เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ – ตอนที่ 22 – อย่าหลงรักข้าเชียวนะ

===============
นางโจรตาวาวพึมพำว่า “ไร้สาระ” พลางปัดมือเย่ว์หยางออกไป นางลุกขึ้นยืนหันกายหมายจากไป

“ไร้สาระยังไง? เรื่องความรักโรแมนติคของบุรุษและสตรีเป็นสิ่งที่มีความหมายที่สุดในโลก” เย่ว์หยางรีบตามนางไปติดๆ ขณะเดียวกันก็หัวเราะกล่าวว่า “พี่ชาย! ไม่รู้สึกขายหน้าบ้างหรือ ถ้าเจ้าไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องบนเตียง ข้าสอนเจ้าได้นะ แม้ว่าข้าเองอาจถือได้ว่าไม่มีประสบการณ์ แต่เราค่อยๆ ค้นคว้าศึกษาร่วมกันก็ได้ ถ้าเจ้าไม่มีอะไรจะพูด งั้นพูดตรงๆ เลย … อ๊า…อย่าเพิ่งชักมีดสิ”

นางโจรตาใสโกรธจนควันแทบออกหู รี่เข้ามาหาอย่างเร็ว

พร้อมกับกระชับมีดในมือต่อหน้าเย่ว์หยาง

เย่ว์หยางจ้องมีดที่ยกจ่อที่คอเขา และยกมือขึ้นยอมจำนน

“ไสหัวไปซะ ข้าไม่ใช่คนอย่างเจ้า” นางโจรตางามพยายามข่มใจอย่างหนักที่จะไม่ฆ่าเจ้าเด็กแสบ นางกัดฟันกรอดๆ อย่างเย็นชา

“ไม่หรอกหรือ? เจ้าไม่ชอบสตรีหรือ?” เย่ว์หยางพูดอย่างมีอารมณ์ “เป็นไปได้ยังไง เจ้าเป็นโฮโมฯในตำนานหรือเปล่า?”

“โฮโมฯคืออะไร?” นางโจรตางามถามอย่างมึนงง

“ในโลกนี้ แบ่งคนออกเป็น 2 จำพวกคือ “ฝ่ายรุก” และ”ฝ่ายรับ” ฝ่ายรุกจะทำหน้าที่สืบพันธุ์ ซึ่งเป็นงานยากลำบาก ในทางตรงกันข้าม ฝ่ายรับแค่คอยช่วยส่งเสียงครางอย่างสุขใจ โฮ่ย…งานอย่างนี้ยอดเยี่ยม สะดวกสบาย ไอ้หยา! อย่าต่อยข้าสิ” เย่ว์หยางยังพูดไม่ทันจบคำ ก่อนที่จะโดนหมัดของนางชกเข้าที่หน้า

“ข้าขอเตือนเจ้าเดี๋ยวนี้เลยนะ ถ้าต่อไปเจ้าเจอข้าอีก จงรักษาระยะห่างไว้จะดีกว่า มิฉะนั้น ข้าจะฆ่าเจ้า” นางโจรตาวาวพูดอย่างไม่พอใจ อย่างไรก็ตาม เย่ว์หยางยอมรับว่าสหายผู้นี้ยามโกรธน่าสนใจมากทีเดียว

มีคนอย่างนี้ในโลกด้วย ไม่ว่าพวกเขาหัวเราะหรือโกรธ ก็ยังมีลักษณะท่าทางน่าสนใจ

ทุกคนคงช่วยไม่ได้ แต่ก็ชอบพวกเขา

ในทางตรงกันข้าม มีคนบางจำพวกที่ตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง ไม่ว่าพวกเขาจะสุขใจหรือโกรธ ลักษณะของพวกเขายังคงความน่ารังเกียจได้เสมอต้นเสมอปลาย คนที่ไม่มีทางเลือกอื่น ได้แต่แสดงความรังเกียจด้วยสายตา ถ้ามีคนที่เห็นลักษณะเขานานเกินไป พวกเขาคงอยากจะเอาหัวตัวเองโขกกำแพงตายก็เป็นได้

เย่ว์หยางรู้สึกว่านางโจรตาใสเป็นคนหัวโบราณและเป็นคนที่มีแต่คนจะชอบมากยิ่งขึ้น เมื่อเขาเห็นนางโกรธ เขาไม่กลัวนางแต่ยิ้มร่าให้นางแทนและพูดว่า “ไม่ต้องห่วง ข้าจะไปซ่อนให้ไกลเลย มิฉะนั้น ข้าเกรงว่าบุรุษน่ารักอย่างเจ้าจะหลงรักข้า”

เดิมทีนางโจรตางามอยากเตะเย่ว์หยางให้กระเด็นแล้วค่อยจากไป แต่หลังจากได้ยินคำพูดของเขา จู่ๆ นางเริ่มตั้งคำถามถึงสภาพจิตเจ้าเด็กเหลือขอผู้นี้

“เจ้าพูดว่าไงนะ? ข้าน่ะหรือ จะหลงรักเจ้า?” นางโจรย้อนถาม ขณะที่นางไม่ค่อยเชื่อหูตนเอง

“แน่นอน บุรุษที่โดดเด่นและหล่อเหลาอย่างข้า ย่อมเป็นที่ต้อนรับของบุรุษสวยสตรีงามอยู่แล้ว ข้าไม่สนบุรุษสวยหรอกนะ ดังนั้นโปรดอย่าตกหลุมรักข้าเชียวนา” เย่ว์หยางเชิดหน้าใส่ ยกหางตัวเองอย่างพึงพอใจ

“…..” นางโจรแทบจะล้มลงกับพื้นเพราะได้ยินอย่างนั้น

นางเคยพบคนหลงตัวเองมาก่อน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่พบคนที่เป็นเอามากถึงขนาดนี้

แม้แต่กำแพงเมืองไป๋ฉือก็คงกลายเป็นกระดาษไปเลยเมื่อเทียบกับหนังหนาของเขา นางรู้สึกว่า ถ้าเอาคนหลงตัวเองทั้งโลกมารวมกันเป็นคนเดียวกันแล้วเอามาเทียบกับเจ้าเด็กแสบนี่ นิสัยโอ้อวดของคนเหล่านั้นก็ยังไม่ถึงหนึ่งในสิบของเจ้าเด็กบ้าผู้นี้

นางโจรตางามแอบดีใจที่ตนเองไม่ใช่คนนิสัยโอ้อวด มิฉะนั้นนางคงรู้สึกมีปมด้อยกว่าเจ้าเด็กบ้าที่ยืนอยู่ต่อหน้านางจนเผลอใช้มีดฆ่าตัวเองตาย

พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่า มีความผิดปกติอยู่ในโลกนี้มากแค่ไหน

จริงสินะ นอกจากความผิดปกติทางจิต ไม่มีทางอื่นที่จะอธิบายอาการหลงตัวเองมากเกินไปของสหายจิตใจลามกผู้ยืนฉีกยิ้มอยู่เต็มหน้าอยู่ต่อหน้านาง

“ต่อให้บุรุษสวยหลายคนมาสารภาพรักต่อหน้าข้า ใจของข้ามีแต่เก็บไว้ให้สาวงามชั่วนิรันดร์”

“ไม่ต้องห่วง ข้าไม่ชอบคางคกที่โดดเด่นอย่างเจ้าแน่ โดยเฉพาะไม่ชอบตลอดไปแน่นอน” นางโจรยิ้มเยาะเย่ว์หยางและเปรียบเทียบเขาเป็นคางคกอยากกินเนื้อหงส์ เพื่อปรามจินตนาการเพ้อฝันของเขา

“งั้นข้าก็เบาใจนะ,พี่ชาย ข้ามักกังวลถึงปัญหานี้เสมอ ตอนนี้ก็ดีแล้ว กลับกลายเป็นว่าเจ้าไม่ชอบบุรุษ ก็เหมือนข้า ข้าชอบสตรีสวย หือ? ตอนนี้ ข้าโล่งใจได้ในที่สุด จากแรงกดดันแล้ว ตั้งแต่ข้าได้รู้ว่าเจ้าชอบสตรี ไม่ใช่บุรุษ งั้นทุกอย่างก็ดีแล้ว ดีจริงๆ เรามีภาษาทั่วไป มีรสนิยมทั่วไปอยู่แล้ว มา มา มา ไปผจญภัยด้วยกันเถอะ ข้าน่ะ มีความรู้เรื่องสตรี มากเลยนะ จนแทบอยากเขียนหนังคลี่คลายความลึกลับของสาวๆ เพื่อไว้แนะนำหนุ่มสาวในโลกนี้ ข้าก็แค่ยังขาดสหายอยู” เย่ว์หยางตบหน้าอกแล้วโอ้อวดว่าตัวเขากังวลขนาดไหน จากนั้นเขาวางมือทั้งคู่ลงบนไหล่ของนางโจร ราวกับว่าได้พบสหายร่วมการศึกของเขา

“ข้าว่า คนมีความรู้และความสามารถที่หลากหลายอย่างเจ้าก็สามารถเขียนหนังสือความลึกลับของสตรีของเจ้าเองได้ ข้ามีหลายอย่างที่ต้องทำ ดังนั้นคงไม่ตามเจ้าไปหรอก” นางโจรยิ้มอย่างเยือกเย็น มีความรังเกียจสหายผู้อวดรู้และความสามารถของตน พอคิดว่าเจ้าเด็กนี่ไม่มีอะไร นอกจากเรื่องลามกอยู่เต็มหัว

“ดูเหมือนว่าเจ้าจะสงสัยอัจฉริยภาพของข้านะ พี่ชาย เจ้าเข้าใจผิดเสียแล้ว ถ้าเจ้าเข้าใจความรู้ที่ข้ามีสัก 1% ข้าเชื่อว่าเจ้าจะต้องหลงรักแน่ เมื่อก่อนข้ากังวลว่าเจ้าจะเป็นชายรักชายเสียอีก และเพื่อรักษาสัมพันธ์ความเป็นเพื่อนของเรา ปกติข้าจะไม่เผยความในใจข้า ตอนนี้เจ้าเข้าใจหรือยัง? พี่ชาย! เจ้าคิดว่าข้าเป็นคนธรรมดาจริงๆ หรือ? ไม่เลย ข้าเป็นอัจฉริยะ” คำพูดของเย่ว์หยาง เป็นแค่เอาคำว่าอัจฉริยะมาแปะที่หน้าผากเขาเองเท่านั้น

“เจ้าน่ะหรือ อัจฉริยะ? ไม่มีทางหรอกมั้ง?”

นางโจรตางามไม่เคยเห็นคนหลงตัวเองในชีวิตของนางมาก่อน คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะกล้าเรียกตัวเองว่าอัจฉริยะ

ถ้าอัจฉริยะทุกคนเหมือนอย่างเขา อย่างนั้น เผ่าพันธุ์มนุษย์คงไม่เหลืออยู่แล้ว

“เนื่องจากเจ้ายืนยันว่า จะไม่คลั่งไคล้ข้าแน่ๆ อย่างนั้นข้าจะแสดงวิธีของข้า ข้าไม่มีทางเลือก แต่ยอมให้เจ้าได้รู้จักความน่าเกรงขามของข้า ข้าจะบอกเจ้าก็ได้ คนธรรมดาเทียบกับข้าไม่ได้ แม้แต่กวีอมตะหลี่ไป๋ ก็ยังขโมยแนวคิดข้า และอย่างบทกวีของตู้ฝู่ ไม่เช่น พวกเขาจะให้ความสนใจพูดว่า งานวรรณกรรมของหลี่ไป๋กับตู้ฝู่มีความชัดเจน กว้างไกลได้อย่างไร? สิ่งที่เจ้าไม่รู้ก็คือว่าเป็นเพราะข้า พวกเขาจึงมีวันนี้ ตอนนี้เจ้าเข้าใจหรือยัง?” เย่ว์หยางกล่าวจริงจัง สีหน้าบ่งบอกถึงความเอาจริงจังเต็มที่ นางโจรจ้องเขาอยู่ชั่วขณะ เจ้าเด็กนี่แต่งบทกวีได้หรือ?

“กวีอมตะ หลี่ไป๋หรือ? ใครกันเหรอ?” นางไม่เคยได้ยินชื่อเทพกวีหลี่ไป๋

“เด็กน้อย เจ้าต้องเรียนและพัฒนาตัวเองทุกวัน ไม่รู้แม้กระทั่งกวีอมตะหลี่ไป๋ ไม่ นี่มันไม่ใช่อย่างนี้” เย่ว์หยางตบไหล่นางโจร พูดเหมือนว่าเขาแก่ ฉลาด มีประสบการณ์ ทำเป็นใส่อารมณ์ประมาณว่าเจ้าจะเสียใจภายหลังถ้าเจ้าเกียจคร้านตอนนี้

“แล้วกวีอมตะหลี่ไป๋ผู้นี้มีดียังไง? ทำไมข้าจำเป็นต้องรู้จักเขาด้วย? นางโจรทำท่าเหยียดหยาม แต่คำพูดนางดูเหมือนจะขาดความมั่นใจอยู่บ้าง

“เป็นไปได้ว่า เจ้าไม่เคยได้ยินบทกวี “คำนึงในราตรีสงัด” ที่เขาลอกงานข้าไปหรือ? นั่นเป็นงานอมตะ เจ้าไม่เคยได้ยินมันได้ยังไง? เย่ว์หยางมองเหมือนกับว่าเห็นคนประหลาดที่อ่านหนังสือไม่ออก

“คำนึงในราตรีสงัดหรือ? ไม่เคยได้ยินเลย เป็นบทกวีชนิดไหน?” นางพยายามนึกอย่างหนัก แต่ไม่เคยจำได้เลยว่าเคยว่ามีบทกวีชนิดนี้

************************

Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์

Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์

LLS, Triệu Hoán Vạn Tuế, Zhaohuan Wansui, 召唤万岁
Score 7.6
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2010 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ทวีปมังกรทะยานคือโลกแห่งการอัญเชิญ คุณจะกลายเป็นคนแข็งแกร่งได้ ถ้าเพียงแต่คุณเป็นผู้อัญเชิญ! ยิ่วหยางเด็กนักเรียนมัธยมปลายธรรมดาถูกส่งเข้ามาในโลกนี้อย่างฉับพลันทัน ด่วน เมื่อเขาฟื้นขึ้นกลับได้พบใบหน้าของหลายคนที่เต็มไปด้วยความห่วงใย และพบว่าเขาเป็นตัวตนของอีกคนหนึ่ง กลับกลายเป็นว่าเขาเป็นบุตรที่ไม่เอาไหนของตระกูลยิ่ว จนถึงกับโดดน้ำตายเพราะถูกปฏิเสธการหมั้น อีกทั้งไม่สามารถจะทำพันธสัญญากับคัมภีร์อัญเชิญได้ แต่ยิ่วหยางกลับประสบความสำเร็จทำสัญญากับคัมภีร์ ส่วนเรื่องราวจะเป็นเช่นไรต่อไป ขอเชิญติดตามดูครับ ความจริงในการแปลครั้งนี้มาจากแรงบันดาลใจที่ไม่ได้จะเป็นนักเขียนนักแปล หรอกครับ เกิดจากการอ่านมันฮัวการ์ตูนของจีนแล้วชอบ พยายามหาดูที่แปลเป็นอังกฤษ ก็แปลกันไปได้น้อยนิด แต่พอดูฉบับนิยายรู้สึกว่าเขาแปลไปได้เยอะ จึงลองเข้าอ่าน แต่เพราะความที่ภาษาไม่แข็งแรง จึงต้องดูไป เปิดดิคฯ ไปใช้โปรแกรมแปลช่วยบ้าง มีความรู้สึกว่าอ่านไม่ต่อเนื่อง จึงคิดว่าน่าจะแปลข้อมูลเก็บไว้ในเว็บๆ หนึ่งแล้วค่อยอ่านเป็นตอนๆ ให้ต่อเนื่องไปเลยดีกว่า แล้วก็นึกถึงที่นี่

Comment

Options

not work with dark mode
Reset