เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] – บทที่ 531 เพียงกระบวนท่าเดียวเท่านั้น!

ตอนที่ 531 เพียงกระบวนท่าเดียวเท่านั้น!

บรรดานักบวชในวิหารเทพกระบี่ถูกขับไล่ออกไปจากเมืองเรียบร้อยแล้ว สถานะผู้ที่ถูกเลือกของหลินเป่ยเฉินไม่มีประโยชน์อีกต่อไป เมื่อไม่สามารถดูดซับพลังจากผู้ศรัทธาได้อีก หลินเป่ยเฉินก็เป็นเพียงมดปลวกที่อ่อนแอ สามารถฆ่าตายได้ในกระบวนท่าเดียวด้วยซ้ำ

คิดมาถึงตรงนี้ ในหัวใจของแม่ทัพฉลามอู๋หยาก็เต็มไปด้วยจิตสังหาร

มวลอากาศรอบตัวปั่นป่วนราวเกิดพายุหมุน

พลังลมปราณระเบิดออกมาจากร่างของแม่ทัพฉลามผู้ยิ่งใหญ่ เหมือนคลื่นสึนามิแผ่กระจายไปรอบทิศทาง

ดวงตาของหลินเป่ยเฉินเป็นประกายแวววาว

เขายังตีสีหน้าเรียบเฉย

“ข้าขอแนะนำให้เจ้าระมัดระวังคำพูดมากกว่านี้”

หลินเป่ยเฉินจ้องมองไปที่แม่ทัพฉลามอู๋หยาพร้อมกับกล่าวต่อไป “บัดนี้อาจารย์ของข้ามีสถานะเป็นท่านเจ้าเมือง อีกทั้งยังเป็นราชาแห่งท้องทะเลของพวกเจ้า ส่วนข้าก็มีสถานะเป็นลูกศิษย์สุดที่รักผู้แสนหล่อเหลาที่สุดในปฐพีของท่านอาจารย์ เจ้าคิดดีแล้วหรือที่จะมีเรื่องกับข้า? ไม่ว่าเจ้าจะเชื่อหรือไม่ แต่อาจารย์ของข้าย่อมพร้อมที่จะฆ่าเจ้าได้ทุกเมื่อแน่นอน”

เกิดเสียงอุทานด้วยความฮือฮาดังขึ้นรอบบริเวณ

กลุ่มนายทหารชาวทะเลไม่คิดเลยว่ามนุษย์เด็กหนุ่มคนนี้จะไร้ยางอายถึงเพียงนี้

พวกเขาไม่เคยพบเจอมนุษย์คนไหนพูดจาน่าหมั่นไส้เท่ากับหลินเป่ยเฉินมาก่อน

“สำหรับพวกเราชาวทะเล มีแต่ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่ควรค่าต่อการได้รับความเคารพ”

แม่ทัพฉลามอู๋หยาระเบิดเสียงหัวเราะเหยียดหยามขึ้นอีกครั้ง “เจ้าคิดจะอาศัยบารมีขององค์ราชาหลบหนีการลงทัณฑ์หรืออย่างไร? หากเจ้าเก่งจริงก็มาต่อสู้กันอย่างเปิดเผยดีกว่า มิฉะนั้นแล้ว อย่าว่าแต่เจ้าจะมีคุณสมบัติเป็นลูกศิษย์ขององค์ราชาเลย ต่อให้คุณสมบัติของการเป็นลูกผู้ชายสักคนหนึ่ง เจ้าก็หามีไม่”

ขาดคำ แม่ทัพฉลามร่างใหญ่ก็กระโดดลงมาจากหลังม้าน้ำ

พลังลมปราณแผ่ออกมาจากร่างกายแน่นหนามากกว่าเดิม

แม่ทัพฉลามอู๋หยาก้าวเดินออกมาข้างหน้าอย่างแช่มช้า

แต่แล้วในจังหวะนั้น

“ท่านแม่ทัพขอรับ เหตุไฉนท่านถึงต้องลดตัวลงมาฆ่าเป็ดไก่สกปรกเช่นนี้ด้วย?”

นายทหารผู้เป็นฉลามหนุ่มอีกตัวหนึ่งพลันกระโดดออกมายืนขวางหน้า

มนุษย์ฉลามหนุ่มตัวนี้มีร่างกายสูงใหญ่กว่าเก้าเซี๊ยะ สวมใส่ชุดเกราะสีแดงดำลายทาง ตลอดทั้งร่างกายอุดมด้วยมัดกล้าม บัดนี้ มันกำลังคุกเข่าข้างหนึ่งอยู่เบื้องหน้าอู๋หยาและพูดออกมาด้วยเสียงดังกังวานทรงพลัง

“สุนัขข้างถนนเช่นนี้ไม่คู่ควรให้ท่านแม่ทัพลงมือหรอกขอรับ ในเมื่อมันกล้าดูถูกท่าน ก็เท่ากับดูถูกพวกเราเผ่าพันธุ์ฉลาม ได้โปรดอนุญาตให้ข้าน้อยเป็นผู้จัดการเด็กน้อยจอมโอหังคนนี้ด้วยเถิด ข้าน้อยรับปากว่าจะต้องตัดหัวของเขา นำเลือดมาล้างเท้าท่านแม่ทัพให้จงได้”

ฉลามหนุ่มคำรามด้วยความเกรี้ยวกราด

แม่ทัพฉลามอู๋หยาพยักหน้าและส่งสัญญาณให้ฉลามหนุ่มลุกขึ้นยืน

ใบหน้าของมันประดับรอยยิ้มพึงพอใจ

“ประเสริฐ ไต้เค่อ เจ้าเป็นนายทหารที่ข้าภูมิใจมาตลอด ระดับพลังของเจ้าไม่เป็นรองผู้ใดในกองทัพทหารของเราทั้งนั้น เอาล่ะ ข้ายินดีอนุญาตให้เจ้าได้แสดงความสามารถของตนเอง จงสั่งสอนให้มนุษย์ผู้โง่งมเหล่านี้ได้รู้เสียบ้างว่า ผู้แข็งแกร่งที่แท้จริงนั้นเป็นเช่นไร”

“ข้าน้อยรับคำบัญชา”

ฉลามหนุ่มที่มีนามว่าไต้เค่อยกมือข้างหนึ่งทุบหน้าอกตนเองเป็นสัญญาณรับคำสั่ง

หลังจากนั้น มันก็ลุกขึ้นยืน

ร่างกายที่สูงใหญ่มากกว่าเก้าเซี๊ยะระเบิดคลื่นพลังลมปราณออกมาเป็นสีดำแดง

ไต้เค่อเดินตรงเข้ามาหาหลินเป่ยเฉิน

“มนุษย์ผู้ต่ำต้อย เจ้าจะต้องชดใช้ให้แก่กิริยาสามหาวของตนเอง”

พร้อมกันนั้น มนุษย์ฉลามหนุ่มก็ชักกระบี่คู่ออกมาจากฝัก

มันคือกระบี่สีดำมีลักษณะเป็นฟันเลื่อยคู่หนึ่ง

เสียงกระบี่ทั้งสองเล่มเสียดสีกันดังแสบหู

“มนุษย์ผู้ต่ำต้อย ข้าจะให้โอกาสเจ้าได้ต่อสู้อย่างยุติธรรม จงนำอาวุธของเจ้าออกมา”

หลินเป่ยเฉินเลิกคิ้วขึ้นสูง พยายามทำสีหน้าเย้ยหยัน เป็นการสื่อความหมายว่าไต้เค่อไม่คู่ควรที่จะตายด้วยอาวุธของเขา

ทันใดนั้น ฉู่เหินขยับออกมาข้างหน้า ส่งเสียงกระซิบว่า “ไต้เค่อผู้นี้เป็นนักรบชื่อดังของพวกเผ่าพันธุ์ฉลาม มีสถานะเป็นนักรบศักดิ์สิทธิ์ของเทพเจ้าแห่งท้องทะเล ฆ่าคนตายมาแล้วนับไม่ถ้วน มีประสบการณ์ต่อสู้มากกว่าเจ้าไม่รู้เท่าไหร่ อย่าได้ประเมินคู่ต่อสู้ต่ำเกินไปเด็ดขาด”

อ้าว?

หัวใจของหลินเป่ยเฉินกระตุกวูบ

คู่ต่อสู้ของเขาเก่งกาจขนาดนี้เชียวหรือ

ทำไมไม่มีใครเตือนเขาสักหน่อยนะว่าฉลามพวกนี้น่ากลัวขนาดไหน

แต่เด็กหนุ่มก็ต้องแกล้งทำเป็นไม่รู้ร้อนรู้หนาวต่อไป

เพราะถ้าจะให้เปลี่ยนท่าทีเอาตอนนี้ คงน่าอายตายชัก

ถึงอย่างไร หลินเป่ยเฉินก็ยอมเสียหน้าไม่ได้เด็ดขาด

ศักดิ์ศรีมันค้ำคอเขาแล้ว

ดังนั้น หลินเป่ยเฉินจึงดาวน์โหลดกระบี่สายฟ้าออกมาจากแอปไป่ตู้ เน็ตดิสก์โดยไม่ลังเลอีกต่อไป

“เชิญเข้ามาได้”

เด็กหนุ่มพูดพร้อมกับกระชับกระบี่อยู่ในมือ

“มนุษย์ผู้ต่ำต้อย… เจ้าจงตายเสียเถิด”

ไต้เค่อพลิ้วกายวูบเป็นลำแสงสีดำในอากาศ

ความเร็วน่าเหลือเชื่อ

ไม่ต่างจากฉลามยามแหวกว่ายอยู่ในท้องทะเล

กระบี่คู่ในมือตวัดกวัดแกว่ง

คมกระบี่สีดำตัดอากาศราวกับจะแยกโลกออกเป็นสองส่วน

เพียงกระบวนท่าเดียว ก็ดีพอที่จะเป็นกระบวนท่าสังหารได้แล้ว

แน่นอนว่าไต้เค่อเป็นนักรบศักดิ์สิทธิ์ของเทพเจ้าแห่งท้องทะเล มีประสบการณ์ต่อสู้มากมาย มนุษย์บนแผ่นดินใหญ่เหล่านี้จึงไม่เคยอยู่ในสายตาของมันเลย เพราะฉะนั้น ไต้เค่อจึงตั้งใจสังหารหลินเป่ยเฉินให้ตายในกระบวนท่าเดียว

หลินเป่ยเฉินกระชับด้ามจับกระบี่และสะบัดมือขึ้นด้วยลักษณะผ่อนคลาย

นี่คือกระบวนท่าที่ 1 จากวิชากระบี่ 17 คาบสมุทร

คมกระบี่สีม่วงสาดประกายเจิดจ้า

พลังงานกระบี่ที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าพุ่งออกไปข้างหน้า

วูบ!

ได้ยินเสียงเหมือนมวลอากาศกำลังฉีกขาดออกจากกัน

ร่างกายของเด็กหนุ่มและมนุษย์ฉลามซึ่งฝ่ายหนึ่งมีขนาดตัวเล็กจ้อยและอีกฝ่ายมีขนาดตัวใหญ่ยักษ์พุ่งผ่านกันไปด้วยความเร็วไว

แล้วการเคลื่อนไหวทุกอย่างก็หยุดลง

หลินเป่ยเฉินกับไต้เค่อยืนหันหลังให้กัน อยู่ห่างจากกันประมาณ 20 วา

 ยังไม่มีผู้ใดรู้ว่าฝ่ายใดจะเป็นผู้ชนะ

คำตอบกำลังจะปรากฏขึ้นในอีกไม่กี่อึดใจข้างหน้า

เคล้ง!

นั่นคือเสียงของกระบี่คู่ที่ร่วงตกลงไปบนพื้น

“ประเสริฐ…”

ร่างกายที่สูงใหญ่ของไต้เค่อถึงกับยืนโงนเงนไปมา

“เป็นกระบวนท่าที่ประเสริฐ… ไม่ทราบว่า… กระบวนท่าที่เจ้าใช้ออกมานี้มีชื่อเรียกว่าอะไร?”

มนุษย์ฉลามหนุ่มหมุนตัวกลับมามองหน้าหลินเป่ยเฉินอย่างยากลำบาก

หลินเป่ยเฉินก็หมุนตัวกลับมาเช่นกัน แต่สายตาของเขากำลังจับจ้องอยู่ที่กระบี่สายฟ้าในมือตนเองด้วยความปลื้มปีติ

ช่างเป็นกระบี่ที่ดีงามอะไรเช่นนี้

มีน้ำหนักเบาและคมกริบเหลือเกิน

กระบี่สายฟ้าช่วยทำให้กระบวนท่าที่ 1 จากวิชากระบี่ 17 คาบสมุทรมีอานุภาพการโจมตีรุนแรงมากขึ้น

“เจ้าไม่สมควรที่จะได้รับรู้ชื่อของมัน”

หลินเป่ยเฉินถือกระบี่อยู่ในมือ และให้คำตอบสุดคลาสสิกประจำตัวโดยไม่ต้องเสียเวลาคิด “ผู้ที่ไม่สามารถมองเห็นกระบี่ของข้าได้ ไม่สมควรได้รู้ชื่อเรียกกระบวนท่าของมัน”

“เจ้า…”

ไต้เค่อใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความโกรธแค้น แต่หลังจากนั้นไม่กี่ลมหายใจ โลหิตก็พุ่งกระฉูดออกมาจากหัวไหล่ซ้ายและตรงหน้าอกที่เป็นหัวใจของมัน

แล้วร่างที่ใหญ่ยักษ์ก็ล้มตึงลงไปบนพื้นหิน

โลหิตไหลทะลักออกมาเป็นกองใหญ่

บรรยากาศตกอยู่ในความเงียบ

รอยยิ้มอวดดีหายวับไปจากใบหน้าของแม่ทัพฉลามอู๋หยาแล้ว

ไม่มีใครคิดเลยว่านักรบศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าพันธุ์ฉลามผู้มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกบาดาล กลับต้องมาตายภายใต้คมกระบี่ของเด็กหนุ่มบนแผ่นดินใหญ่คนหนึ่ง มิหนำซ้ำ ยังเป็นการตายแบบไม่รู้ตัว และเป็นการตายเพราะถูกโจมตีด้วยกระบวนท่าเดียวเท่านั้น

นี่คือกระบวนท่าอันใดกัน?

มีความน่ากลัวมากเกินไปแล้ว

“เจ้ามนุษย์บัดซบ…”

“วันนี้เจ้าตายแน่”

“พวกเราต้องแก้แค้นให้แก่ท่านขุนพลไต้เค่อให้ได้”

“เจ้าต้องตายซะ ตายซะ ตายซะ”

บรรดานายทหารเผ่าพันธุ์ทะเลเมื่อสลัดหลุดออกจากความตกตะลึง พวกมันก็ระเบิดเสียงคำรามออกมาทันที

แม้แต่ม้าน้ำยักษ์ทั้ง 20 ตัวนั้นก็ยังส่งเสียงร้องออกมาด้วยเช่นกัน

 สำหรับกับชาวทะเลแล้ว นักรบที่ถูกฆ่ากลางศาลไต่สวนคดี ถือเป็นการหยามเกียรติกันอย่างที่สุด

“แค่นี้ก็ทนกันไม่ได้แล้วหรือ?”

บัดนี้ หลินเป่ยเฉินก็พูดออกไปด้วยความไม่พอใจเช่นกัน “พวกเจ้าส่งตัวแทนออกมาสู้กับข้าทีละตัวดีไหมล่ะ?”

แม่ทัพฉลามอู๋หยามีดวงตาเป็นประกายแวววาวด้วยความดุร้าย

หลินเป่ยเฉินเหยียดยิ้มเย้ยหยัน “นี่น่ะหรือนักรบศักดิ์สิทธิ์ของเทพเจ้าแห่งท้องทะเล ตายง่ายดายยิ่งกว่าสุนัขข้างถนนเสียอีก อุ๊วะฮ่าฮ่าฮ่า อิอิ”

“สามหาว”

“หุบปากเดี๋ยวนี้”

“เจ้ากล้าดีอย่างไรมาดูถูกเทพเจ้าแห่งท้องทะเลของพวกเรา?”

เหล่านักรบชาวทะเลที่อยู่โดยรอบบริเวณระเบิดเสียงคำรามออกมาด้วยความโกรธแค้น

แม่ทัพฉลามอู๋หยาพลันยกมือขึ้น

เสียงคำรามเหล่านั้นเงียบลงทันที

นี่แสดงให้เห็นว่าแม่ทัพฉลามอู๋หยามีสถานะในกองทัพสูงส่งเป็นอย่างยิ่ง

ดูเหมือนว่านายทหารเหล่านี้จะเชื่อฟังแม่ทัพฉลามมากกว่าเชื่อฟังเฒ่าทะเลเสียด้วยซ้ำ

เซียนกระบี่มาแล้ว

เซียนกระบี่มาแล้ว

เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此]
Status: Ongoing
หืมมม วิชานี้น่าสนใจดี แชะ ! ติ๊งง คุณได้รับแอพพลิเคชั่นวิชากระบี่ทะลวงจันทร์ ต้องการติดตั้งหรือไม่ ! ด้วยสมาร์ทโฟนในมือของเจ้าแกะดำหลิวเป่ยเฉิน ทำให้เขาสามารถผงาดบนโลกจอมยุทธ์นี้ได้อย่างง่ายดาย…. แต่ข้าไม่เอาหรอก ใครมันจะอยากอยู่โลกแบบนี้กัน YouTube ก็ไม่มี Facebook ก็เข้าไม่ได้ ข้าขอกลับโลกเดิมไปนั่งเล่นเกมในห้องแอร์เย็น ๆ ดีกว่าโว้ยยย !!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset