เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ – ตอนที่ 224 – ตอนที่ 205 ย่ำลูกเจี๊ยบ, ระเบิดไข่, ปิ้งไส้กรอก P2

===============
ถ้าเป็นที่ชุมชน บางทีเขาก็แค่ใช้กำลังอย่างยับยั้งชั่งใจ

แต่ว่าสถานที่แห่งนี้เป็นที่เปลี่ยวและเงียบที่สุดในสถาบันฉางจิง เป็นสถานที่พักสำหรับครูชราที่เกษียณอายุแล้ว

ทางเดินที่เปลี่ยวนี้ ไม่มีแม้แต่นักเรียนเดินผ่านมาในตอนกลางวัน เซี่ยเชียนชิวคิดว่า ถ้าเขาไม่ถือโอกาสฮุบสาวงามทั้งสามคน ถือว่าไม่ให้ความเป็นธรรมต่อตัวเขาเอง

เขาคงจะไม่ได้พบหญิงงามระดับสูงแบบนี้ได้ทุกวันอีก

เซี่ยเชียนชิวเริ่มถอดกางเกง พอเห็นแบบนี้ สตรีทั้งสามหันไปทางอื่นทันที และถ่มน้ำลายด้วยความขยะแขยง

พวกนางเคยเห็นผู้ชายลามกมาก่อน แต่พวกนางไม่เคยเห็นคนลามกแบบนี้

องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนทุบไหล่ของเย่ว์หยางแล้วตะโกนว่า “เจ้าทึ่ม! ทำไมเจ้าเอาแต่จ้องดูเหมือนคนโง่เล่า? รีบจัดการเขาสิ!”

พอได้ยินเช่นนี้ ผู้หญิงหุ่นยั่วยวนถึงกับโกรธทันที นางเรียกอสูรสายเสริมพลัง เสือดาวชั้นสามัญระดับ 3 และผสานร่างกับมันกลายเป็นสาวเสือดาวลำตัวมีลายจุดและมีกรงเล็บแหลมคม

นางกระโจนเข้าจู่โจมข้างหน้า

นางตะกุยกรงเล็บอย่างดุร้ายใส่ใบหน้าที่งดงามขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน ขณะที่ตวาดด้วยความโกรธ “นังแม่มด, รู้สึกคันปากนักใช่ไหม? ข้าจะช่วยเกาให้!” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนต่อยใส่นางทำให้นางกระเด็นไปไกล แต่ทันใดนั้น เปลวเพลิงสีม่วงลุกพรึ่บขึ้น ขณะที่ดาบที่ส่องแสงสว่างฟันกวาดใส่หญิงเสือดาว เย่ว์หยางเคลื่อนตัวเร็วกว่าหนึ่งก้าวและใช้ดาบตัดกรงเล็บของสาวเสือดาว

สาวเสือดาวร่วงลงพื้นอย่างแรง ร่ำไห้อย่างน่าสังเวชและกลิ้งไปมาบนพื้นด้วยความเจ็บปวด

สีหน้าของเย่ว์หยางไม่เปลี่ยนขณะย่ำลงบนหน้าอกของสาวเสือดาว องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน, เย่ว์หวี่และเย่ว์ปิงได้ยินเสียงซี่โครงหักทันที

หญิงหุ่นยั่วยวนร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด ขอร้องให้เขาหยุด

เลือดของนางกระเซ็นออกทางปาก

จากนั้นเย่ว์หยางเตะขากรรไกรหญิงสาวทำให้ทั้งเลือดและฟันของนางกระเด็นออกมากระจายอยู่บนพื้น

นักรบหัววัวควงขวานของมันพุ่งเข้าโจมตีและฟันใส่เย่ว์หยางทันที อย่างไรก็ตาม ก่อนที่มันจะทันได้ยกขวาน ศีรษะของมันก็ถูกเย่ว์หยางฟันจนกระเด็นขึ้นไปในอากาศ เย่ว์หยางหมุนตัวมาขณะที่นักรบหัววัวที่ไร้หัวล้มลงบนพื้นอย่างแรง

เย่ว์หยางทำเป็นเหมือนว่าเขาไม่ได้ทำอะไร ผิวปากอย่างสบายใจถือดาบฮุยจินที่ยังมีเลือดหยดเดินเข้าหาเซี่ยเชียนชิวที่กำลังจ้องมองตะลึง ไม่อยากเชื่อสิ่งที่เขามองเห็นกับตาตัวเอง…

“อ๊า…อ๊า!” เซี่ยเชียนชิวเรียกความรู้สึกตนเองกลับมาได้ทันที เขากลัวจนจับขั้วหัวใจ พอหมุนตัวไปก็วิ่งหนีทันที

แต่ทันทีที่เขาหมุนตัวได้ เขาพบว่าเย่ว์หยางยืนยิ้มกว้างอยู่ข้างหน้าเขาแล้ว

เป็นรอยยิ้มที่ดูเหมือนปีศาจมากกว่า

เซี่ยเชียนชิวไม่สามารถทำอะไรได้ แต่กลัวจนถึงขั้วหัวใจ สูญเสียการบังคับตนเอง เขาไม่อาจทำอะไรได้ ถึงกับปัสสาวะราดกางเกงจนนองไปบนพื้น

เมื่อเย่ว์หยางยกดาบของเขาขึ้น เซี่ยเชียนชิวตะโกนลั่นอย่างเสียสติแล้วกระโดดขึ้นไปในอากาศ เขาคิดว่าการกระโดดออกจากที่น่ากลัวอย่างนี้ต้องใช้พลังโดดมหาศาล เขาไม่มีความกล้าที่จะสู้กับเย่ว์หยางแม้แต่น้อย เพราะเขาเห็นชัดเจนว่าเจ้าเด็กนี่ฆ่านักรบหัววัว อสูรทองแดงระดับ 4 ของเขาโดยใช้ดาบฟันทีเดียว ศัตรูแบบนี้เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะต่อกรได้

ดังนั้น เซี่ยเชียนชิวคิดได้แต่เพียงอย่างเดียวคือ หนี

“เจ้าตัวตลก, กลับมาแสดงต่อสิ, ข้ายังดูไม่พอเลย!” เย่ว์หยางหายวับและไปปรากฏอยู่บนท้องฟ้าทันที เขาตวัดดาบกระแทกใส่จมูกเซี่ยเชียนชิวทำให้ร่างกอริลลาขนาดใหญ่ที่เขาเสริมพลังร่วงลงมากับพื้น

“ไว้ชีวิตข้าด้วย….อ๊า…!”

เซี่ยเชียนชิวไม่ทันอ้อนวอนเสร็จก็ถูกเย่ว์หยางเหยียบใส่

เหมือนกับคางคกที่ถูกคนเหยียบ

เมื่อเย่ว์หยางยกเท้าขึ้น หน้าของเซี่ยเชียนชิวก็อยู่ในสภาพดูไม่ได้เลย เลือดไหลออกจากปากไม่หยุด

พอเห็นเช่นนี้ เย่ว์หยางส่ายหน้า เหมือนกับว่าเขาไม่หนำใจกับความเสียหายที่เขาทำลงไป จากนั้นเขาเหยียบนิ้วของเซี่ยเชียนชิวทีละนิ้ว หักกระดูกเขาขณะกล่าวอย่างเย็นชา “ร้องออกมา, ร้องเท่าที่เจ้าต้องการ, ร้องดังๆ เลย อย่างนั้นแหละ ความจริงเจ้าร้องได้ดังกว่านี้ ร้องออกมาถ้าเจ้าเจ็บปวดจริงๆ ถ้าเจ้าร้องได้เหมือนหมูถูกเชือดในโรงฆ่าสัตว์ได้ก็จะดีมาก”

เย่ว์หวี่กลังว่าเย่ว์หยางจะฆ่าเซี่ยเชียนชิว แม้ว่านางจะเกลียดเจ้าสวะเซี่ยเชียนชิวก็ตาม แต่การฆ่าเขาจะทำให้เกิดศึกระหว่างตระกูลเย่ว์กับตระกูลเซี่ย

นางไม่ต้องการให้ตระกูลสร้างศัตรูที่แข็งแกร่งที่จะสู้เสี่ยงตายกับพวกเขาเพราะเรื่องของนาง

พอเห็นเย่ว์หยางยกดาบของเขา นางรีบตะโกนทันที “อย่าฆ่าเขา สวะอย่างนี้ไม่คู่ควรให้เจ้าฆ่าหรอก..”

“ถ้าตระกูลเย่ว์ไม่สามารถปกป้องผู้หญิงคนเดียวได้ แล้วเราจะเรียกตัวเองว่าสี่ตระกูลใหญ่ได้อย่างไร? อย่างนั้นเราคงจะถูกเรียกว่าตระกูลขี้ขลาด” เย่ว์หยางหัวเราะอย่างเย็นชา ขณะที่เขาชี้มาทางเย่ว์หวี่ไม่ให้เข้ามาแทรกแซง ปล่อยให้เขาจัดการเอง จากนั้นเขาใช้ดาบตัดกางเกงของเซี่ยเชี่ยนชิวจนขาด เมื่อเขาเห็นมัน เขาหัวเราะลั่น “ข้าอุตส่าห์คิดว่าเจ้าจะมีอสูรขนาดยักษ์เสียอีก เนื่องจากเจ้าโอหังยิ่งนัก ที่แท้มีแค่ไส้กรอกเล็กๆ อันเดียวยังกล้าโม้ว่านอนกับผู้หญิงมาเป็นพันคนอีกหรือ? เจ้ายังเทียบไม่ได้กับเฉิน กว้านซื่อ (ดาราฮ่องกงผู้อื้อฉาว) ด้วยซ้ำ แล้วเจ้ายังกล้าผยองอีก ไม่มีทางอื่นหรอก หากข้าไม่เปิดหูเปิดตาเจ้าที่นี่ ข้าคิดว่าเจ้าคงจะตายอย่างงมงาย เบิ่งตาเจ้าดูให้ชัดๆ เจ้าอาจจะรู้สึกละอายตัวเองจนฆ่าตัวตายก็ได้!”

เย่ว์หยางเริ่มแก้กางเกงตนเอง องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเย่ว์หวี่สามารถเห็นการกระทำแผลงๆ ของเจ้าเด็กนี่ทางหางตา พวกนางเขินทันทีด้วยค้วยความรู้สึกอึดอัดและรังเกียจ

สำหรับเย่ว์ปิง นางรีบก้มหน้าและหลับตาสนิทไม่กล้าหันมาดู

เย่ว์หยางไม่สนว่าสามสาวจะคิดกับเขาอย่างไร ขณะที่เขาถกกางเกงช้าๆ และพูดว่า “ปืนใหญ่พร้อมแล้ว ก๊อกใหญ่พร้อมใช้งานแล้ว ปืนใหญ่….ยิง!”

จากนั้นเขาจึงปัสสาวะใส่ปากเซี่ยเชียนชิวที่โดนซ้อมอย่างหนักจนบิดเบี้ยว

ในที่สุด เขาส่ายตัวอย่างสบายใจแล้วนุ่งกางเกงเหมือนเดิม

พอเห็นว่าเซี่ยเชียนชิวแกล้งทำเป็นตาย เย่ว์หยางตะโกนบอกฮุยไท่หลาง “ฮุยไท่หลาง! เจ้าเคยกินไส้กรอกย่างหรือยัง? วันนี้ข้าอารมณ์ดีจริงๆ ข้าจะย่างมันให้เจ้ากินโดยเฉพาะเลย” ไฟในมือของเขาเริ่มลุกไหม้ขึ้น เซี่ยเชียนชิวนึกว่าเขาสามารถหลบพ้นวิกฤตินี้ได้ หากเขาแกล้งทำเป็นตาย ดังนั้นจึงยอมให้เย่ว์หยางปัสสาวะใส่ปากเขาและแกล้งทำเป็นหมดสติ เมื่อได้ยินว่าเย่ว์หยางจะปิ้งไส้กรอก เขาตกใจรีบหมุนตัวและวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต

เย่ว์หยางหัวเราะอย่างเย็นชาและถีบเข้าที่หลังของเขาอย่างแรง เกือบทำให้กระดูกสันหลังของเขาหัก

จากนั้นเย่ว์หยางพลิกเซี่ยเชียนชิวที่ร่ำไห้อยู่บนพื้นอย่างน่าเวทนาพร้อมทั้งย่ำไส้กรอกน้อยและลูกชิ้นเขาจนแทบเละ จากนั้นเขาโยนลูกไฟสีม่วงลงไป แล้วเริ่มเผามัน เผาจนได้กลิ่นไหม้ ไส้กรอกปิ้งจะน่าอร่อยขนาดไหนกันนะ? เมื่อฮุยไท่หลางยื่นเท้าของมันออกไปสัมผัส มันก็ตระหนักได้ว่าเหลือแต่เพียงขี้เถ้า ไม่มีอะไรที่อร่อยเหลือให้มันกิน

มันมองเจ้านายอย่างสับสน.. เย่ว์หยางเตะมันด้วยความโกรธ “ข้าแค่พลั้งมือทำไหม้ก็แค่นั้น แล้วยังไง? ถ้าเจ้ากินไส้กรอกปิ้งไม่ได้ แล้วเจ้าจะกินอย่างอื่นได้ยังไง? ร่างเจ้าโง่นั่นเต็มไปด้วยเนื้อเชียวนะ!”

พอได้ยินเช่นนี้ ฮุยไท่หลางไม่กล้าถอยอีก

มันอ้าปากและงับตัวเซี่ยเชียนชิวทันที

สามสาววิ่งออกไปอยู่ห่างๆ เมื่อตอนเย่ว์หยางยิงปืนใหญ่แล้วและรอเขาอยู่อีกด้านหนึ่ง แม้ว่าพวกนางจะอยู่ห่างๆ แต่พวกนางก็สามารถได้ยินเสียงร้องไห้ของเซี่ยเชียนชิว พวกนางไม่คิดว่าเย่ว์หยางอำมหิต ความจริงพวกนางคิดว่าเย่ว์หยางเป็นคนเจ้าความคิด พวกนางเริ่มกระซิบหารือกัน สามสาวเห็นดีกันทุกคนว่าคนเลวต้องเจอกับเย่ว์หยางจอมโหดถือว่าเป็นโชคร้ายในชีวิตพวกมัน

อย่างไรก็ตาม สำหรับคนอย่างเซี่ยเชียนชิว ที่ชอบยั่วยุคนอื่น เป็นแค่สวะสังคม ไม่ว่าเย่ว์หยางรังแกเขามากแค่ไหน ก็ยังไม่นับว่าเท่าใด

สิ่งที่เย่ว์หวี่กังวลก็คือตระกูลเซี่ยจะต้องมาล้างแค้นแน่นอนหลังจากนั้น ถึงตอนนั้นพวกเขาจะทำอย่างไร?

พอเห็นว่าเย่ว์หยางกลับมา องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนสับสนงุนงงขณะที่นางได้ยินเซี่ยเชียนชิวร้องโหยหวน นางถามอย่างสงสัยว่า “ทำไมเจ้าไม่ฆ่าเซี่ยเชียนชิว? ด้วยความสามารถอย่างเจ้า แค่เจ้ายกมือก็ทำลายเขาได้แล้ว ทำไมเจ้าถึงปล่อยให้เขามีชีวิต?”

เย่ว์หยางยื่นมือออกไปลูบหน้าผากเย่ว์ปิง ให้ความมั่นใจแก่นางก่อน

จากนั้น เขาหันมาทางองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเย่ว์หวี่และหัวเราะร่าเริงอย่างอารมณ์ดี “ข้าจะไม่ไปหาเรื่องคนอื่นๆ แต่ถ้าใครบางคนมาหาเรื่องข้า คิดไม่ดีกับข้าหรือครอบครัวข้า ข้าจะฆ่าพวกมันให้หมดไม่ว่าจะมาหาข้ามากแค่ไหนก็ตาม! เซี่ยเชียนชิวไม่สามารถจากไปได้ ข้าก็แค่ปล่อยให้เขาตายช้าๆ วิธีนั้นมันเจ็บปวดมาก ขณะเดียวกัน ข้ายังใช้มันส่งคำเตือนไปถึงคนอื่นๆ พวกมันจะได้ไม่มีทางคิดร้ายกับครอบครัวของเรา ไม่อย่างนั้นแม้แต่เทพเจ้าก็ช่วยเขาไม่ได้ ตระกูลเซี่ยจะมีคนเท่าไหร่? ถ้าพวกมันส่งคนมาคุย ข้าก็จะคุยกับพวกมัน ถ้าพวกมันส่งคนมาสู้ ข้าก็จะสู้กับพวกมัน ถ้าพวกมันกล้าโจมตีข้า ข้าจะทำลายพวกมันทั้งตระกูล ทุกคนมีเพียงชีวิตเดียว ใครจะกลัวพวกมันกันเล่า?”

“เสี่ยวซาน! เจ้าเติบใหญ่ขึ้นแล้ว เจ้าเปลี่ยนไปมากจริงๆ เมื่อเทียบกับตอนนั้น! ขอบใจ ที่เจ้าช่วยพี่รอง มิฉะนั้น วันนี้ ข้าคงจะ…” เย่ว์หวี่ซบหน้าร้องไห้อย่างตื้นตัน

“พี่สาม! ข้าสนับสนุนท่าน!” เย่ว์ปิงเป็นแฟนคลับประจำของเย่ว์หยางอยู่แล้ว

“ลำพังตระกูลเซี่ยยังไม่แข็งแกร่งเท่าไหร่นัก แต่พวกเขามีผู้หนุนหลังที่ทรงพลังอยู่เบื้องหลังพวกเขา” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนโอบไหล่เย่ว์หยาง ขณะที่นางน้ำตาคลอเบ้าคุยกับเย่ว์หยางจริงจัง “องค์หญิงผู้นี้ ช่วงนี้ยังพอว่างอยู่ ข้าสามารถร่วมกับพวกเจ้าและบ้าไปกับพวกเจ้าได้ ไหม? ข้าไม่ใช่เพื่อนที่ดีพอเหรอ?”

“คู่หู, งั้นเราไปดื่มกันต่อ, วันนี้ไม่เมาไม่กลับ!” เย่ว์หยางเตรียมมอมเหล้าแม่เสือสาว ถ้านางกลายเป็นแมวขี้เมา นางจะไม่ยอมเปลี่ยนแปลงตนเองตามความต้องการเขาหรือ?

“…..” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนไม่จำเป็นต้องใช้ทักษะหกรับรู้ของนาง ก็สามารถได้ยินความคิดลามกของเจ้าเด็กนี่ได้ แต่นางยังคงเงียบไว้

*************

Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์

Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์

LLS, Triệu Hoán Vạn Tuế, Zhaohuan Wansui, 召唤万岁
Score 7.6
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2010 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ทวีปมังกรทะยานคือโลกแห่งการอัญเชิญ คุณจะกลายเป็นคนแข็งแกร่งได้ ถ้าเพียงแต่คุณเป็นผู้อัญเชิญ! ยิ่วหยางเด็กนักเรียนมัธยมปลายธรรมดาถูกส่งเข้ามาในโลกนี้อย่างฉับพลันทัน ด่วน เมื่อเขาฟื้นขึ้นกลับได้พบใบหน้าของหลายคนที่เต็มไปด้วยความห่วงใย และพบว่าเขาเป็นตัวตนของอีกคนหนึ่ง กลับกลายเป็นว่าเขาเป็นบุตรที่ไม่เอาไหนของตระกูลยิ่ว จนถึงกับโดดน้ำตายเพราะถูกปฏิเสธการหมั้น อีกทั้งไม่สามารถจะทำพันธสัญญากับคัมภีร์อัญเชิญได้ แต่ยิ่วหยางกลับประสบความสำเร็จทำสัญญากับคัมภีร์ ส่วนเรื่องราวจะเป็นเช่นไรต่อไป ขอเชิญติดตามดูครับ ความจริงในการแปลครั้งนี้มาจากแรงบันดาลใจที่ไม่ได้จะเป็นนักเขียนนักแปล หรอกครับ เกิดจากการอ่านมันฮัวการ์ตูนของจีนแล้วชอบ พยายามหาดูที่แปลเป็นอังกฤษ ก็แปลกันไปได้น้อยนิด แต่พอดูฉบับนิยายรู้สึกว่าเขาแปลไปได้เยอะ จึงลองเข้าอ่าน แต่เพราะความที่ภาษาไม่แข็งแรง จึงต้องดูไป เปิดดิคฯ ไปใช้โปรแกรมแปลช่วยบ้าง มีความรู้สึกว่าอ่านไม่ต่อเนื่อง จึงคิดว่าน่าจะแปลข้อมูลเก็บไว้ในเว็บๆ หนึ่งแล้วค่อยอ่านเป็นตอนๆ ให้ต่อเนื่องไปเลยดีกว่า แล้วก็นึกถึงที่นี่

Comment

Options

not work with dark mode
Reset