เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ – ตอนที่ 31 – จองนาง

===============
“คัมภีร์อัญเชิญ!”

ผู้อัญเชิญไม่ใช่เย่ว์หยาง แต่กลับเป็นนางโจรตางาม

คลื่นแสงสีทองส่องกระจายออกมาระหว่างนิ้วของนางโจร แล้วก่อตัวเป็นรูปโดมสีส้มอ่อนคลุมทั้งเย่ว์หยางและนางโจรไว้ ผู้ใช้คัมภีร์อัญเชิญได้ แตกต่างจากคนธรรมดา เมื่ออยู่ในระหว่างการต่อสู้ คัมภีร์อัญเชิญจะสร้างพลังป้องกันในรูปโดมโดยอัตโนมัติ เรียกว่าโล่ห์แสง โล่ห์นี้จะไม่ถูกทำลายแม้ถูกโจมตีด้วยพลังที่แข็งแกร่งจากภายนอก แล้วยังปกป้องผู้ใช้จนกว่าสัตว์ที่เรียกออกมาตาย หรือหมดเวลาที่จำกัดไว้

ขีดกำหนดเวลาสำหรับคัมภีร์ทองแดง คือ 10 นาที

ขีดกำหนดเวลาสำหรับคัมภีร์เงิน เป็น 2 เท่าของคัมภีร์ทองแดง

คัมภีร์ที่นางโจรตางามเรียกออกมา เป็นคัมภีร์เงิน และระดับยังเหนือกว่าคัมภีร์ทองแดงระดับเริ่มต้นของเย่ว์หยาง ถึง 3 ขั้น

กล่าวอีกนัยหนึ่ง ถ้าสัตว์อสูรของนางโจรตางามไม่ตายภายใน 20 นาที อย่างนั้นแม้แต่หุ่นศิลาที่ทรงพลังก็ทำอะไรโล่ห์แสงไม่ได้

“เจ้าเป็นก็ผู้มีคัมภีร์อัญเชิญคนหนึ่งสินะ?” นัยตาของเจ้าผอมอูอี้เริ่มกรอกไปมา และหน้าของเขากลายเป็นน่าเกลียดกว่าเดิม

“โห..ผู้มีคัมภีร์อัญเชิญ, สวรรค์, นึกไม่ถึงเลย นางโจรนี้เป็นผู้มีคัมภีร์อัญเชิญ แล้วยังเป็นคัมภีร์เงินเสียด้วย… สีแดง, ส้ม, เหลือง, เขียวอ่อน, เขียว, น้ำเงิน, ม่วง. โล่ห์แสงสีส้ม และมีประกายดาวสีทอง นางโจรนี่คือนักสู้ชั้นยอดฝีมือ ระดับ 4! ไม่มีทาง เมืองไป๋ฉือมีนักสู้ชั้นยอดฝีมือ ระดับ 4 ด้วยหรือนี่?” ฝูงชนที่ดูอยู่ห่างๆ ต่างอุทานด้วยความประหลาดใจ ควรจะรู้ว่านักสู้ผู้ครอบครองคัมภีร์อัญเชิญหาได้ยากยิ่งกว่าเพชร พวกเขาทุกคนเป็นนักรบอัจฉริยะที่เก่งเหนือคนธรรมดา หรือว่าพวกเขาเป็นลูกหลานที่โดดเด่นของตระกูลสำคัญ

ตอนนี้ทุกคนพุ่งความสนใจไปที่นางโจรน้อย ผู้เป็นนักสู้ชั้นยอดฝีมือระดับ 4 ผู้ครอบครองคัมภีร์อัญเชิญเงิน

นางไม่ใช่คนที่มาจากตระกูลธรรมดาอย่างไม่ต้องสงสัย

ไม่มีใครเชื่อว่านางโจรสามารถยกตัวเองจนเป็นนักสู้ชั้นยอดฝีมือระดับ 4 โดยไม่ได้รับการส่งเสริมจากตระกูลหรือประเทศมีชื่อ ต่อให้พวกเขาโดนตีจนตายก็ไม่เชื่อ

ตอนแรก ผู้ชมเหตุการณ์รู้สึกว่าการต่อสู้กระหว่างโจรน้อยทั้ง 2 คนกับอูอี้ไม่ใช่เรื่องที่น่าสนใจชมดู เผชิญหน้ากับหุ่นศิลาสูง 6 เมตร ทั้งหมดที่มันจะทำคือใช้กำปั้นทุบ 2 คนนี้จนแหลกเหลว

ตอนนี้ผู้มีคัมภีร์อัญเชิญเงินปรากฏตัว มุมมองผู้ชมเหตุการณ์จึงเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง

ไม่ว่านักรบธรรมดาจะแข็งแกร่งแค่ไหน ยามอยู่ต่อหน้าผู้มีคัมภีร์อัญเชิญก็ยังสู้ไม่ได้เลย ผู้ใช้คัมภีร์อัญเชิญมีโล่ห์แสงคอยปกป้องพวกเขา.. ดังนั้น จึงทำให้พวกเขาคอยตั้งใจเอาชนะสัตว์อัญเชิญของคู่ต่อสู้ และทำลายกลยุทธของพวกเขา

ไม่ว่าสัตว์อสูรอัญเชิญของนักรบธรรมดาจะมีมากเพียงใด ก็ไม่มีทางจะมีมากกว่าผู้ใช้คัมภีร์อัญเชิญ

สำหรับคนธรรมดา หุ่นศิลาก็คือความอยู่ยงคงกระพัน

แต่ต่อหน้าผู้ใช้คัมภีร์อัญเชิญ มีวิธีมากหลายใช้จัดการมัน

ผู้ทำสัญญากับคัมภีร์จะมีอสูรผู้พิทักษ์ที่ฟื้นกลับมาได้เมื่อมันตาย ตราบใดที่พวกเขาควบคุมอสูรผู้พิทักษ์ด้วยความระมัดระวัง โล่ห์แสง น่าจะทนได้จนกว่าจะถึงขีดจำกัดเวลา

ตอนนี้ ตราบใดที่นางโจรตางามยังเรียกสัตว์อสูรตัวหนึ่งที่สามารถโจมตีอูอี้โดยตรงได้ นางไม่ต้องสนใจการเคลื่อนไหวของหุ่นศิลาที่ชักช้า นางไม่จำเป็นต้องสนใจการโจมตีของอูอี้ แค่เรียกสัตว์อสูรออกมาช่วยนางฆ่าเขาก็พอ

“อัญเชิญ .. ผีเสื้อมอมเมา” นางโจรใช้มือที่ขาวปานกลีบบัวเปิดคัมภีร์เงินไปยังหน้าที่เลือกไว้ แล้วกดฝ่ามือลงเบาๆ

แสงสีทองฉายออกมาจากหน้าผ่านระหว่างนิ้วมือนาง จนทำให้คนที่เห็นตาพร่ามัว

ขณะนั้น เย่ว์หยางไม่ทันได้สังเกตสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด มัวแต่เพลินมองดูหุ่นของนางโจรตางามจากด้านหลัง แม่ว่าอกของนางจะอยู่ในกลุ่มขนาดเท่าผลแอปเปิลไม่ใหญ่นัก มีพื้นที่ที่ยังพัฒนาเต็มวัยได้อีก บั้นท้ายนางดูกลมงามดี เนื่องจากเสื้อผ้าที่นางสวมใส่ป้องกันไม่ให้สังเกตได้ยามเคลื่อนไหวตอนกลางคืน ถ้ามันรัดรูปพอดี คงได้เห็นส่วนโค้งเว้าของนาง

เขาเสียใจที่ทักษะตาทิพย์เขายังอยู่แค่ระดับ 1 ดังนั้นจึงตรวจสอบผ่านเสื้อผ้าไม่ได้ มิฉะนั้นแล้ว…

เมื่ออูอี้เห็นนางโจรตางามเรียกผีเสื้อสีรุ้งออกมา ตัวโตขนาดฝ่ามือ สีหน้าเขาเปลี่ยนเป็นกังวล

ถ้าหุ่นศิลามีจุดอ่อน ก็คือสติปัญญาของมันเป็นศูนย์

หุ่นศิลาไม่มีสติปัญญา ไม่มีความสามารถในการคิด มันมีแค่ความสามารถในการต่อสู้ ทำตามคำสั่งเจ้านาย มันจะโจมตีศัตรูที่อยู่ใกล้ที่สุดตามสัญชาตญาณ ไม่มีทางที่จะสั่งให้โจมตีเฉพาะเจาะจงได้

นางโจรเรียกผีเสื้อมอมเมาซึ่งไม่มีความสามารถต่อสู้เลยออกมา

อย่างไรก็ตาม มันเป็นความซวยตามธรรมชาติของหุ่นศิลา

ผีเสื้อมอมเมามีผลต่อการเชื่อมโยงวิญญาณระหว่างเครื่องจักรรบกับผู้ใช้มัน ตราบใดที่มันยังเกาะบนหัวของหุ่นศิลา หุ่นศิลาจะไม่สามารถรับคำสั่งเจ้านายมันได้ ดังนั้นมันจะไม่สามารถต่อสู้ได้ตามปกติ ได้แต่เซไปเซมาเหมือนคนเมาแทน แทบหมดประโยชน์ พอเห็นผีเสื้อมอมเมาปรากฏ หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยผู้มีประสบการณ์และความรู้มากว่า ยังถึงกับเปลี่ยนสีหน้า

ผีเสื้อมอมเมานี่เป็นของหายาก นอกจากอยู่ในหอทงเทียนแล้ว พวกมันจะถูกพบได้เฉพาะที่หมู่บ้านผีเสื้อและดอกไม้เท่านั้น

เป็นไปได้ว่าสถานะที่แท้จริงของนางโจรตางาม ผู้เป็นที่ต้องการของเจ้าสำนักของอูอี้เป็นคนจากหมู่บ้านผีเสื้อและดอกไม้หรือ?

หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยไม่ได้ดูการต่อสู้ครั้งนี้ต่อ เขารีบวิ่งเข้าไปในศาลาทันที

ตอนนี้สถานการณ์บานปลายมาถึงขั้นนี้ มันไม่ใช่เรื่องเล็กที่หัวหน้าหน่วยอย่างเขาจะควบคุมได้ต่อไป

ถ้าเขาไม่รีบเชิญคนที่รับมือได้อย่างปรมาจารย์ดาบทองคนของป่าบันเทิงเมืองไป๋ฉือมารับสถานการณ์อย่างนี้ ผลที่ตามมาคงจะเลวร้าย คนจากหมู่บ้านผีเสื้อและดอกไม้จะได้ไม่ผิดใจกัน

“อัญเชิญอินทรีสงคราม” อูอี้กังวล เขารู้ว่าถ้าเขาไม่รีบกำจัดผีเสื้อมอมเมาของศัตรู อย่างนั้นเขาคงได้เสียหุ่นศิลาไปแน่

อูอี้ล้วงผลึกหินสีเหลืองออกมา บริกรรมไม่กี่คำ ก็เรียกอินทรีสงครามสีทองพร้อมกับกางปีกยาว 2 เมตร

อินทรีสงครามเป็นราชาแห่งท้องฟ้าเมื่อมันกลายสัตว์อสูรมีปีก พวกมันเป็นสัตว์ปีกอสูรที่ใช้ล่าและฆ่าได้ดีที่สุด

พวกมันเร็วราวกับสายฟ้า

การเผชิญหน้ากับผีเสื้อมอมเมาที่ไม่มีการป้องกัน, ใช้เวลาไม่กี่วินาทีที่จะฉีกมันให้เป็นชิ้นๆ สำหรับอินทรีสงครามระดับ 3 มันมีกรงเล็บที่สามารถฉีกเสือโคร่งและเสือดาวได้ อย่างไรก็ตาม เมื่ออูอี้เรียกอินทรีสงคราม นางโจรตางามแค่นเสียงเย็นชา และโต้ตอบกลับไป “อัญเชิญ…แมงมุมแม่มด”

หน้าในคัมภีร์เงินพลิกไป 1 หน้าโดยอัตโนมัติ และส่องแสงสีเขียวผ่านนิ้วของนางโจร

สัตว์อสูรตัวหนึ่ง กายครึ่งบนเป็นผู้หญิง แต่กายครึ่งล่างเป็นแมงมุม ปรากฏลงมาในสนามต่อสู้ทันที

“หวายยย!” นักรบรับจ้างแตกกระจายไปคนละทิศทาง

“ข้าจะเป็นลม นั่นเป็นสัตว์เวท แมงมุมปีศาจที่ดูดกลืนพลังไม่ใช่หรือ? มันเป็นศัตรูธรรมชาติของผู้ชาย!” นักรบรับจ้างตัวหนายืนกรานจะอยู่ข้างหลัง แต่กลัวมากจนผิวซีด

“นี่เป็นสัตว์อสูรจากหอทงเทียนแน่นอน ข้าบอกได้ มันเป็นปีศาจที่นำกลับมาจากหอทงเทียน เสร็จแน่ๆ อินทรีสงครามเสร็จแน่ๆ” ในท่ามกลางแขกเหรื่อผู้ชมดูที่ระเบียงป่าบันเทิง มีนักรบคนหนึ่งที่จำได้ถึงต้นกำเนิดของแมงมุมแม่มด มองเห็นอินทรีสงครามบินโฉบอยู่ในอากาศ เขาได้แต่ส่ายหัวถอนหายใจ ขณะนั้น หน้าของอูอี้เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง เขาพยายามสั่งให้อินทรีสงครามบินให้สูงกว่า แต่มันสายเกินไปแล้ว

เส้นใยถูกยิงออกมาจากปากแมงมุมแม่มด ขณะที่ลมพัดมา มันก็แผ่กว้างเป็นข่ายใยแมงมุมสีขาว หุ้มรวบนกอินทรีไว้ภายใน

ขณะที่อินทรีสงครามถูกจับ มันก็หมดความสามารถในการบินและร่วงกระแทกพื้นอย่างแรง

แมงมุมแม่มดกระโจนเข้าใส่อินทรีสงครามอย่างว่องไว และต่อสู้กับอินทรีสงคราม แมงมุมแม่มดโจมตีอย่างรวดเร็วและโหดร้าย แมงมุมฝังเขี้ยวที่น่ากลัวลงบนตัวนกอินทรีและฉีดพิษเข้มข้นสีเขียวสู่ร่างนกอินทรี ภายใน 2 วินาทีนกอินทรีเริ่มหยุดดิ้นและตัวแข็งเหมือนสัตว์ที่สตาฟไว้

เย่ว์หยางแอบเนียนจับมือน้อยของนางโจรเป็นการเอาเปรียบนาง แต่แกล้งทำเป็นแสดงออกมา แล้วตะโกนว่า “เจ้า..สุดยอดจริงๆ, เราชนะแล้ว”

นางโจรตางามกลับส่ายศีรษะแทน “ไม่, พูดว่าเราชนะตอนนี้ ยังคงเร็วเกินไป ศัตรูของเราคือนักสู้ชั้นวีรบุรุษระดับ 3 อินทรีสงครามตัวนั้นคงไม่ใช่สัตว์อสูรที่แข็งแกร่งที่สุดของเขา ข้าคิดว่าเขายังมีที่ถือดี เขาน่าจะยังเรียกสัตว์อสูรที่ทรงพลังมาได้อีกตัว…”

“เสียหั่ว, ลงมาช่วยข้าถ่วงเวลาหน่อย” อยู่ๆ อูอี้ตะโกนออกมา แล้วดึงหินผลึกสีแดงขนาดกำปั้นออกมา เริ่มอัญเชิญเป็นครั้งที่ 3

“ถ้าเจ้าให้นังเด็กน้อยนี่ในคืนแรกกับข้า อย่างนั้นก็ไม่มีปัญหาอะไร! มันก็แค่ผีเสื้อมอมเมากับแมงมุมแม่มดไม่ใช่หรือ? สำหรับข้า เสียหั่ว สัตว์อสูรระดับนี้จะทำอะไรได้ ก็งั้นๆ” ที่ทางเข้าป่าบันเทิง มีเงาคนหนึ่งปรากฏขึ้นเหมือนภาพลวงตา ด้วยตาที่ดูแหลมคมเหมือนตาอสรพิษ เขามองดูรูปร่างของนางขโมยอย่างหื่นกระหายพลางหัวเราะอย่างชั่วร้าย

“….” เย่ว์หยางยังคงสงบภายนอก แต่ระเบิดความโกรธอยู่ภายใน ช่างกล้านักนะ แม่นางนี้ถูกเขาจองไว้ล่วงหน้าแล้ว เจ้าบัดซบนี่บังอาจคิดแทะเล็มนางหรือ? ดูเหมือนจะมีชีวิตอยู่นานเกินไปแล้ว คงต้องการหาเรื่องตายสินะ

******************

Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์

Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์

LLS, Triệu Hoán Vạn Tuế, Zhaohuan Wansui, 召唤万岁
Score 7.6
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2010 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ทวีปมังกรทะยานคือโลกแห่งการอัญเชิญ คุณจะกลายเป็นคนแข็งแกร่งได้ ถ้าเพียงแต่คุณเป็นผู้อัญเชิญ! ยิ่วหยางเด็กนักเรียนมัธยมปลายธรรมดาถูกส่งเข้ามาในโลกนี้อย่างฉับพลันทัน ด่วน เมื่อเขาฟื้นขึ้นกลับได้พบใบหน้าของหลายคนที่เต็มไปด้วยความห่วงใย และพบว่าเขาเป็นตัวตนของอีกคนหนึ่ง กลับกลายเป็นว่าเขาเป็นบุตรที่ไม่เอาไหนของตระกูลยิ่ว จนถึงกับโดดน้ำตายเพราะถูกปฏิเสธการหมั้น อีกทั้งไม่สามารถจะทำพันธสัญญากับคัมภีร์อัญเชิญได้ แต่ยิ่วหยางกลับประสบความสำเร็จทำสัญญากับคัมภีร์ ส่วนเรื่องราวจะเป็นเช่นไรต่อไป ขอเชิญติดตามดูครับ ความจริงในการแปลครั้งนี้มาจากแรงบันดาลใจที่ไม่ได้จะเป็นนักเขียนนักแปล หรอกครับ เกิดจากการอ่านมันฮัวการ์ตูนของจีนแล้วชอบ พยายามหาดูที่แปลเป็นอังกฤษ ก็แปลกันไปได้น้อยนิด แต่พอดูฉบับนิยายรู้สึกว่าเขาแปลไปได้เยอะ จึงลองเข้าอ่าน แต่เพราะความที่ภาษาไม่แข็งแรง จึงต้องดูไป เปิดดิคฯ ไปใช้โปรแกรมแปลช่วยบ้าง มีความรู้สึกว่าอ่านไม่ต่อเนื่อง จึงคิดว่าน่าจะแปลข้อมูลเก็บไว้ในเว็บๆ หนึ่งแล้วค่อยอ่านเป็นตอนๆ ให้ต่อเนื่องไปเลยดีกว่า แล้วก็นึกถึงที่นี่

Comment

Options

not work with dark mode
Reset