เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ – ตอนที่ 387 – ลัทธิเครื่องแบบในตำนาน

ตอนที่ 387 ลัทธิเครื่องแบบในตำนาน

เย่ว์หยางมีความคิดที่โลภอยู่

กลับกลายเป็นว่าเจี้ยงอิง หญิงสาวผมม่วงนางพญาแมงมุมผู้แข็งแกร่งเหลือเชื่อก็คือมังกรไร้เขาเป็นผู้แข็งแกร่งโดยเอกเทศ มีความคิดเป็นของตนเอง ถ้าเย่ว์หยางมิได้ถูกนางหลอกล่อ นี่อาจเป็นเรื่องโกหกก็ได้ ความงามที่น่าหลงใหล เรือนร่างที่เย้ายวน ดวงหน้าที่ทรงเสน่ห์และความแข็งแกร่งห้าวหาญล้วนแต่มีเสน่ห์ทุกอย่าง ถ้าเขาสามารถช่วยให้นางเป็นอสูรในตำนานได้ บางทีพลังความแข็งแกร่งของนางอาจเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด ในปัจจุบันนี้ นางเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ระดับ 7 ดาวอยู่แล้วซึ่งมีพลังความแข็งแกร่งเทียบเท่านักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับ 7 ถ้านางทำสัญญากับคัมภีร์อัญเชิญได้และชำระพลังของนางด้วยพลังปราณก่อกำเนิดและเพลิงอมฤตของเขา พลังของนางอาจเข้าสู่ระดับใหม่ทั้งหมดก็ได้ อนาคตของนางจะไร้ขีดจำกัด

นอกจากนี้ หากนางได้รับและดื่มอุทกแม่พระธรณีหมื่นปี พลังของนางจะเพิ่มขึ้นแบบพรวดพราด

ถ้าเด็กสาวผู้นี้จะเป็นมิตรที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน เย่ว์หยางก็คงไม่สบายใจแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพราะนางมีระดับสติปัญญาที่สูงส่งมากและอาจตัดสินใจด้วยตนเองได้

อาจจะใช้เวลาเพียงวินาทีเดียวเปลี่ยนจากมิตรกลายเป็นศัตรูได้

มีสิ่งเดียวที่จะทำให้เย่ว์หยางวางใจได้ก็คือควรทำให้นางเป็นอสูรของตัวเขาเอง… ดีที่สุดก็คือใช้เงาปีศาจของเขายึดร่างนางและเปลี่ยนนางให้เป็นอสูรพิทักษ์ของเขาแบบเดียวกับนางพญากระหายเลือด

มีเพียงอสูรพิทักษ์เท่านั้นที่ไม่มีทางหักหลังเจ้านายของมัน เพราะพวกเขาแบ่งปันความเป็นความตายร่วมกับเจ้านาย

เย่ว์หยางไม่หวังว่าจะควบคุมจิตใจของเจี้ยงอิง ยิ่งกว่านั้น เขาไม่มีทางข่มนิสัยของอสูรได้ เหมือนอย่างที่เขาไม่สามารถข่มความคิดของนางพญากระหายเลือดหงได้

เป้าหมายของเขาก็มีแค่เพียงทำสัญญากับนาง

ธรรมดาว่า ถ้าเย่ว์หยางเสนอทำสัญญากับนาง เจี้ยงอิงอาจปฏิเสธทันที ยิ่งกว่านั้นความขัดแย้งจะปรากฏขึ้นในจิตใจนาง ไม่ว่าการกลายเป็นอสูรในตำนานจะเป็นเรื่องที่ดีเพียงใด แต่อิสรภาพย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่า ในฐานะที่เป็นอสูรระดับนางพญา นางคงลำบากใจที่จะยอมรับว่าตนเองกลายเป็นอสูรที่ทำสัญญากับมนุษย์ เมื่อตอนนั้นที่เขาใช้เงาปีศาจครอบครองร่างนางพญากระหายเลือด เขาได้รับการต่อต้านอย่างรุนแรง อย่าว่าแต่ตอนนั้นนางพญากระหายเลือดบาดเจ็บหนัก เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไป ทำให้นางเปลี่ยนความคิด ผสานเข้ากับเงาปีศาจและกลายเป็นอสูรพิทักษ์ของเย่ว์หยาง

เกี่ยวกับความสำเร็จในกรณีของนางพญากระหายเลือดหง เย่ว์หยางหวังว่าจะทำอย่างเดียวกันนี้ได้อีก

สำหรับตอนนี้เขาไม่พูดอะไรและปล่อยให้นางกังวลไปก่อน จากนั้นก็ค่อยๆ ชี้นำนาง เขาจะสร้างความประทับใจให้นางก่อน เพื่อที่ว่าพอได้เวลาเขาจะใช้เงาปีศาจครองร่างนาง และโดยไม่มีการต่อต้านรุนแรงใดๆ อีกด้วย

เย่ว์หยางไม่กังวล เขาจะค่อยๆ รอโอกาส คงเป็นไปไม่ได้ที่จะทำสัญญากับอสูรที่แข็งแกร่งขนาดนั้นเพียงเพราะเขาต้องการจะทำ มันเป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลาเดินทางยาวนานและรอโอกาสที่เหมาะสม

โดยไม่รอให้เป่าเอ๋อและคนอื่นๆ ทันรู้ตัว เย่ว์หยางใช้ศิลาเทเลพอร์ตจากไปและกลับไปที่คฤหาสน์ในป้อมสายฟ้า

ในที่นี้ เขาไม่ใช่พ่อครัวของเป่าเอ๋อ เขาเป็นเจ้าบ้านที่มีตำแหน่งใหญ่ที่สุดในบ้าน

เพื่อดึงดูดเจี้ยงอิง เขาจงใจทิ้งฮุยไท่หลางไว้

ฮุยไท่หลางคงจะเรียกคัมภีร์อัญเชิญของมันเพื่ออวดตัวมันแน่นอน เพื่อให้นางได้เห็นพลังของมัน วิธีนี้จะทำให้เจี้ยงอิงอิจฉามันอย่างแน่นอน ความจริงสำนึกของเย่ว์หยางก็เลวร้ายมานานแล้ว ปกติตัวเขาเองไม่เคยคิดว่าตนเองเป็นคนดีนัก เขารู้สึกว่าถ้าเขาทำทุกอย่างเพื่อเป็นคนดี กลับจะมีแต่ถูกคนอื่นปรามาสว่าไร้ความสามารถ

“นายท่าน! เครื่องแบบเสร็จแล้ว แต่ว่ารายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ยังคงต้องทำต่อ” สาวใช้ 2-3 คนมอบเครื่องแบบที่ทำใหม่อย่างนอบน้อม

“นายท่านเจ้าคะ! บ่าวเตรียมน้ำร้อนให้ท่านได้อาบไว้พร้อมแล้วเจ้าค่ะ” สาวลูกครึ่งเอลฟ์รู้วิธีปรนนิบัติเจ้านายอย่างแท้จริง เมื่อเย่ว์หยางเห็นนางหมอบอย่างร่าเริงในเครื่องแบบสาวใช้ชุดใหม่ เลือดเถื่อนในตัวเขาแทบจะเดือด ความร้อนก่อตัวอยู่แถวท้องน้อย นางสวมผ้ากันเปื้อนสีดำคาดแถบจีบขาวและที่ศีรษะมีที่คาดผมตกแต่งด้วยจีบสีขาวสวยงาม คอขาวผ่องของนางประดับด้วยผ้าเช็ดหน้าสีแดงสด และเมื่อมองต่ำลงมา มีหวังสะดุ้งวิญญาณสะท้านกับภาพงดงามที่เห็น จะดีแค่ไหนถ้าได้ซบหน้าลงตรงนั้นจนกว่าจะหายใจไม่ออก

“แค่ก แค่ก เครื่องแบบนี่นับว่าไม่เลว” เย่ว์หยางพยายามอย่างหนักเพื่อปัดความคิดที่จะซบซุกหน้าลงกับร่องอกสาวลูกครึ่งเอลฟ์อย่างมีความสุข แต่กลับลูบศีรษะนางแทน

“ขอบคุณนายท่าน, บ่าวมีความสุขมาก!” พอมองดูนาง ดูเหมือนว่านางต้องการจะตามไปปรนนิบัติเขาอาบน้ำ ใบหน้านางดูเขินเล็กน้อย นิ้วของนางดูสั่นเล็กน้อยเหมือนกับว่านางกังวลมาก อย่างไรก็ตาม ขาเรียวงามของนางขยับเดินตามอย่างกล้าหาญ

ทันใดนั้นเย่ว์หยางหันกลับมาด้วยสีหน้าเฉยเมยกล่าวว่า “เจ้ารู้ไหม? ชุดสาวใช้จะต้องมาพร้อมกับถุงน่องยาวสีขาว ถุงเท้าสั้นยังไม่เพียงพอ นอกจากนี้ต้องสวมร่วมกับรองเท้าดำ ถ้าจะดีที่สุด รองเท้าดำนั้นจะต้องปิดเท้าสนิททั้งหมด พอมองดูแล้วสีขาวกับดำจะตัดกันชัดเจน ความงามของขาก็จะแสดงออกมาตามธรรมชาติ ถ้าได้เป็นถุงน่องลายลูกไม้ก็จะสมบูรณ์แบบที่สุด”

พอได้ฟังเช่นนี้ สาวลูกครึ่งเอลฟ์จ้องมองอย่างว่างเปล่าและพยักหน้าตื่นเต้นทันที “บ่าวจะรีบเปลี่ยนทันทีเจ้าค่ะ!”

ตอนที่นางวิ่งไปที่ห้องนอนรีบเปลี่ยนเป็นเครื่องแบบที่ดูน่ารักเสร็จ เย่ว์หยางก็อาบน้ำเสร็จแล้ว นอกจากนี้เขายังคงกลับเข้าไปในโลกคัมภีร์ไปอยู่ชื่นชมกับสาวงามอู๋เหินต่อ

ถ้าเย่ว์หยางอดกลั้นอยู่ได้หลังจากเห็นเจี้ยงอิงสาวมังกรไร้เขาผู้ทรงเสน่ห์และสาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์ยั่วยวนอย่างต่อเนื่อง มีหวังฟ้าได้ถล่มแน่ โชคดีที่สาวงามอู๋เหินไม่ได้จากไปไหนและยังคอยสามีนางอย่างต่อเนื่อง นางเป็นคนนุ่มนวลอ่อนโยนจนถึงที่สุดจริงๆ ยินยอมให้สามีของนางมีความสุขในชีวิตรักกับนางอย่างเต็มที่ มิฉะนั้นอารมณ์เสน่หาในตัวเย่ว์หยางคงจะผลักดันให้เขามีสัมพันธ์รักกับสาวลูกครึ่งเอลฟ์เพื่อปลดปล่อยความรักที่เร่าร้อนของเขาให้นาง

ที่โลกข้างนอก สาวลูกครึ่งเอลฟ์นั่งเท้าคางตำหนิตัวนางเอง “ล้มเหลวจริงๆ ข้าไม่อาจปรนนิบัติให้นายท่านอาบน้ำ นั่นเป็นโอกาสที่ดีอย่างหนึ่ง…”

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง นางกำหมัดน้อยๆ ปลุกปลอบใจชูกำปั้นทั้งคู่ “พรุ่งนี้ ข้าจะต้องขยันให้หนักขึ้นและทำให้นายท่านพอใจให้ได้”

หลังจากสาวใช้จัดส่งอาหารมาให้ เอลฟ์สาวลูกครึ่งนั่งใจลอยกินอาหารด้วยมือข้างหนึ่ง อีกข้างหนึ่งเปิดหนังสือดู

แต่ละครั้งนางจะถอนหายใจชื่นชมขณะที่นางมองดูหัวข้อที่บันทึกไว้ “เมื่อเจ้านายของเจ้ากลับมาจากการต่อสู้ของเขา เจ้าต้องต้อนรับเขาด้วยความนอบน้อมพร้อมกับยิ้มหวานที่สุด นั่นคือจุดเริ่มต้นที่จะทำให้เจ้านายอบอุ่นในหัวใจ อย่าลืมรอคอยนายของเจ้าขณะที่เขากำลังอาบน้ำ และพยายามสื่อสารถึงเขาอย่างนุ่มนวลและเงียบงัน หลังจากเจ้านายของเจ้าคลายความเมื่อยล้าแล้ว เจ้าต้องรับใช้ช่วยเสริฟอาหารค่ำที่ได้จัดเตรียมไว้ก่อน เมื่อเจ้านายของเจ้าเบื่อหรือเหงา จงใช้อกขนาดใหญ่ของเจ้ากอดเขา พยายามคิดหาทางให้เขากอดตอบ เจ้าต้องกดศีรษะเขาลงในร่องอกเจ้าให้เขารู้สึกมีความสุข ถึงตอนนี้ เจ้าก็เป็นเหมือนคุณนายน้อยของเจ้านายเจ้าแล้ว อย่าลืมปลอบประโลมจิตใจของเจ้านายเจ้า อย่าให้เจ้านายเจ้ารู้สึกว้าเหว่ และให้เขารู้ว่าเจ้าอยู่เคียงข้างเขาเสมอ

“หนังสือเล่มนี้มีคุณค่าอย่างแท้จริง เป็นสมบัติล้ำค่าหนังสือในตำนานของแม่เฒ่า” หลังจากสาวลูกครึ่งเอลฟ์ถอนหายใจเสร็จ นางมีความตั้งใจอย่างแน่วแน่ยิ่งขึ้นพลางกำหมัดน้อยๆ แน่น “พรุ่งนี้ข้าจะต้องพยายามให้หนักยิ่งขึ้น!”

พอเปิดไปอีกหน้าหนึ่ง หน้าของสาวลูกครึ่งเอลฟ์ค่อยๆ แดงเหมือนถูกไฟเผา

นางชำเลืองมองที่ประตูและพบว่าไม่มีผู้ใด นางปิดประตูทันทีและหมกตัวอยู่แต่ในเตียงกับหนังสือคู่มือ นางหลบอยู่ในผ้าห่มแอบอ่านหนังสือและถอนหายใจชมเชยโดยไม่รู้ตัว “ฮะฮะฮะ ดูเหมือนข้าสามารถทำแบบนี้ได้ การรอคอยนายท่านเป็นเรื่องที่ต้องศึกษาให้ซึ้งจริงๆ นายท่านจะชอบท่าแบบนี้ไหมนะ? ดีมากเลย อกเราก็ใหญ่พอแล้ว และเราก็เข้าลักษณะเงื่อนไขพอดี ข้าจะถือโอกาสอยู่ในท่านี้ แต่ไม่มั่นใจว่านายท่านจะชอบแบบนี้หรือเปล่า?”

หลังจากเย่ว์หยางจบศึกรักครั้งใหญ่ กายและใจของเขาก็รู้สึกผ่อนคลาย เขากลับมาที่ห้องโถง

ร่องรอยเขินอายบนใบหน้าสาวน้อยลูกครึ่งเอลฟ์ยังไม่หายไป สายตานางมองดูเจ้านายนางโดยไม่รู้ตัวและใช้มือเทียบความต่างระดับความสูง

เมื่อเย่ว์หยางหันมาเจอนาง นางรีบโบกมือพัลวันทำนองว่าไม่มีอะไรผิดปกติ หลังจากเย่ว์หยางหันกลับไป นางพึมพำเบาๆ “นายท่านสูงมาก ดูเหมือนมีหลายท่าที่ใช้ไม่ได้ ถ้าเราเขย่งเท้า ก็อาจจะพอได้.. เสียดายเราน่าจะสูงขึ้นอีกนิด”

พ่อบ้านเหยียนเจิ้งและจั๊ดด์ไปที่งานประมูลและยังมิได้กลับมา

พวกทาสขุดแร่คุณภาพดีเยี่ยมได้อีกครั้งและมอบหมายให้สาวน้อยเซี่ยอีมารายงานท่านไตตัน

เดิมทีเซี่ยอีไม่ค่อยมีความรู้สึกที่ดีต่อเย่ว์หยางนัก นางยังคิดว่าท่านไตตันใหญ่จึงจะเป็นนักสู้ที่แท้จริง ขณะที่ท่านไตตันน้อยเป็นผู้เยาว์ถัดมาอีกรุ่นที่ไม่สามารถเอาชนะนางได้ ถ้าไม่มีอาวุธพิเศษช่วยเหลือ อย่างไรก็ตาม ท่านไตตันใหญ่ปล่อยให้ไตตันน้อยคอยดูแลกิจการ ไม่มีตัวเลือกอื่นเหลือ นางทำได้เพียงปรนนิบัติเย่ว์หยาง ท่านไตตันน้อยอย่างคับแค้นใจ ในช่วงหลายวันมานี้ความคับแค้นใจของนางสงบลงมาก แต่นางก็ยังรู้สึกดูแคลนเย่ว์หยาง ถ้านางไม่ได้ทะเลาะกับเย่ว์หยางสักวัน นางคงจะรู้สึกเบื่อ เหมือนกับว่าขาดอะไรบางอย่างไป ผลก็คือ เมื่อใดก็ตามที่พวกทาสขุดแร่คุณภาพดีได้ นางจะกระตือรือร้นนำไปเสนอ มองด้านหนึ่ง ก็เป็นการช่วยให้พวกทาสได้รับรางวัล และอีกแง่หนึ่งคือ หาเรื่องทะเลาะกับเย่ว์หยาง

นางไม่ละเลยการงานตนเองและไม่ลืมความคับแค้นของนางด้วย

บางทีสิ่งนี้อาจจะเรียกได้ว่า เป็นศัตรูกันโดยธรรมชาติ

เกี่ยวกับเรื่องที่เย่ว์หยางใช้เงินก้อนโตซื้อทาสหญิงหน้าอกโต สร้างความระอาให้กับเซี่ยอีโดยเฉพาะ

หน้าเด็กแต่อกโต โธ่เอ๊ย..ก็แค่หน้าอกโตกว่านางเล็กน้อย หน้าตาไร้เดียงสากว่านางหน่อยเดียว ไม่ใช่เหมือนกับว่าหน้าของนางจะไม่เหมือนดอกไม้เบ่งบานเสียเมื่อไหร่ ถ้าเขามองดูนางดีๆ เขาก็แค่คนลามกที่ไม่เคยเห็นอกโตๆ มาทั้งชีวิต! เซี่ยอีจัดเย่ว์หยางไว้ว่าเป็นสัตว์ที่ชอบเต้านมชนิดหนึ่ง นางมองเย่ว์หยางในแง่ร้ายว่า “เย่ว์หยางคงไม่ได้กินนมตอนที่เกิดมาก็ได้ หรือท่านไตตันใหญ่คงให้ลูกชายกินนมมากเกินไปจนเมาน้ำนมก็เป็นได้ และนี่ก็กลายเป็นปมด้อยในใจเมื่อเขายังเด็ก ผลก็คือทำให้เขากลายเป็นเด็กจอมลามก”

แน่นอน ถ้าบางคนพูดว่านางอิจฉาเพราะนางมีอกเล็ก นางคงไม่มีทางยอมรับ

“เจ้ามาได้เวลาพอดีเลย, แก้ผ้าเดี๋ยวนี้…..” พอเมื่อเย่ว์หยางพูดอย่างนี้ นัยน์ตางามของเซี่ยอีเปลี่ยนเป็นดุร้ายทันที เจ้าคิดว่าข้าเป็นทาสหญิงหรือ? ถึงได้สั่งให้แก้ผ้านุ่งผ้าตามใจของเจ้า

“ฝันไปเถอะ!” ตอนแรกเซี่ยอีชักมีดออกมาก่อน แม้ว่านางรู้ว่านางไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาก็ตาม แต่นางต้องปกป้องตัวเอง

“ลองเปลี่ยนชุดนี้ดูซิ, ใครเค้าอยากจะดูหุ่นแบนเหมือนปกหนังสือของเจ้ากันเล่า? อกแฟบอย่างกะรันเวย์เครื่องบิน” เย่ว์หยางวิจารณ์ท่าทีป้องกันตัวที่มีต่อคนลามกอย่างไม่ลดราวาศอก เซี่ยอีถึงกับเดือดดาล แม้ว่านางไม่เข้าใจว่ารันเวย์เครื่องบินเป็นยังไง แต่ใครก็ตามที่เปรียบเปรยอกนางว่าแฟ่บอย่างนั้นสมควรถูกฆ่า ถ้าไม่ใช่เพราะสาวลูกครึ่งเอลฟ์ฉุดดึงนางออกมา นางคงสู้ตายกับเย่ว์หยางแล้ว

เซี่ยอีรู้สึกว่าอกนางไม่ได้เลวร้าย แม้ว่าจะไม่ใหญ่ แต่ทรวดทรงก็ยังงดงามและมีสีอ่อน เป็นรูปทรงกลมไม่หย่อนหรือคล้อย มันชูชันด้วยความภูมิใจและเป็นรูปสมบัติประจำตัวระดับชั้นยอด คิดไม่ถึงว่าเจ้าลามกผู้นี้ไม่เข้าใจวิธีชื่นชมความงามถึงได้วิพากษ์วิจารณ์อย่างนั้น

She could not stand this kind of Breast Loving Beast…

นางไม่อาจอดทนเจ้าคนที่บ้าอกสตรีได้

นางโกรธจนได้ แต่ไม่ได้อาละวาดอะไรในตอนเปลี่ยนเสื้อผ้า

เจ้าเด็กนี่ตัดชุดใหม่ให้นาง ทำไมนางต้องสุภาพด้วยหรือ? ให้ผลประโยชน์เล็กๆ น้อยๆ ถือว่าเป็นโชคดีของเขา

หลังจากที่เซี่ยอีซึ่งหงุดหงิดไม่พอใจเปลี่ยนเครื่องแบบใหม่แล้ว นางถึงกับตะลึงมอง นี่…สาวงามผู้ห้าวหาญในกระจกนี้ คือนางจริงๆ หรือ?

เป็นเครื่องแบบรัดรูปที่นางไม่เคยเห็นมาก่อน หมวกสีดำของนางจะเป็นหมวกแบน (ให้นึกถึงหมวกตำรวจ) มียอดสีทองด้านหน้าดูแปลกประหลาด พื้นหมวกเป็นสีดำขอบตกแต่งด้วยแถบเสีเงินเล็ก บนไหล่นางประดับด้วยอินทรธนูดูน่าเกรงขามและยังมีพู่สีทองห้อยลงมาจากหน้าอกนาง เหมือนกับว่าเป็นสายรุ้งสีทอง กางเกงรัดรูปกระชับเน้นให้เห็นช่วงขาเรียวยาว ช่วงล่างสวมรองเท้าบูตหนังสีดำ ทำให้นางดูเป็นคนใหม่ทั้งตัว

สวมชุดเหล่านี้ทำให้จิตใจนางหวั่นไหว แต่ก็รู้สึกเปี่ยมไปด้วยพลัง

ความรู้สึกยิ่งใหญ่ที่มิอาจบรรยายได้แผ่ออกมาจากตัวนาง

แม้แต่ตัวนางยังรู้สึกว่าเครื่องแบบนี้เหมาะกับตัวนางมาก เทียบกับเครื่องแบบนักรบหรือชุดแบบชาวขโมย นี่ดูเหมาะสมยิ่งกว่า

จากนั้นนางคาดมีดเงินไว้กับเข็มขัดหนัง เซี่ยอีค่อยๆ ยืดตัวตรงเชิดศีรษะขึ้น นางยืนชิดเท้าขณะที่มองคนที่อยู่ในกระจก ภาพสะท้อนของทหารหญิงผู้งดงามดูเข้มแข็งที่ดูแล้วไม่คุ้นเคยถึงขนาดที่นางไม่อยากเชื่อว่านั่นคือนาง

“ไม่เลว, เสียดายที่ขาดอะไรไปบางอย่าง” เย่ว์หยางยื่นมือออกมาช่วยจัดคอ, คอเสื้อและหมวกของเซี่ยอี “สวมเสื้อขาวข้างในและผูกเน็คไทแดงจะดูดีกว่า นอกจากนี้ ยังขาดถุงมือคู่หนึ่ง” เดิมทีท่าทีเหล่านี้จะทำให้เซี่ยอีหงุดหงิดกระเง้ากระงอด อย่างไรก็ตาม ไม่รู้เหตุผลว่าทำไม เซี่ยอีพบว่านางตอบเสียงแผ่วเบาว่า “อย่างนั้นหรือ?”

“เดี๋ยวข้าจะไปร่วมงานประมูล เจ้ามากับข้า!” เย่ว์หยางยื่นมือออกไปลูบตัวสาวลูกครึ่งเอลฟ์เบาๆ นางไม่ค่อยยินดีจะปรากฏตัวต่อสาธารณชน แต่ความเคลื่อนไหวของเขาเป็นเหมือนเจ้าของที่เลี้ยงแมวเชื่องเชื่อ อย่างไรก็ตาม สำหรับเซี่ยอี เขาสั่งนางอย่างเคร่งครัด

“ไม่!” เมื่อเซี่ยอีได้ยินน้ำเสียงออกคำสั่งที่หนักแน่นของเขา นางกลับโกรธและปฏิเสธเขาทันที อย่างไรก็ตาม ขาของนางก้าวตามเขาโดยไม่รู้สาเหตุ

 

**************

Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์

Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์

LLS, Triệu Hoán Vạn Tuế, Zhaohuan Wansui, 召唤万岁
Score 7.6
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2010 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ทวีปมังกรทะยานคือโลกแห่งการอัญเชิญ คุณจะกลายเป็นคนแข็งแกร่งได้ ถ้าเพียงแต่คุณเป็นผู้อัญเชิญ! ยิ่วหยางเด็กนักเรียนมัธยมปลายธรรมดาถูกส่งเข้ามาในโลกนี้อย่างฉับพลันทัน ด่วน เมื่อเขาฟื้นขึ้นกลับได้พบใบหน้าของหลายคนที่เต็มไปด้วยความห่วงใย และพบว่าเขาเป็นตัวตนของอีกคนหนึ่ง กลับกลายเป็นว่าเขาเป็นบุตรที่ไม่เอาไหนของตระกูลยิ่ว จนถึงกับโดดน้ำตายเพราะถูกปฏิเสธการหมั้น อีกทั้งไม่สามารถจะทำพันธสัญญากับคัมภีร์อัญเชิญได้ แต่ยิ่วหยางกลับประสบความสำเร็จทำสัญญากับคัมภีร์ ส่วนเรื่องราวจะเป็นเช่นไรต่อไป ขอเชิญติดตามดูครับ ความจริงในการแปลครั้งนี้มาจากแรงบันดาลใจที่ไม่ได้จะเป็นนักเขียนนักแปล หรอกครับ เกิดจากการอ่านมันฮัวการ์ตูนของจีนแล้วชอบ พยายามหาดูที่แปลเป็นอังกฤษ ก็แปลกันไปได้น้อยนิด แต่พอดูฉบับนิยายรู้สึกว่าเขาแปลไปได้เยอะ จึงลองเข้าอ่าน แต่เพราะความที่ภาษาไม่แข็งแรง จึงต้องดูไป เปิดดิคฯ ไปใช้โปรแกรมแปลช่วยบ้าง มีความรู้สึกว่าอ่านไม่ต่อเนื่อง จึงคิดว่าน่าจะแปลข้อมูลเก็บไว้ในเว็บๆ หนึ่งแล้วค่อยอ่านเป็นตอนๆ ให้ต่อเนื่องไปเลยดีกว่า แล้วก็นึกถึงที่นี่

Comment

Options

not work with dark mode
Reset