เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ – ตอนที่ 36 – เลื่อนระดับ

===============
ปีศาจที่น่ากลัวไม่สามารถออกมาจากประตูมิติได้อย่างราบรื่น มันเริ่มหายไปทันทีหลังจากถูกเย่ว์หยางใช้พลังดาบสุดยอดโจมตี

ผลออกมาอย่างนี้สร้างความประหลาดใจให้เย่ว์หยาง

เป็นไปได้หรือที่เขาจะเอาชนะปีศาจที่ทรงพลังด้วยการโจมตีแค่ครั้งเดียว? จริงเหรอ? เสียหั่วใช้ชีวิตและเลือดเนื้อของนักรบเป็นร้อยมาบูชายัญอัญเชิญจอมปีศาจ มันจะพ่ายแพ้ได้ง่ายๆ หรือ? ด้วยการจบเรื่องแบบนี้ เย่ว์หยางไม่เคยคิดเลย เป็นไปได้ว่าการโจมตีบวกกับความแข็งแกร่งของโซ่ล่องหนและเงายักษ์ พร้อมกับสุดยอดพลังกระบี่จากปราณกระบี่ไร้ลักษณ์ขั้นก่อกำเนิด จะกวาดล้างได้ทุกอย่างเหรอ?

ทันใดนั้น สังหรณ์ใจถึงอันตราย ผุดขึ้นมาในใจของเขา

เย่ว์หยางมีปฏิกิริยาทันที เขาขยับขาทั้ง 2 ด้วยท่าร่างกระบี่พิสุทธิ์ 1 ใน 3 วิชาลับ ) ถอยออกมาถึง 10 เมตรในทันที

คลื่นคมเคียวที่สามารถผ่าท้องฟ้าและพื้นปฐพีได้ตัดผ่าออกมาจากประตูมิติ

การผ่าท้องฟ้านั้นเร็วกว่าสายฟ้าแลบเสียอีก มันเกือบฟันถูกปลายจมูกเย่ว์หยางขณะที่เขาหลบจากการถูกโจมตี และมันยังผ่าพื้นดินไปในระยะไกลจนเกิดรอยแยกลึก ง่ายพอๆ กับใช้มีดร้อนหั่นเนย ก่อนที่มันหายไปกับระยะที่ไกลขึ้น

อาคารป่าบันเทิงที่ยังตกอยู่ในทะเลเพลิงถูกคลื่นพลังที่แหลมคมตัดออกเป็นสองส่วนอย่างเงียบ ในทันทีนั้นมีเสียงระเบิดดังตามออกมา อาคารขนาดใหญ่ค่อยๆ พังทลายลง เสียงระเบิดสนั่นหวั่นไหวจากคลื่นพลังโจมตีทำให้เย่ว์หยางถึงกับขนหัวลุก มันเป็นคลื่นคมเคียวที่น่ากลัวจริงๆ เขาเกือบถูกมันผ่าเป็น 2 ส่วนเสียแล้ว หากเขาหลบไม่ทัน แม้ว่าจะมีการป้องกันตัวก็ตาม เขาคงไม่รอดจากการโจมตีที่ผ่าได้กระทั่งท้องฟ้า หากเขาไม่ใช้ 1 ในวิชาลับทั้ง 3 เขาคงตายอย่างอนาถ จากการโจมตีแบบไม่รู้ตัวอย่างนี้

“ในรอบ 600 ปีที่ผ่านมา เจ้าเป็นมนุษย์คนแรกที่ทำให้ข้าบาดเจ็บได้”

ตามมาด้วยเสียงคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวจากภายในประตูมิติ มือจอมปีศาจเปื้อนเลือดสีดำมีเปลวไฟสีม่วงคลุมอยู่ยื่นออกมาจากภายในประตูมิติ

กลุ่มเปลวไฟเขียวเข้มข้นมีอยู่ในมือนั้น พลังที่กล้าแข็งรุนแรงจนทำลายได้ทั้งสวรรค์และโลกมนุษย์ ไฟนรกที่เสียหั่วเรียกออกมาตอนแรกไม่มีความสำคัญเลยหากเอาไปเทียบกับเปลวไฟสีเขียวเข้มเหล่านี้ พอเห็นดังนี้แล้ว เย่ว์หยางไม่คิดว่าตอนนี้ จะสามารถต้านรับการโจมตีครั้งต่อไปได้ หากเขาปล่อยให้เปลวไฟเขียวเข้มเหล่านี้ถูกต้องเขา ผลที่ตามมาอาจเลวร้าย แต่ตอนนี้เขาจะทำอะไรอย่างอื่นได้เล่า?

หนีไปงั้นหรือ?

หรือว่าสู้จนถึงที่สุด?

บางทีการทำลายประตูมิติป้องกันไม่ให้จอมมารร้ายออกมาอาละวาด น่าจะเป็นความคิดที่ดี

แต่ปัญหาก็คือ เขาจะต้องหลบการโจมตีของเปลวเพลิงเขียวเข้มและเข้าไปทำลายประตูมิติที่อยู่เบื้องหลังมัน เม็ดเหงื่อผุดขึ้นจากหน้าผากของเย่ว์หยาง พอดูเปลวเพลิงเขียวเข้มตรงหน้าที่มันเคยขยายตัวมาก่อน จากนั้นดูที่เบื้องหลังเขา ก็คือตำแหน่งที่บ้านของหญิงงามตั้งอยู่ แม้ว่าบ้านจะตั้งอยู่ค่อนข้างไกล แต่ถ้าเปลวเพลิงเขียวเข้มถูกปล่อยออกมาในรูปคลื่นพลังกระแทก บางที….

บางที, แม่สี่กับเด็กหญิงยังคงหลับฝันอยู่กระมัง?

เย่ว์หยางกัดฟันขณะที่เขาเริ่มวนแขนของเขามาใกล้กัน ด้วยการหมุน เขารวบรวมพลังปราณที่เหลือในร่างกายเขาเข้าไปตามเส้นปราณสายหยินและหยางก่อเกิดเป็นพายุหมุนวนสายหนึ่ง

แม้คิดว่าพลังของจอมมารจะมีพลังทำลายมากและยากจะต้านทานได้ เย่ว์หยางก็ยังคงมุ่งไปข้างหน้า เขาแทบไม่สนใจว่าคนในแผ่นดินมังกรทะยานจะอยู่หรือตาย แต่เขาคงไม่ยอมดูเฉยๆ โดยไม่ทำอะไรแน่ เมื่อมีอันตรายคุกคามความปลอดภัยของแม่สี่และน้องสาวตัวน้อย

แม่สี่ผู้รักและเมตตาเขากับน้องสาวผู้ซุกซน พวกนางคือครอบครัวของเขา

“มนุษย์ผู้โง่เขลา” หลังจากยื่นมือออกมาจากภายในประตูมิติแล้ว จอมปีศาจก็เริ่มหัวเราะอย่างกระหายเลือด

“บึ้ม!”

เหมือนกับมันรู้ว่าเย่ว์หยางคงจะพยายามลุยเข้ามา เหมือนพยายามฆ่าตัวตายอย่างสิ้นหวัง ทันใดนั้นกลุ่มเปลวไปสีเขียวเข้มก็ระเบิดขึ้น ลำแสงสีเขียวถูกยิงออกมาจากฝ่ามือของจอมมารตรงเข้าหาร่างของเย่ว์หยาง

ทันใดนั้น โล่ห์แสงสีเขียวปรากฏต่อหน้าเย่ว์หยาง เป็นวงสีรุ้งสวยงาม ลึกลับเปล่งแสงเหมือนประกายบนเพชรปรากฏอยู่บนผิวโล่ห์ปกป้องร่างของเขาไว้ คัมภีร์อัญเชิญชั้นเพชรปรากฏขึ้นในเวลาเดียวกับที่เเสี่ยวเหวินหลีที่กำลังใช้มือน้อยๆ ควงมีดอยู่หลังจากที่ออกมาจากตัวเย่ว์หยางด้วยตัวเอง ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความกังวลใจ ลำแสงสีเขียวยิงเข้ามาที่โล่ห์ของเธอ โล่ห์สั่นสะท้านอย่างรุนแรง พร้อมกับเสียงระเบิดสนั่นหวั่นไหว จนโล่ห์แทบจะถูกทำลาย เย่ว์หยางตกใจ โชคดีที่โล่ห์แสงปกป้องและสลายพลังแสงสีเขียวได้สำเร็จ พลังที่แฝงมากับลำแสงสีเขียวยังกระจายไปอีกไกล ในที่สุดก็กระจายหายไปในอากาศ

พอเห็นโล่ห์แสงยังคงเหมือนเดิมหลังจากปะทะกับลำแสงสีเขียวแล้ว เย่ว์หยางถอนหายใจโล่งอก

เขาวางเดิมพันได้ถูก

โล่ห์ถูกเรียกออกมาโดยคัมภีร์เพชรของเสี่ยวเหวินหลีสามารถต้านทานแรงทำลายล้างได้

“ฮ่าาห์” เสี่ยวเหวินหลีกู่ร้องเสียงแหลมสูงออกไป เย่ว์หยางคิดว่าเธอไม่รู้จักเขา มือจอมมารยื่นตรงมาที่โล่ห์แสงแล้ว แม้ว่าจะเป็นแค่นิ้วเดียว แต่เย่ว์หยางก็ตกใจสุดขีด

เฉพาะตอนนี้เขาตระหนักว่าโล่ห์แสงยังป้องกันได้ไม่สมบูรณ์ มันมีขีดจำกัดของมันเอง นิ้วจอมมารแทงผ่านแนวป้องกันของโล่ห์แสงมาได้ เย่ว์หยางกอดเสี่ยวเหวินหลีไว้กับอ้อมอกทันที มันเป็นปฏิกิริยาจากนิสัยของเขา คือปกป้องเธอไว้แม้จะต้องตายก็ตาม เขาทำไปเพื่อ…. สำหรับเวลานี้เขาเอาจริง

อย่างไรก็ตาม เสี่ยวเหวินหลีดิ้นออกมาจากอ้อมกอดเขา เธอเงื้อมีดน้ำแข็งเล่มน้อย แล้วฟันไปที่นิ้วของจอมมารอย่างดุร้าย

ในทันใดนั้น มือของจอมมารกลายเป็นน้ำแข็งทันที

แม้แต่ไฟนรกที่ลุกไม้อยู่ใกล้ๆ ก็ถูกแช่แข็งจนดับไปโดยปริยาย

“ยังพอมีหวัง!” ปฏิกิริยาตอบโต้ของเย่ว์หยางเกินขีดจำกัดไปตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว เขาฝืนตัวเองเพ่งถึงปราณของเขาอีกครั้ง เตรียมใช้พลังโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดจากวิชาลับ 3 แบบ “กระบี่ปณิธานสูงสุด” สุดยอดพลังกระบี่จะถูกปล่อยอีกครั้ง พลังโจมตีกล้าแข็งกว่าครั้งก่อน มันจะทะลวงเข้าไปในมือของจอมมารที่กำลังละลายอย่างไม่ปราณี

ความคมกล้าของปราณกระบี่ ไม่มีอะไรเทียบเท่า ทำให้เย่ว์หยางยังไม่พ่ายแพ้

จอมมารต้องการจะดึงมือตนกลับ แต่ภายใต้กับดักน้ำแข็งที่มั่นคง ความเร็วในการดึงมือกลับของมันช้าพอๆ กับหอยทากคืบคลาน

ปราณกระบี่ไล่ตามมันมาทัน และด้วยเสียง “ฉึก” มันทะลวงเข้าใจกลางฝ่ามือของจอมมาร มีรูปราฏอยู่ที่สะเก็ดหลังมือจอมปีศาจนี้

ในตอนนี้เอง ประตูมิติก็หดเล็กลง เล็กลงในทันที

มือจอมปีศาจที่ยื่นออกมาจากประตูมิติไม่ได้โจมตีเย่ว์หยางอีก ขณะที่มันดึงมือกลับอย่างเร็วจนหายลับไปในประตูมิติ

หางงูของเสี่ยวเหวินหลีโบกไปมาดูงดงามมากขณะที่เธอเลี้อยไปบนพื้น เธอยังคงไล่ตามมือจอมปีศาจ พลางส่งเสียงขู่ฟ่อออกมา เย่ว์หยางรู้สึกว่า เธอปล่อยโซ่ล่องหนด้วยพลังทั้งหมดของเธอ

ถ้ามันถูกใช้แต่แรก ผลก็คงมีผลไม่มาก

ที่สำคัญคือ โซ่ล่องหนใช้ตรึงได้เพียง 1 วินาที แต่ตอนนี้ มันมีผลอย่างมาก

มือจอมปีศาจถูกเสี่ยวเหวินหลีใช้พลังโซ่ตรึงไว้ในตำแหน่งที่แน่นอนจึงไม่อาจเคลื่อนที่ได้แม้แต่นิ้วเดียว เมื่อประตูมิติหายไป พื้นที่ซึ่งต่างกันจึงเป็นเสมือนมีดคมกล้า ตัดแขนจอมปีศาจได้ในทันที เย่ว์หยางถูกสัญชาตญาณการรบของเสี่ยวเหวินหลีสะกดจนตะลึง เธอไม่ได้ใช้โซ่ล่องหนตลอดจนถึงตอนนี้ แต่กลับรอใช้จนเมื่อประตูมิติปิดลงเธอก็สร้างความเสียหายร้ายแรงให้จอมมารเสียแล้ว สำหรับแมลงน้อยอย่างเย่ว์หยางความเคลื่อนไหวดังกล่าวคาดไม่ถึงเลยจริงๆ

“บัดซบ, เจ้าพวกมนุษย์นักสู้ที่น่ารำคาญ ข้าจะจำพวกเจ้าเอาไว้ เราจะได้พบกันอีกแน่นอน คอยดูต่อไป..”

ประตูมิติหายไปพร้อมกับเสียงโหยหวนของจอมปีศาจดังก้องอยู่ในความมืด

ถ้าพวกเขาต้องสู้ต่อหน้ากันจริงๆ เย่ว์หยางไม่มีทางเอาชนะด้วยพลังของเขาในตอนนี้แน่

อย่างไรก็ตาม โลกแบ่งออกเป็น 2 โลกต่างกัน จอมปีศาจคงไม่ออกมาจากประตูมิติได้อย่างราบรื่น มันทำได้เพียงโจมตีมาจากรอยแยกมิติ ยิ่งไปกว่านั้น มันประมาทเย่ว์หยาง ในที่สุดภายใต้พลังกระบี่ไร้ลักษณ์ขั้นปราณก่อกำเนิดและโซ่ล่องหนของเสี่ยวเหวินหลีและสัญชาตญาณต่อสู้ที่น่าอัศจรรย์ของเธอ จอมปีศาจจึงพ่ายแพ้ไปอย่างหมดท่า มันเสียแขนไปข้างหนึ่ง ไม่น่าแปลกใจที่มันโกรธมากขนาดนั้น

ปราณในตัวเย่ว์หยางถูกใช้ไปเกลี้ยง ขณะที่เขาทิ้งตัวลงกับพื้นอย่างอ่อนเพลีย

เขาเปิดศึกรอบด้านและชนะได้แม้จะมีอันตราย

คัมภีร์อัญเชิญสีทองแดงลอยมาที่ข้างตัวเขาเงียบๆ และส่องแสงสว่างในท่ามกลางราตรี ลำแสงสีขาวส่องออกมาทันที มันส่องไปบนท้องฟ้าสูงอย่างน้อย 10 เมตร

เป็นเพราะเย่ว์หยางได้ชัยชนะในการต่อสู้ครั้งนี้ จึงได้มีการปรับชั้นเลื่อนระดับ… ภายในใจของเย่ว์หยาง คลื่นข้อมูลจำนวนมหาศาลปรากฏเข้ามาจนทำให้เขาประหลาดใจ “ท่านเอาชนะศัตรูในการต่อสู้ที่เป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะ จึงถือว่าเป็นชัยชนะที่มหัศจรรย์ ดังนั้น ค่าประสบการณ์ของท่านจึงเต็มขีดจำกัดในระดับขั้นปัจจุบัน และคัมภีร์ทองแดงของท่านได้รับการยกระดับจากระดับ 1 ขั้นผู้ฝึกหัด เป็นระดับ 1 ขั้นกลาง ท่านจะได้รับหน้าว่างเพิ่มขึ้น อีกอย่าง ตามกฎรหัสโบราณ เทพเจ้าจะมอบของขวัญแก่ท่าน คือ เงาปีศาจอสูรผู้พิทักษ์ของท่านจะได้รับทักษะชนิดใหม่…”

******************

Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์

Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์

LLS, Triệu Hoán Vạn Tuế, Zhaohuan Wansui, 召唤万岁
Score 7.6
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2010 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ทวีปมังกรทะยานคือโลกแห่งการอัญเชิญ คุณจะกลายเป็นคนแข็งแกร่งได้ ถ้าเพียงแต่คุณเป็นผู้อัญเชิญ! ยิ่วหยางเด็กนักเรียนมัธยมปลายธรรมดาถูกส่งเข้ามาในโลกนี้อย่างฉับพลันทัน ด่วน เมื่อเขาฟื้นขึ้นกลับได้พบใบหน้าของหลายคนที่เต็มไปด้วยความห่วงใย และพบว่าเขาเป็นตัวตนของอีกคนหนึ่ง กลับกลายเป็นว่าเขาเป็นบุตรที่ไม่เอาไหนของตระกูลยิ่ว จนถึงกับโดดน้ำตายเพราะถูกปฏิเสธการหมั้น อีกทั้งไม่สามารถจะทำพันธสัญญากับคัมภีร์อัญเชิญได้ แต่ยิ่วหยางกลับประสบความสำเร็จทำสัญญากับคัมภีร์ ส่วนเรื่องราวจะเป็นเช่นไรต่อไป ขอเชิญติดตามดูครับ ความจริงในการแปลครั้งนี้มาจากแรงบันดาลใจที่ไม่ได้จะเป็นนักเขียนนักแปล หรอกครับ เกิดจากการอ่านมันฮัวการ์ตูนของจีนแล้วชอบ พยายามหาดูที่แปลเป็นอังกฤษ ก็แปลกันไปได้น้อยนิด แต่พอดูฉบับนิยายรู้สึกว่าเขาแปลไปได้เยอะ จึงลองเข้าอ่าน แต่เพราะความที่ภาษาไม่แข็งแรง จึงต้องดูไป เปิดดิคฯ ไปใช้โปรแกรมแปลช่วยบ้าง มีความรู้สึกว่าอ่านไม่ต่อเนื่อง จึงคิดว่าน่าจะแปลข้อมูลเก็บไว้ในเว็บๆ หนึ่งแล้วค่อยอ่านเป็นตอนๆ ให้ต่อเนื่องไปเลยดีกว่า แล้วก็นึกถึงที่นี่

Comment

Options

not work with dark mode
Reset