เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ – ตอนที่ 367 – เอ้อเมิ่งกับเหนียนหู่

ตอนที่ 367 เอ้อเมิ่งกับเหนียนหู่

ทุกคนแพ้สูญเสียเดิมพันกันหมด

ความผิดหวังเต็มที่ทำให้นักพนันฉีกกระดาษรับเดิมพันเป็นชิ้นๆโยนทิ้งเกลื่อนทั่วบริเวณ

ขณะที่สามหัวหน้าผู้คุ้มกันมีพลังไม่เพียงพอ พวกผีพนันที่สูญเสียเดิมพันถูกความโกรธครอบงำจนหน้ามืดตามัว ฉวยโอกาสเปลี่ยนข้างไปเชียร์เย่ว์หยางพลางตะโกนว่า “ฆ่ามัน!”

พอได้ยินคลื่นเสียงรุกเร้าอย่างบ้าคลั่ง ยิ่งทำให้ใบหน้าของแอนตันน่าเกลียดกว่าเดิม

อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกคนหนึ่งซึ่งมีท่าทีย่ำแย่ยิ่งกว่า

นั่นคือหัวหน้าผู้คุ้มกันที่เหลือรอดอยู่เพียงคนเดียว หลีเอ้อ

เนื่องจากเขาเป็นผู้มีพลังแข็งแกร่งมากที่สุดในคนทั้งสาม เขาจึงอยู่รอดเหลือเป็นคนสุดท้าย แต่ก็ไม่ห่างจากความตายเท่าใดนัก ตราบใดที่เย่ว์หยางต้องการ หลีเอ้อตายได้ทุกเมื่อ ต่อให้เปลี่ยนเป็นตั๊กแตนมัจจุราชก็ยังสามารถฆ่าเขาได้ ใช่แต่เพียงคู่ต่อสู้จะแข็งแกร่งเท่านั้นก็หาไม่ แม้แต่ตะกวดสายฟ้าและจ้าวมังกรจุดเขียวของหลีเอ้อที่เลื่องชื่อในเรื่องความแข็งแกร่งในเมืองใต้ดินก็ยังกลายเป็นอาหารของตั๊กแตนมัจจุราชทั้งหมด

เขาไม่เคยคิดฝันว่าคู่ต่อสู้ที่มีชื่อเสียงน้อยนิดอย่างไตตันจะเป็นนักสู้ที่ทรงพลังมาก

ก่อนนี้เขาคิดว่าด้วยการผนึกพลังของนักสู้ทั้งสามคน พวกเขาก็สามารถฆ่าไตตันได้ง่าย

คาดไม่ถึงว่า แม้ว่าหลังจากดื่มน้ำยาคลั่งกระหายเลือดเพิ่มพลังให้พวกเขาแล้ว พวกเขาก็ยังพ่ายแพ้คู่ต่อสู้ได้อย่างง่ายดาย

บุรุษหนุ่มผู้นี้ดูภายนอกเหมือนอ่อนแอแต่กลับมีพลังแข็งแกร่งที่ไม่มีผู้ใดคาดคิด จะต่อสู้ให้ชนะเขาได้นับว่าความหวังน้อยนิด เหมือนมดน้อยสามตัวไปต่อสู้กับแมมมอธ พวกเขามิอาจต่อต้านศัตรูผู้นี้ได้เลยแม้แต่น้อย น่าเสียดายหลีเอ้อรู้ตัวเมื่อสายเกินไป

“ไว้ชีวิตข้า ข้าจะให้เงินทุกอย่างทั้งหมดที่ข้ามีเป็นการตอบแทน” หลีเอ้ออ้อนวอนอย่างหมดสภาพ

“เสียใจด้วย ข้ามิได้ขาดแคลนเงินทอง” เย่ว์หยางไม่สนใจใยดี

บุรุษคนหนึ่งสวมหมวกปีกกว้างนั่งอยู่ข้างแอนตันกระซิบพูดว่า “เสียพนันแล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง? หดหู่ใช่ไหมเล่า? ถ้าเจ้ายังไม่ลืมนะ ข้าวางเดิมพันข้างไตตันไว้เต็มที่ 100,000 เหรียญทอง ข้ารู้ว่าเงินล้านไม่ได้มากมายสำหรับเจ้า แต่ข้าหวังว่าจะได้รับเงินโดยเร็ว…. ข้าจะยินดีมากยิ่งขึ้นถ้าเจ้าจะแบ่งหุ้นจากเหมืองแร่สายฟ้ามาชดใช้ให้ข้า”

ใบหน้าที่เต็มไปด้วยไขมันของแอนตันกระเพื่อมไหว และกลายเป็นซีดขาว “ข้ายังไม่แพ้!”

บุรุษผู้สวมหมวกปีกกว้างยักไหล่ของเขา “แน่นอนว่าเจ้ายังไม่แพ้, แต่ก็คงไม่นาน”

พอได้ยินเขาพูด สีหน้าของแอนตันเปลี่ยนไปคล้ายกับหมูตาย เขาขบเขี้ยวเคี้ยวฟันและผลักทาสหญิงเผ่าปีศาจข้างๆ ที่เพิ่งจะประคองเบียร์มอบให้เขา จนนางกระเด็นลอยออกไป “ไปเชิญเมิ่งเซียนเซิงและเหนียนเซียนเซิงมาเดี๋ยวนี้ เร็วเข้า ไม่เช่นนั้นข้าจะฆ่าพวกเจ้า”

บุรุษผู้สวมหมวกปีกกว้างเม้มปากแน่น คล้ายยิ้มแต่ไม่ใช่ในขณะเดียวกัน

“หนึ่งล้าน ถ้าเจ้ากล้าพอ หากข้าชนะ เราจะรวมหนี้กันเป็นสองรอบ!” แอนตันตบตั่งยาวจนมันแทบพังลงกับมือ

“ถ้าเจ้าแพ้ ข้าต้องการหุ้นเหมืองแร่สายฟ้าหนึ่งในห้าส่วน” บุรุษสวมหมวกปีกกว้างพูดขณะเขาพยักหน้าเห็นด้วย

ในสนามต่อสู้ เย่ว์หยางยังคงเมินเฉยต่อคำขอร้องของหลีเอ้อ

เย่ว์หยางสนใจแต่เรื่องควักผลึกเวทของสัตว์อสูรและบอกหลีเอ้อเสียงราบเรียบว่า “ข้าจะให้โอกาสเจ้าฆ่าตัวตายเดี๋ยวนี้ แต่อย่าเสียเวลานานนัก ข้ามีความอดทนจำกัด!” พอได้ยินเช่นนี้ นักพนันทุกคนส่งเสียงเชียร์ลั่น แม้ว่าเย่ว์หยางจะทำร้ายคนไว้หลายคนทำให้หลายคนต้องสูญเสียเงินพนันก่อนนั้น แต่ไม่มีใครต้องการสนับสนุนผู้แพ้ ทุกคนจะอนุโลมตามคนที่เป็นฝ่ายชนะ

หลีเอ้อปรากฎสีหน้าสิ้นหวังเมื่อได้รับคำตอบ

ขณะที่เดียว เขารู้สึกโกรธจนสุดจะระงับ

เขาจ้องดูเย่ว์หยางด้วยสายตาชิงชังและแช่งชักหักกระดูก “เจ้าบังคับข้าให้ทำอย่างนี้ ถ้าข้าตาย เจ้าก็ต้องลงนรกไปกับข้าด้วย!”

หลีเอ้อพึมพำคาถาอัญเชิญของเขาขณะที่มีแสงสีแดงครอบคลุมตัวของเขา ตลอดทั้งร่างพองขึ้นเหมือนลูกโป่ง ขณะที่เขากลายเป็นมนุษย์ลูกโป่งสีแดงเหมือนเลือดในพริบตา ระเบิดพลีชีพนั่นเอง ปรากฏว่าหลีเอ้อรู้ตัวว่าเขาไม่อาจรอดตายได้ ดังนั้นเขาจึงพยายามฆ่าไตตันให้ตกตายไปพร้อมกับเขา

หัวใจของจั๊ดด์แทบกระดอนออกทางปาก ขณะที่เขาห่วงใยเย่ว์หยาง

อย่างไรก็ตาม เย่ว์หยางมีปฏิกิริยาโต้ตอบ คล้ายกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

พอร่างของหลีเอ้อโป่งพองขึ้นจนถึงระดับทนได้สูงสุด เย่ว์หยางยกนิ้วจิ้มเข้าไปตรงส่วนท้องของมนุษย์ลูกโป่งโลหิต

พลังที่ไม่สามารถคาดคำนวณได้ระเบิดออกเหมือนกับภูเขาไฟระเบิด

เย่ว์หยางควงมือทั้งสอง

พลังระเบิดกลายเป็นเชื่องเชื่อเหมือนลูกแมวทันที ภายใต้การควบคุมพลังหยาง ได้เปลี่ยนพลังรุนแรงให้เป็นพลังอ่อนหยุ่น จากเคลื่อนไหวเป็นหยุดนิ่ง ขณะที่พลังรวมตัวกลายเป็นลูกโป่งสีแดงโลหิต

จากนั้นมันจึงถูกเก็บเข้าไปในแหวนลิชและสูญหายไป

เหลือแต่เพียงหลีเอ้ออยู่ในสนามต่อสู้ ทั้งหนังและกระดูกของเขาดูเหมือนศพตายซาก

หลีเอ้อยังไม่ตาย แต่ทุกคนรู้ว่าสภาพของเขาในปัจจุบันนี้ไม่ต่างจากตายแล้ว หลังจากสูญเสียพลังสิ้นเชิง เขาก็หมดจากสภาพนักสู้กลายเป็นคนที่ไร้ประโยชน์ ไม่มีผู้ใดทำใจรับการเปลี่ยนแปลงเช่นนั้นได้ ดังนั้นถ้าเขารอดตอนนี้ได้ เขาคงจะฆ่าตัวตายทีหลังอยู่ดี

หลีเอ้อล้มลงกับพื้นหมดสภาพ ไม่มีผู้ใดสนใจสภาพของเขา

ที่สำคัญที่สุด ใครเล่าจะสนใจคนที่ไม่มีประโยชน์?

แอนตันนั่งยืดตัว และพูดเสียงดังว่า “ท่านไตตัน เจ้าชนะรอบนี้ได้แล้ว ถ้าเจ้าสนใจ เราจะมีการสู้ต่อรอบที่สอง ขอเพียงเจ้าสู้กับคนสองคน ข้าจะให้รางวัลเจ้าสิบเท่า ก็คือเงิน 100,000 เหรียญทอง ถ้าเจ้าทำได้สำเร็จนะ เจ้ามีความกล้าพอจะรับคำท้าทายนี้หรือไม่? ไม่อย่างนั้นเจ้าก็เป็นตัวขี้ขลาด, บัดซบ ไม่มีความเป็นลูกผู้ชาย!”

เย่ว์หยางเงยศีรษะและจ้องแอนตันเขม็ง เหมือนกับพยัคฆ์จ้องมองสุกรอ้วน ทุกคนที่เบียดเสียดอยู่รอบนอกพยายามล้อมดูฉากการแสดงครั้งนี้ ขณะที่พวกเขาคิดว่าแอนตันแทบจะกลายเป็นหมูที่ตายแล้ว เย่ว์หยางแค่นเสียงเย็นชา “ท่านแอนตัน, โปรดอย่าดูถูกนักสู้ด้วยพฤติกรรมเช่นนี้เกินไป เจ้าจะได้ไม่ต้องมาหงุดหงิดกับชีวิตของเจ้า ข้าจะยอมยกโทษให้หลังจากเจ้าขอโทษ แต่ถ้าเจ้ายังขืนทำอีก ข้าจะฆ่าเจ้าซะ!”

คำพูดของเย่ว์หยางกระทบความรู้สึก เหมือนกับเป็นลูกหลานของจอมมาร

แอนตันสั่นจนไม่อาจบังคับตัวเองได้

อย่าว่าแต่แอนตันเลย แม้แต่ผู้ชมที่นั่งอยู่ด้านหลังเขาทุกคนล้วนหลั่งเหงื่อที่ฝ่ามือด้วยความหวาดหวั่นกลัวการเผชิญหน้าระหว่างเย่ว์หยางกับแอนตัน

“เอาล่ะ, ข้าขอโทษ, เป็นเพราะข้าพลั้งปากไป แต่ถ้าเจ้าคิดถึงศักดิ์ศรีตนเองในฐานะนักสู้ อย่างนั้นเจ้าคงจะยอมรับการท้าทายจากข้า” แอนตันเป็นคนมั่งคั่งเจ้าเล่ห์ผู้เคยอยู่ในสถานการณ์ต่างๆ มาแล้ว ดังนั้นเขารู้ว่าเขาไม่สามารถดูถูกศักดิ์ศรีของนักสู้ได้ เขาจึงไม่ตระหนี่ที่จะกล่าวคำขออภัย ในใจของเขา ต้องการให้เย่ว์หยางคล้อยตามข้อเสนอของเขา เขาสามารถอดทนได้ทุกอย่าง ตราบใดที่เย่ว์หยางตกเข้ามาในกับดักของเขา เขาก็ยังมีโอกาสพลิกสถานการณ์

“นี่ไม่ยุติธรรม เราชนะแล้ว แต่เจ้ากำลังบอกว่ารอบนี้ไม่นับอย่างนั้นหรือ? นี่ขัดกับกฎที่ราชาฉงนี่ตราไว้ให้เมืองใต้ดิน” ผู้ชมกลุ่มน้อยเห็นว่าเย่ว์หยางได้ฆ่านักดาบคุมถิ่นได้ทันทีและพนันว่าเย่ว์หยางจะชนะได้ตั้งความหวังว่าตนจะได้รับรางวัล

เห็นได้ชัดว่า พวกเขาคงคัดค้านเมื่อเห็นว่าจะไม่นับชัยชนะที่ผ่านมา

ยิ่งกว่านั้นพวกเขายังจะสูญเสียเงินพนันที่ชนะในรอบแรก หากว่าเย่ว์หยางพ่ายแพ้ในรอบต่อไป

เพื่อปลอบขวัญและระงับความกังวลของผู้ชม แอนตันจึงต้องพูด “แน่นอนว่าเราจะคิดรอบนี้ไว้ในบัญชีเรา แต่ตอนนี้ยังมีเส้นทางพนันอย่างอื่นอีก พวกเจ้าสามารถพนันได้ว่าไตตันจะชนะติดต่อกันสองรอบหรือจะพนันว่าคนของข้าจะกลับมาชนะในรอบนี้ก็ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนที่เพิ่งสูญเสียพนันไป นี่คือโอกาสเพื่อกอบกู้การสูญเสียของพวกเจ้า ข้าจะให้เวลาคิดครึ่งชั่วโมงก่อนที่พวกเจ้าจะเริ่มวางเดิมพัน อัตราใหม่ก็คือ หนึ่งต่อสอง หมายความว่าถ้าไตตันแพ้ เมื่อพวกเจ้าพนันว่าเขาชนะ เจ้าจะต้องสูญเสียเดิมพันสองเท่า

มีการตั้งโต๊ะพนันรอบๆ เวทีต่อสู้

คนพวกที่เพิ่งพ่ายแพ้เสียพนันตอนนี้วิ่งมารุมล้อมวางเดิมพัน เวลานี้แม้แต่คนโง่ก็รู้ว่าพวกเขาควรเดิมพันผู้มาใหม่ที่แข็งแกร่งอย่างไตตัน

นอกจากนี้ มีคนมากที่พนันว่าเย่ว์หยางจะชนะติดต่อกัน รวมทั้งเจ้ากบอ้วนจั๊ดด์ที่กระตือรือร้นมากที่สุด เขาพนันด้วยเงินที่เขาอดออมเก็บมาทั้งชีวิต รวมอีก 90, 000 เหรียญทอง

แม้ว่าเขาจะแพ้ แต่ก็ยังได้รับชดเชยจาก 10,000 เหรียญทองที่ชนะในรอบก่อน และถ้าเขาชนะอีกรอบ เงินชนะเดิมพันรวมกันก็คือ 280,000! ด้วยเงินจำนวนนี้ เขาสามารถเปิดหอการค้าเล็กๆ และเป็นเจ้านายดูแลกิจการเอง เขาจะได้ไม่ต้องคอยรับมือกับทัศนคติของคนบริหารระดับสูงกว่าอีกต่อไป

เกี่ยวกับเดิมพันของเย่ว์หยาง…

เจ้ากบอ้วนจั๊ดด์รู้สึกว่าแอนตันจะไม่สามารถชดใช้ให้เขาได้ต่อให้แล่เนื้อเถือหนังของเขาขายทุกวันก็ตาม

เป็นเพราะจั๊ดด์ฉวยประโยชน์จากความวุ่นวายและแลกใบเสร็จจากการชนะเดิมพันจากโต๊ะพนันอื่น.. นี่ยังเป็นเรื่องพูดคุยกันในสนามต่อสู้ เมืองใต้ดิน ขณะเมื่อเร่งรีบ โดยปกติผู้คนจะใช้ใบเสร็จจากการแข่งชนะแทนเงินพนันในรอบต่อไป จากนั้นพวกเขาก็รับใบเสร็จอีกใบหนึ่ง ถ้าพวกเขาชนะ พวกเขาก็จะกลายเป็นผู้มั่งมีในข้ามคืน แต่ถ้าพวกเขาแพ้ ก็จะถือว่าพวกเขาไม่ชนะ และพวกเขาก็สูญเสียเงินทุนตั้งต้นเดิมทั้งหมด

จั๊ดด์เป็นคนเจ้าเล่ห์มาก เขาไม่ได้กลับไปที่โต๊ะพนันฝั่งตะวันตก ขณะที่เขาไปดำเนินการที่ฝั่งตะวันออกแทน

ขณะที่เจ้าหน้าที่รับพนันและผู้บันทึกทางฝั่งตะวันตกขลาดเขลาเกินไป พวกเขาไม่กล้ารายงานทันที

เจ้าหน้าที่รับพนันและจดบันทึกทางด้านตะวันออกก็ไม่รู้อะไร เนื่องจากพวกเขาถูกรุมล้อม พวกเขาจึงเห็นแต่เพียงว่าเป็นตั๋วชนะพนันจึงไม่มีเวลาพิจารณาอย่างอื่นขณะที่พวกเขาตะโกนลั่น “ใบรับรองเงินฝากเก่าหนึ่งฉบับ, รับทั้งหมด ถ้าท่านแพ้พนัน เราจะไม่คืนเงินท่าน ในทางกลับกัน อัตราต่อรองเป็น 1:2” จากนั้นผู้บันทึกเขียนใบรับรองเงินฝากฉบับใหม่และเก็บฉบับเก่ายัดลงในลิ้นชัก เขาวางตั๋วพนันใบใหม่ในมือของจั๊ดด์ขณะตะโกน “คนต่อไป, เร็วๆ ด้วย”

“ขอบคุณ, ขอบคุณ!” จั๊ดด์ขอบคุณพวกเขาอย่างสุภาพ แต่ในใจกลับตื่นเต้นยิ่งนัก

หลังจากชนะพนันแล้ว คัมภีร์อัญเชิญแพลตตินัมในตอนแรก 25 เล่มเพิ่มขึ้นเป็น 50 เล่ม

อย่าว่าแต่แอนตันเลย แต่ให้ฉงนี่เจ้าของป้อมสายฟ้าคงไม่อาจชดใช้คัมภีร์แพลตตินัม 50 เล่มได้

ตอนนี้ เขาคงได้แต่รอให้ไตตันชนะและดูแอนตันพังทลาย เจ้าอ้วนที่อ้วนกว่าหมูถึงสิบเท่าคงได้ร้องไห้แน่ คัมภีร์แพลตตินัม 50 เล่ม แค่คิดดูก็ทำให้จั๊ดด์สั่นด้วยความตื่นเต้นแล้ว

ขณะที่จั๊ดด์กลับไปที่สนามต่อสู้ ก่อนที่เขาจะมีโอกาสพูดคุยกับเย่ว์หยาง คำสาปแช่งกึกรองเต็มสองหูของเขา

ก่อนนั้น พวกเขาด่าทอสาปแช่งเย่ว์หยาง นักพนันทุกคนหวังจะให้เขาพ่ายแพ้

แต่ตอนนี้กลับตรงกันข้ามสิ้นเชิง

ทุกคนสาปแช่งด่าทอแอนตัน

เจ้ากบอ้วนจั๊ดด์มองดูสองคู่หูที่ยืนอยู่ในสนามต่อสู้และส่งเสียงด่าทอเช่นกัน “เจ้าระยำแอนตัน, เจ้าหมูอ้วน, ขอให้บรรพบุรุษเจ้าฉิบหายสิบแปดชั่วคน”

เหตุผลที่จั๊ดด์ตื่นเต้นจัดก็เพราะนักสู้ทั้งสองที่แอนตันจ้างมา

คนหนึ่งนามเอ้อเมิ่ง (ฝันร้าย) และอีกคนนามเหนียนหู่ (ปีเสือ) มีชื่อเสียงอื้อฉาวมากตลอดทั้งหอทงเทียนชั้นที่หก ไม่มีผู้ใดไม่รู้จักพวกเขา ขณะที่จั๊ดด์อาจจะไร้ยางอาย แต่เขารังเกียจสองคู่หูผู้นี้ ทั้งนี้เพราะคู่หูทั้งสองคนนี้เป็นคนหยาบช้าต่ำทราม ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะพวกเขาเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับสาม 90% ของคนดูอยากตรงเข้าไปฉีกพวกเขาให้เป็นชิ้นๆ

ในหอทงเทียนชั้นหกทั้งหมด ไม่มีที่ยืนให้กับสองคู่หูนี้ ยกเว้นป้อมสายฟ้าและรังโจรอื่นๆ บางแห่ง

สมาคมนักรบ, สมาคมทหารรับจ้างและสมาคมนักล่าค่าหัวตั้งรางวัลไว้ว่าผู้ใดก็ตามสามารถสังหารเอ้อเมิ่งและเหนียนหู่ได้ ผู้นั้นสามารถเลือกรับรางวัลคือ มุกมังกรดำ, ผลปัญญาและสมบัติระดับทองชิ้นหนึ่ง…รางวัลเช่นนี้ถูกตั้งขึ้นเพื่อมอบให้คนที่สามารถกำจัดนักฆ่าต่อเนื่องในบัญชีอาชญากรร้อยอันดับแรก

แม้ว่าสองคู่หูจะมีพลังระดับนักสู้ปราณก่อกำเนิด แต่พันธมิตรปราณก่อกำเนิดกลับเมินพวกเขาและแสดงความรังเกียจมากกว่าคิดจะดึงมาร่วมงาน

แม้แต่ในป้อมสายฟ้าซึ่งเป็นเหมือนรังโจรแท้ๆ เอ้อเมิ่งและเหนียนหู่ก็ยังไม่เป็นที่ต้อนรับ

ไม่มีผู้ใดชอบพวกเขา รวมทั้งฉงนี่ที่รับเขามาเป็นพวกด้วย

“พวกมันต่ำช้ากันทั้งหมด ไม่มีใครต่ำช้ากว่านี้แล้ว อย่าให้ข้าพบเห็นพวกมันอีก!” ฉงนี่พูดเรื่องนี้มากกว่าครั้งหนึ่ง

แม้ว่าเขาจะไม่พูดถึงเหตุผลของเขา แต่หลายคนคิดว่าเหตุผลที่ฉงนี่รับเอ้อเมิ่งและเหนียนหู่ไว้ เพราะอาจารย์ของพวกมันช่วยชีวิตเขาเมื่อตอนเขายังเยาว์วัย แน่นอนฉงนี่รับพวกเขาไว้เพื่อตอบแทนบุญคุณอาจารย์ของพวกเขา มิต้องสงสัยเลยว่าคู่หูทั้งสองนี้ฆ่าอาจารย์และครอบครัวของพวกเขา คนแบบนี้ฉงนี่เกลียดที่สุด

เอ้อเมิ่งและเหนียนหู่เป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับสามทั้งคู่และโหดร้ายมาก

นี่ไม่ใช่ศึกง่ายๆ ระหว่างนักสู้ปราณก่อกำเนิดทั้งสามอีกต่อไป

ไตตันยังจะชนะรอบที่สองได้อีกหรือไม่?

จั๊ดด์คิดขณะที่หัวใจเขาเต้นรัวด้วยความกังวล ศีรษะเขาเต็มไปด้วยเหงื่อ แต่เขาไม่ได้ปาดเหงื่อทิ้ง ขณะที่เขาตั้งใจมองความเปลี่ยนแปลงในสนามต่อสู้

ความตึงเครียดในสนามต่อสู้ทวีมากขึ้น ขณะที่การต่อสู้กำลังจะเริ่มต้น

 

**********

Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์

Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์

LLS, Triệu Hoán Vạn Tuế, Zhaohuan Wansui, 召唤万岁
Score 7.6
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2010 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ทวีปมังกรทะยานคือโลกแห่งการอัญเชิญ คุณจะกลายเป็นคนแข็งแกร่งได้ ถ้าเพียงแต่คุณเป็นผู้อัญเชิญ! ยิ่วหยางเด็กนักเรียนมัธยมปลายธรรมดาถูกส่งเข้ามาในโลกนี้อย่างฉับพลันทัน ด่วน เมื่อเขาฟื้นขึ้นกลับได้พบใบหน้าของหลายคนที่เต็มไปด้วยความห่วงใย และพบว่าเขาเป็นตัวตนของอีกคนหนึ่ง กลับกลายเป็นว่าเขาเป็นบุตรที่ไม่เอาไหนของตระกูลยิ่ว จนถึงกับโดดน้ำตายเพราะถูกปฏิเสธการหมั้น อีกทั้งไม่สามารถจะทำพันธสัญญากับคัมภีร์อัญเชิญได้ แต่ยิ่วหยางกลับประสบความสำเร็จทำสัญญากับคัมภีร์ ส่วนเรื่องราวจะเป็นเช่นไรต่อไป ขอเชิญติดตามดูครับ ความจริงในการแปลครั้งนี้มาจากแรงบันดาลใจที่ไม่ได้จะเป็นนักเขียนนักแปล หรอกครับ เกิดจากการอ่านมันฮัวการ์ตูนของจีนแล้วชอบ พยายามหาดูที่แปลเป็นอังกฤษ ก็แปลกันไปได้น้อยนิด แต่พอดูฉบับนิยายรู้สึกว่าเขาแปลไปได้เยอะ จึงลองเข้าอ่าน แต่เพราะความที่ภาษาไม่แข็งแรง จึงต้องดูไป เปิดดิคฯ ไปใช้โปรแกรมแปลช่วยบ้าง มีความรู้สึกว่าอ่านไม่ต่อเนื่อง จึงคิดว่าน่าจะแปลข้อมูลเก็บไว้ในเว็บๆ หนึ่งแล้วค่อยอ่านเป็นตอนๆ ให้ต่อเนื่องไปเลยดีกว่า แล้วก็นึกถึงที่นี่

Comment

Options

not work with dark mode
Reset