เช่าท่านประธานมาปิ๊งรัก – ตอนที่ 513 สิ่งที่แต่ละคนปรารถนา / ตอนที่ 514 ถอนรากถอนโคน

ตอนที่ 513 สิ่งที่แต่ละคนปรารถนา

 

 

“ยังไม่เสร็จเหรอ” เหยียนเค่อกินข้าวเสร็จแล้ว แต่เสิ่นมั่วหลีก็ยังคุยโทรศัพท์อยู่

 

 

เสิ่นมั่วหลีรับคำ “เสร็จแล้ว” จากนั้นก็วางสายซย่าเสี่ยวมั่วอย่างไร้เยื่อไย

 

 

เหยียนเค่อนี่ได้หมดทั้งชายทั้งหญิงสินะ ซย่าเสี่ยวมั่วบ่นในใจ หลังจากที่จองตั๋วเครื่องบินกับโรงแรมเสร็จ เธอก็โยนโทรศัพท์ไปอีกทาง

 

 

เหยียนเค่อเห็นเสิ่นมั่วหลีเดินออกมาจากห้องครัว จึงเอ่ยถามไปอย่างนั้น “มีอะไรเหรอ”

 

 

“ตั้งแต่ที่นายมาจิงตู น้องสาวฉันก็ดูเหมือนจะรู้เวลา ต้องโทรมาหาตอนฉันกินข้าวตลอด หกปีมานี่ยังมาน่ารำคาญเท่ารับโทรศัพท์เธอแค่อาทิตย์เดียวเลย” เสิ่นมั่วหลีเดินกลับไปนั่งกินข้าวต่อ

 

 

“น้องพี่มีอะไรกับผมหรือเปล่า” เหยียนเค่อรู้สึกว่าชายหนุ่มพูดจาแปลกๆ

 

 

เสิ่นมั่วหลีส่ายหน้า “เปล่าหรอก แค่เวลามันบังเอิญพอดี” อย่างน้อยตอนนี้ก็ยังถือว่าไม่ได้เป็นอะไรกัน

 

 

“อืม” เหยียนเค่อกินข้าวเสร็จแล้วแต่ก็ยังคงนั่งอยู่ต่อ “ช่วงนี้น้องสาวพี่มีเรื่องเยอะเหรอ”

 

 

เดิมทีเหยียนเค่อกะว่ากินข้าวเสร็จก็จะกลับทันที แต่เมื่อมาคิดดูอีกทีก็รู้สึกว่าไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่ จึงนั่งต่อเป็นเพื่อนเสิ่นมั่วหลี

 

 

“อือ อยากไปเที่ยว แต่ยังไม่รู้ว่าจะเอาหมาไปฝากไว้ที่ไหนดี” เสิ่นมั่วหลีเอ่ยอย่างนึกสนุก

 

 

เหยียนเค่อได้ยินก็ประหลาดใจ “น้องสาวพี่เลี้ยงหมาด้วยเหรอ”

 

 

“อือ แต่ฉันก็ไม่เคยเห็น น่าจะเป็นพันธ์โกลเด้น” เสิ่นมั่วหลีลูบคางตัวเอง ตัดสินใจว่าจะเสียสละให้น้องสาว “ถ้านายจะกลับเมือง N ก็รีบกลับไปเถอะ”

 

 

“ทำไม นี่ไล่ผมกลับเหรอ” เหยียนค่อหยิบแก้วน้ำมารินน้ำให้ตัวเอง

 

 

เสิ่นมั่วหลีไม่ได้อยากให้ชายหนุ่มกลับไป แต่ซย่าเสี่ยวมั่วซื้อบื้อขนาดนั้น เดี๋ยวต้องเกิดเรื่องไม่คาดคิดอะไรขึ้นบ้างแหล่ะน่า

 

 

“เรื่องบางเรื่องถ้านายพลาดไป นายอาจเสียใจภายหลังนะ”

 

 

เหยียนเค่อมองชายหนุ่มอย่างไม่เข้าใจ ตัวเขาเองยังไม่รู้เลยว่าจะเกิดเรื่องอะไรที่ทำให้เขาเสียใจภายหลังได้ เสิ่นมั่วหลีจะมารู้ดีกว่าเขาได้อย่างไร ชายหนุ่มเอ่ยถามอย่างแปลกใจ “สวีอันหรานจะแต่งงานแล้ว นี่ถือเป็นเรื่องที่ผมต้องเสียใจไหม”

 

 

“นายชอบสวีอันหราน?”

 

 

“เปล่า”

 

 

“อย่างนั้นจะเสียใจทำไม”

 

 

“อย่างนั้นผมจะมีเรื่องอะไรให้เสียใจอีกล่ะ”

 

 

เสิ่นมั่วหลีไม่รู้ว่าตนหลวมตัวมาพูดเรื่องนี้ได้อย่างไร แต่เขาไม่อย่างเอ่ยถึงเรื่องนี้อีก “นายไม่เสียใจก็ไม่เสียใจ”

 

 

เหยียนเค่อนั่งนิ่งไปชั่วครู่ ในใจก็คิดตาม ถ้าตนไม่ไปร่วมงานแต่งงานของสวีอันหราน อาจต้องเสียใจภายหลังจริงๆ

 

 

“พี่พูดมีเหตุผล” จู่ๆชายหนุ่มก็เอ่ยขึ้นมาไม่มีปี่มีขลุ่ย จากนั้นก็หมุนตัวเดินขึ้นข้างบนไป “รอผมสะสางเรื่องทางนี้เสร็จเรียบร้อยก่อน แล้วค่อยกลับดีกว่า”

 

 

เสิ่นมั่วหลีไม่ได้เงยหน้าขึ้นมอง ยังคงนั่งกินข้าวต่อไป ที่เขาเตือนให้เหยียนเค่อรีบกลับก็เผื่อว่าซย่าเสี่ยวมั่วอยากจะเอาหมาไปฝากไว้ที่ชายหนุ่ม แต่ว่าสวีอันหรานกับสวีรั่วชีจะแต่งงานกันอยู่แล้ว ซย่าเสี่ยวมั่วกลับมีกะจิตกะใจจะไปเที่ยว เขาไม่เข้าใจน้องสาวเขาเลยจริงๆ

 

 

เหยียนเค่อเพิ่งเดินขึ้นมาด้านบน สวีอันหรานก็โทรหาเขาพอดี

 

 

เขาคิดขึ้นมาได้ว่างานแต่งของสวีอันหรานเตรียมการเกือบเสร็จสิ้นหมดแล้ว เพื่อนเขาคงอารมณ์ดีอยู่ไม่น้อย

 

 

“ฉันไปรับเสี่ยวชีกลับมาบ้านแล้ว เธอแทบจะทำให้ซย่าเสี่ยวมั่วบ้าตายอยู่แล้ว” สวีอันหรานส่ายหัว พลางถอนหายใจ

 

 

“นายเคลียร์ทางนั้นเสร็จก็รีบกลับมาเถอะ”

 

 

“รีบกลับไปทำไม ให้แต่งงานแทนนายหรือไง”

 

 

สวีอันหรานถูกชายหนุ่มแขวะก็สะอึกไปครู่หนึ่ง เกาหูอย่างไม่สบอารมณ์ “รีบได้ก็รีบกลับมาเถอะน่า ฉันว่าจะพาสวีรั่วชีไปที่โน่นก่อน กลัวเธอจะเปลี่ยนใจหนีไปอีก”

 

 

“ฉันรู้แล้ว” เหยียนเค่อรับปากส่งๆ แต่เขาก็มีปัญหาที่ต้องสะสางจริงๆอยู่ “ช่วงนี้พี่ชายฉันก็เริ่มเคลื่อนไหวแล้ว คงต้องรีบกลับไป”

 

 

“วันนี้ฉันไปเจอเฉิงซินมาแล้ว ยกเลิกการร่วมทุนไปแล้วด้วย เฉิงนั่วอยากเจอฉัน แต่ฉันไม่ให้เข้าพบ” สวีอันหรานจัดการเคลียร์ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว ค่าปรับค่าผิดสัญญาก็ไม่เท่าไหร่ เงินที่จะเอาไปร่วมลงทุนกันยังมากกว่าเสียอีก

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 514 ถอนรากถอนโคน

 

 

ที่จริงเหยียนเค่อไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก แต่คนอย่างสวีอันหรานทำถึงขนาดนี้แล้วก็คงไม่ง่ายสำหรับชายหนุ่มเท่าไหร่

 

 

ตระกูลเฉิงกับตระกูลสวีรู้จักและสนิทนสนมกันมานาน ตอนนี้ทั้งสองตระกูลจะมาตัดสัมพันธ์กันแบบนี้ สวีอันหรานก็คงต้องแบกความรับผิดชอบอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน

 

 

ถ้าเป็นเหยียนเค่อออกโรงเอง แค่ตัดขาดความสัมพันธ์ยังจะดูน้อยไปด้วยซ้ำ

 

 

“เฉิงนั่วคงอยู่ไม่ติดที่แล้ว ที่ผ่านมาตระกูลสวีเอาแต่อาศัยการแต่งงานเพื่อเพิ่มความมั่นคงให้ตระกูล แต่นี่นายประกาศตัดขาดกับตระกูลเฉิง จะหาใครมาแทนก็คงยากหน่อย” ความจริงเหยียนเค่อก็จัดการกับตระกูลเฉิงไปแล้วรอบหนึ่ง พอตอนนี้โดนสวีอันหรานซ้ำไปอีกรอบ เห็นทีคงจะมีแต่พี่ชายเขาเท่านั้นที่เป็นที่พึ่งของตระกูลเน่าๆนี่ได้

 

 

สวีอันหรานก็พอจะเดาได้ แต่มันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเขาแล้ว สิ่งที่เขาห่วงก็คือเฉิงซินจะมาทำร้ายสวีรั่วชีอีกหรือไม่ “เรื่องของเฉิงซินฉันยังจัดการได้ไม่ดีพอใช่ไหม”

 

 

เมื่อเหยียนเค่อฟังจบก็จนปัญญากับสวีอันหรานจริงๆ “นายช่วยถอนรากถอนโคนไปเลยไม่ได้หรือไง”

 

 

“นี่ยังไม่พออีกหรอ ฉันไม่ได้อาละวาดขนาดนี้มานานแล้วนะ”

 

 

“นายใจดีเกินไปสินะ” จัดการเรื่องแบบนี้ควรจะถอนรากถอนโคนไปเลย เหลือไว้ครึ่งๆกลางๆแบบนี้เกิดอะไรขึ้นอีกจะจัดการอย่างไร เหยียนเค่อไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง เอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “เกิดอะไรขึ้นอีกนายรับผิดชอบแล้วกัน”

 

 

“คงไม่หรอกมั้ง” สวีอันหรานตัดสัมพันธ์กับตระกูลเฉิงอย่างเด็ดขาดแล้ว คงไม่ได้ข้องแวะกับเฉิงซินอีก

 

 

เหยียนเค่อตระหนักดีในเรื่องนี้ว่า ถ้าไม่จัดการอะไรๆให้เด็ดขาดก็อาจเกิดเหตุไม่คาดคิดได้ตลอดเวลา เขาไม่เข้าใจจริงๆว่าเพื่อนไปเอาความมั่นใจพวกนี้มาจากไหน

 

 

“ไม่รู้” เพราะเขาไม่รู้ว่าเฉิงซินเป็นคนอย่างไร จึงไม่สามารถตัดสินได้ แต่ด้วยสัญชาตญาณของเขามันบอกว่าต้องมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นอีกแน่ๆ

 

 

สวีอันหรานปวดหัว “นายมีประสบการณ์เรื่องพวกนี้เยอะไม่ใช่gหรอ”

 

 

“ถ้าฉันมีประสบการณ์ ทุกวันนี้ฉันต้องมานั่งระวังนั่นระแวงนี่gหรอ” เรื่องนี้จะมาอ้างประสบการณ์ได้อย่างไร ถึงเราจะระวังขนาดไหนแต่ถ้าเรื่องมันจะเกิดมันก็ต้องเกิด บางทีการที่สวีอันหรานจัดการแบบนี้ หากเกิดอะไรขึ้นก็คงสาวหาต้นตอได้ง่ายขึ้นกระมัง

 

 

เหยียนเค่อเอ่ยปลอบเพื่อนไปส่งๆ “แต่งงานเสร็จเดี๋ยวก็ดีเอง ไม่ต้องคิดมาก”

 

 

“ทำไมฉันรู้สึกว่านายไม่จริงใจ” ในเรื่องของความรักนั้น ตอนนี้สวีอันหรานทนรับการโจมตีอะไรไม่ได้ทั้งนั้น

 

 

 เหยียนเค่อถอนหายใจ น้ำเสียงฟังดูเสียดาย “ว้า นายฟังออกด้วย”

 

 

สวีอันหรานคาดโทษ “จัดการเรื่องทางนั้นเสร็จก็รีบกลับมา ผู้ช่วยฉันบอกว่าวันนี้นายก่อเรื่องใหญ่ไว้นะ”

 

 

“ผู้ช่วยนายใจกล้าจริงๆ” เหยียนเค่อขมวดคิ้ว กล้าฟ้องสวีอันหรานเรื่องเขา มันดูไม่ออกหรือไงนะว่าเป็นเจ้านายตัวเองแท้ๆที่ขอร้องให้เขาไปช่วย

 

 

สวีอันหรานลำบากใจ “นายอย่าไปหาเรื่องไล่เขาออกนะ จัดการเรื่องเสร็จก็รีบกลับมาร่วมงานแต่งฉันได้แล้ว การ์ดเชิญของนายกับซย่าเสี่ยวมั่วเตรียมไว้เสร็จแล้ว เดี๋ยวจะแจกให้ทีเดียว” สวีอันหรานพอใจกับการเตรียมงานนนของตัวเองมาก

 

 

“เธอไปใช่ไหม”

 

 

“ก็ต้องไปอยู่แล้ว เสี่ยวชีต้องมีเพื่อนเจ้าสาวนะ” สวีอันหรานพูดอวด “เดี๋ยวนายได้เห็นซย่าเสี่ยวมั่วแต่งตัวสวยๆแน่ๆ”

 

 

เหยียนเค่อเอ่ยเหน็บแนม “พูดอย่างกับว่าฉันไปอย่างนั้นแหล่ะ”

 

 

“นายไม่ไปแล้วนายจะไปไหน ถือโอกาสไปพักผ่อนด้วยเลย เดี๋ยวช่วงสิ้นปีก็ยุ่งอีกแล้ว”

 

 

ที่สวีอันหรานเร่งรีบจัดงานแต่ตอนนี้ก็เพราะกลัวว่าปลายปีทุกคนจะยุ่งจนไม่มีเวลามาร่วมงานแต่งของเขา อีกอย่างตอนนี้เขาก็เตรียมทุกอย่างพร้อมหมดแล้ว นี่ยังเลื่อนวันงานเข้ามาอีกตั้งสามวัน

 

 

เหยียนเค่อก็พูดไปอย่างนั้นเอง สวีอันหรานเป็นคนแรกในพวกเขาที่ได้แต่งงาน ยังไงก็ต้องไปอยู่แล้ว ขนาดเสิ่นจิ้งเฉินยังหาเวลามาได้ เขายิ่งไม่มีเหตุผลที่จะไม่ไป

 

 

“รู้แล้ว วันที่หกเดือนธันวา ฉันไปแน่นอน”

 

 

ในที่สุดก็ทำให้สวีอันหรานพอใจได้แล้ว เหยียนเค่อก็เริ่มสะสางงานที่กองพูนอยู่ต่อ ความจริงแล้วชายหนุ่มก็รอคอยที่จะเห็นซย่าเสี่ยวมั่วในชุดเพื่อนเจ้าสาวอยู่

 

เช่าท่านประธานมาปิ๊งรัก

เช่าท่านประธานมาปิ๊งรัก

ซย่าเสี่ยวมั่ว สาวโสดผู้หมดศรัทธาในความรักจำต้องหนีหัวซุกหัวซุนออกจากบ้าน เพียงเพราะทะเลาะกับผู้เป็นแม่เรื่องหา ‘ลูกเขย’! ด้วยอับจนหนทางที่จะกลับบ้าน เธอจึงต้องไปขออาศัยอยู่กับเพื่อนสนิทชั่วคราว ทว่าระหว่างนั่งรถประจำทาง เธอดันไปปะทะฝีปากกับชายหนุ่มรูปงาม และสร้างความอับอายให้เขาอย่างน่าคับแค้นใจ! ทั้งที่เธอไม่คิดจะเจอเขาอีกชั่วชีวิต ทว่าเหมือนโชคชะตากลั่นแกล้ง บันดาลให้เธอต้องมาพบกับเขาอีกครั้งในฐานะ ‘แฟนเช่า’ ครั้งนี้ เหยียนเค่อ จะให้เธอได้ชดใช้อย่างสาสม!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset