เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ – ตอนที่ 385 – ฮุยไท่หลางออกโรง

ตอนที่ 385 ฮุยไท่หลางออกโรง

เจ้าอ้วนไห่และเย่คงมองดูเย่ว์หยาง

ดูเหมือนพวกเขาจะตัดสินใจทำการบางอย่าง เมื่อพวกเขาเห็นสายตาเยียบเย็นของเย่ว์หยาง พวกเขาตกตะลึงไปหมด และเมื่อพวกเขาหันไปดูสาวน้อยผมม่วงที่น่าหลงใหล พวกเขาก็ตกอยู่ในความกลัว

เสวี่ยทันหลางกำหมัดแน่น เหมือนกับว่าพยายามควบคุมความรู้สึกของเขาเอง

แอนนาและลีนสังเกตเห็นความผิดปกติเช่นนี้แล้ว แต่เมื่อพวกเขาเห็นสีหน้าของเจ้าอ้วนไห่และเย่คง จากนั้นมองดูเสวี่ยทันหลางและองค์ชายเทียนหลัวกำหมัดแน่น พวกเขาหันไปดูเย่ว์หยางทันที เขายืนอยู่หน้าเป่าเอ๋อในท่วงท่าสบายๆ สามีภรรยาทั้งคู่มองหน้ากันเอง จากนั้นก็มองดูหญิงสาวผมม่วงชุดดำ สายตาพวกเขาจึงเปลี่ยนเป็นประหลาดใจและหวาดหวั่นเช่นกัน

ทอเรนฟ่านหลุนเถี่ยและสี่สาวคิวบัวร์ยังไม่มีปฏิกิริยาอะไรแม้แต่น้อย พวกนางยังไม่รู้สึกถึงความผิดปกติ

เป่าเอ๋อรู้สึกไม่พอใจอยู่ในใจ

ร่างกายที่เย้ายวนและสายตาที่เป็นประกายของหญิงสาวผมม่วงทำให้หัวใจนางเต้นแรงด้วยความอิจฉา

ว่ากันด้วยเรื่องความงาม พวกนางอาจจะคู่คี่สูสีกันมาก เอลฟ์ทองอาจจะเหนือกว่าเล็กน้อย

อย่างไรก็ตาม ว่าด้วยเรื่องเสน่ห์และความเย้ายวนใจ ต่อให้สิบสาวงามเอลฟ์ทองก็มิอาจเทียบได้กับสาวงามที่สวมชุดเกราะมังกรดำทั้งร่าง นางหนีมาตลอดทางจนถึงที่นี่ แต่นางก็ยังดูเรียบร้อยดีอยู่ ยังคงดูงดงาม ท่าทีตื่นตระหนกของนางทำให้คนอื่นๆ อยากจะปกป้องนาง

เมื่อเป่าเอ๋อสังเกตดูเย่ว์หยางและรู้ว่าสายตาของเขาจ้องมองอย่างว่างเปล่า นางรู้สึกหงุดหงิด

นางควงหมัดและทุบศีรษะเย่ว์หยางอย่างดุเดือด “เฮ้, เรียกสติกลับมาได้แล้ว คิดซิว่าจะรอดออกไปจากหุบเขาแมงมุมได้อย่างไร ดูพี่อ้วนสิ, แม้ว่าตามปกติจะเป็นคนลามก แต่เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤติ ดูสิว่าเขาจริงจังขนาดไหน! เขาไม่เหมือนเจ้าเลยแม้แต่น้อย ตาของเจ้าจะร่วงลงพื้นอยู่แล้ว!”

“ไม่มีทาง แม้แต่ข้าก็ยังน้ำลายหกอยู่ในตอนนี้, ว้าว, แม่สาวนั่นสุดยอดจริงๆ” เจ้าอ้วนไห่ที่มัวตะลึงค้างจู่ๆ ก็หัวเราะอย่างหวาดๆ เขาใช้มือเช็ดที่มุมปากตนเอง

“ใช่แล้ว แม้แต่ข้าก็ยังคิดอย่างนั้น” ทันใดนั้นเย่คงกอดแขนเจ้าอ้วนไห่ และพวกเขาเริ่มโลดเต้นอย่างมีความสุข

“ข้าไม่มีทางเข้าใจวิธีคิดที่ไร้ประโยชน์ของพวกมนุษย์เลย…” สาวทอเรนฟ่านหลุนเถี่ยรำพึงอย่างหงุดหงิด

สถานการณ์ตอนนี้เป็นอย่างไร พวกเขายังมีเวลาคิดเรื่องผู้หญิงได้อีกหรือนี่?

พวกเขาไม่สังเกตว่าตามพื้นเต็มไปด้วยแมงมุมเขี้ยวเกหรือ?

สี่สาวคิวบัวร์กรอกตาไปมา, แม้แต่เจ้าอ้วนไห่และคนอื่นก็พลอยเป็นไปกับเขาด้วย พวกนางไม่เคยมองดูพวกเขาด้วยความรู้สึกนับถือมาก่อน ต้องรู้ไว้ก่อนว่าในพวกเผ่าพันธุ์คิวบัวร์ พวกนางถือได้ว่าเป็นสาวงามที่โดดเด่น คาดไม่ถึงเลยว่ามนุษย์พวกนี้ยังไม่ชื่นชมความงามพวกนางแม้แต่น้อย

หัวหน้ากลุ่มทอเรนเลโอขมวดคิ้ว

เขารู้สึกว่าวันนี้ช่างเป็นวันที่ยากลำบากจริงๆ

การปรากฏตัวของหญิงสาวนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องดี การทะเลาะกันเองในกลุ่มมากมายหลายครั้งล้วนเกิดจากสตรี

พูดในแง่ดี สตรีเหล่านี้จัดได้ว่าเป็นสาวงาม แต่ในแง่ร้าย สตรีเหล่านี้เป็นต้นเหตุแห่งภัยพิบัติ

“ไปกันเถอะ, เราเก็บรวบรวมเขี้ยวแมงมุมสำหรับวันนี้เพียงพอแล้ว เราน่าจะไปทำภารกิจรูปสลักหุ่นต่อ” เสวี่ยทันหลางผู้ไม่เคยริเริ่มเสนออะไรเลย จู่ๆ ก็พูดออกมา เขาเสนอให้ทุกคนออกไปจากหุบเขาแมงมุมและองค์ชายเทียนหลัวก็เห็นด้วยเช่นกัน

“ที่นี่มีแมงมุมมากมายเกินไป เราจะหลบหนีไปได้อย่างไร?” เป่าเอ๋อรู้สึกว่าพวกเขาควรจะรอจนกว่าแมงมุมสงบก่อนแล้วค่อยออกไป ตอนนี้ยังอันตรายเกินไป

“ข้ามีเทเลพอร์ตอยู่ม้วนหนึ่ง สำหรับพวกเจ้า หาทางหนีเอาเอง” เย่ว์หยางเป็นเศรษฐีร่ำรวย เขามีม้วนเทเลพอร์ตมากมายซึ่งแต่ละม้วนราคาเป็นร้อยเหรียญทอง

“พวกเจ้าพาเราออกไปพร้อมกันไม่ได้หรือ? เรากลัวจริงๆ และเราต้องการไปจากที่นี่ให้เร็วเท่าที่จะเป็นไปได้ โปรดอย่าทอดทิ้งเราเลย…” หญิงสาวผมม่วงเกราะมังกรจู่ๆ ก็ผลักไสนักผจญภัยที่นางได้ขอความช่วยเหลือและวิ่งมาขอให้กลุ่มเย่ว์หยางช่วยปกป้องพวกนาง

“ฟังให้ดี, ถ้าเจ้ามีไหวพริบเพียงพอ, ก็ให้ไปซะตอนนี้..” หัวหน้าของกลุ่มนักผจญภัยสามคนโกรธ ตอนแรกเมื่อพวกเขาเห็นว่ามีสาวงามเอลฟ์ทองถึงสองนางในกลุ่มของเย่ว์หยาง พวกเขาถึงกับน้ำลายไหลด้วยความโลภ ยิ่งกว่านั้น ยังมีเย่ว์หยางที่ดูอ่อนแอแต่สวมหน้ากากที่เป็นเครื่องมือระดับทอง ทำให้พวกเขาต้องการชิงหน้ากากจากเขา อย่างไรก็ตาม ข้างๆ เย่ว์หยาง ยังมีเสวี่ยทันหลางที่กำลังปล่อยปราณของตนข่มและกดดันพวกเขา พวกเขาไม่คิดว่าพวกเขาจะเอาชนะเสวี่ยทันหลางได้ ดังนั้นจึงล้มเลิกความคิดโจมตีอีกฝ่ายหนึ่ง อย่างไรก็ตามหลังจากชำเลืองมองกันและกัน ผู้นำทั้งสามกลุ่มคิดว่าพวกเขาน่าจะลองดู บางทีพวกเขาอาจได้รับสาวงามทั้งสามโดยวิธีนั้นก็ได้… ไม่ว่าจะเป็นสาวงามที่เหมือนตุ๊กตาสวมเกราะมังกรดำ หรือสาวเอลฟ์ทอง ทุกคนเป็นสินค้าชั้นดีราคาสูง ถ้าพวกเขาสามารถได้พวกนางสักคน ก็คงไม่เป็นไรถ้าพวกเขาจะต้องเสียเวลาชีวิตไปอีกสิบปี

มีภาษิตกล่าวไว้ว่า “คนตายเพราะสมบัติ, นกตายเพราะอาหาร”

คนที่มีความชั่วอยู่ก็มักคิดเช่นนั้น ฆ่าคนอื่นเพื่อสมบัติ เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นในหอทงเทียนชั้นที่หกมาตลอด ไม่ได้เป็นเรื่องแปลกประหลาดแต่อย่างใด

หัวหน้ากลุ่มทั้งสามคนมองดูท้องฟ้าและเห็นว่าใยแมงมุมค่อยๆ หายไป

ดูเหมือนในช่วงเวลาสั้นๆ ภัยคุกคามจากแมงมุมจะหายไป

เพียงแต่เมื่อได้เวลาเหมาะสม พวกเขาจะใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้

พร้อมกับสัญญาณมือที่หัวหน้ากลุ่มทั้งสามคนส่งสัญญาณ นักผจญภัยสิบสองคนก็พุ่งเข้าหาทันที ยิ้มอย่างชั่วร้ายรายล้อมเย่ว์หยางและคนอื่นไว้ ในสายตาพวกเขา กลุ่มนี้กับเอลฟ์ทองสองนางมีศัตรูที่น่ากลัวคนเดียวและนักสู้ฝีมือดีอีกสองคน เจ้าผู้เยาว์ที่ดูเยือกเย็นเหมือนน้ำแข็งเป็นศัตรูที่ยากเอาชนะได้ที่สุด หัวหน้ากลุ่มที่เป็นทอเรนและเอลฟ์ทองรูปหล่อก็ไม่อ่อนแอเช่นกัน

ทว่าพวกเขาไม่ใส่ใจคนอื่นๆ อย่างสาวทอเรน, สาวคิวบัวร์และบุรุษผอมที่แบกเสาต้นใหญ่อีกคนหนึ่ง ความสามารถของพวกเขายังไม่สูงล้ำขนาดนั้น นักผจญภัยคนหนึ่งอาจจะพอรับมือเขาได้ และนักผจญภัยสองคนก็อาจจะเอาชนะเขาได้ง่ายๆ

ธนูของสาวน้อยเอลฟ์เป็นแค่เพียงไม้ประดับเท่านั้น นางมิได้เป็นภัยคุกคามแต่อย่างใด

ความสามารถของเจ้าอ้วนและเจ้าลิงไม่จำเป็นต้องเอ่ยถึง ยังแย่กว่าคนอื่น ไม่ควรเอาพวกนี้มาทำให้กังวลใจ

สำหรับเจ้าโง่ที่สวมหน้ากากทอง ทุกคนไม่สนใจเขาเลย เด็กน้อยนักสู้ระดับ 6 แค่ถูกตบก็กระเด็นได้ทุกเมื่อ

นักผจญภัยเหล่านี้กำลังวางแผนลักพาตัวหญิงสาวคุณภาพสูงในท่ามกลางความวุ่นวาย

ในอดีตที่ผ่านมา พวกเขาทำอย่างนี้หลายครั้งแล้ว

“ท่านพยายามจะทำอะไร? ได้โปรด, ข้าขอร้องพวกท่าน ได้โปรดปกป้องสตรีอ่อนแอด้วยอย่าปล่อยให้พวกนางเสื่อมเสียชื่อเสียง ข้าจะแสดงความขอบคุณท่านเมื่อเรากลับไปอย่างแน่นอน…” หญิงสาวผมม่วงมองดูน่าสงสารขณะที่นางเดินค้อมตัวไปหาเย่ว์หยางและเป่าเอ๋อพยายามขอความคุ้มครอง

“อย่าห่วงไปเลย ข้าจะปกป้องเจ้าแน่นอน เดรัจฉานเหล่านี้บังอาจทำเช่นนี้ได้ไง! ข้าคือเทพธิดาพิทักษ์ความยุติธรรมจะต้องทำลายพวกมันให้หมดแน่นอน” เป่าเอ๋อแสดงบุคลิกที่ห้าวหาญขณะยกธนูขึ้น

“…..” เย่ว์หยางถึงกับร้องไห้มิได้หัวเราะมิออก ใครจะปกป้องใครกันแน่?

นางมิได้พิจารณารกรากของหญิงสาวผมม่วงเลย บางทีนางมีแรงจูงใจอย่างอื่นถึงได้แสดงความพยายามขอการรับปกป้องจากเจ้า

ใครจะเป็นผู้ชนะกันแน่?

ไม่มีผู้ใดรู้

ถ้ามิใช่เพราะเย่ว์หยางสงสัยใคร่รู้แรงบันดาลใจของนาง มิฉะนั้นเขาคงจู่โจมทำร้ายนางไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม เขาตัดสินใจสังเกตสถานการณ์ไปก่อน เป็นโอกาสดีที่จะให้พวกเขาได้เรียนรู้ ถ้าเขาเห็นความจริงอย่างชัดเจนทั้งหมด มันอาจช่วยให้อสูรของเขาได้ยกระดับเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ เป็นอสูรในตำนาน! นางพญากระหายเลือด, นางพญาดอกหนามมงกุฎทองและกระทั่งโคเงา เย่ว์หยางไม่ยอมให้นางมีขีดจำกัดอยู่แค่ในระดับปัจจุบันแน่ เขาจะต้องคิดหาวิธียกระดับพวกนางให้เป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงและเป็นอสูรในตำนาน

“บึ้ม!”

เสวี่ยทันหลางปล่อยพลังปราณน้ำแข็งจากตัวเขาทำให้อุณหภูมิรอบๆ นั้นลดลงทันทีสิบองศา เกล็ดน้ำแข็งและหิมะก่อตัวในอากาศ

เขามองดูนักผจญภัยที่รายล้อมเข้ามาและพูดอย่างเยือกเย็น “ไสหัวไปจากนี่เดี๋ยวนี้ มิฉะนั้นข้าจะฆ่าพวกเจ้า”

เป่าเอ๋อปรบมือชมเชย “พี่เสวี่ยทันหลาง, ท่านเท่ห์มาก! จัดการพวกมันเลย ทุบตีเจ้าพวกนี้ทุกคน จนกว่าพวกพวกเขาจะก้มลงเก็บฟันหักๆ ของตัวเอง พี่อ้วน, พี่ลิง ทุบตีเจ้าพวกนั้นด้วยสิ”

เย่คงพูดไม่ออก “แค่ก, แค่ก เรียกข้าว่าพี่เย่ไม่ได้หรือไง? ข้าไม่ใช่พี่ลิง…”

หัวหน้ากลุ่มนักผจญภัยทั้งสามคนคาดว่าเด็กหนุ่มน้ำแข็งแข็งแกร่งมาก คงยากที่พวกเขาทั้งสามคนจะเอาชนะได้ แม้ว่าพวกเขาจะเหนือกว่าในเรื่องจำนวนคน แต่ทันทีที่พวกเขาเริ่มต่อสู้ พวกเขาอาจเจ็บตัวสูญเสียหนักก็ได้ หลังจากนั้น ถ้าทั้งสามกลุ่มต่างกลุ่มต่างสู้กัน พวกเขาจะมิกลายเป็นกลุ่มพิการอย่างนั้นหรือ? พวกเขาลังเลเล็กน้อย แม้ว่าสาวงามจะเป็นสินค้าชั้นดี แต่พวกเขาก็จำเป็นต้องมีชีวิตเพื่อชื่นชมสาวงาม

ขณะที่พวกเขาคิดจะถอย จู่ๆ สาวงามผมม่วงเจ้าเสน่ห์ก็พูดออกมายั่วโมโหพวกเขา

หญิงสาวผมม่วงเยาะเย้ยพวกเขา “ฆ่า, ฆ่าเจ้าพวกขยะนี้ให้หมด สวะที่ไร้ประโยชน์อย่างพวกเขาชอบคิดเรื่องแปลกๆ ไร้ประโยชน์กับพวกเรา”

เมื่อนางพูดเช่นนี้ ผู้นำกลุ่มทั้งสามคนถึงกับเดือดดาล และเดือดดาลมากกว่าครั้งก่อนๆ ที่เคยมีมาในชีวิตตน เดิมทีพวกเขาแค่ต้องการปล่อยหญิงงามผู้นี้ไป แต่นางพูดหาที่ตาย ดังนั้นพวกเขาไม่สนใจว่านางจะพอใจหรือไม่ ต่อให้สมาชิกในกลุ่มของพวกเขาถูกฆ่า พวกเขาก็สามารถมองหาคนอื่นมาทดแทนได้ ถ้าพวกเขาพลาดโอกาสจับสาวงามนี้ พวกเขาอาจหาโอกาสในอนาคตไม่ได้อีกต่อไป ยิ่งกว่านั้นถ้าพวกเขาไม่แสดงอะไรๆ ให้คนที่ดูถูกพวกเขาว่าเป็นสวะไร้ประโยชน์ให้ดูบ้าง เขายังจะเรียกตนเองว่าเป็นลูกผู้ชายได้อย่างไร? อย่างนั้นพวกเขาก็สมควรตายแล้ว

นักผจญภัยที่ล้อมรอบกลุ่มของเย่ว์หยางถูกยั่วโมโหจนตาแดงฉาน ตอนแรกพวกเขาต้องการจะปล่อยหญิงงาม แต่หลังได้ฟังนาง พวกเขาจึงอยากจะสั่งสอนนาง

ฆ่า!

พวกนักผจญภัยเกือบทั้งหมดไม่ต้องรอคำสั่งหัวหน้ากลุ่ม ขณะที่พวกเขาร้องลั่นบุกเข้ามา

สัตว์อสูรข้างๆ พวกเขาก็ร่วมโจมตีเสียงดังสนั่น

“ข้าจะฆ่าเจ้ากก่อน, จากนั้นค่อยล่าหัวหน้าอสูรที่นี่! เจ้าคิดว่าข้าจะกลัวเจ้าหรือ?” เจ้าอ้วนไห่คำรามลั่นและปลดปล่อยพลังที่ซ่อนไว้ ถ้าเย่ว์หยางไม่อยู่ที่นี่ เขาอาจจะกังวลใจอยู่บ้าง แต่ตอนนี้ ศัตรูเหล่านี้เหมือนกับเป็นสมุนตัวเล็กตัวน้อย พวกเขาต้องสู้ก่อนจะเผชิญกับอสูรตัวหัวหน้า เขาจำที่เย่ว์หยางเคยพูดไว้ เมื่อเขาพิชิตวิหารสิบสองนักษัตร ถ้าเขาไม่ฆ่าสมุนปีศาจให้มากก่อนจะฆ่าอสูรตัวหัวหน้าได้ การจะเอาชนะอสูรระดับหัวหน้าจะไม่รู้สึกว่าน่ากลัว

“พวกเจ้าเป็นเนื้อที่ตายแล้ว!” เย่คงหัวเราะเย็นชา

ความเร็วของพวกเขามิได้ช้ากว่าคนที่เร็วที่สุดในกลุ่มอย่างเสวี่ยทันหลางเลย

พลังที่พวกเขาซ่อนเร้นไว้ระเบิดออกมาในระดับสูงสุด เพิ่มความเร็วพวกเขาขณะพุ่งเข้าหาศัตรู หมัดฮิปโปดาวตกของเจ้าอ้วนไห่กระแทกใส่อกของหนึ่งในหัวหน้ากลุ่ม

หัวหน้ากลุ่มผู้นั้นตกตะลึงทำอะไรไม่ถูก เขาไม่เคยคิดมาก่อนในชีวิตว่า เจ้าอ้วนหยาบคายผู้นี้ ความจริงแล้วแข็งแกร่งกว่าเขา

ขณะที่หัวหน้ากลุ่มทางด้านขวาปลิวไปกระแทกกับผนังหิน เย่คงปรากฏตัวที่ด้านหลังเขาและและโจมตีด้วยพลังหมัดที่หนักหน่วง

พร้อมๆ กับเจ้าอ้วนไห่ พวกเขาโจมตีใส่หัวหน้ากลุ่มพร้อมกัน

บึ้ม!

ศีรษะของหัวหน้ากลุ่มระเบิดทันที

หัวหน้ากลุ่มทั้งที่เป็นนักสู้ระดับ 8 ยังไม่สามารถแสดงฝีมืออะไรเลยก่อนที่เขาจะถูกเย่คงและเจ้าอ้วนไห่ผนึกพลังโจมตี

อย่างไรก็ตาม เขามิได้ตายจริงๆ เย่คงและเจ้อ้วนไห่ปกติก็มีพลังมากกว่าเขาอยู่แล้ว ยิ่งกว่านั้น เขาประเมินพลังของพวกเขาผิดตั้งแต่แรก

เดินหมากผิดตาเดียว พ่ายแพ้ทั้งกระดาน

อีกด้านหนึ่งของสนามต่อสู้ หนึ่งในหัวหน้ากลุ่มปลิวกระเด็นไปในอากาศเพราะฝีมือเสวี่ยทันหลาง ขณะที่ตลอดทั้งร่างของเขากลายเป็นน้ำแข็งในอากาศ องค์ชายเทียนหลัวกระแทกใส่เขาอย่างรุนแรงในอากาศเหมือนดาวตก ร่างของเขาระเบิดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยตายอย่างน่าอนาถทันที นี่คือการผนึกพลังโจมตีของเสวี่ยทันหลางและองค์ชายเทียนหลัว การผนึกพลังโจมตีของพวกเขาพอๆ กับที่เจ้าอ้วนไห่กับเย่คงผนึกพลังโจมตี ภายใต้อิทธิพลของพลังของเสาโทเท่มศึก พวกเขาจะมีพลังโจมตีเป็นทีมที่แข็งแกร่งมากกว่าจะสู้ลำพัง เมื่อทั้งสี่หรือทั้งหกคนผนึกพลังโจมตี พลังทำลายของพวกเขาจะมากกว่าปกติหลายเท่า

หัวหน้ากลุ่มคนสุดท้ายกำลังขับขี่โคโดอสูรระดับทอง เป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาหัวหน้าทั้งสาม

ทอเรนเลโอหัวหน้ากลุ่มและฟ่านหลุนเถี่ยบุกจู่โจมใส่

อย่างไรก็ตาม ขวานใหญ่ที่พวกเขากวาดฟันใส่อย่างรุนแรงถูกหัวหน้ากลุ่มผู้นั้นปัดคลี่คลายได้ง่ายดาย

คนผู้นี้ยังไม่ตระหนักว่าสหายของเขาอีกสองคนขึ้นสวรรค์ไปแล้ว เขายังคงทำตามแผนเดิมและพุ่งเข้าหาหญิงสาวผมม่วงชุดเกราะสีดำ พร้อมกับยื่นมือออกไปข้างหน้า “นางงาม, เจ้าเป็นของข้าแล้ว”

แผนของเขาสมบูรณ์แบบ ถ้าเขาโจมตีใส่สาวเอลฟ์อีกสองคน เขาจะกระตุ้นโมโหคนทั้งกลุ่ม

แต่ถ้าเขาฉวยโอกาสลักพาตัวเด็กสาวผมม่วง ขณะที่สหายของเขาคอยก่อกวนสมาชิกอื่นๆ ในกลุ่มให้วุ่นวาย เขาก็สามารถหนีไปได้ ถ้าเขาใช้ม้วนเทเลพอร์ตได้เร็วขณะหลบหนี…. สำหรับสมาชิกคนอื่นๆ ในกลุ่มของเขา ใครจะสนใจเล่าว่าพวกมันจะอยู่หรือตาย? ตราบใดที่ทั้งสองฝ่ายต่อสู้เสี่ยงชีวิตกันจนตาย ก็จะดึงดูดฝูงแมงมุมเขี้ยวเกให้มาตามกลิ่นเลือด พวกมันทั้งหมดจะถูกทำลาย และเขาก็จะเพลิดเพลินกับสาวงามผู้เร่าร้อนต่อไป

“ช่วยข้าด้วย” หญิงสาวผมม่วงเจ้าเสน่ห์วนหนีไปทางเป่าเอ๋อ เพื่อที่ว่านางจะได้ซ่อนตัวอยู่หลังเย่ว์หยาง

“ฮุยไท่หลาง, เจ้าหมาบัดซบ ยังจะรออะไรอยู่อีก!” เย่ว์หยางเตะฮุยไท่หลางจอมขี้เกียจออกไปและฉุดดึงเป่าเอ๋อเข้ามาในอ้อมแขนในขณะเดียวกัน

“รีบเกลือกกลิ้งออกไปเดี๋ยวนี้เลย, เจ้าหมาหัวเน่า!”

หัวหน้ากลุ่มผู้นั้นไม่สนใจเลยแม้แต่นิด หมาป่าปีศาจหลังเหล็ก อสูรทองแดงระดับ 3 งั้นหรือ? แค่จามใส่ เขาก็ฆ่ามันได้แล้ว

คิดไม่ถึงเลยว่า หัวหน้ากลุ่มผู้ที่แม้แต่หัวหน้ากลุ่มทอเรนเลโอและฟ่านหลุนเถี่ยไม่สามารถใช้พลังเอาชนะได้ กลับถูกหมาป่าปีศาจหลังเหล็กอสูรทองแดงระดับ 3 กระแทกจนกระเด็น เป็นเหมือนกับว่า อสูรโคโด อสูรชั้นทองของนักผจญภัยหัวหน้ากลุ่มนั้นทำมาจากกระดาษ ฮุยไท่หลางใช้กรงเล็บตวัดใส่เบาๆ หัวหน้ากลุ่มผู้นั้นกลับรู้สึกเหมือนถูกช้างแมมมอธทั้งฝูงถีบ เขากระเด็นใส่ผนังและร่วงลงมา ทำให้สั่นสะเทือนไปทั้งหุบเขา

เมื่อหัวหน้ากลุ่มดิ้นรนลุกขึ้นด้วยความเจ็บปวด ฮุยไท่หลางกำลังยืนค้ำเขา ขณะนั้นมันยกขาหลัง จากนั้นฉี่รดหน้าของหัวหน้ากลุ่มผู้นั้น

กลิ่นปัสสาวะทำให้เขาแทบสลบ

“ข้าจะฆ่าเจ้า, ไอ้ลูกหมา” หัวหน้ากลุ่มผู้นั้นผสานร่างกับอสูรโคโดยังไม่ทันจะได้เหวี่ยงหมัดใส่ฮุยไท่หลางกลับโดนกรงเล็บยักษ์ของฮุยไท่หลางกดใส่

บึ้ม!

พื้นสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

ศีรษะของหัวหน้ากลุ่มแหลกเละเหมือนน้ำผลไม้ ตายคาที่

เป่าเอ๋อทำปากห่อดูน่ารัก อย่าว่าแต่นางเลย แม้แต่แอนนาและลีนก็ยังจ้องมองดูภาพที่ปรากฏอยู่ข้างหน้าอย่างตกตะลึง

นี่… นี่มันหมาป่าปีศาจพันธุ์ไหนกันแน่?

อสูรทองแดงระดับ 3 สามารถฆ่านักสู้ระดับ 8 ขั้นกลางได้ฉับพลันอย่างไรกัน?

 

**************

Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์

Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์

LLS, Triệu Hoán Vạn Tuế, Zhaohuan Wansui, 召唤万岁
Score 7.6
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2010 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ทวีปมังกรทะยานคือโลกแห่งการอัญเชิญ คุณจะกลายเป็นคนแข็งแกร่งได้ ถ้าเพียงแต่คุณเป็นผู้อัญเชิญ! ยิ่วหยางเด็กนักเรียนมัธยมปลายธรรมดาถูกส่งเข้ามาในโลกนี้อย่างฉับพลันทัน ด่วน เมื่อเขาฟื้นขึ้นกลับได้พบใบหน้าของหลายคนที่เต็มไปด้วยความห่วงใย และพบว่าเขาเป็นตัวตนของอีกคนหนึ่ง กลับกลายเป็นว่าเขาเป็นบุตรที่ไม่เอาไหนของตระกูลยิ่ว จนถึงกับโดดน้ำตายเพราะถูกปฏิเสธการหมั้น อีกทั้งไม่สามารถจะทำพันธสัญญากับคัมภีร์อัญเชิญได้ แต่ยิ่วหยางกลับประสบความสำเร็จทำสัญญากับคัมภีร์ ส่วนเรื่องราวจะเป็นเช่นไรต่อไป ขอเชิญติดตามดูครับ ความจริงในการแปลครั้งนี้มาจากแรงบันดาลใจที่ไม่ได้จะเป็นนักเขียนนักแปล หรอกครับ เกิดจากการอ่านมันฮัวการ์ตูนของจีนแล้วชอบ พยายามหาดูที่แปลเป็นอังกฤษ ก็แปลกันไปได้น้อยนิด แต่พอดูฉบับนิยายรู้สึกว่าเขาแปลไปได้เยอะ จึงลองเข้าอ่าน แต่เพราะความที่ภาษาไม่แข็งแรง จึงต้องดูไป เปิดดิคฯ ไปใช้โปรแกรมแปลช่วยบ้าง มีความรู้สึกว่าอ่านไม่ต่อเนื่อง จึงคิดว่าน่าจะแปลข้อมูลเก็บไว้ในเว็บๆ หนึ่งแล้วค่อยอ่านเป็นตอนๆ ให้ต่อเนื่องไปเลยดีกว่า แล้วก็นึกถึงที่นี่

Comment

Options

not work with dark mode
Reset