคำโกหก แต่เมื่อพูดออกมาจากปากเธอ แต่ก็ยังคงอดทนต่อความโกรธที่ทะยานเข้ามาในหัวใจไม่ได้

เขาหัวเราะด้วยความโมโห “ไม่สามารถแทนได้? แล้วยังรักมากรักมาก?”

เสียงที่เยือกเย็นของลี่เฉินซีแทบจะเล็ดลอดออกมาระหว่างฟันทีละคำ ทวนซ้ำคำพูดของเธอที่บาดหูและทำร้าย ความหล่อเหลาถูกปกคลุมด้วยความเยือกเย็น จากนั้นเรี่ยวแรงที่คว้าตัวเธอไว้ ก็เพิ่มขึ้นหลายเท่าไม่หยุด เกือบจะป่าเถื่อนอย่างไร้สติ ดึงเธออย่างรุนแรง แล้วโยนเธอไปที่โซฟา

โซฟานิ่มๆ กระเด้งร่างที่ผอมบางของเธอขึ้น แล้วร่างที่สูงใหญ่ของชายหนุ่มก็คร่อมลงมา ซูย้าวเบิกตากว้างด้วยความตื่นตระหนก ยังไม่ทันได้ดิ้นรนต่อสู้ ก็ถูกชายหนุ่มจับแขนไว้อย่างแม่นยำ เขาดึงเนคไทของตัวเองออก มัดมือเธอไว้สองสามที

“ลี่เฉินซี นายจะทำอะไร? นายบ้าไปแล้วหรอ?”ซูย้าวตกใจกลัว ดิ้นรนเตะขาไปทางเขา

ชายหนุ่มพลิกตัวเบาๆ หลบเลี่ยงได้ จากนั้นก็ใช้ขาทั้งคู่ที่ทรงพลังของตน ผูกมัดขาเรียวของเธอไว้ นิ้วมือเรียวยาวปัดแก้มของเธอเบาๆ “เธอคิดว่าฉันจะทำอะไรล่ะ? ที่รัก นอกจากเธอแล้ว ฉันจะทำอะไรได้อีก? หืม?”

คำพูดยั่วเย้าของเขา มีเสน่ห์ดึงดูด ราวกับเสียงตามธรรมชาติที่น่าหลงใหล

แววตาของซูย้าวเต็มไปด้วยความโกรธ พูดเน้นทีละคำ “ลี่เฉินซี ถ้านายกล้าทำอะไร ฉันจะตะโกนเรียกคนนะ!”

การข่มขู่แบบนี้ แน่นอนว่าไม่มีผลอะไรกับเขา เขานอกจากจะทำตามอำเภอใจต่อแล้ว ยังลูบมุมปากของเธอด้วยความสนใจ “เธอตะโกนได้นะ ลองดูว่าที่นี่เก็บเสียงดีหรือเปล่า หรือตะโกนเรียกคู่หมั้นคนนั้นที่เธอ’รักมากรักมาก’มาจากห้องข้างๆ ก็ได้ ให้มาดูคู่หมั้นสุดที่รักของเขา ยอมอยู่ใต้ตัวฉันอย่างเชื่อฟัง…..”

ซูย้าวชะงักทันที เพ้ยส้าวหลี่อยู่ห้องถัดไป?!

ก็แปลว่า เมื่อกี้ผู้จัดการไม่ได้จำผิด แต่จงใจโดยแท้ นี่มันเป็นกับดัก!

เธอโกรธจนแทบจะทรุดตัว กัดริมฝีปากล่างอย่างรุนแรง “ลี่เฉินซี นาย…..”

ไม่ปล่อยให้เธอพูดต่อ ริมฝีปากอันบอบบางของเขาผนึกเธอไว้อย่างง่ายดาย น้ำเสียงที่แหบห้าวเผยรสชาติที่แตกต่าง “โกหกครั้งแล้วครั้งเล่าก็ช่างเถอะ นี่ยังกล้าบอกว่ารักคนอื่นต่อหน้าฉันได้อย่างเต็มปากเต็มคำ? ที่รัก คิดว่าฉันเป็นมังสวิรัติจริงๆ หรือไง?”

ซูย้าวกัดฟันอย่างดุเดือด อยากกัดปากเขามาก แต่เห็นได้ชัดว่าชายหนุ่มตาเร็วมือไว เลี่ยงได้ทันที แล้วยังใช้นิ้วปิดปากเล็กๆ ของเธอ “ฟันแหลมคมนัก แต่ต้องดูแลฟันคมๆ ของเธอให้ดี ไม่งั้น คนที่เป็นทุกข์ จะเป็นตัวเธอเอง!”

ทันทีที่เขาพูดจบ ก็ถอดทุกอย่างของเธอหมด เปิดเผยออกมา ตรงเข้าประเด็น

เพียงครู่เดียว เสื้อผ้าของทั้งสองก็กระจัดกระจายไปทั่ว เขาไม่สนใจแม้แต่น้อย เหยียบย่ำตามใจ เช่นเดียวกับเธอในตอนนี้….

เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ

เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ

เธอเป็นสาวใบ้ เมื่ออายุ19ปีก็ถูกแม่เลี้ยงและพี่สาวบังคับแต่งงานกับเขาโดยการขาย ภายใต้การแต่งงานที่หรูหราได้ซ่อนแผนร้ายอันน่าทึ่งไว้….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset