เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ – ตอนที่ 188 – ตอนที่ 179 สาวงามเมื่อตอนนั้น P1

===============
น้ำแข็งและหิมะภายในถ้ำ เริ่มละลายช้าๆ

ยักษ์สิงเหมิ่งคำรามลั่นทันทีและน้ำแข็งบนตัวของเขาระเบิดกระเด็นออกไป เพราะตัวยังแข็งอยู่เขาล้มลงบนพื้นและสามารถฟื้นตัวได้หลังจากผ่านไปเป็นเวลานาน เมื่อเขายืนขึ้นได้ ก็พบว่าทั้งเย่ว์หยางและเจ้าเมืองโล่วฮัวนอนไม่ได้สติอยู่บนพื้นภายในถ้ำ เขาตะโกนอย่างภูมิใจว่า ในที่สุดก็ทำสำเร็จได้โดยข้าสิงเหมิ่ง! ฮ่าฮ่า! กู่จุยและเสียนกงตายไปแล้วในการต่อสู้ และติ่งซ่างเป็นแค่ไอ้อ่อนแอ ขี้ขลาด พวกมันไม่เหมาะที่จะได้แบ่งปันผลแห่งชัยชนะกับข้า!”

เขากระโจนไปอยู่ข้างหน้าเย่ว์หยางและยกหมัดเขี้ยวสุนัขป่าเตรียมต่อยลงเพื่อสังหารเขา

ทันใดนั้น เขารู้สึกว่าดูเหมือนมีใครบางคนอยู่ข้างหลังเขา เขาอดแปลกใจไม่ได้

พอหันหัวกลับไป เขาก็เห็นปีศาจอสรพิษตัวน้อยที่่น่ารักกระพริบตากลมโตขณะมองมาที่เขา เธอดูน่ารักมากก็จริง แต่พลังของเธอคุกคามจนสิงเหมิ่งกลัวจนตัวแข็ง

ปีศาจอสรพิษน้อยที่น่ารักกำลังถือดาบน้ำแข็งคู่เล็กอยู่ในมือของเธอ

ด้วยการฟันวาบเดียว สิงเหมิ่งตระหนักได้ว่าขาขวาของเขาถูกตัดออกไปอย่างเงียบๆ และแผลก็ถูกแช่แข็งไปในเสี้ยววินาที

“อ๊าคคค!” สิงเหมิ่งตกใจ ร่างของเขาไม่อาจบอกได้ว่าอ่อนแอที่สุดแน่นอน อย่างนั้นการฟันครั้งเดียวจะตัดขาของเขาขาดได้อย่างไร? นี่มันเป็นไปได้อย่างไร? แม้แต่ขวานยักษ์ภูผาก็ยังไม่ระคายผิวของเขา เดี๋ยวก่อน นั่นต้องเป็นอาวุธทหารเทพเจ้า!

สิงเหมิ่งหวาดกลัวหนักถึงกับเผ่นหนีเอาชีวิตรอด โดยไม่หันกลับมามอง

เขาใช้ขาข้างเดียวกระโดดหนีไม่คิดชีวิต เขาดึงตัวเองขึ้นด้วยแขนขณะปีนขึ้นบนโขดหิน เพื่อหนีไปจากทางเข้าถ้ำสายสวรรค์ให้ได้ เขากลัวมากว่าปีศาจอสรพิษน้อยจะไล่ตามเขามา

อย่างไรก็ตาม ปีศาจอสรพิษน้อยไม่ได้ไล่ตามเขา เธอแค่เอาคันธนูสีทองเข้มใหญ่กว่าตัวของเธอออกมา นิ้วมือเธอขยับเต้น ขณะที่เธอเหนี่ยวมันออก

ประกายสายฟ้าจำนวนมากมารวมกันจนก่อเป็นรูปบอลระเบิดสายฟ้า เสียงหวีดหวิวไล่ตามหลังของสิงเหมิ่ง

เหมือนกับว่าสายฟ้าผ่า สิงเหมิ่งถูกระเบิดกระเด็นอยู่กลางอากาศ ขณะที่บนหลังเกิดแผลฉีกขาด ตัวของเขาไหม้ดำจนเกรียมไปหมด

เขางงงวยร่วงลงจากกลางอากาศ กลิ้งไปชนหน้าผากระแทกทั้งกองหิมะและก้อนหินแตกไปตลอดทาง เมื่อเขารู้สึกตัวก็ร่วงไปที่ทะเลสาบเทียมเมฆใต้หุบเขาแล้ว เขากลัวมากจนต้องพยายามจับผนังหินเพื่อลดแรงกระแทก…

หลังจากพยายามอย่างสุดสามารถ สิงเหมิ่งก็หยุดยั้งไม่ให้ตัวตกหน้าผา เขาคลานออกมาจากขอบหน้าผา

พอเห็นเงาสะท้อนของตนจากน้ำในทะเลสาบ เขาตระหนักได้ว่า เขากลายเป็นหมูย่างไปแล้ว ผิวของเขาไหม้เกรียมจนดำเป็นถ่าน

“แค้นครั้งนี้ข้าจะต้องชำระให้ได้!” สิงเหมิ่งโกรธมาก เขาต้องการล้างแค้นทันทีหลังจากฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ และทีนี้เขาจะสู้เสี่ยงตายกับศัตรู ถ้าเขาไม่สามารถล้มศัตรูได้ซึ่งหน้า เขาจะต้องขอความช่วยเหลือจากครอบครัวและสหายของเขา ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เขาจะต้องลงมือโดยเร็วที่สุดที่เขามีโอกาสที่จะทำเช่นนั้น ยิ่งไปกว่านั้น มีคนบางคนที่คอยให้ข้อมูลแก่เขา ดังนั้นเขาไม่กลัวว่าเขาจะไม่มีโอกาสเช่นนี้ หลังจากกลายเป็นคนตาเดียวและขาเดียวอย่างนี้สิงเหมิ่งก็ยิ่งแค้น

“โฮ่ง!” เสียงเห่าแปลกๆ ดังขึ้นมาจากด้านหลังของเขา

“ไอ้หมาเวร!” สิงเหมิ่งตระหนักว่ามีหมาป่าปีศาจตัวหนึ่งซึ่งมีรอยบาดเจ็บอยู่ทั่วตัว บางทีมันคงได้กลิ่นเลือดบนร่างกายของเขา ดังนั้นจึงมีแววกระหายเลือดอยู่ในดวงตาของมัน สิงเหมิ่งโกรธ แม้แต่หมาป่าปีศาจ อสูรทองแดงระดับ 3 ก็ยังกล้าเล็งเขาเป็นเป้าหมายหรือ? ถ้าไม่ใช่เพราะบาดแผลที่เจ็บปวดของเขา ทำให้เขาลังเลที่จะเคลื่อนไหวแม้เล็กน้อย เขาคงใช้มือเดียวบดขยี้มันให้ตายไปแล้ว

“เมี้ยวววว…” เจ้าหมาป่าปีศาจที่มีบาดแผลมากมายเปลี่ยนเสียงของมันจนเหมือนแมวทันที ขณะเดียวกันก็เข้ามาใกล้อีกสองก้าว

“ก็ดีเหมือนกัน กินเนื้อสุนัขเพื่อเสริมสร้างฟื้นฟูสภาพของเรา” สิงเหมิ่งหัวเราะอย่างเย็นชา ขณะที่เขายืนขึ้น เตรียมใช้หมัดเดียวเพื่อจบชีวิตหมาป่าปีศาจประหลาดที่บาดเจ็บตัวนี้

“อะฮู้ววว!”

ทันใดนั้น อักขระอัญเชิญสีทองเข้มปรากฏอยู่ที่หน้าผากของหมาป่าปีศาจ อักขระประหลาดฉายแววอยู่ในดวงตาของมัน

ร่างของมันเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วและเริ่มขยายขนาดโตขึ้น

เปลวเพลิงสีดำเริ่มลุกโหมไหม้ ตามมาด้วยการปรากฏของลำแสงลักษณะสีทองเข้มปรับเปลี่ยนเป็นรูปลักษณ์ของหมาป่ายักษ์สีทองอีกมาก จากนั้นร่างหมาป่ายักษ์สีทองก็กระจายเข้าไปในร่างของหมาป่าปีศาจ มีเสียงหอนดังแสบแก้วหูและเพลิงสีดำของหมาป่าปีศาจก็ระเบิดเป็นพายุไฟโหมท่วมตัว แม้แต่ยักษ์สิงเหมิ่งที่ยืนอยู่ด้วยขาข้างเดียว ก็ยังทำอะไรไม่ถูก ได้แต่กระโดดถอยกลับไป

ควันดำลอยเป็นเกลียวกระจายไปในอากาศ เพลิงสีดำของหมาป่าปีศาจกลายเป็นไฟนรกสีทองหมองๆ แล้วแปรสภาพเป็นลูกบอล ลุกไหม้อย่างต่อเนื่อง

สิ่งที่ปรากฏต่อหน้าของสิงเหมิ่งก็คือ หมาป่าปีศาจสามหัวที่ปล่อยไฟนรกสีทองเข้มอยู่รอบคอและสันหลังของมัน บรรดาหัวทั้งสามของมัน หัวกลางใหญ่ที่สุด อีกสองหัวจะเล็กกว่าเล็กน้อย หน้าผากของหมาป่าปีศาจทั้งสามหัวจะมีอักขระโบราณอัญเชิญติดอยู่ด้วย

รังสีที่มันเปล่งออกมาคล้ายกับการปรากฏตัวของจ้าวปีศาจ

“เจ้าหมาป่าตัวนี้ สามารถแปลงร่างได้หรือนี่? นี่มันเซอร์เบอรัส อสูรทองระดับ 5 ไม่ใช่หรือ? ไม่, เป็นไปไม่ได้ นี่น่าจะเป็นสัตว์อสูรดึกดำบรรพ์ หมาป่าปีศาจทำลายโลก แม้ว่าจะมีมากกว่าสองหัว มันต้องเป็นหมาป่าปีศาจดึกดำบรรพ์แน่” สิงเหมิ่งรู้สึกว่าศีรษะของเขาแทบระเบิด เขาควรจะหลบหนีหมาป่าปีศาจดึกดำบรรพ์ไปก่อนจะดีกว่า มันรู้วิธีปกปิดความแข็งแกร่งที่แท้จริงและสามารถแปลงร่างของมันได้ โชคดี มันยังมีระดับไม่สูงนัก มิฉะนั้น เขาคงกลายเป็นอาหารหมา

“โฮ่ง!”

“เมี้ยววว!”

“อะฮู้ววว!”

หัวทั้งสามของมันทำเสียงต่างกัน แต่นัยน์ตาดุร้ายทั้งหกข้างแสดงว่ากระหายเลือด และต้องการสิ่งเดียวคือ อาหาร

สิงเหมิ่งกระโดดถอยหลังไปสองครั้ง พยายามอย่างมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้เพื่อลดเสียง เขาค่อยๆ เอื้อมมือมาที่ท้องและล้วงเอาผลึกปีศาจลูกใหญ่ออกมา แล้วขว้างมันไปบนพื้นกล่าวว่า “น้องหมา! เจ้ากินผลึกปีศาจดีกว่านะ, เนื้อมนุษย์ไม่อร่อยหรอก ถ้าลูกเดียวไม่พอ งั้นข้าให้อีกลูกนึง!”

อย่างไรก็ตาม หมาป่าปีศาจที่น่ากลัวไม่ยอมมองผลึกปีศาจ มันใช้ตีนหมาป่าเตะผลึกปีศาจที่เป็นของหลอกล่อออกไปและกระโจนเข้าหาสิงเหมิ่งราวกับสายฟ้า

สิ่งเกิดตามมาเป็นเสียงร้องอย่างเจ็บปวดและทุกข์ทรมาน

ที่ถ้ำสายสวรรค์

เมื่อเย่ว์หยางฟื้นขึ้น เขาตระหนักว่าทั่วทั้งร่างที่เต็มไปด้วยบาดแผลของเขาได้รับการเยียวยาโดยที่เขาไม่รู้

ร่างของเขาเต็มไปด้วยพลังและมีพลังปราณเต็มเปี่ยม

พอลุกขึ้นนั่งเขาก็รู้ได้ว่า มีพลังความแข็งแกร่งที่ไม่สามารถควบคุมได้ชนิดนึ่งแล่นออกมาจากตัวเขาจนร่างเขากระเด้งลอยขึ้นไปในอากาศขณะที่เขาพยายามลุกนั่ง หลังจากพยายามอยู่มาก เขาก็เริ่มควบคุมมันได้บ้าง เขาจำได้ว่าเขาคลั่งเมื่อเห็นนางเซียนหงส์ฟ้าฆ่าหญิงสาวทั้งสามคน ทำไมเขายังไม่ตาย ยิ่งไปกว่านั้น เขากลับมีความก้าวหน้าแทนได้อย่างไร? เย่ว์หยางรู้ตัวว่าร่างกายเขาตอนนี้ครอบครองความแข็งแกร่งที่ทรงพลังที่ยากจะควบคุมได้ รู้สึกเหมือนกับว่าเขาสามารถเขย่าภูเขาได้ทั้งลูกด้วยพลังหมัด สร้างแม่น้ำได้ด้วยพลังเตะ พอลงมายืนบนพื้น เย่ว์หยางไม่สามารถควบคุมพลังที่เขาปล่อยลงที่เท้าทั้งสองได้กลับกระแทกจนตัวเขาจมลึกลงไปในหิน หินที่หนักและแข็งรู้สึกเหมือนกับว่าเป็นเต้าหู้ เย่ว์หยางเสียหลักจนเกือบล้มลง มือของเขาที่เขาวางมือบนผนังหินเพื่อประคองตนเอง เขาไม่ได้ใช้แรงแม้แต่น้อย แต่หินกลับเหมือนโดนทุบทิ้งรอยนิ้วมือเอาไว้

เย่ว์หยางมองดูหญิงงามลึกลับที่นอนอยู่บนพื้น แค่ต้องการวิ่งเข้าไปหาเพื่อช่วยนาง แต่เท้าทั้งสองกลับดีดร่างเขาพุ่งไปหาผนังหินราวกับกระสุนปืนใหญ่

มีเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ร่างเขาจมลึกเข้าไปภายในหิน

ความเร็วนี้มากกว่าเมื่อก่อนถึงสิบเท่า

เย่ว์หยางไม่สามารถควบคุมพลังที่ได้รับมาใหม่ได้ดีนัก ขณะเดียวกัน เขาถึงกับงงอย่างหนัก เขาแข็งแกร่งขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?

นี่คือการกระทำของเซียนหงส์ฟ้าหรือ?

“พวกนางปลอดภัยแล้ว ขึ้นมาสิ ข้ามีเรื่องจะคุยกับเจ้า” เสียงดังฟังชัดดังลงมาจากทางเข้าถ้ำสายสวรรค์ พอได้ยินเช่นนี้ เย่ว์หยางคิดว่าเสียงนี้เขาคุ้นเคยมาก แต่นึกไม่ออกว่าเคยได้ยินจากที่ไหนมาก่อน

ด้วยการกระโจนครั้งเดียวด้วยความเร็วสูง จึงไม่มีเวลาพอให้เย่ว์หยางได้เลี้ยว และเขากระแทกจมลงไปในหิน และทะลุไปออกอีกด้านหนึ่งเสียงดังสนั่น

เขาโดดออกมาจากหินที่แตกอย่างสง่างาม ตอนนี้เขาถึงได้ตระหนักว่า ที่ยืนอยู่ต่อหน้าเขาเป็นหญิงงามลึกลับอยู่ในชุดหนังมังกรรัดรูปสีขาวราวหิมะมองเห็นไหล่เล็กผิวละเอียดที่น่ารักของนาง แม้ว่าเขาจะเห็นเพียงด้านหลังของนาง แต่ความรู้สึกอัศจรรย์แว่บเข้ามาในใจเย่ว์หยาง เขาร้องเรียกออกมาอย่างเข้าใจทันที “เป็นท่านนั่นเอง!”

หญิงงามลึกลับผู้นี้ก็คือแม่นางผิวขาวทรงโตผู้ที่เขาพบนางที่ค่ายฉางอู่ก่อนเข้าหอทงเทียน นางเป็นคนออกบัตรแก้วผลึกให้เย่ว์หยาง ขณะเดียวกัน นางยังคงเป็นผู้แนะนำให้เย่ว์หยางเข้าหอทงเทียน นี่คือหญิงงามลึกลับมากที่เย่ว์หยางไม่สามารถหาข้อมูลอะไรพบได้เลย ไม่ว่าจะถามใครมากแค่ไหน แต่ไม่มีใครบอกรายละเอียดเรื่องนางแม้แต่น้อย

เหมือนกับว่าผู้ที่รู้จักนิสัยของนาง สีหน้าพวกเขาจะเปลี่ยนไปทันทีและพวกเขาจะรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนาเมื่อนางถูกพาดพิง

แม้แต่อาจารย์จิ้งจอกเฒ่าก็ได้แต่หัวเราะแหะแหะ และปิดปากเงียบสนิท

นางเป็นใครกันแน่?

แม้แต่จักรพรรดินีราตรีที่เป็นหนึ่งในองครักษ์พิทักษ์ฟ้าแห่งอาณาจักรเทียนหลัว ก็ยังพูดถึงนางด้วยความอิจฉา จากนี้ สามารถบอกได้เลยว่า แม่นางคนงามอกมหึมานี้แข็งแกร่งจริงๆ

“ข้ารู้ว่าเจ้าตามหาข้า และบางทีเจ้ามีคำถามต้องการจะถามข้าหลายอย่าง” หญิงงามลึกลับยังไม่หันหัวกลับมา แต่พูดอย่างอ่อนโยน “จะมีอีกหลายอย่างที่จะกลายเป็นภาระสำหรับเจ้า หากว่าเจ้ารู้ตอนนี้ นั่นคือเหตุผลที่ข้ายังไม่บอกอะไรแก่เจ้า แต่ถ้าเจ้าต้องการฟัง ข้าบอกเจ้าได้เสมอ แค่เพียงเจ้ารู้ เจ้าก็จะไม่มีความสุข ความโชคดีเหมือนที่เจ้าเป็นอยู่ขณะนี้”

*****

Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์

Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์

LLS, Triệu Hoán Vạn Tuế, Zhaohuan Wansui, 召唤万岁
Score 7.6
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2010 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ทวีปมังกรทะยานคือโลกแห่งการอัญเชิญ คุณจะกลายเป็นคนแข็งแกร่งได้ ถ้าเพียงแต่คุณเป็นผู้อัญเชิญ! ยิ่วหยางเด็กนักเรียนมัธยมปลายธรรมดาถูกส่งเข้ามาในโลกนี้อย่างฉับพลันทัน ด่วน เมื่อเขาฟื้นขึ้นกลับได้พบใบหน้าของหลายคนที่เต็มไปด้วยความห่วงใย และพบว่าเขาเป็นตัวตนของอีกคนหนึ่ง กลับกลายเป็นว่าเขาเป็นบุตรที่ไม่เอาไหนของตระกูลยิ่ว จนถึงกับโดดน้ำตายเพราะถูกปฏิเสธการหมั้น อีกทั้งไม่สามารถจะทำพันธสัญญากับคัมภีร์อัญเชิญได้ แต่ยิ่วหยางกลับประสบความสำเร็จทำสัญญากับคัมภีร์ ส่วนเรื่องราวจะเป็นเช่นไรต่อไป ขอเชิญติดตามดูครับ ความจริงในการแปลครั้งนี้มาจากแรงบันดาลใจที่ไม่ได้จะเป็นนักเขียนนักแปล หรอกครับ เกิดจากการอ่านมันฮัวการ์ตูนของจีนแล้วชอบ พยายามหาดูที่แปลเป็นอังกฤษ ก็แปลกันไปได้น้อยนิด แต่พอดูฉบับนิยายรู้สึกว่าเขาแปลไปได้เยอะ จึงลองเข้าอ่าน แต่เพราะความที่ภาษาไม่แข็งแรง จึงต้องดูไป เปิดดิคฯ ไปใช้โปรแกรมแปลช่วยบ้าง มีความรู้สึกว่าอ่านไม่ต่อเนื่อง จึงคิดว่าน่าจะแปลข้อมูลเก็บไว้ในเว็บๆ หนึ่งแล้วค่อยอ่านเป็นตอนๆ ให้ต่อเนื่องไปเลยดีกว่า แล้วก็นึกถึงที่นี่

Comment

Options

not work with dark mode
Reset